ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 638 โฆษณาหลอกลวงและการวางราคาสุดแปลกของเกมดิ้นรน (2)
- Home
- ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี
- บทที่ 638 โฆษณาหลอกลวงและการวางราคาสุดแปลกของเกมดิ้นรน (2)
“ชีวิตไม่มีโอกาสที่สอง ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ชีวิตทั้งสองแบบ คุณจะ ไม่ได้รับส่วนลดและต้องซื้อเกมทั้งสองเวอร์ชันในราคาเต็ม ราคารวมที่ต้องจ่ายคือ 29 + 99 = 128 หยวน ยืนยันการซื้อหรือไม่”
เหออันอ่านคำอธิบายอย่างละเอียด ก่อนจะอ้าปากเหวอด้วยความอึ้ง ในหัว มีเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด
หมายความว่าไง
เถิงต๋าทำบ้าอะไรเนี่ย
แม้เหออันจะเป็นนักออกแบบเกมมานานหลายปีและมีความรู้กว้างขวาง แต่ เขาก็ไม่เคยเห็นการวางราคาแบบนี้มาก่อน!
เกมอื่นๆ ที่มีระบบตัวเอกสองคนมักจะให้ผู้เล่นเลือกตัวละครที่ต้องการเล่น หลังเข้าเกมไปแล้ว
แต่เกมนี้ขายเวอร์ชันตัวเอกแยกกัน!
นอกจากนั้นสองเวอร์ชันนี้ยังวางราคาต่างกันด้วย เวอร์ชันหนึ่งราคาเจ็ดสิบ เก้าหยวน ส่วนอีกเวอร์ชันราคาแค่สิบเก้าหยวน ถูกกว่ากันเกือบสี่เท่า!
คิดว่าเกมเวอร์ชันคนจนมีเนื้อหามากกว่าเวอร์ชันคนรวยสี่เท่าเหรอ แน่นอน ว่าไม่!
ที่บ้าที่สุดคือการซื้อสองเวอร์ชันจะทำให้ไม่ได้ส่วนลด กลายเป็นว่าต้องจ่าย หนึ่งร้อยยี่สิบแปดหยวน ซึ่งสูงกว่าซื้อเวอร์ชันคนรวยอย่างเดียวถึงหกเท่า!
สำหรับเหออันแล้ว การวางราคาแบบนี้ถือว่าบ้ามากๆ สิบเก้าหยวนนั้นถูก เกินไป ส่วนหนึ่งร้อยยี่สิบแปดหยวนก็แพงเกินไป ขายสักประมาณเก้าสิบแปด หยวนน่าจะสมเหตุสมผลกว่า
กลยุทธ์การวางราคานี้เหมือนจะพยายามบีบให้ผู้เล่นซื้อแค่เวอร์ชันคนรวย
แถมคำอธิบายเกมก็ดูโหดร้ายมาก
เวอร์ชันคนรวยเหมือนจะใบ้กลายๆ ว่าจบไม่ค่อยดี แนะนำว่าคนรวยไม่ควร ซื้อ
นอกจากนั้นเวอร์ชันคนจนยังระบุตรงๆ เลยว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลง โชคชะตาได้ แสดงว่าจบไม่ดีเหมือนกัน ไม่แนะนำให้ซื้อทั้งคนรวยและคนจน
ก็แปลว่าทุกคนไม่ควรซื้อสิ จะบ้าเหรอ!
เหออันกดปุ่มซื้อโดยไม่ลังเล แพงแล้วไง ฉันดูเหมือนคนไม่มีเงินพอซื้อเกมร้อยยี่สิบแปดหยวนเหรอ ฉันซื้อเกมราคาเต็มก็ได้ เต็มใจด้วย! ฉันต้องเห็นให้ได้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในเกมเวอร์ชันคนจน!
เหออันเดาว่า ในเมื่อเกมใช้ระบบตัวเอกคู่และแบ่งเป็นสองเวอร์ชัน ทั้งสอง เวอร์ชันต้องมีความเชื่อมโยงกันแน่นอน ไม่แน่อาจจะมีฉากลับหรือตอนจบลับที่ จะเจอได้เฉพาะคนที่ซื้อสองเวอร์ชันเท่านั้น ยิ่งคิดเหออันก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ถ้าทั้งสองเวอร์ชันไม่มีอะไรเชื่อมโยงกันเลยต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่ เกมเมอร์จะที่ซื้อเกมโดยไม่คิดอะไรมีแค่ส่วนน้อย ส่วนใหญ่จะรอดูรีวิวกับ คอมเมนต์บนโลกออนไลน์ก่อน ถ้าเกมเมอร์ชุดแรกที่ซื้อเกมไปทั้งสองเวอร์ชันพบว่าไม่มีฉากหรือตอนจบลับ ย่อมต้องด่าเปิงแน่ และคนอื่นๆ ก็คงไม่มีใครอยากพลาดโง่ๆ แบบเดียวกัน ก่อนจะทันได้กดเข้าเกม เหออันก็พบว่าทฤษฎีสองในสี่ที่สอนบอสหม่าไปถูก เอามาใช้ในทางตรงกันข้าม เลือกกลยุทธ์การโปรโมตเหมาะกับเนื้อหาเกมมั้ย ไม่ เลือกแนวเกมที่มีส่วนแบ่งใหญ่ในตลาดมั้ย ไม่ ถ้าเป็นผู้พัฒนาเกมรายอื่น เหออันคงสรุปว่าเกมนี้เจ๊งตั้งแต่ยังไม่เข้าเกม เริ่ม มาก็ไปผิดที่ผิดทางแล้ว แล้วจะไปถึงปลายทางได้ยังไง แต่ในเมื่อคนทำเกมนี้คือบอสเผย เหออันจึงรู้สึกว่าตัวเองต้องเล่นเกมดูก่อน ถึงจะให้ข้อสรุปได้
ไม่แน่ บอสเผยอาจจะเซอร์ไพรส์ผู้เล่นในแบบที่ไม่มีใครคาดคิดด้วยการพลิก แนวทางเดิมๆ ใหม่หมด
เหออันเลือกเล่นเวอร์ชันคนรวยก่อน
…
หลังจากจอมืดไปครู่หนึ่ง เสียงผู้ชายก็ดังขึ้นเป็นภาษาอังกฤษเบาๆ
เสียงนั้นไม่ใช่การบรรยาย แต่เหมือนชายคนหนึ่งกำลังพึมพำกับตัวเอง
“พ่อของผมชอบเรียนรู้หลักคิดของวัฒนธรรมตะวันออกอันห่างไกล
“ไม่นานหลังผมเริ่มจำความได้ พ่อก็พร่ำสอนหลักคิดสองอย่างจากตะวันออก อย่างแรกคือ คนจนบ่มเล่ห์ คนรวยเจริญสติ อีกอย่างคือ ก่อนจะสอนให้รู้จักจารีต และความอาย ควรให้ได้กินอิ่มนุ่งอุ่นก่อน
“พ่อบอกว่า ในภาษาจีน ทั้งสองหลักคิดนั้นสั้นและเฉียบคม อุดมไปด้วย ความคิดและหลักปรัชญา
“แต่พอเอามาแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วมอบความรู้สึกแบบเดียวกันไม่ได้
“พ่อบอกว่าสังคมเราปกครองด้วยกฎความอยู่รอดในป่า เราสูงส่งและ แข็งแกร่ง แต่ก็เพราะจุดนี้แหละที่ทำให้หลายคนคอยจับตามองรอคอยให้เราตก ลงมา
“พ่อบอกว่าห้ามเชื่อใจคนจน ห้ามเด็ดขาด
“เหมือนว่าสำหรับพ่อผมแล้ว เราเป็นมนุษย์คนละจำพวกกับพวกคนจนในชน ชั้นล่างของสังคม
“ผมไม่เห็นด้วยกับมุมมองนี้
“แน่นอนว่า ผมก็เถียงพ่อไม่ได้เหมือนกัน เพราะผมรู้ว่าผมเกือบพลาดไม่ได้ เกิดมาบนโลกใบนี้ และเกือบโดนผลักตกตึกสูงพร้อมแม่ของผมเพราะไอ้คนเสีย สติ
“พ่อบอกว่าไอ้คนนั้นเป็นคนจน
“แต่ผมยืนกรานว่าเขาเป็นแค่คนสติไม่ดี”
จอสีดำและบรรทัดตัวหนังสือหายไป แทนที่ด้วยภาพเกม
มุมมองภาพเป็นมุมมองผ่านไหล่เหมือนเกม AAA ส่วนใหญ่ เหออันเห็น ตำรวจในเครื่องแบบสไตล์ตะวันตก ซึ่งดูเหมือนจะยศสูงไม่น้อย
ตอนนี้เขาอยู่ในห้าง แต่ทุกอย่างว่างเปล่า ราวกับทุกคนอพยพออกไป หมดแล้ว
เขาเห็นตำรวจหลายคนกำลังโบกมือให้เขาอย่างเป็นกังวล
บรรทัดตัวหนังสือปรากฏขึ้นบนผนังเพื่อแนะนำแนวทางการเล่น ‘ในฐานะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกัน คุณต้องเจรจากับคนร้ายที่จับตัวประกัน ไป’
เหออันหาตัวคนร้ายไม่พบสักคน เขาหันไปรอบๆ แล้วพบว่าตัวเองสามารถ เดินไปทางหน้าต่างที่เปิดอ้าซึ่งมีตำรวจยืนอยู่ข้างๆ ได้เท่านั้น ตำรวจกวักมือเรียกอย่างร้อนรน เหออันจึงรีบควบคุมตัวละครเดินตรงไปหา ตำรวจรีบผูกเชือกนิรภัยไว้กับเขา สวมถุงมือและรองเท้าแรงดูดสุญญากาศ สำหรับปีนป่าย จากนั้นก็เปิดทางให้เดินผ่านหน้าต่างออกไป “คนท้องตกอยู่ในอันตราย การปล้นจี้ครั้งนี้ละเอียดอ่อนมาก ถ้ามือสไนเปอร์ ของเรายิง คนร้ายอาจจะพาคนท้องตกตึกไปด้วยก็ได้ ช่วยทีครับ สารวัตรเฮนรี่!” เหออันรีบควบคุมเฮนรี่ปีนออกนอกหน้าต่าง แล้วใช้ถุงมือและรองเท้าสำหรับ ปีนป่ายไต่ผนังกระจกบนตึกสูง ระหว่างที่กำลังปีนขึ้นไป เขาก็เห็นคำสั่งภารกิจใหม่ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ บนผนัง กระจก
‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกันมาถึงจุดเกิดเหตุ’ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกันเตรียมพร้อม’ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกันพร้อมเจรจาแล้ว’ ยิ่งปีนสูงขึ้นไปเท่าไหร่ เสียงตะโกนจากดาดฟ้าก็ยิ่งได้ยินชัดเจนขึ้น “อย่าเข้ามาใกล้นะ ไม่งั้นฉันโดดแน่!”
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย…”
“ใจเย็นๆ พวกเรามาเพื่อเจรจา เรามีเงื่อนไขให้…”
เสียงตะโกนคลุ้มคลั่งของคนร้าย เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากตัวประกัน และเสียงตำรวจพยายามเจรจากับคนร้ายผ่านโทรโข่งผสมปนกันจนทำให้รู้สึก ร้อนใจตามอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากเหออันได้รับการแจ้งเตือนว่า ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัว ประกันพร้อมเจรจาแล้ว’ ไม่นานเฮนรี่ก็ปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุด เขาเคลื่อนตัวอย่าง เงียบเชียบไปอยู่ใต้คนร้าย
คนร้ายถือมีดทำครัวเล่มยาวจี้อยู่ตรงคอคนท้อง ทั้งสองยืนอยู่ขอบตึก
ถึงจะรู้ว่ามีสไนเปอร์เล็งมาที่ตัวเองอยู่ แต่มือขวายังกำมีดแน่น ขณะที่มือ ซ้ายล็อกคอหญิงท้องเอาไว้ ถ้าเขาโดนยิง ทั้งสองจะตกตึกไปด้วยกัน
พอเฮนรี่ไปอยู่ในตำแหน่งด้านล่างคนร้าย เขาถอดถุงมือสำหรับปีนไว้ที่ผนัง แล้วหยิบปืนออกมาโดยไม่เกิดเสียง จากนั้นก็เล็งไปที่ด้านหลังศีรษะคนร้าย
ปัง!
ลูกปืนถูกยิงออกไป ศีรษะคนร้ายระเบิด ตัวประกันกรีดร้องลั่นเมื่อทั้งสอง ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ
‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกัน ‘เจรจา’ เสร็จสิ้น’
เฮนรี่เอื้อมแขนขวาล่ำสันไปคว้าตัวคนท้องไว้ ขณะที่ศพคนร้ายร่วงลงไป ด้านล่างตึก
จังหวะที่คนร้ายร่วงลงไปนั้น เฮนรี่สังเกตเห็นใบหน้าของเขา
ความสิ้นหวัง ความตื่นตระหนก และความคลุ้มคลั่งที่รู้สึกก่อนตายฉายชัดอยู่ บนใบหน้า อารมณ์ต่างๆ ที่ผสมรวมกันทำให้สีหน้าของเขาดูอำมหิต
ฉากเหตุการณ์ดำเนินไปแบบสโลว์โมชัน และหยุดชั่วครู่เหมือนในหนัง ก่อนที่ ศพจะร่วงลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ…
ชั่ววินาทีก่อนที่ศพจะหล่นกระแทกพื้น ทุกอย่างหยุดนิ่ง แล้วหน้าจอก็มืดดับ ไปอีกครั้ง
“แม่ผมกลัวมากจนผมต้องลืมตาดูโลกก่อนกำหนดสองสัปดาห์
“เพื่อนบางคนบอกว่าผมคาบช้อนทองมาเกิด
“บางคนบอกว่าผมเกิดมาก็ถึงเส้นชัยแล้ว
“ผมไม่เคยปฏิเสธเลย เพราะคนแบบพวกเรา ถึงจะต้องดิ้นรนและพยายาม ขนาดไหนก็ไม่สามารถเอามาพูดได้
“มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ว่าคนที่เกิดมาก็ถึงเส้นชัยแล้วต้องต่อสู้ดิ้นรนแบบไหน”