บทที่ 19 หมัดหวิงชุนระดับปรมาจารย์
หลังจากเสร็จสิ้นการสนทนากับเหวินจิงหวังฮ่าวหลานได้สื่อสารกับระบบ
แต้มตัวร้ายถึง 1,100 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สิ่งของในร้านค้าระบบต้องมีแต้มตัวร้ายขั้นต่ํา 1,000 แต้มจึงจะแลกเปลี่ยนได้
ด้วยความคาดหวังอันแรงกล้า หวังฮ่าวหลานได้ขอให้ระบบแสดงสิ่งที่เขาสามารถแลกเปลี่ยนได้ในร้านค้าระบบ
หน้าต่างแสดงการแนะนําและราคาของสินค้าราวกับว่าซื้อของใน taobao
(หมายเหตุ taobao ชื่อเว็บไซต์ชอปปิ้งหนึ่งของจีน คล้ายๆ lazada)
แต่ของในร้านนั้นมีเพียงแต้มตัวร้ายเท่านั้นที่สามารถแลกเปลี่ยนได้
ด้วยแต้มตัวร้าย 1100 สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งของได้นั้นมีจํากัด ดังนั้นจึงมีเพียงสิบกว่าอย่างเท่านั้นที่จะแสดงออกมา
[ทักษะการวาดเขียนระดับปรมาจารย์ 1,000 แต้มตัวร้าย]
[ทักษะการทําอาหารระดับมาสเตอร์เชฟ 1,000 แต้มตัวร้าย]
[ทักษะการแสดงระดับจักรพรรดิภาพยนตร์ ระดับ 1,000 แต้มตัวร้าย]
“ทักษะหมัดหวิงชุนระดับปรมาจารย์ 1,000 แต้มตัวร้าย”
[ทักษะการต่อสู้ทักษะห้าอสนีบาตระดับปรมาจารย์ 1,000 แต้มตัวร้าย]
[ยารักษาความงามระดับต่ำ 1100 แต้มตัวร้าย (หมายเหตุ: หลังจากกินยาอายุจะถูกแช่แข็งซึ่งผลของยาจะออกฤทธิ์นานถึง 30 ปี) ]
……
หลังจากที่หวังฮ่าวหลานตรวจสอบสินค้าทั้งหมดแล้ว เขาก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
ตัวร้ายที่มีคุณสมบัติเหมาะสมย่อมจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องโกหก หากเขามีทักษะการแสดงระดับจักรพรรดิภาพยนตร์ นั่นมันโง่ไปหรือเปล่า?
ทักษะนี้เป็นมาตรฐานทั่วไปของตัวร้ายสุดๆ
ค่าพลังการต่อสู้ต่ํากว่าค่าเฉลี่ย นับเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของหวังฮ่าวหลาน ในปัจจุบัน หมัดหวิงชุนระดับปรมาจารย์สามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้อย่างมาก
ยารักษาความงามระดับต่ําสามารถแช่แข็งความอ่อนเยาว์ได้ แม้ฤทธิ์ยาจะอยู่ถึงแค่ 30 ปีแต่ก็น่าสนใจมาก
ลองนึกภาพเมื่อคุณอายุ 48 ปี แต่เพื่อนของคุณพุงเยิ้มกันทั่วหน้า และคุณยังอายุ 18 ปี
แถมจูงมือเด็กสาวอายุ 18 ปีไปช้อปปิ้งโดยไม่มีความรู้สึกผิด
แค่คิดก็สนุกแล้ว
ต้องการทั้งสามอย่าง แต่แต้มตัวร้ายให้แลกเปลี่ยนได้อย่างเดียว
หวังฮ่าวหลานคิดอยู่หลายวินาที ก่อนที่จะเลือกหมัดหวิงชุนระดับปรมาจารย์
เขาเอาชนะฉู่ป๋ายจากด้านหน้าตา การเรียน และเงินทองได้ สิ่งเดียวที่เทียบกับฉู่ป๋ายไม่ได้คือพลังการต่อสู้
เพิ่มค่าพลังการต่อสู้ก่อน
หลังจากคลิกเพื่อเรียนรู้ “หวิงชุนระดับปรมาจารย์” หวังฮ่าวหลานรู้สึกกระปล้กระเปร่ามากขึ้น
เขากําหมัดแน่นและชกหวิงชุนไปหลายหมัด รู้สึกเพียงว่ามีพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้หลังเที่ยงคืนแล้ว ถ้าตะโกนเสียงดังออกมา เกรงว่าจะถูกคนอื่นหาว่าบ้า
เขาอยากจะตะโกน: ข้าขอสู้สิบคน! (ล้อยิปมันภาคแรก)
ตรวจสอบหน้าต่างสถานะ
“โฮสต์: หวังฮ่าวหลาน”
“พลังต่อสู้: 289″
[ค่าเสน่ห์: 268]
[ออร่าตัวร้าย: 209]
[แต้มตัวร้าย: 100″]
“ทักษะ: ทักษะการวาดเขียนประดับปรมาจารย์, หมัดหวิงชุนระดับปรมาจารย์”
ในที่สุดค่าสถานะนี้ก็ไม่มีข้อบกพร่องอีกต่อไป นี่คือความร่ํารวยและหล่อเหลาที่แท้จริง!
ค่าพลังการต่อสู้เพิ่มขึ้นจาก 89 เป็น 289 เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะการเรียนรู้หมัดหวิงชุนระดับปรมาจารย์
ค่าพลังการต่อสู้ของฉู่ป๋ายมีเพียง 155 เท่านั้น
ด้วยค่าพลังการต่อสู้นี้ หวังฮ่าวหลานก็บดขยี้เขาได้เช่นกัน
——
วันรุ่งขึ้น
ในยามบ่าย นักเรียนที่กำลังมุ่งจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยยังคงยุ่งอยู่กับการเรียน
ฉู่ป๋ายหาโจทย์สุ่มๆ เตรียมจะถามซูมู่หยาน
เหวินจิงไม่มีทางยอมให้ที่นั่งเขา แน่นอนว่าฉู่ป๋ายต้องพึ่งพาตนเอง ฉะนั้นจึงยกเก้าอี้ของตัวเองขึ้นมาวางไว้ข้างโต๊ะเรียนซูมู่หยาน
ซูมู่หยานไม่มีความรู้สึกใดๆต่อฉู่ป๋าย ฉะนั้นเธอจึงรู้สึกรําคาญกับการกระทําของฉู่ป๋าย
ตอนนี้ทุกคนกําลังมุ่งจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เวลาของใครกันล่ะจะไม่มีค่า?
ตอบคำถามให้ถือว่าเป็นเพราะมิตรภาพ ไม่ตอบให้ถือว่าต้องเป็นหน้าที่ตนที่ต้องหาคำตอบเอง
นอกจากนี้คําถามที่ฉู่ป๋ายถามนั้นยังง่ายอยู่ ต้องถามตัวฉันด้วยหรือ?
แต่ถึงซูมู่หยานจะไม่พอใจ แต่ด้วยความเมตตาและความมีน้ําใจในฐานนะเพื่อนร่วมห้อง เธอก็ยังคิดจะฝืนตอบเขา
ฉู่ป๋ายไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของซูมู่หยาน
แม้ถึงเขาจะรู้เขาก็จะทําไปต่อ
จีบสาวก็ต้องหน้าหนา และทำตัวใจตัวเองก็พอแล้ว
ต้องคอยแคร์อารมณ์สาวอยู่บ่อยๆ จะจีบสาวได้อย่างไร?
แค่นั้นแหละ
ก่อนที่ซูมู่หยานจะทันได้ตอบคําถามกับฉู่ป๋าย หวังฮ่าวหลานก็มาถึง
หวังฮ่าวหลานและเหวินจิงเปลี่ยนที่นั่งและเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะชั่วคราวของซูมู่หยาน ในมือถือกระดาษข้อสอบราวกับว่าเขาต้องการที่จะพูดคุยกับซูมู่หยาน
ฉู่ป๋ายโมโหขึ้นมาทันที แอบสาปแช่งในใจ
เห็นได้ชัดว่าหวังฮ่าวหลานจงใจมีปัญหากับเขา และมักจะรบกวนการจีบสาวของเขาตลอด!
อย่าให้ข้าต้องเจอเจ้าตอนกลางคืน มิฉะนั้น ข้าจะทุบตีเจ้าจนพ่อแม่จำเจ้าไม่ได้!
ฉู่ป๋ายรู้สึกเคียดแค้นในใจ แต่ภายนอกไม่ได้แสดงอาการใดๆ เพียงแต่พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า
“ขอเถอะ ข้ามาก่อน”
“โอ้ จริงเหรอ? ฉันแค่คําถามเดียว รอจนฉันถามซูมู่หยานเสร็จ ค่อยให้นายถาม “หวังฮ่าวหลานกล่าว
“ข้าแค่ถามคําถามเดียว” ฉู่ป๋ายตอบ
“ข้อไหน?”
“ข้อนี้” ฉู่ป๋ายชี้นิ้วไปที่กระดาษข้อสอบมั่วๆ
“มันง่ายนะ ให้ฉันบอกนายเถอะ”
หวังฮ่าวหลานหยิบกระดาษข้อสอบขึ้นมาและอธิบายอย่างอดทน ฉู่ป๋ายกลั้นหายใจและทำหูทวนลม
ประมาณสามนาทีต่อมา
“เข้าใจไหม?” หวังฮ่าวหลานตอบคําถามและถามฉู่ป๋าย
“ข้า…”
“ไม่จริงใช่ไหม? นายยังไม่เข้าใจใช่ไหม? คําถามนี้ง่ายมาก ฉันพูดละเอียดแล้วนะ แต่ไม่เป็นไร ถ้านายไม่เข้าใจฉันจะอธิบายอีกรอบ “หวังฮ่าวหลานอดทนอย่างมาก
แต่ฉู่ป๋ายไม่มีความอดทนแต่การเผชิญเรื่องแบบนี้
หวังฮ่าวหลานได้กล่าวไว้ว่าหัวข้อนี้ง่ายมาก แต่เขากลับไม่เข้าใจ
ถ้าเขาปล่อยให้หวังฮ่าวหลานพูดต่อไป มันจะไม่ทําให้เขาโง่เกินไปหรอกหรือ?
นอกจากนี้ ซูมู่หยานยังยืนมองอยู่ด้านข้าง
แน่นอนว่าฉู่ป๋ายจะไม่เสียหน้า
“หวังฮ่าวหลาน ข้าขอขอบคุณเจ้ามาก!” ฉู่ป๋ายขบกรามแน่น
“ไม่เป็นไร” หวังฮ่าวหลานหัวเราะเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
ฉู่ป๋ายโกรธจนทนไม่ไหว ได้แต่ยกเก้าอี้ของตนกลับไปที่เดิมอย่างไม่เต็มใจ
ในเวลาเดียวกันหวังฮ่าวหลานก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระบบ
[ติ๊ง โฮสต์หยุดตัวเอกฉู่ป๋ายไม่ให้เข้าใกล้ซูมู่หยานหนึ่งในนางเอก ส่งผลต่อทิศทางของเนื้อเรื่อง ได้รับแต้มตัวร้าย 100 แต้ม]
******************************
ติดตามอัพเดทตอนใหม่ๆ ได้ที่แฟนเพจ Doublewaen Translate นิยายแปล
https://web.facebook.com/doublewaentranslate
MANGA DISCUSSION