บทที่ 14
เกือบจะถึงชั่วโมงเรียนด้วยตัวเองภาคค่ำ นักเรียนส่วนใหญ่กลับไปที่ห้องเรียน
ใบหน้าแสนสิ้นหวังก่อนหน้านี้ของฉู่ป๋ายหายไปจนหมด เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยพลังและจิตวิญญาณ
ครูประจําชั้นซ่งเจินอวี่เดินเข้ามาในห้องเรียนและเรียกชื่อให้ฉู่ป๋ายไปที่ห้องพักครู
เพื่อความปลอดภัยของตัวฉู่ป๋าย แม้ว่าครูใหญ่จะไม่ได้ประกาศชื่อของเขาก็ตาม
แต่ในฐานะครูประจําชั้นของฉู่ป๋าย ซ่งเจินอวี่ต้องรู้ข่าวจากวงในอย่างแน่นอน
ตอนนี้จู่ ๆ ก็มาเรียกฉู่ป๋ายมาที่ห้องทํางาน อย่างน้อยก็ต้องชมเขาหน่อย
หวังฮ่าวหลานไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้อีกต่อไป
ซ่งเจินอวี่เป็นหนึ่งในนางเอก ตามกฎของนิยายในเน็ต ถ้าตัวเอกและนางเอกอยู่ด้วยกันตามลําพังแน่นอนว่าต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
หวังฮ่าวหลานหยิบกระดาษข้อสอบภาษาอังกฤษขึ้นมาและเดินออกจากห้องเรียนไป
ณ ห้องพักครู
ซ่งเจินอวี่เพิ่งนั่งลง และกล่าวคําชมเชยกับฉู่ป๋ายสองสามคํา และเห็นใครบางคนเดินเข้ามา
หวังฮ่าวหลานกวาดสายตามองไปที่ห้องทํางานและรู้สึกถึงเนื้อเรื่องที่กำลังเข้มข้น
ที่นี่คือที่ที่ครูสิบคนทํางานด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับมีเพียงซ่งเจินอวี่คนเดียว
ถ้าหวังฮ่าวหลานไม่ได้มาที่นี่ ซ่งเจินอวี่และฉู่ป๋ายคงอยู่กันตามลําพังในห้องพักครูไม่ใช่หรอ?
ออร่าตัวเอกนี่มัน สุดแสนจะบัดซบ
มันสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจีบสาวให้ตัวเอก
คําชมเชย ซ่งเจินอวี่ได้กล่าวไปแล้ว เมื่อเห็นว่าหวังฮ่าวหลาน นักเรียนดีเด่นมาถามคําถามในเกี่ยวกับข้อสอบภาษาอังกฤษ แน่นอนว่าก็ต้องตอบ
ฉู่ป๋ายยืนมองอยู่ด้านข้าง
ถ้าดวงตาของเขาสามารถฆ่าคนได้ หวังฮ่าวหลานคงถูกฆ่าตายไปเป็นพัน ๆ ครั้งแล้ว
เมื่อเทียบกับซูมู่หยานที่อ่อนเยาว์แล้ว ซ่งเจินอวี่ครูผู้งดงามแล้ว ก็ถือว่ามีเสน่ห์คนละแบบ
ฉู่ป๋ายเคยเดินผ่านครูสาวสวยคนนี้มาไม่น้อย
ครั้งนี้อุตส่าได้มีโอกาสได้อยู่กับครูคนสวยทั้งที แต่กลับมีหวังฮ่าวหลานเข้ามาเป็นตัวปัญหา
ฉู่ป๋ายจะไม่โกรธได้อย่างไร?
หวังฮ่าวหลานจงใจถ่วงเวลาจนกระทั่งเสียงกริ่งจากชั้นเรียนการเรียนด้วยตัวเองภาคบ่ายเริ่มขึ้น
เขาก็ยังคงถามต่อไป
การเรียนรู้ด้วยตนเองตอนเย็นยังถือเป็นการเรียน การถามคําถามภาษาอังกฤษก็คือการเรียนเช่นกัน
คงไม่เหมาะสมแล้วที่ฉู่ป๋ายจะยังยืนอยู่ต่อ
เขาเดินออกจากห้องพักครูและไปเดินไปยังห้องเรียน
แต่เพียงไม่กี่นาที ฉู่ป๋ายก็ถือกระดาษข้อสอบภาษาอังกฤษกลับมา
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ยอมแพ้และไม่ยอมปล่อยโอกาสให้เขาอยู่กับครูซ่งเจินอวี่ตามลําพัง
ในช่วงเย็นของชั่วโมงเรียนด้วยตัวเองภาคค่ำ นักเรียนมีอิสระในการเรียนรู้ การบ้านของพวกเขาหรือไปที่ห้องพักครูเพื่อถามคําถาม
แต่พวกที่ไปถามคําถามมักจะเป็นนักเรียนหัวกะทิ
พวกผลการเรียนไม่ดีหรือนักเรียนปกติไม่มีใครเดินไปถามแน่
ครั้งสุดท้ายที่ฉู่ป๋ายโกง ก็สอบได้แค่คะแนนกลาง ๆ ค่อนต่ำเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับมานี่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหน้ามันหนามาก
คําถามเกี่ยวกับข้อสอบภาษาอังกฤษมีข้อจํากัด
หลังจากนั้นไม่นาน หวังฮ่าวหลาน ก็ไม่สามารถถามได้อีกต่อไป
ฉู่ป๋ายจะอยากจะถามคำถามกับครูซ่งเจินอวี่เช่นกัน
“ฉู่ป๋าย ครูซ่งเหนื่อยแล้ว พวกเราทําข้อสอบใบเดียวกัน ฉันเข้าใจข้อสอบนี้แล้ว ถ้าหากว่านายทําไม่ได้ให้ฉันสอนนายเอาไหม?” หวังฮ่าวหลานกล่าวออกมาอย่างกระตือรือร้น
แน่นอนว่าฉู่ป๋ายไม่พอใจ และกําลังจะพูดว่า “ไม่รบกวนแล้วกัน”
แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ซ่งเจินอวี่ก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า
“หวังฮ่าวหลานพูดถูก เขาเข้าใจคําถามเหล่านี้แล้ว ฉู่ป๋าย ในเมื่อหวังฮ่าวหลานพูดแบบนั้น ก็ให้เขาสอนเธอแล้วกัน”
ซ่งเจินอวี่และหวังฮ่าวหลานพูดคุยกันมานานกว่า 20 นาที ปากของเธอแห้งและอยากจะพักผ่อนจริง ๆ
หวังฮ่าวหลานเสนอตัวเป็นฝ่ายช่วยเหลือเธอแน่นอนว่าเธอย่อมมีความสุข
ฉู่ป๋ายแน่นอนว่าไม่พอใจ แต่ต่อหน้าซ่งเจินอวี่ ก็ไม่กล้าทำอะไร ทำได้เพียงกัดฟันพูดกับหวังฮ่าวหลานว่า
“ข้าซาบซึ้งมาก!!!”
“ไม่ต้องเกรงใจ!” หวังฮ่าวหลานตอบอย่างหยอกล้อ
ในมุมที่ซ่งเจินอวี่ที่มองไม่เห็น สายตาของทั้งสองปะทะกัน ประกายไฟก็ปรากฏขึ้นมา
พวกเขาเดินออกจากห้องพักครู
ฉู่ป๋ายโมโหมาก รีบตรงไปที่ห้องเรียนทันที
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะมีปัญหากับหวังฮ่าวหลาน
แน่นอนว่าหวังฮ่าวหลานไม่มีอารมณ์ที่จะยุ่งกับเขา
“ติ๊ง โฮสต์ทําลายโอกาสที่ตัวเอกฉู่ป๋ายและหนึ่งในนางเอกซ่งเจินอวี่อยู่ด้วยกันตามลําพัง ได้รับแต้มตัวร้าย 200 แต้ม”
เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ หวังฮ่าวหลานก็มีความสุข
เขาเดินช้าๆไปที่ห้องเรียน
แต่พอผ่านมุมก็เกือบชนครูพละ
ครูพละชื่อซินเหลียงฉ้าย อายุประมาณ 30 ปี เป็นชายที่มีกล้ามเนื้อ
เขาเกือบล้มลงกับพื้น ในมือถือถุงทึบแสงใบใหญ่
ซินเหลียงฉ้ายเป็นห่วงถุงใบใหญ่ใบนี้ ดังนั้นจึงเขาโกรธมาก เขาอยากจะตําหนินักเรียนคนที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ
แต่เมื่อเขาเห็นว่าเป็นหวังฮ่าวหลาน เขาก็กลืนคําพูดของเขาลงคอไปทันที
เขาไม่ควรยั่วยุนักเรียนคนนี้
ครูพละยิ้มให้กับหวังฮ่าวหลานและเดินผ่านเขาไป
ในอากาศยังมีกลิ่นหอมหลงเหลืออยู่
หวังฮ่าวหลานสูดดมและแยกแยะได้ทันทีว่านี่เป็นกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ
บอกได้ไม่ยากว่ามันคือกลิ่นอะไร
ในถุงทึบแสงในมือของซินเหลียงฉ้าย มีดอกกุหลาบอยู่
หวังฮ่าวหลานหันกลับไปมองซินเหลียงฉ้าย และเห็นว่าเขาเดินเข้าไปในห้องพักครูพอดี และปิดประตูห้องพักครูด้วย
ในห้องพักครูมีเพียงซ่งเจินอวี่คนเดียว
ซินเหลียงฉ้ายนี้น่าจะกำลังตามจีบซ่งเจินอวี่
ด้วยความงามของซ่งเจินอวี่ เธอไม่สนใจชายที่มีแต่กล้ามเนื้ออย่างซินเหลียงฉ้ายแน่นอน
ดังนั้นข้อพิพาทจึงเกิดขึ้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หวังฮ่าวหลาน ก็ปลดปล่อยกลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมไปเนื้อเรื่องที่อีกครั้ง
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาทําลายโอกาสที่ฉู่ป๋ายและซ่งเจินอวี่จะอยู่ตามลําพัง ซินเหลียงฉ้ายที่เดินเข้าห้องพักครูตอนนี้ต้องเจอกับฉู่ป๋ายแน่
จากนั้นฉู่ป๋ายก็ช่วยไล่ผู้คนที่ตามจีบที่น่ารำคาญคนนี้ออกไป และได้ความรู้สึกดี ๆ จากซ่งเจินอวี่
แม้แต่หวังฮ่าวหลานยังเดาพล็อตเรื่องต่อ ๆ ไปได้
แม้ว่าซินเหลียงฉ้ายจะจากไปชั่วคราว แต่ก่อนจากไปเขาต้องพูดกับฉู่ป๋ายอย่างโหดเหี้ยม
ถึงอย่างไรฉู่ป๋ายก็เป็นแค่นักเรียนธรรมดา ซินเหลียงฉ้ายเป็นครู ทำไมจะต้องไปกลัวมันอีก?
ครูซ่งเจินอวี่ที่มีความรับผิดชอบมากเสนอว่าคืนนี้จะเรียนด้วยตัวเองสองคนไปด้วยกัน
ในตอนนั้นเอง กลุ่มคนเลวที่เป็นฝีมือของซินเหลียงฉ้ายก็จะปรากฏตัวขึ้น
สมองของซินเหลียงฉ้ายร้อนระอุ เขาไม่ยอมหยุดเฉย ๆ แน่ ไม่เพียงแค่จะสั่งสอนฉู่ป๋ายเท่านั้น แต่ยังคงคิดร้ายต่อซ่งเจินอวี่ด้วย
แต่น่าเสียดายเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉู่ป๋าย
ฉู่ป๋ายช่วยซ่งเจินอวี่ไว้อีกครั้ง
วีรบุรุษช่วยสาวงาม
ดังนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วได้ยังไงกัน?
ซินเหลียงฉ้าย พูดตามตรงก็เขาคือเครื่องมือในการ ‘ช่วย’ ให้พระเอกและหนึ่งในนางเอกแค่นั้นเอง
หวังฮ่าวหลานเปลี่ยนใจ ไม่กลับไปที่ห้องเรียนแต่เขากลับไปที่ห้องพักครูทันที
พอเปิดประตูห้องทํางาน เขาก็เห็นซินเหลียงฉ้ายคุกเข่าข้างหนึ่งด้วยความรัก ในมือถือดอกกุหลาบอ้อนวอนขอความรักจากซ่งเจินอวี่
ซ่งเจินอวี่ขมวดคิ้วแน่น ลึกเข้าไปในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ สองมือผลักช่อดอกกุหลาบให้ห่างออกจากตัว เห็นได้ชัดว่าเธอปฏิเสธซินเหลียงฉ้าย
หวังฮ่าวหลานคาดเดาไว้แล้ว เขาไม่แปลกใจกับฉากนี้เลย
******************************
ติดตามอัพเดทตอนใหม่ๆ ได้ที่แฟนเพจ Doublewaen Translate นิยายแปล
https://web.facebook.com/doublewaentranslate
MANGA DISCUSSION