บทที่ 23 แตกหัก
ฉู่ป๋ายเอนกายพิงระเบียงทางเดินและรับลมเย็น ๆ เขามองไปที่สองสาวงามที่เดินจับมือกันอยู่ข้างล่าง
โรงเรียนมัธยมสุ่ยเจ๋อมีสามสาวงามที่เป็นที่ยอมรับ และทั้งหมดเป็นนักเรียน ม.6
หนึ่งในนั้นคือซูมู่หยาน และอีก 2 สาวที่เพิ่งเดินผ่านไป
“ถ้าพวกนางสองคนได้เป็นแฟนข้าก็คงดี”
ฉู่ป๋ายเริ่มรู้สึกร้อนรุ่ม
ในตอนนั้นเอง พลังมหาศาลก็พุ่งเข้ามาที่เอวของเขา
แต่มีคนลอบโจมตีและเตะฉู่ป๋ายอย่างแรง
ฉู่ป๋ายเกือบจะอาเจียนอาหารมื้อเย็นออกมา
เขาหันกลับไปมองด้วยความโมโห คนที่ลอบโจมตีคือเฉินจื่อสือ
“เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ?!” ฉู่ป๋ายพยายามข่มแรงกระตุ้นที่จะตอบโต้และคํารามออกมา
หากไม่ใช่เพราะเขาเพิ่งถูกลงโทษไปครั้งหนึ่ง เขาจะต้องกดเฉินจื่อสือลงพื้นเพื่อถูมันกับพื้น
ฉู่ป๋ายเติบโตขึ้นมาอย่างแข้มแข็ง ต่อสู้มานับไม่ถ้วน เขาเกลียดคนไร้คุณธรรมที่ลอบโจมตีจากด้านหลังมากๆ
“เจ้าเดรัจฉาน!” จื่อสือลงอยู่ในสภาพที่บ้าคลั่งและตําหนิเขาด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ข้าบริสุทธิ์ เจ้ายอมเชื่อผู้หญิงมากกว่าข้าใช่ไหม?”
ฉู่ป๋ายเดาว่าเหวินจิงต้องเล่าเรื่องให้เฉินจื่อสือฟัง ไม่อย่างนั้นเฉินจื่อสือคงไม่เสียการควบคุมแบบนี้แน่
“ข้าเชื่อปู่เจ้าสิ” เฉินจื่อสือสบถคำหยาบออกมา
“โอ๊ย เจ้าโง่ปัญญาอ่อนหรือไง ถูกคนหลอกก็ยังไม่รู้ บิดาผู้นี้ไม่มีพี่น้องอย่างเจ้าแล้ว เราขาดกัน!” ฉู่ป๋ายเดือดดาล
“เจ้าสุนัขเดรัจฉานต่ำต้อย ขาดก็ขาด!”
[ติ๊ง โฮสต์ควบคุมเบื้องหลัง ทําให้ตัวเอกฉู่ป๋ายและตัวประกอบคนสําคัญเฉินจื่อสือแตกหักกัน ได้รับแต้มตัวร้าย 300 แต้ม ออร่าตัวเอกฉู่ป๋าย -20 ออร่าตัวร้ายโฮสต์ +20]
“สมบูรณ์แบบ!”
หลังจากที่หวังฮ่าวหลานได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
แผนการนี้สําเร็จตามที่เขาคาดไว้
——
หลังจากชั่วโมงเรียนด้วยตัวเองภาคค่ำนักเรียนและครูพร้อมที่จะกลับบ้าน
ซ่งเจินอวี่ยังคงอยู่ในห้องทํางานเหมือนเมื่อวานเพื่อเลี่ยงความสงสัย
หวังฮ่าวหลานฉวยโอกาสนี้เตรียมพาเหวินจิงกลับบ้าน
บนรถ
“ที่รัก ฉันทําภารกิจทั้งหมดเสร็จแล้ว พอใจไหม?” เหวินจิงถามด้วยรอยยิ้มหวาน
“เธอทําได้ดีมาก” หวังฮ่าวหลานชมเชยและมองไปที่ดวงตาสีแดงของเหวินจิง
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร” เหวินอี้ส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจ
ตราบเท่าที่เธอสามารถทําตามคําสั่งของหวังฮ่าวหลานได้ ความขมขื่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
หวังฮ่าวหลานหยิบมือถือออกมาและโอนเงิน 188,000 หยวนเพื่อเป็นรางวัล
เหวินจิงตะลึงงัน
รายได้ของครอบครัวเธอแค่ 50,000-60,000 หยวนต่อเดือน เท่านั้น ปกติแล้วเธอได้แค่ 200-300 หยวนต่อเดือนเท่านั้น
188,000 หยวน สําหรับเหวินจิงแล้ว มันถือเป็นเงินก้อนใหญ่อย่างแน่นอน
ได้อยู่กับผู้ชายที่ตัวเองรักและได้ใช้เงินอย่างเหลือเฟือ
เหวินจิงยิ่งรู้สึกว่าการตัดสินใจของเธอกับหวังฮ่าวหลานนั้นฉลาดมาก
“ฉันจะไปส่งเธอเอง”
หวังฮ่าวหลานต้องการให้คนขับสตาร์ทรถ
อย่างไรก็ตาม เหวินจิง ก็กุมมือหวังฮ่าวหลานเอาไว้ และกล่าวด้วยความรักว่า
“ที่รัก ฉันคิดถึงเธอมาก…”
“เธอหายดีแล้วหรือ?”
“เปล่า”
“งั้นไปส่งเธอกลับเถอะ วันนี้ร้องไห้ไปตั้งเยอะ ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?”
“ฉัน… ฉันไม่เป็นไร “เหวินจิงก้มหน้าพูด
“งั้นฉันจะพาเธอไปที่โรงแรมก่อน ฉันมีเรื่องต้องทํา เดี๋ยวฉันจะมาหา”
ทันใดนั้นหวังฮ่าวหลานก็รู้สึกว่าพ่อแปลกหน้าของเขาช่างมองการไกลจริงๆ ที่ได้ให้บัตรวีไอพีทองคำดำให้กับเขา
ไม่ต้องจองห้องล่วงหน้าก็เข้าไปได้เลย
“อื้ม!”
เหวินฉานพยักหน้าอย่างดีใจ รีบหยิบมือถือออกมาโทรหาคนที่บ้าน
——
ซูมู่หยานกลับมาถึงบ้าน อาบน้ําผ่อนคลายความเหนื่อยล้าทั้งวัน
หลังจากผ่านห้องนั่งเล่นพ่อยังคงดูทีวี
“พ่อคะ หนูกลับห้องไปนอนแล้วนะ” ซูมู่หยานกล่าว
“หยานหยาน รอเดี๋ยว พ่อมีอะไรจะบอกลูก” พ่อซูกวักมือเรียก
“พ่อมีอะไรจะพูดกับหนูเหรอ?” ซูมู่หยานรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
“ในชั้นเรียนของพวกลูกมีคนหนึ่งชื่อฉู่ป๋ายใช่ไหม”
“ใช่ พ่อรู้ได้ยังไง?!”
“พ่อเคยเห็นเขาที่กรม”
“เขาทําอะไรน่ะ?”
“ไม่ใช่” พ่อซูส่ายหน้า ใบหน้าฉายแววชื่นชม
“มีนักเรียนคนหนึ่งในโรงเรียนของลูกรายงานพวกอาชญากร ลูกน่าจะรู้เรื่องนี้ใช่ไหม? พ่อเป็นคนทําคดีนี้เอง นักเรียนที่รายงานคนนั้นก็คือฉู่ป๋าย”
“อ๋อ เป็นเขาเอง” สีหน้าของซูมู่หยานเรียบเฉย
“หยายหยาน จากที่พ่อดูลูกแล้ว ลูกไม่ชอบฉู่ป๋ายคนนี้เหรอ?”
“เขาอยากจะทําร้ายเพื่อนรักของหนู หนูแทบอยากจะต่อยเขา”
“มีเรื่องแบบนี้เหรอ ช่วยเล่ารายละเอียดให้พ่อฟังหน่อยสิ “พ่อซูกล่าว
ซูมู่หยานบอกพ่อเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ซูมู่หยานได้ยินมาจากเหวินอี้
“เพื่อนรักของลูกแค่ได้ยินเสียงและสัมผัสผมของอีกฝ่าย ด้วยเรื่องเพียงแค่นี้ไม่ได้พิสูจน์ว่าคนๆ นั้นต้องคือฉู่ป๋ายแน่ๆ” โรคทางอาชีพของพ่อซูกําเริบอีกแล้ว
“แต่เขายอมรับแล้ว”
“ตามที่ลูกอธิบาย หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่ฉู่ป๋าย และหญิงสาวคนนั้นเลือกที่จะระงับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ฉู่ป๋ายขอโทษ ฉู่ป๋ายหลีกเลี่ยงปัญหาและการตัดสินใจแบบนี้นับเป็นเรื่องปกติ”
“พ่อคะ ทําไมพ่อถึงดูปกป้องฉู่ป๋ายคนนี้จังเลยคะ” ซูมู่หยานไม่เข้าใจ
“แม้ว่าพ่อจะเคยเห็นฉู่ป๋ายคนนี้เพียงด้านเดียว แต่พ่อมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนแบบนี้ มันน่าจะมีอะไรผิดพลาด” พ่อซูกล่าว
“หรือว่าจิงจิงจะเข้าใจผิด?” ทันใดนั้นความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของซูมู่หยาน
พ่อต้องติดต่อกับพวกนอกกฎหมายทุกวันเพราะลักษณะงาน
ซูมู่หยานเชื่อคําตัดสินของพ่อ
และซูมู่หยานยังเชื่อว่าเพื่อนรักของเธอไม่จําเป็นต้องโกหก
แต่เรื่องนี้ได้จบลงไปแล้ว ไม่จําเป็นต้องสนใจอีกต่อไป
ซูมู่หยานสลัดความคิดสับสนออกไป แล้วจู่ๆ ก็เอ่ยถามว่า
“พ่อทําไมจู่ๆ พ่อถึงพูดถึงฉู่ป๋ายคนนี้ล่ะ?”
“เฮ้อ ดูท่าพ่อจะเลาะเลือนไปบ้าง พูดแล้วก็เกือบลืม” พ่อซูตบหน้าผากเบาๆ แล้วชี้ไปที่มือถือบนโต๊ะน้ําชา
“เมื่อกี้ฉู่ป๋ายโทรหาลูก ลูกอาบน้ำอยู่ พ่อเลยรับแล้วแล้วตอบเขาไปว่า เดี๋ยวลูกกลับมาแล้วจะให้โทรกลับน่ะ”
“หา?” ซูมู่หยานไม่เต็มใจนัก
“ลูกไม่อยากให้พ่อเสียความน่าเชื่อถือใช่ไหม…” พ่อซูแบมือออก
ซูมู่หยานจนปัญญา จึงได้แต่โทรกลับและเปิดสปีกเกอร์โฟน
ฉู่ป๋ายรับสายในไม่กี่วินาที
“เป็นคุณลุงหรือซูมู่หยาน?”
“เป็นหยานหยาน” พ่อซูตอบช่วยลูกสาว
ซูมู่หยานอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่พ่อตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยเสียงเรียบว่า
“นายมีธุระอะไร?”
“ซูมู่หยาน ข้าไม่ได้ทําอะไรกับเหวินจิงจริงๆ ข้าถูกใส่ร้าย!” ฉู่ป๋ายรีบอธิบาย
ในเมื่อเหวินจิงเล่าเรื่องให้เฉินซือสือฟัง ซูมู่หยานที่เป็นเพื่อนสนิทของเหวินจิงย่อมต้องรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน
ฉู่ป๋ายไม่กลัวจะทะเลาะกับเฉินจื่อสือ แต่กลัวว่าซูมู่หยานจะรังเกียจตนเอง
ดังนั้นหลังคาบเรียนด้วยตัวเองตอนเย็น ฉู่ป๋ายก็เดาว่าซูมู่หยานจะใช้โทรศัพท์มือถือได้ที่บ้าน จึงรีบโทรหาซูมู่หยานเพื่อบอกความจริงกับเธอ
“น้ําเสียงหนักแน่น พูดจาไม่สะดุด ควรที่จะพูดความจริง” อาการป่วยของพ่อซูกําเริบอีกครั้ง เขาอดพูดความเห็นไม่ได้ และพูดกับลูกสาวว่า
“หยานหยาน ดูเหมือนฉู่ป๋ายจะถูก”
“ขอบคุณลุงซู! ซูมู่หยาน เจ้าเชื่อว่าข้าบริสุทธิ์ใช่ไหม? “ฉู่ป๋ายพูดอย่างตื่นเต้นทางมือถือ
“มันไม่สําคัญหรอก นายควรจดจ่ออยู่กับการสอบร่วมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” ซูมู่หยานไม่อยากปวดหัวกับเรื่องนี้อีก
“ข้าไม่ต้องกังวลเรื่องการสอบร่วม ช่วงนี้ข้าเรียนอย่างหนัก อย่างน้อยข้าก็จะติดสิบอันดับแรกของห้องได้” ความมั่นใจของฉู่ป๋ายระเบิดออกมา
“ขี้โม้!” ซูมู่หยานเบ้ปาก
สิบอันดับแรกของชั้นเรียนล้วนแล้วแต่เป็นนักเรียนชั้นยอดทั้งนั้น
เมื่อก่อนฉู่ป๋ายเป็นนักเรียนหางแถว จากผลสอบเดือนที่แล้ว สอบได้แค่กลางๆ เท่านั้น ยังคงติดอันดับ ‘นักเรียนแย่’ อยู่ นับประสาติดสิบอันดับแรกก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
“ข้าไม่ได้โม้ ถ้าเจ้าไม่เชื่อ เรามาพนันกัน ถ้าข้าติดสิบอันดับแรกของชั้นเรียนได้ เจ้าเป็นแฟนข้า ส่วนถ้าข้าไม่ติดก็แล้วแต่เจ้าจะจัดการ กล้าเดิมพันไหม?” ฉู่ป๋ายกล่าว
******************************
ติดตามอัพเดทตอนใหม่ๆ ได้ที่แฟนเพจ Doublewaen Translate นิยายแปล
https://web.facebook.com/doublewaentranslate
MANGA DISCUSSION