บทที่ 5 ถูกตีจะทำยังไง แน่นอนก็บอกครูสิ
ในเวลานี้ฟ่านทงและฉินโซ่วเซิงก็มาถึงห้องเรียน
ทั้งสองคนสวมหมวกปิดบังเหมือนฟ่านเจี้ยน พวกเขาก้มหน้าจนชิดถึงหน้าอก
หวังฮ่าวหลานอาศัยจังหวะตีเหล็กต้องตีตอนที่ร้อน (สำนวนจีน จะทำอะไรต้องทำตอนที่มีจังหวะดีๆ) บอกให้พวกเขาเลิกซ่อนและถอดหมวกออก
ทันใดนั้นหัวหมูทั้งสองก็ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน
ใบหน้าของฟ่านทงและฉินโซ่วเซิงบวมเป่งราวกับถูกตบหน้านับไม่ครั้งถ้วน ผิวหน้าของพวกเขาบวมเป่ง
เป็นภาพที่น่าตกใจมาก
ซูมู่หยานตกใจจนทนไม่ไหว
“ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้?! นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว “หวังฮ่าวหลานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่จะพูดกับผู้คนรอบข้างว่า
“ในความเห็นของผม ทั้งสองฝ่ายผิดกันทั้งคู่นั่นแหละ ข้าว่าฉู่ป๋ายขอโทษฟ่านเจี้ยนและคนอื่นๆ ส่วนค่ารักษาพยาบาลของพวกเขา ผมออกให้ก็แล้วกัน แล้วก็ให้เรื่องนี้มันแล้ว ๆ กันไป ทุกคนคิดว่ายังไงบ้าง?”
“นั่นสิ”
“ไม่มีปัญหา”
“ข้าเห็นด้วย”
ลูกพี่เปิดปากพูด ฟ่านเจี้ยน ฟ่านทง และฉินโซ่วเซิงแน่นอนว่าไม่มีสมอง
“แบบนั้นน่าจะจบลงได้ดีที่สุดแล้ว” ซูมู่หยานได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย
แต่ตัวเอกจะยอมขอโทษตัวร้ายได้อย่างง่ายดายหรอ?
แน่นอน ไม่มีทาง!
ถ้าเขาขอโทษเขายังเป็นตัวเอกอยู่หรอ?
เป็นดังคาด ฉู่ป๋ายตอบกลับอย่างแข็งกร้าวว่า
“ทำไมข้าต้องขอโทษพวกแกด้วย! ไม่มีทาง!”
“ฉู่ป๋าย แค่ขอโทษเอง” ซูมู่หยานเกลี้ยกล่อม
“เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกนั้นเป็นฝ่ายผิด ทําไมฉันต้องขอโทษด้วย? น่าขำเกินไปแล้ว”
ตัวเอกส่วนใหญ่เป็นลูกผู้ชาย ไม่สนใจฟังคําตักเตือน ฉู่ป๋ายก็ไม่ต่างกัน
ใครก็เกลี้ยกล่อมก็ไร้ประโยชน์ แม้แต่คําพูดของซูมู่หยานก็ไม่ต่างกัน
[ติ๊ง โฮสต์ทําลายความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกฉู่ป๋ายและซูมู่หยานผู้เป็นหนึ่งในนางเอกได้ ส่งผลต่อทิศทางของเนื้อเรื่องเดิม ได้รับแต้มตัวร้าย 200 แต้ม] 】
[ติ๊ง หนึ่งในนางเอก ซูมู่หยาน มีความประทับใจต่อฉู่ป๋าย -10 ระดับความประทับใจของทั้งสองฝ่ายอยู่ที่ 0] (เหมือนโม่ลู่)]
[ติ๊ง ฉู่ป๋าย ออร่าตัวเอก -20 ออร่าตัวร้ายของโฮสต์ +20] 】
“มันได้ผลจริง ๆ ด้วย”
เมื่อได้ยินคําใบ้สามข้อความจากระบบ หวังฮ่าวหลานก็แอบยิ้มในใจ
ด้วยการชี้นำจากเขา ความสัมพันธ์ระหว่างฉู่ป๋ายกับซูมู่หยานจึงกลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้วตอนนี้
แต่ซูมู่หยานกลับมีความรู้สึกที่ดีต่อตัวเขาเองถึง 10 คะแนน
ในทางตรงกันข้ามตอนนี้เขาอยู่ในตําแหน่งที่ดี
อย่างไรก็ตาม หวังฮ่าวหลาน ไม่ได้ประมาทเพราะฉู่ป๋ายยังมีออร่าตัวเอกปกป้องอยู่ ไม่แน่ว่าอีกไม่นานเขาก็จะสามารถดึงความประทับใจของ ซูมู่หยาน กลับมาได้
รัศมีของตัวเอกของฉู่ป๋ายลดลงเพียง 20 เท่านั้น มันยังไม่พอ
หวังฮ่าวหลานตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของบนหน้าต่างสถานะของเขา
“โฮสต์: หวังฮ่าวหลาน”
“พลังต่อสู้ : 89”
[ค่าเสน่ห์ : 198]
[ออร่าตัวร้าย : 119]
[แต้มตัวร้าย : 400″
“ทักษะ: ไม่มี”
ออร่าตัวร้ายจาก 99 กลายเป็น 119 ซึ่งเป็นการเติบโตขึ้นเล็กน้อย
จนถึงตอนนี้ หวังฮ่าวหลาน ได้รับแต้มตัวร้ายทั้งหมด 500 แต้ม แต่การใช้ 100 แต้มในการสอบถามข้อมูลของฉู่ป๋าย ดังนั้นจึงเหลือเพียงแค่ 400 เท่านั้น
ยังไม่พอเปิดซื้อของจากร้านค้าระบบเลย
ต้องพยายามต่อไป
——
ในระหว่างชั้นเรียนหวังฮ่าวหลานเรียกลูกน้องทั้งสามคนไปที่มุมห้องเพื่อพูดคุย
“ลูกพี่ เมื่อวานพวกเราประมาทเกินไป ข้าเคยได้ยินแค่ว่าเขาต่อยตีเป็น แต่ข้าไม่คิดว่าจะเก่งได้ขนาดนี้ ให้ตายเถอะ!”
“ลูกพี่ วันนี้ข้าจะเรียกพี่น้องอีกสักหน่อยหลังเลิกเรียน ข้าจะทุบตีฉู่ป๋ายจนหัวมันเป็นหัวหมูเลย!”
ฟ่านทงและฉินโซ่วเซิงกล่าวด้วยความเคียดแค้น
“หุบปาก!” หวังฮ่าวหลานตวาดออกมา
ตามหลักการแล้ว ต่อให้หวังฮาวหลานรวมคนมาเป็นกระปึก ๆ ก็ไม่มีทางชนะฉู่ป๋ายที่เป็นตัวเอกได้แน่ ๆ
ทําไมล่ะ?
เพราะนี่คือวิธีพล็อตต้นฉบับของนักเขียนขยะ ๆ นั่นไง
ถ้าทำตามที่เนื้อเรื่องกำหนดไว้ ก็ตายอย่างเขียดแน่ ๆ
“ก่อนหน้านี้ลูกพี่บอกกับผมว่า ห้ามลงมือกับฉู่ป๋ายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา พวกนายสองคนอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย” ฟ่านเจี้ยนกล่าวกับฟ่านทงและฉินโซ่วเซิง
“งั้นจะให้ลืมมันไปอย่างนั้นเหรอครับ?” ฟ่านทงกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“แน่นอนว่าเป็นไม่ใช่” หวังฮ่าวหลานยิ้มเยาะ
“โอ้ ที่แท้ลูกพี่ก็มีวิธีจัดการกับฉู่ป๋ายแล้ว! โอ้ววว
“เรื่องนี้ต้องพึ่งพวกแก” หวังฮ่าวหลานกล่าว
“ลูกพี่ เชิญสั่งมาได้เลยครับ!”
สามพี่น้องทําท่าเหมือนจะยอมบุกน้ำลุยไฟเพื่อลูกพี่
“พวกแกไปบอกครูว่าถูกฉู่ป๋ายกระทืบซะ” หวังเฮาหลานกล่าวอย่างสงบ
“ครับ ลูกพี่ เราจะ… หืม? ลูกพี่ ลูกพี่พูดเรื่องอะไรกันครับ? บอกครู? ”
ฟ่านเจี้ยนรีบคว้าคําสั่งของเขาทันที แต่หลังจากพูดไปครึ่งทาง เขาก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงตกตะลึง
“???” ฟ่านทงและฉินโซ่วเซิงก็ตกตะลึงเช่นกัน
แม้ว่าหวังฮ่าวหานจะเป็น หัวโจกและหนุ่มหล่อประจำโรงเรียน แต่ก็ยังมีมีสถานะอีก อยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือผู้คุมโรงเรียน
ฟ่านทง ฟ่านเจี้ยน และฉินโซ่วเซิงนับเป็นน้องชายของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเดินเบ่งไปทั่วโรงเรียนได้
ใคร ๆ ต่างก็หวั่นเกรงและต้องไว้หน้าพวกเขา แม้ว่าพวกจะมีคนถูกทุบตี แต่คนที่ถูกตีส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเงียบไว้และไม่บอกครู
แล้วตัวลูกพี่เองก็ไม่ไว้หน้าตัวเองด้วยเหรอ?
ในฐานะผู้คุมโรงเรียนการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยไม่ต้องใช้กําปั้นและความรุนแรง
คุณจะฟ้องครูเหรอ?
น่าขายหน้าฉิบหาย!
หวังฮ่าวหลานพูดกับลูกน้องทั้งสามคนว่า
“ทำไม? มองไร?” การทะเลาะวิวาทระหว่างเพื่อนร่วมชั้นที่เกิดจากความไม่พอใจบางอย่าง บอกครูก็เป็นหนึ่งในวิถีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดทางหนึ่ง
คงไม่ได้กำลังคิดว่าจะให้จ้างคนมาฆ่าไอ้เด็กนั่นใช่ไหม?
ขอร้องเลยนะ บิดาผู้นี้เป็นลูกหลานของคนรวย ได้รับการศึกษาที่ดีมาตั้งแต่เด็ก มีผลการเรียนดีเยี่ยม และเป็นนักเรียนดีเด่น ผลการเรียนดีที่สุดติดอันดับ 1 ใน 10 ของโรงเรียน และนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่เกี่ยวกับโลกมืดด้วย ”
ฟ่านเจี้ยน ฟ่านทง และฉินโซ่วเซิงมองหน้ากันและไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คําเดียว
ใช่ ลูกพี่พูดถูกทั้งหมด!
ดังนั้นสามพี่น้องที่มีจมูกช้ำและใบหน้าบวมเดินเข้าไปในห้อง แผนกกรมการศึกษาและจริยธรรม (กรมการเมืองและการศึกษา)
ทันทีที่เสียงกริ่งดังขึ้น ฉู่ป๋ายก็ถูกรองผู้อํานวยการสํานักกรมการศึกษาและจริยธรรมเรียกตัวไป
สาวสวยหน้าตาดีสวมรองเท้าส้นสูงและแว่นตาก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องเรียน
เธอชื่อซ่งเจินอวี่ อายุ 24 ปี เป็นครูประจําชั้น และ ครูสอนภาษาอังกฤษ
แม้ว่าเธอจะยังอายุน้อย แต่เธอก็เป็นคนอารมณ์ร้อนและความสามารถในการสอนของเธอยอดเยี่ยมมาก ซึ่งก็เกือบทำให้นักเรียนในชั้นเรียนเหนื่อยจนเกือบตายเลยทีเดียว
เมื่อตอนที่เธอกำลังเช็คชื่อและพบว่ามีนักเรียนขาดเรียนไปสี่คน และขาดชั้นเรียนภาคเช้า เธอจึงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
ตอนนี้เด็กทุกคนอยู่ในช่วง ม.6 ช่วงเวลาสุดท้ายแสนสั้น ขาดเรียนภาคเช้าในเวลาแบบนี้มันช่าง อภัยให้ไม่ได้
นักเรียนในชั้นเรียนสามารถมองเห็นไฟที่ลุกโชนบนหัวของครูแสนสวยได้เลย
แต่ถึงจะโกรธยังไงก็ตาม ซงเจินอวี่ก็ยังคงเป็นสาวที่งามดั่งภาพวาดเช่นเคย
สาวงามก็คือสาวงาม แม้โกรธก็ยังดึงดูด
หวังฮ่าวหลานแอบถอนหาย แต่ในไม่ช้าความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา
“อาจารย์ซ่งคนนี้คงไม่ได้เป็นหนึ่งในนางเอกใช่ไหม?”
ตัวเอกที่มีพลังพิเศษมองทะลุและยังเป็นนักเรียน ตามเนื้อเรื่อง โดยปกติแล้วครูสาวสวยถือเป็นมาตรฐานนางเอกอย่างหนึ่ง
หวังฮ่าวหลานต้องการให้ระบบตรวจสอบมันด้วยค้อนหิน แต่การใช้แต้มตัวร้าย 100 แต้มนั้นน่าปวดหัวจริง ๆ
คิดไปคิดมา ก็ช่างมันเถอะ
ตอนนี้เขามีแต้มตัวร้ายแค่ 400 แต้ม เท่านั้น เขายังเปิดร้านค้าระบบด้วยแต้ม 500 แต้ม ค่อยว่ากันแล้วกัน
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รีบร้อน
“ฉู่ป๋าย ฟ่านเจี้ยน ฟ่านทง และฉินโซ่วเซิง มีใครรู้บางไหมว่าทําไมพวกเขาสี่คนถึงไม่เข้าห้องเรียน?” ซ่งเจินอวี่ถามนักเรียน
ในฐานะครูประจําชั้น แค่มองก็รู้ได้ทันทีว่าแต่ละคนมีตำแหน่งและสถานะอะไร
“ครูซ่งครับ ฉู่ป๋ายทุบตีฟ่านเจี้ยน ฟ่านทง และฉินโซ่วเซิงอย่างรุนแรง ทุบตีพวกเขาจนจมูกช้ําและใบหน้าบวมเป่ง จนเกือบจะหน้าตาไม่เหมือนคนแล้ว รองผู้อํานวยการฝ่ายวินัยกังเต๋อมาเรียกพวกเขาทั้งสี่ออกไปครับ” หวังฮ่าวหลานยืนขึ้นเพื่อรายงานและเติมน้ำมันเข้ากองไฟ
“อะไรนะ?! ทะเลาะวิวาท! ”
เมื่อซ่งเจินอวี่ได้ยินเช่นนั้น ความโกรธก็รุนแรงขึ้น เสียงแหลมหูนั้นทําให้นักเรียนหูอื้อ
“พวกเธอเรียนรู้ด้วยตนเองไปก่อนนะชั่วโมงนี้ หวังฮ่าวหลานเธอคอยคุมเพื่อน ๆ ด้วยนะ”
พูดจบ ซ่งเจินอวี่ก็เดินออกจากห้องเรียนไปด้วยความโกรธ
ใช้นิ้วเท้าคิดก็รู้ว่าเธอไปยังแผนกวินัยแน่ ๆ
******************************
ติดตามอัพเดทตอนใหม่ๆ ได้ที่แฟนเพจ Doublewaen Translate นิยายแปล
https://web.facebook.com/doublewaentranslate
MANGA DISCUSSION