[ติ๊ง โฮสต์ควบคุมเบื้องหลัง ย้ายตําแหน่งผู้สนับสนุนของฝ่ายตัวเอกไปยังตําแหน่งอื่น ได้รับแต้มตัวร้าย 300 แต้ม ออร่าตัวเอกฉู่ป๋าย -10 ออร่าตัวร้ายโฮสต์ +10!]
ในช่วงเย็นของชั่วโมงเรียนด้วยตัวเองหวังฮ่าวหลานได้รับข้อความนี้
มันทําให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย
ตอนแรกเขาคิดว่าถังปิงหยุนจะใช้เวลาอีกสองสามวันในการพักฟิ้นก่อนจึงจะย้ายครูใหญ่ไปอยู่ตําแหน่งอื่น
เขาไม่คิดว่าถังปิงหยุนจะเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้
เธอรับปากเขาในตอนเย็น และมีคำสั่งย้ายครูใหญ่ในตอนเย็นทันที
เมื่อครูใหญ่ย้ายไป ฉู่ป๋ายก็สูญเสียตําแหน่งที่หลบภัยในโรงเรียน
ต่อจากนี้ถ้าจะจัดการกับฉู่ป๋ายในโรงเรียน ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น
——
ชั่วโมงเรียนด้วยตนเองภาคค่ำสิ้นสุดลง
ซูมู่หยานเข็นจักรยานไปที่ประตูโรงเรียน
ฉู่ป๋ายเดินตามหลังมา
หลังจากออกจากโรงเรียน ฉู่ป๋ายก็เตรียมตัวกลับบ้านกับซูมู่หยาน
แต่ทันใดนั้นฉู่ป๋ายก็ตระหนักได้ว่าซูมู่หยานไม่ได้มุ่งหน้าไปทางกลับบ้าน แต่มุ่งหน้าไปริมแม่น้ำใกล้โรงเรียนแทน
ฉู่ป๋ายรู้สึกแปลกใจ รีบตามไป
เขาติดตามซูมู่หยานมาถึงริมแม่น้ำ
มีชายคนหนึ่งรออยู่ที่รั้วหินริมแม่น้ำ
เขาคือหวังฮ่าวหลาน
ฉู่ป๋ายของขึ้น!
ซูมู่หยานไม่ยอมกลับบ้านตรงเวลา แต่กลับมาเดทกับหวังฮ่าวหลาน!
ช่างไร้ยางอายจริงๆ!
ฉู่ป๋ายอยากจะพุ่งเข้าไปล่มเดทของทั้งคู่
แต่เขายังคงอดทนไว้
พุ่งเข้าไปก่อกวน มันจะทําให้ซูมู่หยานไม่พอใจ
ไม่คุ้มกับสิ่งที่จะเสียไป
ฉู่ป๋ายคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพ่อซู
“ฮัลโหล ฉู่ป๋าย เกิดอะไรขึ้น?”
“ตอนนี้เลิกเรียนแล้ว ซูมู่หยานไม่ได้กลับบ้าน แต่ไปพบหวังฮ่าวหลานที่ริมแม่น้ำ!”
“อะไรนะ?!” พ่อซูโกรธจัด
“มันน่านัก เจ้าต้องจับตาดูเขาให้ดีเพื่อไม่ให้เจ้าเด็กที่ชื่อหวังฮ่าวหลานนั่นพาหยานหยานไปที่อื่น ลุงจะมาเดี๋ยวนี้!”
ฉู่ป๋ายได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากปลายสาย
เห็นได้ชัดว่าพ่อซูร้อนใจและต้องออกเดินทางทันที
“วางใจได้ครับ ผมจะจับตาดูไว้!” ฉู่ป๋ายวางสายด้วยความดีใจ
พ่อของซูมู่หยานทำอาชีพอะไร ฉู่ป๋ายนั้นรู้ดี
เขาฝึกหมัดและเท้าของเขา
อีกสักพักพ่อของซูมู่หยานก็มาถึงและดูท่าว่าเขาจะต้องทุบตีหวังฮ่าวหลานอย่างแน่นอน
รุ่นที่สองที่ร่ำรวยอย่างหวังฮ่าวหลานที่มีแต่อ้าปากรอป้อนในมือก็ถือชุดรอคนแต่งให้ มันช่างอ่อนปวกเปียก จะไปทนหมัดของพ่อซูมู่หยานได้กี่หมัดกัน? (อ้าปากรอป้อนในมือก็ถือชุดรอคนแต่ง 衣来伸手,饭来张口 เป็นวลี ความหมายคร่าวๆ ว่า ทัศนคติในชีวิตของการไม่ออกแรงมุ่งแต่สนุกมีแต่เกียจคร้านและไม่ทำอะไรที่มีคุณประโยชน์ )
ฉู่ป๋ายอยากรู้อยากเห็นและตั้งตารอ
“อีกหน่อยคงได้ดูการแสดงสนุกๆ !”
“ฉู่ป๋าย เจ้ามาทำลับๆ ล่อๆ ที่นี่ทําไม?”
ขณะที่ฉู่ป๋ายกําลังจ้องมองหวังฮ่าวหลานและซูมู่หยาน เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ฉู่ป๋ายหันกลับไปมอง ปรากฏสีหน้าดูแคลนทันที
“ฟ่านเจี้ยน ข้ามาทำอะไรที่นี่มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า ถ้ายังพูดพล่ามต่ออีกล่ะก็ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะทุบตีเจ้าซะ!”
“ข้าไม่เชื่อ เจ้าลองตีข้าซะสิ!” ฟ่านเจี้ยนเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว
“เจ้า!”
ฉู่ป๋ายกําหมัดแน่น แต่ไม่นานก็ปล่อยมือ
เขาอยากจะทุบตีฟ่านเจี้ยนแต่ไม่กล้าแบกรับผลที่ตามมา
ครูใหญ่มาหาเขาตอนเย็น
ครูใหญ่บอกว่าเขาจะย้ายออกจากโรงเรียนมัธยมสุ่ยเจ๋อทันทีและจะไปเป็นครูใหญ่ที่โรงเรียนอื่น
หลังจากสูญเสียความคุ้มครองของครูใหญ่ฉู่ป๋ายก็จะถูกไล่ออก
“ขยะ ข้าว่าแล้วไงว่าเจ้าไม่กล้าแตะต้องข้า” ฟ่านเจี้ยนยิ้มอย่างภูมิใจ เขาสะบัดกระเป๋านักเรียนและขี่จักรยานจากไป
แต่เมื่อเขาสะบัดกระเป๋านักเรียน มีของหล่นออกมาจากกระเป๋า
ฟ่านเจี้ยนได้ขี่จักรยานออกไปแล้ว
และมัดของสิ่งนั้นก็ตกลงบนพื้นเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีใครที่อยู่รอบๆ เห็นมัน
ฉู่ป๋ายรีบไปหยิบมันขึ้นมาทันที
ของพวกนี้เป็นแบงค์สีแดงทั้งหมด ประมาณ 50,000 หยวน
“เป็นไปไม่ได้ที่ฟ่านเจี้ยนจะมีเงินได้มากมายขนาดนี้ ข้าว่าหวังฮ่าวหลานจะต้องให้รางวัลแก่มันอย่างแน่นอน นี่เป็นโชคลาภที่ไม่เป็นธรรม แต่ตอนนี้มันเป็นของข้าแล้ว!”
ฉู่ป๋ายยัดแบงค์ปึกนี้ใส่กระเป๋านักเรียนของตนอย่างไม่ลังเล
เขาไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ ในใจเขา
ฟ่านเจี้ยนได้ยั่วยุเขาและอดทนต่อการทุบตีมัน
ถือว่าเขาโชคดี
เงินก้อนนี้ถือว่าเป็นคำขอโทษของฟ่านเจี้ยนที่มีต่อตนก็แล้วกัน
อย่างไรก็ตาม ฟ่านเจี้ยนไม่ได้สังเกตเห็นว่าเงินของเขาได้หายไป แม้ว่าเขาจะกลับมาดูแต่ก็พบว่ามันหายไปไหนก็ไม่รู้
——อากาศค่อนข้างร้อนและลมแรงจากแม่น้ำทําให้ผู้คนรู้สึกเย็นเป็นพิเศษ
ซูมู่หยานจอดรถจักรยานลง ในใจรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอจะตรงกลับบ้านทันทีหลังชั่วโมงเรียนด้วยตนเอง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอไม่กลับบ้านตรงเวลาเพื่อไปเจอผู้ชายที่นัดไว้
เวลาเลิกเรียนภาคค่ำคือสามทุ่มครึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มสี่สิบแล้ว
เดิมทีซูมู่หยานไม่อยากมา แต่เธอแอบกลับมาอีกครั้งอย่างลับๆ
“นายเรียกฉันมาที่นี่ทําไม?” ซูมู่หยานถามอย่างระมัดระวัง
“ชานมไม่เลวเลย แต่หวานนิดเดียว” หวังฮ่าวหลานยิ้ม
“นายเรียกฉันมาเพื่อพูดเรื่องแบบนี้โดยเฉพาะเหรอ?” ซูมู่หยานตะลึงงัน
“ใช่แล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคิดว่ามันคืออะไรล่ะ?”
“…” ซูมู่หยาน
“เอาล่ะ เลิกล้อเล่นละ ที่ฉันขอให้เธอมาที่นี่เพราะอยากให้ความกระจ่างแก่เธอ”
“นายรู้แล้ว เหวินจิงบอกนายเหรอ?”
“เธอพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ”
“นี่ ฉันเกือบทะเลาะกับพ่อฉัน แต่ฉันก็บอกไปว่าฉันไม่ชอบนาย!” ซูมู่หยานเน้นย้ํา
“ฉันรู้ ฉันรู้” หวังฮ่าวหลานรู้ว่าเธอเป็นคนปากแข็ง แต่ก็ยังพูดออกมา
“นายเข้าใจก็ดีแล้ว” ซูมู่หยานถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“โทรหาแม่เธอเถอะ บอกไปว่ามาเดินเล่นริมแม่น้ำกับเพื่อนร่วมชั้นชายแล้วให้แม่เธอมารับกลับ” หวังฮ่าวหลานส่งโทรศัพท์มือถือให้ซูมู่หยาน
“เดี๋ยวฉันปั่นจักรยานกลับเองก็ได้”
“ช่วงหลังเลิกเรียนมีนักเรียนเยอะมาก ถนนปลอดภัย เธอขี่จักรยานได้ไม่มีปัญหา แต่อีกไม่นานคนก็ไม่ค่อยมีแล้ว ปั่นจักรยานคนเดียวมันอันตรายนะ”
ได้ยินดังนั้น ซูมู่หยานก็เกิดความอบอุ่นขึ้นในใจ
เขาค่อนข้างจะแคร์ตนเอง
หวังฮ่าวหลานพูดติดตลกว่า “นอกจากนี้เคยคิดไหมว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ที่นี่ อยู่ด้วยกันกับฉันสองต่อสอง เธอไม่กลัวบ้างเหรอ? บอกให้แม่มารับแล้วไม่จําเป็นต้องกลัวที่จะอยู่กับฉันคนเดียว ”
ซูมู่หยานตะลึงงัน เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน
หรือพูดให้ถูกคือเธอไม่ได้ระมัดระวังตัวกับหวังฮ่าวหลานเลย
“นายยังคิดดีอยู่นะ” ซูมู่หยานแค่นเสียงแต่ในใจอดคิดไม่ได้
ถ้าผู้หญิงคนไหนเป็นแฟนของผู้ชายคนนี้เธอคงจะมีความสุขมากเลยใช่ไหม?
เขาหล่อ, ครอบครัวร่ำรวย, เรียนเก่ง, ร้องเพลงเพราะ, ที่สําคัญคือระมัดระวังมากกับสาว ๆ, เอาใจใส่ผู้หญิงทําให้รู้สึกปลอดภัย
[ติ๊ง กระตุ้นหัวใจของหนึ่งในนางเอก ซูมู่หยาน ได้รับแต้มตัวร้าย 200 แต้ม]
ซูมู่หยานรับโทรศัพท์มือถือของหวังฮ่าวหลานและโทรหาแม่ของเธอ
หลังจากโทรเสร็จ
“ริมแม่น้ำสายนี้สวยมาก เราไปเดินเล่นกันหน่อยไหม” หวังฮ่าวหลานกล่าว
“ได้สิ”
ซูมู่หยานพยักหน้า
ทั้งสองเดินเคียงข้างกัน รับลมริมแม่น้ำและชมทิวทัศน์ยามค่ําคืนริมแม่น้ำ
ระหว่างที่เดิน หลังมือและไหล่จะสัมผัสกันเป็นครั้งคราว
หวังฮ่าวหลานรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าซูมู่หยานรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก
เขาเอียงคอมองใบหน้าด้านข้างของเธอซึ่งแดงเล็กน้อย
“ดูนั่นสิ!”
ทันใดนั้นหวังฮ่าวหลานก็ชี้ไปที่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ
“ไม่เห็นมีอะไรเลย ให้ดูอะไร?” ซูมู่หยานรู้สึกสงสัย
หวังฮ่าวหลานยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร เขามองไปที่โทรศัพท์มือถือของเขาหลังจากนั้นประมาณ 10 วินาที
“ปัง!”
“ปัง ปัง!”
……
ดอกไม้ไฟที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และระเบิดขึ้นกลางอากาศ บานสะพรั่งด้วยสีสันอันเจิดจ้า ไม่มีอะไรจะงดงามไปกว่านี้อีกแล้ว
บนฝั่งแม่น้ำที่ทอดสายตามอง ล้วนมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงาม
รอบริมฝั่งแม่น้ำสะท้อนให้เห็นแสงราวกับกลางวัน
ใบหน้าอันงดงามของซูมู่หยานนั้นประดับด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน
MANGA DISCUSSION