ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ - ตอนที่ 37 ซิ่งรถเพื่อไล่ตาม
ในตอนกลางคืน Volkswagen CC ก็ขับไปอย่างราบรื่นบนถนน
เมื่อเขาขับ Volkswagen CC ไปตามถนนสายหลัก รถสีดำที่จอดอยู่ข้างถนนก็สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย
“พี่หวาหู่ พวกเขาออกมาแล้ว”
ชายหนุ่มใน BMW ติดตาม Volkswagen CC อย่างไม่เร่งรีบ และไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมารายงาน
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ มีชายหัวโล้นร่างใหญ่ใส่สร้อยคอทองคำหนาๆ ร่างกายที่แข็งแรงของเขาดันเสื้อกั๊กสีดำจนสุดขีด ที่แขนซ้ายของเขามีรอยสักรูปเสือที่อ้าปากใหญ่
รอยยิ้มยิ้มน่าเกลียดปรากฏบนใบหน้าของชายหัวโล้นที่เรียกว่าหวาหู่”คุณติดตามต่อไป ผมจะไปเดี๋ยวนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปก็รายงานให้ผมทันที!”
วางสายลง หวาหู่เหลือบมองลูกน้อง 20 กว่าคนรอบตัวเขา และในที่สุดก็หยุดสายตาที่ผู้อาวุโสในชุดจีนที่อยู่หลังสุด กล่าวอย่างเคารพว่า “ลุงหวาง คุณยังมีคำสั่งเพิ่มเติมหรือไม่? ถ้าไม่มีเราจะออกไปก่อนแล้ว”
ลุงหวางซึ่งเดิมทีกำลังหรี่ตาอยู่ ดูเหมือนจะงีบหลับ จู่ๆก็ลึมตาขึ้น ดวงตาขุ่นมัวเป็นประกาย และพูดจางๆว่า “ผมจะไปกับพวกคุณ”
“เอิ่ม……”
หวาหู่ตกตะลึง เหลือบมองลุงหวางที่มีมีอายุมากกว่าครึ่งศตวรรษจากหัวจรดเท้า และลังเลว่า “ลุงหวาง คุณรออยู่ที่นี่แหละนะ?”
“กระดูกเก่าแก่ของผมไม่ได้บอบบางขนาดนั้น”
ลุงหวางเย้ยหยันและเหลือบมองหวาหู้ด้วยสายตาอย่างมีความหมาย “ไม่ต้องกังวล ไม่ว่ายังไง ผมจะไม่รบกวนพวกคุณ ผลประโยชน์ที่บอกว่าจะให้คุณก็จะให้ตามที่สัญญา!”
นั่นคือคำพูดที่หวาหู่รอคอย เขาไม่ได้ปฏิเสธอีกต่อไป หันศีรษะและเหลือบมองไปที่ลูกน้องของเขา โบกมือใหญ่ของเขา และสั่งอย่างเด็ดขาด “ลุย!”
พวกอันธพาลยี่สิบคนขึ้นไปบนรถทีละคน แบ่งเป็นรถตู้สี่คันแล้วรีบวิ่งไปที่ถนน วิ่งไปยังจุดนัดพบที่วางแผนไว้
“เย่เทียน คุณรู้สึกว่ารถสีดำที่อยู่ข้างหลังนั้นตามเรามาเป็นเวลานานแล้วหรือไม่?”
ในรถ Volkswagen CC ดวงตาที่สวยงามของเหลียงเยว่หรูกวาดมองที่กระจกมองหลัง และคิ้วของเธอก็ขมวดแน่น “สัญญาณไฟจราจรสามดวงก่อนหน้านี้เขาก็อยู่หลังเราแล้ว ไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมั้ง?”
“ระวังตัวได้ดีนิ”
เย่เทียนที่ขับรถอยู่ เหลือบมองเหลียงเยว่หรูและอธิบายอย่างใจเย็น “พูดให้ถูกคือ มันตามเรามาทันทีที่เราออกจากงานเลี้ยงแล้ว”
“อะไรนะ ตอนนี้เราควรทำยังไง?”
เหลียงเยว่หรูตกใจและส่ายหัวอย่างขมขื่น เทียบกับเย่เทียนแล้ว ความระมัดระวังของตนเองนั้นด้อยมาก!
แม้จะพูดแบบนั้น แต่เธอไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกมากนัก เพราะข้างกายเธอยังมีผู้ชายที่เก่งกาจอย่างเย่เทียนอยู่ไม่ใช่เหรอ? !
“แค่ถือว่ารู้ละกัน”
เย่เทียนยักไหล่และพูดอย่างใจเย็น “ควรไปไหนก็ไป ดูว่าพวกเขาจะเล่นกลอะไรได้บ้าง”
“พวกเขา?”
เหลียงเยว่หรูจับคำนั้นอย่างเฉียบขาด และพูดอย่างสับสน“คุณหมายความว่าพวกเขายังมีผู้สมรู้ร่วมคิดใช่ไหม?”
“อืม”
เย่เทียนพยักหน้าเล็กน้อย และชี้นิ้วไปที่รถตู้หวู่หลิงที่อยู่ด้านซ้ายด้านหน้า “นอกจากรถด้านหลังแล้ว รถตู้หวู่หลิงนั้นเคยปรากฏตัวเป็นระยะถึงสามครั้ง ผมไม่เชื่อว่ามันจะบังเอิญขนาดนี้”
หลังจากหยุดชั่วคราว เย่เทียนก็พูดอย่างเรียบสงบ”มีรถตู้โตโยต้าและรถตู้ฉางอานด้วย แม้ว่าพวกมันจะหายตัวไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ก็จะปรากฏขึ้นในไม่ช้า”
“คุณหมายถึงมีรถสี่คันตามเรามาเหรอ?” เหลียงเยว่หรูรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“มากกว่านั้น”
เย่เทียนส่ายหัวเล็กน้อยเพื่อปฏิเสธและอธิบายว่า “ผมเดาว่าอาจมีรถสั่งการอีกคันที่ไม่ปรากฏขึ้น หรือมันกำลังรอเราอยู่ที่ไหนสักแห่งทางข้างหน้า”
“คนพวกนี้เป็นใคร? เราจะแจ้งตำรวจก่อนไหม?” เหลียงเยว่หรูขมวดคิ้ว รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“แจ้งตำรวจก็ไม่ต้องละ”
เย่เทียนส่ายหัวและพูดว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด พวกเขาเหมือนพร้อมที่จะลงมือแล้ว รอให้ตำรวจจะมาถึง คงไม่ทันแล้ว”
“เอ๊ะ?!” เหลียงเยว่หรูตกใจ ก่อนที่เธอจะพูดความสับสนในใจได้ออกมา เสียงไพเราะของเย่เทียนก็ดังขึ้นในหูของเธออีกครั้ง “คุณนั่งดีๆ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหลียงเยว่หรูก็รีบจับที่จับและมองไปรอบๆ
เห็นทางแยกบนถนนข้างหน้าไม่ถึง 50 เมตร แต่มีรถตู้ฉางอานวิ่งออกมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ขวางถนนข้างหน้าของ Volkswagen CCไว้
รถสีดำที่วิ่งตามมาตลอดเร่งความเร็วในไม่กี่นาที และปิดกั้นด้านหลังของรถVolkswagen CC อย่างสมบูรณ์
รถตู้สองคันก็กระโดดออกมาจากด้านซ้ายและด้านขวา ตัดทางให้ Volkswagen CC หลบหนี พยายามสกัดกั้นพวกเขา
เมื่อเห็นว่าเหลียงเยว่หรูพร้อมแล้ว เย่เทียนก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เมินเฉยต่อรถตู้ของฉางอานที่ขวางหน้า เหยียบคันเร่งอย่างหนัก Volkswagen CC ก็คำรามและอัตราเร่งก็พุ่งขึ้นทันใด ซึ่งตรงไปข้างหน้า
“เย่เทียน คุณจะทำอะไร!”
เหลียงเยว่หรูที่หวาดกลัวอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา เธอหลับตาที่สวยงามด้วยความกลัว คิดไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวินาทีถัดไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อด้านหน้ารถของ Volkswagen CC กำลังจะชนรถตู้ฉางอาน เย่เทียนก็หมุนพวงมาลัยตามปกติ และ Volkswagen CC ก็พุ่งผ่านช่องว่างอย่างที่น่าสยิว
รถตู้ทางซ้ายและขวาและรถเก๋งที่ขวางอยู่ด้านหลัง โดยคิดว่า Volkswagen จะหยุดอย่างเชื่อฟัง และพวกเขาก็กำลังจะเบรกรถ คิดไม่ถึงว่ารถ Volkswagen จะแข็งแกร่งขนาดนี้ ยอมพุ่งรถออกไปโดยที่มีความเสี่ยงที่ว่าคนอาจตาย รถอาจพังก็ไม่กลัว
หลังจากผงะเป็นเวลาสองวินาที ผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งสามคันก็รีบขยับเท้าใหญ่ของพวกเขา เหยียบคันเร่ง และไล่ตามพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ในรถบีเอ็มดับเบิลยูที่อยู่ห่างออกไปสองร้อยเมตร ลุงหวางซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และพูดอย่างไม่พอใจไปที่หวาหู่ซึ่งนั่งเบาะนั่งข้างคนขับว่า “คนของคุณมีความสามารถแค่นี้เหรอ? เรื่องการขวางรถแค่นี้ก็ทำไม่ได้!”
หวาหู่ที่นั่งข้างคนขับรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับปฏิกิริยาของเย่เทียน คำกล่าวหาของลุงหวางส่งมาในหู คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้น มีแนวโน้มที่จะระเบิด
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่ลุงหวางสัญญาว่าจะให้ หวาหู่ยังคงยับยั้งความไม่พอใจภายในของเขาไว้ “ลุงหวาง ไม่ต้องกังวล นี่เป็นเพียงการลองดูครั้งแรก และน้องๆของผมก็คิดไม่ถึงว่าไอ้หนุ่มคนนั้นจะแข็งแกร่งขนาดนี้”
“หึ!”
ลุงหวางส่งเสียงเย็นชาออกจากจมูก “ทางที่ดีครั้งหน้าอย่ามีอีก!”
หวาหู่ขมวดคิ้วลึกขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย แต่หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาแล้วสั่งอย่างละเอียด
อันที่จริง ไม่เพียงแต่พี่ใหญ่หวาหู่เท่านั้นที่ไม่พอใจ แต่ลูกน้องคนอื่นๆในรถคันเดียวกันก็ค่อยๆไม่พอใจลุงหวางด้วย
ผู้อาวุโสผู้นี้ซึ่งไม่รู้ว่าเขามาจากไหน ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่ปฏิบัติต่อเขาอย่างเคารพนับถือ ไอ้อันธพาลกลุ่มนี้คงดึงเขาออกจากรถและสั่งสอนเขาตั้งนานแล้ว!
ปฏิกิริยาของรถตู้หลายคันไม่ได้ช้า แม้ว่า Volkswagen จะสามารถวิ่งออกจากการล้อม แต่ก็ไม่ได้ห่างกันไกลมากนัก ระยะห่างระหว่างพวกเขาประมาณ 20 เมตร
เย่เทียนเหลือบมองรถตู้ที่ไล่ตามเขาจากกระจกมองหลัง ขมวดคิ้ว และพูดอย่างเคร่งขรึมกับเหลียงเยว่หรูที่อยู่ข้างๆเขาว่า “คุณมาขับรถสักครู่”
เหลียงเยว่หรูที่ตกใจอยู่ ไม่รอให้เธอตั้งตัว เย่เทียนปลดเข็มขัดนิรภัย คว้ามือขาวเล็กๆ ของเธอแล้ววางบนพวงมาลัย และเปิดประตูโดยไม่ลังเล…