ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ - ตอนที่ 26 ไม่มีความสนใจ
จี้เยียนหรันพูดถูก ชาติที่แล้วเย่เทียนเคยเป็นนักล่าเงินรางวัลมาระยะหนึ่งจริงๆ
และเว็บฮันเตอร์ที่เขากำลังดูอยู่นั้น มีไว้สำหรับนักล่าเท่านั้น
นักล่าเงินรางวัลแบ่งออกเป็นห้าระดับ จาก S ถึง D ในชาติก่อน เขาเป็นหนึ่งในนักล่าเงินรางวัลระดับ S
หลังจากที่กลายเป็นนักล่าเงินรางวัลระดับ S ระดับที่เขาสามารถเข้าถึงก็ยิ่งลึกลงไปอีก
เย่เทียนรู้ดีว่า ที่มาของเว็บฮันเตอร์นี้ลึกลับมาก แม้แต่เขาก็รู้แค่ว่า เว็บฮันเตอร์นี้ก่อตั้งขึ้นโดยประเทศต่างๆ การตรวจสอบด้วยดาวเทียม สามารถระบุตำแหน่งของบุคคลได้อย่างแม่นยำ
แน่นอนว่า สิ่งนี้ไม่เป็นที่รู้จักของชาวโลก เมื่อเปิดเผยแล้ว จะทำให้เกิดความโกลาหลอย่างแน่นอน!
การมีอยู่ของเว็บฮันเตอร์ล่านี้ ส่วนหนึ่งคือการสั่งภารกิจ และที่สำคัญกว่านั้นคือ การรวบรวมคนที่ไม่ธรรมดาในโลก
พลังของเย่เทียนในปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะไปถึงระดับของนักล่าระดับ S แต่เขาสามารถใช้ช่องโหว่ในเว็บฮันเตอร์ เพื่อค้นหาข้อมูลบางอย่างที่เขาต้องการได้
“นักโทษที่เหลืออีก 6 คน กระจายไปในเมืองต่างๆของมณฑลเทียนหนัน โชคดีที่เส้นทางไม่ได้ไกลมากนัก หนึ่งวันกับหนึ่งคืนก็เพียงพอแล้วที่ผมจะจับคนเหล่านี้ได้”
เย่เทียนบ่นพึมพำกับตัวเอง เขียนข้อความแล้วส่งให้ซูเหมย โดยบอกว่าวันนี้ตนเองลา ส่งเสร็จเขาก็รีบไปยังที่ที่เขาต้องการไปโดยไม่รอช้า
มีนักโทษทั้งหมดแปดคน และค่าหัวมีตั้งแต่ 100,000 ถึง 500,000 ถ้าจับได้ทั้งหมด เขาจะได้รับเงินรางวัลอย่างน้อยสองล้าน
เมื่อมีเงินเหล่านี้ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเงินทุนที่เขาต้องการไปถึงการฝึกพลังชั้นสามแล้ว…
เช้าวันรุ่งขึ้น
สถานีตำรวจเจียงหนันคึกคักกว่าวันไหนๆ
จี้เจิ้งโก๋ยังคงมาพร้อมกับเฉิงหลง นั่งอยู่ในห้องทำงานของผู้กำกับตั้งแต่เช้า
ผู้กำกับเป็นคนหัวล้านในวัย 50 ปีที่มาจากกองทัพทหาร และเคยเป็นทหารของจี้เจิ่งโก๋
“หัวหน้า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เป็นเพียงเรื่องล้อเล่น ทำไมคุณถึงต้องมาที่นี่เป็นการส่วนตัวด้วยล่ะ?”
โจ๋หย่วนหันยืนอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางที่ไม่เห็นความสำคัญ เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้ แต่เขาไม่เอามาใส่ใจ เขาไม่คิดว่าชายที่ชื่อเย่เทียน สามารถจับอาชญากรที่หลบหนีอีกหกคนได้ในเวลาอันสั้น จับกุมนักโทษหกคนและนำตัวดำเนินคดี
“ทำไม มึงไม่ต้อนรับกูเหรอยังไง?กูจะมานั่งเล่นที่นี่ไม่ได้เหรอ?”
จี้เจิ้งโก๋จ้องมาที่เขา และพูดอย่างโกรธเคือง
ในเวลานี้ โจ๋หย่วนหันไม่รู้จะทำยังไง แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร และบริการอย่างระมัดระวัง
สำหรับการนั่งเล่นครั้งนี้ ก็นั่งเล่นจนถึงห้าโมงเย็น!
“ท่านจี้ เกรงว่าคนๆนั้นจะไม่มา”
เฉิงหลงกล่าว
จี้เจิ้งโก๋มองดูเวลาและกล่าวอย่างไม่รีบว่า “ไม่ต้องรีบ ยังเช้าอยู่เลย”
เฉิงหลงส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่ว่าชายหนุ่มคนนั้นจะมีความสามารถอะไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะจับกุมอาชญากรแปดคนในเวลาเพียงสองวัน ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาที่นี่แล้ว”
ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ จู่ๆก็มีคนผลักประตูสำนักงานและเปิดออก เห็นหัวหน้าจางเมื่อวาน รีบวิ่งเข้ามา “ท่านจี้ ผู้ ผู้ชายคนนั้นกลับมาแล้ว!”
“กลับมาแล้ว?”
เมื่อจี้เจิ้งโก๋ได้ยินเช่นนี้ ก็เหลือบมองเฉิงหลงอย่างกลั่นแกล้ง “เสี่ยวเฉิง สิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้ดูเหมือนจะต้องเปลี่ยนคำพูดแล้วนะ”
เฉิงหลงรู้สึกอายเล็กน้อย เมื่อกี้เขาเพิ่งพูดว่าเย่เทียนไม่สามารถกลับมาได้แล้ว แต่คนอื่นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในวินาทีถัดมา หน้าแตกนี้มันมาเร็วเกินไปไหม?
แต่เขาไม่ได้ถือสา คนที่เป็นทหาร ขอเพียงแค่ไม่เกี่ยวกับเกียรติยศของทหาร พวกเขามองทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้สำคัญมากนัก!
โจ๋หย่วนหันทำหน้าเหมือนน่าทึ่งมาก “หรือว่าเขาจะจับได้จริงๆ?”
เมื่อพวกเขากำลังพูด ทั้งสามคนก็ลุกขึ้นและเดินออกจากโรงพัก
ที่ประตู อาชญากรทั้งหกคนถูกมัดแน่น และถูกทิ้งไว้ที่หน้าประตูสถานีตำรวจ
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนี้ ถึงกับอึ้ง!
จี้เจิ้งโก๋ จี้เยียนหรัน โจ๋หย่วนหัน เฉิงหลง หัวหน้าจางและคนอื่นๆ ต่างก็มองไปที่เย่เทียนด้วยท่าทางที่ไม่น่าเชื่อและความประหลาดใจ
“เป็นไปได้อย่างไร? หรือว่าอาชญากรเหล่านี้มารวมตัวกันหมดเหรอ?” เฉิงหลงขมวดคิ้วและยังไม่อยากเชื่อ
“ถึงจะรวมตัวกัน แล้วเขาเอาข้อมูลมาจากไหน?” ใครบางคนแสดงความประหลาดใจ
ใบหน้าของจี้เยียนหรันซีด และเธอคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนจะจับคนเหล่านี้ได้จริงๆ ถ้าเป็นเช่นนี้ เธอจะต้องทำตามเรื่องที่ทั้งสองเดิมพันกันไว้ใช่ไหม?
“อย่างไรก็ตาม ผู้ชายคนนี้มีความสามารถจริงๆ ถือว่าคู่ควรกับฉัน…”
ทันใดนั้น ความคิดดังกล่าวก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธอ ใบหน้าที่สวยงามของจี้เยียนหรันหน้าแดงทันที และเธอก็รีบส่ายหัว เพื่อขจัดความคิดที่น่าสะพรึงกลัวนี้ออกไป
“แม่เจ้า จับได้จริงด้วย? นักโทษหกคนนี้หลบหนีมาหลายปีแล้ว แม้แต่ทีมตำรวจของพวกเราก็หาเบาะแสไม่ได้สักที คุณไปจับมาได้จากไหนเหรอ?”
หัวหน้าจางก้าวไปข้างหน้า และถามด้วยความประหลาดใจ
เย่เทียนยิ้มจางๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาคำนวณ “มีอาชญากรทั้งหมดแปดคน หนึ่งในนั้นคือสี่แสน อีกสองคนคือสามแสน สองแสนห้าคน! ไม่มากไม่น้อย สองล้านพอดีจ่ายเงินมาเถอะ!”
“คุณชื่อเย่เทียนใช่ไหม? เงินรางวัลสองล้าน ผมจะบอกรายงานให้ด้านบน คุณทิ้งบัญชีไว้และเงินจะเข้าบัญชีวันพรุ่งนี้แน่นอน!”
ในช่วงเวลาคับขัน ก็ยังคงเป็นจี้เจิ้งโก๋ผู้ซึ่งเคยผ่านอะไรมามากดึงสติกลับมาได้ เดินไปข้างหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม สายตาที่มองไปที่เย่เทียนเต็มไปด้วยความชื่นชม
คนมีความสามารถจริงๆ! นี่คือคนมีความสามารถที่แท้จริง!
ในเวลาไม่ถึงสองวัน ปัญหาใหญ่ที่ก่อกวนสถานีตำรวจมานานหลายปีก็คลี่คลาย และได้กู้ภาพลักษณ์ของสถานีตำรวจก็กลับคืนมา
ในเรื่องนี้ แม้ว่าหน่วยรบพิเศษของเขตทหารดำเนินการ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีประสิทธิภาพและรวดเร็วเช่นนี้!
คนแบบนี้ ต้องเก็บเอาไว้!
“ได้ ผมจะรอ”
เย่เทียนพยักหน้า และหลังจากทิ้งบัญชีธนาคารไว้แล้วเขาก็หันหลังกลับและจะจากไป
“เย่เทียน รอสักครู่!”
ในเวลานี้ เฉิงหลงที่เงียบอยู่ก็ตะโกนเสียงดัง
เย่เทียนหยุดเดินและหันศีรษะไปที่เขา พูดด้วยความสงสัย “มีอะไรหรือ?”
เฉิงหลงไอแห้งๆ มองเย่เทียนด้วยใบหน้าจริงจังและกล่าวว่า “ผมในนามของเขตทหาร เจียงหนัน ขอเชิญคุณเข้าร่วมหน่วยรบพิเศษชางหลงของเรา!”
“หน่วยรบพิเศษชางหลง?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ฉากนั้นเกิดความโกลาหลทันที
แม้แต่จี้เยียนหรัน ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา หน่วยรบพิเศษชางหลง นี่คือเป้าหมายที่เธอพยายามมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการรับสมัครของหน่วยรบพิเศษชางหลงนั้นเข้มงวดมาก เว้นแต่ว่าเธอจะสามารถกลายเป็นนักบู๊ได้ ไม่งั้นเธอไม่สามารถเข้าร่วมได้เลย!
ประเทศจีนมีเขตทหารแปดแห่ง และในแต่ละเขตทหารมีทีมที่เก่งกาจอยู่!
หน่วยรบพิเศษชางหลงเป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าอันดับจะอยู่ท้ายๆ แต่ก็เป็นหน่อยที่ผู้คนที่เป็นทหารอยากเข้าร่วมมากที่สุด!
ตอนนี้ เฉิงหลงเชิญเย่เทียนเข้าร่วม นี่มันหมายความว่า เย่เทียนมีอํานาจขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้นไม่ใช่หรอกหรือ!
จี้เจิ้งโก๋ก็ยิ้มในเวลานี้ เมื่อกี้เขาก็มีความคิดแบบนี้ แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเฉิงหลงจะพูดมันออกมาก่อน
เขายิ้มอย่างพึงพอใจ หน่วยรบพิเศษชางหลง เป็นหนึ่งในกองกำลังที่ทหารประเทศจีนใฝ่ฝันอยากเข้าร่วมมากที่สุด เชื่อว่าเย่เทียนคนนี้ ก็ไม่น่าจะปฏิเสธ
คนอื่นๆก็มีความคิดแบบเดียวกัน มองเย่เทียนด้วยสายตาที่อิจฉาริษยา
เย่เทียนส่ายหัวอย่างไม่คาดคิด และกล่าวจางๆ
“ไม่มีความสนใจ”