ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 633 ยกย่องเกมเมอร์ที่แท้จริงทุกคน
ชิวหงถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดต่อ “ระบบปฏิบัติการแบบปิดและเป็น เอกลักษณ์ที่ติดมากับเครื่องเกมคอนโซลคือปราการปกป้องลิขสิทธิ์เกมสแตนด์ อโลนที่แข็งแกร่งมากแม้จะมีการพยายามแก้ไขไฟล์ ปราการป้องกันนี้กลายเป็น กำลังสำคัญของเกมต่างประเทศ ซึ่งช่วยการันตีผลกำไรของบริษัท
“ไม่ว่าเกมออนไลน์จะพัฒนาไปยังไง เกมสแตนด์อโลนในต่างประเทศก็กิน ส่วนแบ่งตลาดถึง 60% สูงกว่าเกมออนไลน์ ในขณะที่ตลาดเกมสแตนด์อโลนใน ประเทศของเราในช่วงประมาณปี 2001 นั้นมีสัดส่วนอยู่ที่ศูนย์
“การไม่มีเครื่องเกมคอนโซลทำให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้น และเกม เถื่อนที่ได้รับความนิยมสูงก็ทำลายตลาดเกมสแตนด์อโลนไป
“คนที่เกิดไม่ทันยุคนั้นจะไม่รู้เลยว่าตลาดเกมสแตนด์อโลนในตอนนั้น กระเสือกกระสนขนาดไหน พูดง่ายๆ คือ เกมสแตนด์อโลนนั้นกระเสือกกระสน มากขนาดลดราคาเหลือเกมละสิบห้าหยวน ผู้เล่นก็ยังเลือกซื้อเกมเถื่อนราคาหก หยวนอยู่ดี
“ตอนนั้นเกมที่ผลิตในประเทศยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ เพราะอุปสรรคทาง วัฒนธรรมทำให้ไม่สามารถขายในต่างประเทศได้ เราเลยขายได้แค่ในตลาดจีน
“ก่อนหน้านี้ เกมสแตนด์อโลนในประเทศหลายเกมตั้งราคาไว้หลายสิบหยวน และขายได้กำไรดี แต่แค่หนึ่งถึงสองปี เกมแท้ก็ต้องสู้สงครามราคากับเกมเถื่อน เพื่อต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ ราคาจึงลดเหลือแค่สิบแปดหยวนและถึงขั้นแจก เกมบางส่วนไปกับนิตยสาร แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
“การลดราคาเกมไม่ได้ทำให้เกิดสถานการณ์อย่างทำกำไรได้น้อยแต่คืนทุนไว กลับกัน รายได้ของผู้พัฒนานั้นลดลงมาก พอรายได้ลดลง ต้นทุนการผลิตก็ลดลง ด้วย คุณภาพของเกมก็ลดทอนไปตามกัน
“นอกจากนี้ บริษัทขยะหลายแห่งก็พัฒนาเกมขยะออกมาจำนวนมาก ซึ่ง ทำลายความกระตือรือร้นของเกมเมอร์กลุ่มเล็กๆ ที่อยากสนับสนุนจากใจจริง สุดท้ายก็กลายเป็นวงจรอุบาทว์ ทุกคนมีภาพจำว่าเกมสแตนด์อโลนจีนนั้น คุณภาพต่ำ
“พอเกมแท้ราคาสิบแปดหยวนยังไม่สามารถเอาชนะเกมเถื่อนราคาหกหยวน ได้ ทุกอย่างก็ดับอนาถ ไม่ว่าจะต่อสู้ดิ้นรนขนาดไหนก็ไม่ช่วยอะไร กระแสของ เกมออนไลน์กลับทำให้ผู้ผลิตเกมอย่างผมมีหนทางไปต่อ ผมต้องทำเกมออนไลน์ เพื่อให้ตัวเองยังอยู่ในอุตสาหกรรมเกม ไม่งั้นผมอาจจะต้องไปหางานที่บริษัท อินเทอร์เน็ตและผันตัวไปเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์แทน
“ดังนั้นเกมสแตนด์อโลนไม่ได้ตายเพราะเกมออนไลน์ แต่เป็นเพราะเกมเถื่อน ในทางกลับกัน เกมออนไลน์กลับเป็นฟางเส้นที่ช่วยชีวิตเหล่าผู้พัฒนาเกม
เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “แต่ถ้าเกมดีพอ ยังไงก็มีคนยอมจ่าย ไม่ใช่เหรอครับ ผมได้ยินมาว่าต่างประเทศทำเกม AAA ระดับขึ้นหิ้งออกมา เยอะแยะ แต่ก็ไม่เห็นออกมาตรการต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์อะไรเลยนี่ครับ”
ชิวหงพยักหน้า “ใช่ครับ คุณหม่าพูดถูก ถูกต้องที่สุด
“คำถามคือ มาตรฐานของ ‘ดีพอ’ อยู่ตรงไหน
“คุณทำเกม AAA ระดับเดียวกับผู้พัฒนาต่างประเทศได้รึเปล่า หรือในบรรดา ผู้พัฒนาในประเทศ คุณอยากเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาที่ดีที่สุดมั้ย
“นั่นหมายความว่า มีเพียงตอนที่คุณไต่ขึ้นไปอยู่ปลายยอด 1% ของ อุตสาหกรรม คุณถึงจะดีพอและมีคนจำนวนมากให้ความสนใจและจ่ายเงินให้คุณ
“บางคนบอกว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ช่วยขยายศักยภาพส่วนแบ่งการตลาดได้ มาก ประโยคนี้เหลวไหลมาก และถึงจะจริง ก็ส่งผลกระทบต่อกลุ่มปลายยอด 1% ของอุตสาหกรรมเพียงเล็กน้อย”
“ถ้าผูกขาดได้เหมือนระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ การละเมิดลิขสิทธิ์อาจ ช่วยให้คุณต่อสู้กับคู่แข่งและรักษาส่วนแบ่งตลาดได้
“แต่มีกี่บริษัทที่สามารถขึ้นไปอยู่ปลายยอด 1% ได้บ้าง แล้วมีสักกี่บริษัทกัน เชียวที่สามารถผูกขาดตลาดได้
“ปล่อยให้บริษัทใหญ่ๆ กับบริษัทที่ผูกขาดตลาดเจริญรุ่งเรือง
“แล้วปล่อยให้อีก 99% ที่เหลือตาย?”
“มันไม่มีความหมายเลยที่จะพูดถึงปลายยอด 1% ของอุตสาหกรรม จะมีสัก กี่คนที่สามารถไต่ขึ้นไปปลายยอด 1% ในแวดวงของพวกเขาได้ ถ้ามีคนบอกคุณ ตอนนี้ว่าในอุตสาหกรรมของคุณมีเพียงปลายยอด 1% เท่านั้นที่ได้รับการยอมรับ และไปต่อได้ ถ้าคุณเลือกไปต่อ อีก 99% ก็มีแต่จะอดตาย คุณจะยังอยู่ในวงการนี้ ต่อรึเปล่า
“ผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างเหออันที่สร้างเกมสแตนด์อโลนประสบ ความสำเร็จมากมายยังเปลี่ยนไปทำเกมออนไลน์ด้วยเลย พอฐานหอคอยพัง ตลาดทั้งหมดจะหดตัวลงรอบด้าน ถ้าหนึ่งหรือสองบริษัทที่อยู่บนยอดหอคอยยัง เปลี่ยน แล้วตลาดทั้งหมดล่ะ?
“ดังนั้นอุตสาหกรรมที่ดีควรเป็นเหมือนพีระมิดหรือภูเขาน้ำแข็ง ปลายยอด ของพีระมิดหรือภูเขาน้ำแข็งที่อยู่เหนือทะเลคือส่วนที่สูงที่สุด 1% ที่จะได้ดื่มด่ำ กับความรุ่งโรจน์ ในขณะที่ฐานของพีระมิดหรือภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ด้านล่างน้ำเป็น รากฐานสำคัญที่มีส่วนช่วยในการดำรงอยู่ของอุตสาหกรรม
“ปลายยอดจะคงอยู่ได้ยังไงถ้าฐานพังไปแล้ว
“ดังนั้นไม่ว่าปลายยอด 1% จะอยู่ดีกินดีหรือไม่ก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดสถานะ ของอุตสาหกรรม สิ่งที่กำหนดความอยู่รอดของอุตสาหกรรมจริงๆ คือดูว่าชั้นล่าง กับชั้นกลางจะอยู่รอดได้หรือเปล่า
“วงจรไม่จบสิ้นจะเป็นประมาณนี้
“ผู้พัฒนา: พวกเราต้องการให้คุณซื้อเกมแท้เพื่อเราจะได้พัฒนาเกมให้ดี ยิ่งขึ้น!
“ผู้เล่น: งั้นก็ให้ประสบการณ์การเล่นที่ดีที่สุดกับเราก่อน! ถ้าเกมคุณดีที่สุด จริงๆ เราจะเลิกซื้อเกมเถื่อนแล้วหันมาซื้อเกมแท้!
“ผู้พัฒนา: แต่พวกคุณต้องเลิกซื้อเกมเถื่อนและจ่ายเงินให้เราก่อน เราถึงจะ มอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้พวกคุณได้!
“ผู้เล่น: ถ้างั้นก็ต้องให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดกับเราก่อน เราถึงจะเลิกซื้อเกม เถื่อน!
“ผู้พัฒนาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสร้างเกมออนไลน์
“ตลาดมาทางนี้ ผู้เล่นเลือกทางนี้กันเอง พวกเขาบอกว่าเปิดรับแค่เกม ออนไลน์กับเกมเถื่อนเท่านั้น เกมแท้ขอบาย เพราะงั้นเกมแท้จึงล้มหายตายจาก ไปอย่างที่พวกเขาต้องการ
“สำหรับผู้เล่นแล้ว แนวคิด ‘จ่ายให้กับสิ่งที่ดีพอเท่านั้น’ ไม่ใช่ปัญหาและไม่ ควรถูกตำหนิ แต่ใช้ได้กับตลาดที่ดีและมีระบบระเบียบแล้วเท่านั้น
“ถ้าตลาดเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม แนวคิด ‘จ่ายให้กับสิ่งที่ดีพอ เท่านั้น’ ก็จะหมายความว่านอกจากปลายยอด 1% ของผู้พัฒนาชั้นน้ำแล้ว ผู้พัฒนาเนื้อหาทั่วไปที่เหลืออีก 99% จะไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งผู้ที่ลงแข่ง และผู้ที่ทำลายกฎของตลาดจะไปไม่รอด
“ก็เหมือนตอนนี้ คอนเทนต์ครีเอเตอร์มากมายทำงานอย่างหนักอยู่สามวัน เพื่อทำคลิปขึ้นมา แต่ก็โดนขโมยไปลงใหม่ คุณใช้เวลาสามวัน ขโมยใช้เวลาแค่ หนึ่งวินาที แบบนี้จะแข่งกับเขาได้ยังไง ถ้าผู้ชมไม่ตระหนักเรื่องนี้ คิดแค่ว่ายังไง เนื้อหาก็เหมือนกัน ดูจากของคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ได้ ใครจะสนว่าเจ้าของคลิป เป็นใคร ทีนี้คุณว่านอกจากกลุ่มที่อยู่ปลายยอดสุดแล้ว จะมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สักกี่คนที่อยู่รอด
“เพราะงั้นก็ต้องขอบคุณแพลตฟอร์ม ESRO ที่เปิดตัวขึ้นในปี 2006 ถ้าไม่มี แพลตฟอร์มนี้ ตลาดเกมสแตนด์อโลนในประเทศคงยังเป็นทะเลทรายจนถึงตอนนี้ ไม่มีหญ้าขึ้นให้เห็น
“แม้จะมีต้นกล้าแค่ต้นเดียวหรือสองต้น แต่ก็เป็นแค่ไฟปะทุในกระทะขึ้นมา แวบเดียว ไม่มีวันเติบโตเป็นต้นไม้สูงตระหง่านได้
“เพราะไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้จริงๆ”
ชิวหงจิบกาแฟหน้าเศร้า
เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “งั้น… ถ้าสถานการณ์ของเกมส แตนด์อโลนในประเทศดีขึ้นอีกครั้งในปี 2006 ทำไมคุณไม่ยึดมั่นในความฝันและ กลับมายืนหยัดทำเกมแนวสแตนด์อโลนล่ะครับ”
ชิวหงยิ้มดูแคลนตัวเอง “เพราะผมทิ้งความฝันของผมไปแล้ว
“จำที่ผมพูดตอนแรกได้มั้ย การพยายามทำตามความฝันเป็นปัจจัยสำคัญ ที่สุดที่นำไปสู่ความล้มเหลว
“ผมสร้างเกมสแตนด์อโลนตอนเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้เป็นครั้งแรก ตั้งหน้าตั้งตา พัฒนาเกมมาเกือบสองปี และทนอยู่ต่ออีกกว่าสองเดือนโดยไม่ได้รับค่าจ้าง สุดท้ายก็ไม่มีใครรู้จักชื่อเกมด้วยซ้ำ
“ผมเลยล้มเลิกความฝันและสร้างเกมออนไลน์ตีมเทพนิยายที่เน้นระบบเติม เงิน เกมนี้ทำให้ผมได้รับโบนัสโปรเจ็กต์ปีละล้าน ซึ่งก็พูดได้ว่าประสบความสำเร็จ
“ความฝันของผมสำคัญมั้ย มีใครสนรึเปล่า ผมยึดมั่นในฝันนี้ไปเพื่อใคร ถ้า การยึดมั่นในความฝันทำให้ต้องดื่มน้ำเย็นและกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวัน ส่วน การละทิ้งความฝันช่วยให้ผมมีชีวิตที่ดีและไร้ซึ่งความกังวล ไม่ต้องสนใจผู้เล่น หลายหมื่นคน ทำไมผมต้องยึดมั่นในฝันต่อไปด้วยล่ะ
“ตั้งแต่นั้นมา ผมก็ตัดสินใจว่าฉันจะสร้างเกมทำเงินเท่านั้น เป้าหมายของผม คือทำเงินให้มากขึ้น ส่วนภารกิจสุดยิ่งใหญ่ในการชุบชีวิตเกมสแตนด์อโลนนั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย แม้แต่ผู้เล่นเองยังไม่สนใจด้วยซ้ำ แล้วผมเป็นใคร ทำไม ต้องพยายามเพื่อเกมสแตนด์อโลนด้วย
“เอาเข้าจริง ในบรรดาผู้พัฒนาเกมทั้งหมดที่อยู่ในยุคเดียวกับผมและเข้าสู่ อุตสาหกรรมในช่วงแรกนั้น มีใครบ้างที่ไม่มีความฝัน
“แต่กลุ่มที่ยึดมั่นในความฝันได้หายออกจากวงการนี้ไปหมดแล้ว มีแค่คนที่ละ ทิ้งความฝันแบบผมเท่านั้นที่อยู่รอดมาได้
“บอสหม่า คุณอาจจะคิดว่าประสบการณ์ของผมใช้ไม่ได้กับยุคนี้
“เพราะสถานการณ์เกมสแตนด์อโลนในประเทศกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีปัญหา เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ให้เห็น และผู้คนจำนวนมากก็จ่ายเงินซื้อเกมสแตนด์อโลน จีนมากขึ้น
“แต่ความจริงยังคงเหมือนเดิม ระหว่างความฝันกับความจริง มีคนจำนวน น้อยที่สามารถกอดทั้งสองอย่างไว้ได้ คนส่วนใหญ่เลือกกินยาขมได้แค่เม็ดเดียวคือ จะยอมละทิ้งความฝัน หรือถูกสอนให้เติบโตขึ้นด้วยความเป็นจริง
“บอสหม่าครับ นี่คือเรื่องสุดท้ายที่ผมอยากฝากไว้จากก้นบึ้งของหัวใจ
“มันอาจใช้ไม่ได้กับทุกคน หรืออาจจะใช้ได้ก็ได้ แต่ผมก็หวังว่ามันจะช่วยให้ แรงบันดาลใจกับคุณ”
เผยเชียนยกกาแฟขึ้นจิบและไม่พูดอะไรอยู่พักใหญ่
เพราะหัวข้อนี้หนักเกินไป
เผยเชียนไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างแพลตฟอร์ม ESRO การสูญพันธุ์ของเกม เถื่อน และการพัฒนาตามปกติของเกมสแตนด์อโลนในโลกนี้แม้แต่น้อย ตอนนี้เขา รู้แค่ว่าเป็นเพราะการจัดตั้งแพลตฟอร์ม ESRO ขึ้นมาและการควบคุมการละเมิด ลิขสิทธิ์อย่างเข้มงวด ทำให้ตลาดเกมสแตนด์อโลนในประเทศฟื้นกลับคืนมาและ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โลกนี้แตกต่างจากโลกในความทรงจำของเขา
ความแตกต่างเล็กๆ ทำให้สิ่งต่างๆ แตกต่างออกไปมาก
ชิวหงบอกว่าถ้าไม่มีแพลตฟอร์ม ESRO เกมในประเทศจะเป็นทะเลทราย จนถึงทุกวันนี้
เผยเชียนรู้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง
เพราะทุกอย่างเคยเกิดขึ้นในความทรงจำของเขา
เผยเชียนจึงรู้สึกว่าตัวเองควรจะพูดอะไรสักอย่าง
สถานการณ์ในปัจจุบันเรียกว่าเป็นสวรรค์ได้ ที่ชิวหงรู้สึกว่าเขาอยู่ในนรกก็ เพราะเขาไม่เคยเห็นนรกที่แท้จริง
เผยเชียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “บอสชิว ผมรู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่ ผู้คนจะเข้าใจหัวอกกันอย่างแท้จริง บางคนพูดได้เพราะไม่เคยผ่านประสบการณ์ ความเจ็บปวด ผมเลยแนะนำคนอื่นอยู่บ่อยๆ ให้ใจกว้างเข้าไว้ เรื่องพวกนี้ก็ เหมือนโดนฟ้าผ่านั่นแหละ
“แต่ผมอยากพูดอะไรกับคุณสักนิดหน่อยจะได้มั้ยครับ”
ชิวหงพยักหน้า “ได้อยู่แล้วครับ บอสหม่า เราเป็นเพื่อนคู่คิดกัน เพราะงั้นก็ พูดกันได้ทุกเรื่องแหละครับ”
เผยเชียนพูดเสียงจริงจัง “ผมรู้ว่าการให้แต่ไม่ได้สิ่งที่สมควรได้รับมันเจ็บปวด ทุกคนต้องโกรธอยู่แล้วถ้าความพยายามของตัวเองถูกขโมยไป โลกนั้นเต็มไปด้วย ความไม่ยุติธรรม บางครั้งคุณไม่สามารถแม้แต่จะแยกแยะออกได้ว่าสุดท้ายแล้ว ใครถูกใครผิด ไม่ใช่ทุกภัยพิบัติจะหาคนรับผิดชอบได้
“มีหลักความคิดหนึ่งในชีวิตที่ทุกคนไม่สามารถยึดถือได้ แต่ทุกคนรู้ว่ามัน ถูกต้อง ซึ่งก็คือ ทำเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมโดยไม่หวังถึงอนาคต
“บอสชิวครับ อย่าปล่อยให้โศกนาฏกรรมของยุคสมัยกลายเป็นโศกนาฏกรรม ส่วนตัวของคุณ”
ชิวหงนิ่งเงียบและทวนประโยคสุดท้ายซ้ำไปมา ผ่านไปพักใหญ่ เขาก็เงยหน้าขึ้น “บอสหม่า ดีจริงๆ ครับที่คุณคิดได้แบบนี้ “ขอบคุณครับ”