ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว - ตอนที่ 41
โรงเรียนมัธยมสุ่ยเจ๋อ
หลังจากชั่วโมงเรียนสุดท้ายในช่วงบ่ายก็ถึงเวลาอาหารเย็น
นักเรียนหลายคนวิ่งไปที่โรงอาหารเพื่อรับประทานอาหารค่ํา
ซูมู่หยานฉวยโอกาสนี้ไปที่ร้านชานมนอกโรงเรียน
เธอยังติดค้างหวังฮ่าวหลาน
มาที่นี่ในเวลานี้ก็เพื่อทําตามสัญญา
แต่การให้ชานมกับหวังฮ่าวหลานด้วยตัวเอง ทําให้ซูมู่หยานรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
หวังฮ่าวหลานลาหยุดตอนบ่ายและต้องมาเข้าเรียนชั่งโมงเรียนด้วยตัวเองสาย
ซูมู่หยานต้องการใช้โอกาสนี้ซื้อชานมและวางไว้บนโต๊ะของหวังฮ่าวหลาน
เมื่อหวังฮ่าวหลานมาเข้าเรียนเขาก็จะรู้ว่าเธอเป็นคนส่งชานมมาให้
ซูมู่หยานสั่งชานมเป็ดแมนดาริน(ยวิ้นเยิ้ง)สองแก้ว
เธอไม่รู้ว่าหวังฮ่าวหลานชอบรสชาติอะไร เพราะงั้นเธอจึงทําได้แค่สั่งตามความชอบของตัวเองเท่านั้น
นอกจากนี้ซื้อชานมเป็ดแมนดารินสองแก้วยังได้ส่วนลด ถือว่าราคาถูกกว่าปกติ
ขณะที่ซูมู่หยานกําลังรอให้ร้านทําชานมเสร็จ รถที่จอดอยู่ริมถนนก็หยุดลง
หน้าต่างรถเปิดออกเผยให้เห็นศีรษะซึ่งเป็นพ่อซูนั่นเอง
“หยานหยาน!”
ซูมู่หยานหันกลับไปมองแล้วเดินตรงไปทิศทางนั้น
“พ่อ ทําไมพ่อถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”
“มีธุระที่ต้องไปทําน่ะ ผ่านมาก็เห็นลูกพอดี เลยเรียกดู”
สองพ่อลูกเริ่มพูดคุยกัน
“คนสวย ชานมเป็ดแมนดารินสองแก้วเสร็จแล้ว” เจ้าของร้านที่อยู่ด้านหลังตะโกนใส่ซูมู่หยาน
ซูมู่หยานไปหยิบชานมมา แล้วหันไปพูดกับพ่อซูว่า
“พ่อคะ พ่อดื่มไหม อยากให้หนูสั่งให้พ่อสักแก้วไหม”
“ของที่พวกหนุ่มสาวเขาดื่มน่ะ พ่อดื่มไม่ลงหรอก มันหวานเกินไป” พ่อซูส่ายหน้าแล้วกล่าวต่อว่า
“เมื่อกี้พ่อเหมือนจะได้ยินจากเจ้าของร้านบอกว่านี่เรียกว่าชานมเป็ดแมนดาริน ลูกสั่งสองแก้ว นี่คงไม่ได้ดื่มเองทั้งหมดหรอกนะ อีกแก้วซื้อให้ผู้ชายคนไหน?”
“พ่อคะ พ่อเป็นคนขี้สงสัยจริงๆ” ซูมู่หยานโพล่งออกมา
“เมื่อไม่นานมานี้ลูกพนันกับฉู่ป๋ายแล้วเขาไม่แพ้ จนตอนนี้ได้เป็นแฟนกับเขาแล้วใช่ไหม?” จู่ๆ พ่อซูก็นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้
“ไม่เลย เจ้าหมอนั่นโม้ว่าจะติดสิบอันดับแรกของห้อง แต่ดันได้อันดับสุดท้ายแทน” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซูมู่หยานก็รู้สึกขบขัน
“ไม่จริงน่า อันดับสุดท้ายเลยเหรอ? ลูกเป็นคนบอกว่าเขาก้าวหน้ามากเลยไม่ใช่เหรอ? “พ่อซูกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“พ่อ หนูบอกตามตรงนะ ผลการเรียนของฉู่ป๋ายมาจากการโกง ที่พนันกับหนูก็อยากหลอกหนูเป็นแฟนด้วย คนๆ นี้มันน่ารังเกียจจริงๆ” ซูมู่หยานพูดอย่างโมโห
“โกง? มันเป็นไปไม่ได้ “พ่อซูไม่เชื่อ
“สิ่งที่หนูพูดเป็นความจริง ถ้าไม่ได้หวังฮ่าวหลานช่วยไว้ เขาอาจจะโกงได้สําเร็จ”
“หวังฮ่าวหลาน?”
“นี่เพื่อนร่วมชั้นหนู”
“พ่อจําชื่อนี้ได้นิดหน่อย จําได้ว่า ได้ยินลูกพูดถึงว่าครอบครัวเขารวยมาก เขาเป็นลูกเศรษฐี” พ่อซูขมวดคิ้ว
“ใช่ เขานั่งรถคัลลิแนนไปรับไปส่งทุกวันเลย ครอบครัวเขารวยมาก”
“ลูกต้องอยู่ให้ห่างจากคนแบบนี้เข้าใจไหม?”
“ทําไม?”
“ฟังที่พ่อพูดไว้ ลูกเศรษฐีพวกนั้นมีไม่กี่คนที่เป็นคนดีหรอก”
“พ่อคะ พ่อจะใช้เสาต้นเดียวพลิกคว่ำเรือทั้งลำ(สำนวน)ไม่ได้หรอกนะ? หวังฮ่าวหลานเป็นคนดีมาก เขาเรียนเก่ง หน้าตาดี แถมยังร้องเพลงเพราะ…” ซูมู่หยานยิ้มมุมปากอย่างไม่ตั้งใจ เธอนับข้อดีของหวังฮ่าวหลานอย่างละเอียด [(不能一杆子打翻一船人吧 ) สำนวน หมายถึง การปฏิเสธคนหรือสิ่งที่คล้ายคลึงกัน เหตุเพราะแค่ไม่พอใจกับใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่าง]
เมื่อพ่อซูได้ยินเช่นนั้น คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันแน่นขึ้น
“หยานหยาน ลูกคงไม่ชอบหวังฮ่าวหลานหรอกใช่ไหม?”
“ไม่ ไม่ ไม่ หรอก หนูจะชอบเขาได้ยังไง…” ซูมู่หยานปฏิเสธทันที
พ่อซูที่สังเกตได้เก่งกลับมองออกถึงเบาะแสบางอย่าง
“หยานหยาน พ่ออยากให้ลูกชอบฉู่ป๋าย มากกว่าที่จะไปชอบหวังฮ่าวหลาน”
“พ่อ หวังฮ่าวหลานไปยั่วยุพ่อตอนไหน? ทําไมพ่อถึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขานัก?” ซูมู่หยานขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ต่อไปอย่าไปสนใจหวังฮ่าวหลานอีก ทางที่ดีอย่าคุยกับเขาแม้แต่คําเดียว” พ่อซูกลายเป็นจริงจังขึ้นมา
“ทําไม?!”
“ฟังที่พ่อพูดก็พอแล้ว”
“พ่อไม่เคยเห็นหวังฮ่าวหลานมาก่อน ทําไมพ่อถึงอคติกับเขากัน?”
“รุ่นที่สอง(ลูกคนรวย)ก็เหมือนกันหมด” สีหน้าของพ่อซูดูไม่ดีนัก
เขาทํางานเป็นเจ้าหน้าที่ในกรมมานานกว่ายี่สิบปี และเคยจัดการคดีที่รุ่นที่สองรังแกผู้หญิงมากเกินไป
สําหรับคําว่ารุ่นที่สอง สามคํานี้ เรียกได้ว่าเป็นคําที่เขาเกลียดชังอย่างถึงที่สุด
“พ่อคะ พ่อไม่มีเหตุผลเลย!”
ซูมู่หยานโกรธเล็กน้อย เธอถือชานมและหันหลังเดินกลับไปโรงเรียน
เสียงจากพ่อซูดังมาจากด้านหลัง
“หยานหยาน จําคําพูดของพ่อไว้ หากลูกไม่ฟัง พ่อจะไปหาหวังฮ่าวหลานด้วยตัวเองอย่างแน่นอน!”
——
หน้าโรงพยาบาล
หวังฮ่าวหลานออกมาพร้อมกับถังปิงหยุน
ในระหว่างการต่อสู้กับโจรหวังฮ่าวหลานไม่ได้ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
แต่ถังปิงหยุนยังไม่วางใจ เธอเลยต้องลากหวังฮ่าวหลานมาตรวจ
ทันทีที่พวกเขาออกจากโรงพยาบาล หญิงวัยกลางคนก็เข้ามาต้อนรับพวกเขา
เธอเป็นทนายที่ถังปิงหยุนตามหา
ทนายคนนี้เพิ่งเสร็จธุระที่สํานักงาน
เธออธิบายสถานการณ์ให้ถังปิงหยุนฟังคร่าวๆ
ชายร่างผอมคนนี้ เป็นพนักงานของโรงงานหยกเพราะติดหนีพนันเป็นจำนวนมากเขาเลยคิดที่ลักขโมย
แต่การขโมยนั้นไม่ประสบผลสำเร็จและถูกรปภ.จับได้
เขารีบวิ่งเข้าไปในโรงเก็บของการพนัน
“ทนายอัน ฉันขอให้คุณฟ้องดำเนินคดี” ถังปิงหยุนเตือนทนาย
คดีแบบนี้มักจะมีทนายอัยการมาจัดการ แต่ถังปิงหยุนไม่อยากปล่อยโจรคนนั้นไปง่ายๆ
โรงงานหยกมีโจรจากภายใน และยังมีความวุ่นวายเกิดขึ้น
ธุรกิจของตระกูลถังอาจได้รับผลกระทบ การเสียรายได้จากนักเสี่ยงโชคย่อมเป็นไปไม่ได้
แล้วให้อีกฝ่ายใช้วิธีอื่นเพื่อชดใช้ความผิด
“คุณถังวางใจเถอะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง” ทนายอันพยักหน้าอย่างมั่นใจ และมองไปที่หวังฮ่าวหลานและกล่าวชื่นชมว่า
“หนุ่มน้อย เธอช่างกล้าหาญจริงๆ!”
เธอเข้าใจกระบวนการทั้งหมดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและรู้ถึงความกล้าหาญของหวังฮ่าวหลานในการจับขโมย
“ไม่หรอกครับ” หวังฮ่าวหลานยิ้ม
“ดูจากท่าทางของเธอแล้ว น่าจะยังเรียนอยู่สินะ?” ทนายอันมองดูหวังฮ่าวหลานอย่างพอใจ จึงถามอีกสองสามประโยค
“ผมเรียนอยู่ม.6 ที่โรงเรียนมัธยมสุ่ยเจ๋อ”
“บังเอิญลูกสาวฉันก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้เหมือนกัน และก็กําลังเรียนอยู่ม.6 ด้วย”
“จริงเหรอครับ ลูกสาวคุณชื่ออะไร? “หวังฮ่าวหลานถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ทนายอันอายุเกิน 40 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีเสน่ห์อยู่ คิดว่าสมัยสาวๆ น่าจะเป็นสาวสวย
ยีนดีขนาดนี้ คาดว่าลูกสาวของเธอน่าจะสวยมาก
หวังฮ่าวหลานสนใจใคร่รู้
“ลูกสาวฉันชื่อซูมู่หยาน เธอรู้จักไหม?” ทนายอันพูด
“ผมก็อยู่ห้องเดียวกับเธอ!!” หวังฮ่าวหลานเบิกตากว้าง
สิ่งต่างๆ ในโลกนี้ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ
เขาได้พบกับแม่ของซูมู่หยานที่นี่
“ที่แท้เธอกับหยานหยานก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันนี่เอง” ทนายอันก็ประหลาดใจเช่นกัน
“ใช่แล้ว ที่จริงผมน่าจะดูออกแล้วว่าคุณน้าอันที่สวยขนาดนี้ มีแต่คุณเท่านั้นที่ให้กําเนิดลูกสาวผู้งดงามอย่างซูมู่หยานได้ เธออยู่ในโรงเรียนของเราและก็เป็นสาวงามประจำโรงเรียนอีกด้วย”
“ฉันแก่แล้ว” ทนายอันยิ้มและมองไปที่หวังฮ่าวหลานด้วยสายตาที่เป็นมิตรมากขึ้น
******************************
ติดตามอัพเดทตอนใหม่ๆ ได้ที่แฟนเพจ Doublewaen Translate นิยายแปล
https://web.facebook.com/doublewaentranslat