ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 249 คะแนน TPDb
เผยเชียนรู้สึกละม้ายคล้ายจะเป็นลม
ฉันเป็นเจ้าของร้าน แต่ดันจองร้านตัวเองไม่ได้เนี่ยนะ
หลินชั่นหรงช่วยเตือนความจำ “ไม่ต้องห่วงนะครับบอสเผย ผมจองเหมาร้านไว้ทุกวันที่ 20 ของเดือนคี่ตามที่บอส
บอก และห้องส่วนตัวขนาดใหญ่สุดก็เตรียมไว้ให้บอสทุกวันอาทิตย์ที่หนึ่งและสามของเดือน
“เพราะอย่างนั้นวันอาทิตย์หน้า วันที่ 5 กันยา บอสมากินที่ร้านได้เลยครับ”
เผยเชียน “…”
เขาจองครัวส่วนตัวหมิงหยุนล่วงหน้าทุกวันที่ 20 ของเดือนคี่ไว้สำหรับจัดงานกินเลี้ยงบริษัท และจองห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดไว้ทุกวันอาทิตย์ที่หนึ่งและสามของแต่ละเดือนเผื่อต้องเลี้ยงรับรองลูกค้า
พอมาคิดดูอีกทีก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอ เขาควรจองร้านไว้ให้ตัวเองเพิ่มอีกวันสองวัน
ที่สำคัญคือ เขาไม่คิดเลยว่าครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะกลายเป็นแบบนี้ได้…
เผยเชียนคิดว่าถึงครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะมีลูกค้าประจำอยู่ประปราย แต่ที่ร้านก็มีห้องส่วนตัวเยอะและเสิร์ฟอาหารแค่สองครั้งคือตอนเที่ยงและตอนเย็น ดังนั้นก็น่าจะมีห้องเหลือให้จองบ้าง
แต่ความเป็นจริงที่ต้องเผชิญก็ทำให้เหมือนโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง!
ข้อมูลร้านหลุดออกไปได้ยังไงวะ!
หรือว่าหลินหวานจะสร้างเรื่องให้อีกแล้ว
เผยเชียนครุ่นคิด พนักงานที่รักส่วนใหญ่เขาเป็นคนจ้างและปั้นมากับมือ ไม่มีใครมาจากตระกูลร่ำรวย จึงไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ได้
คนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้มีแค่หลินหวานเท่านั้น
แต่เฉินฮว่าคอร์เปอเรชันก็ไม่ได้มีอิทธิพลในจิงโจวมากขนาดนั้น ธุรกิจส่วนใหญ่ของพวกเขาอยู่ในเมืองเซินเจิ้น จะไปเรียกคนเยอะแยะมาใช้บริการครัวส่วนตัวหมิงหยุนได้ยังไง
หรือว่า…เขาจะมีศัตรูอื่นอีก
เผยเชียนเงียบไปครู่ใหญ่ เพราะยังทำใจกับปัญหาหนักอึ้งที่เพิ่งจะซัดเข้าหน้าจังๆ ไม่ได้ เขาเอาแต่ครุ่นคิดว่าตัวเองทำอะไรพลาดไป
พอเห็นบอสเผยเงียบไปพักใหญ่ หลินชั่นหรงก็คิดว่าบอสน่าจะกำลังดีใจมากที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนโด่งดังขึ้นมาได้ขนาดนี้ จึงตั้งใจจะประจบสอพลอต่อ
ไม่สิ ไม่ได้ประจบสักหน่อย ที่จะพูดคือความจริง ไม่มีคำไหนเลยที่เป็นเรื่องโกหก
“บอสเผยครับ ที่บอสบอกให้พวกเราทุ่มเทกับเรื่องการให้บริการ ไม่ต้องสนใจเรื่องการโฆษณา ถือเป็นการมองการณ์ไกลมากๆ เลยครับ! เป็นการกระทำที่ถูกต้องสุดๆ!
“บอสเข้าใจบรรดาไฮโซในจิงโจวจริงๆ ทั้งนิสัยและความคิด ทุกอย่างที่บอสทำถูกต้องหมดเลย ผมประทับใจมากๆ ครับ”
เผยเชียน “???”
แกพูดอะไรของแก ไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด
เผยเชียนรู้ว่าหลินชั่นหรงกำลังเลียแข้งเลียขาตัวเองอยู่ เขาไม่สนใจเรื่องแบบนี้เลย เอาเข้าจริงนึกเกลียดด้วยซ้ำไป
มาเลียขากันแบบนี้ก็ไม่ต่างจากเอาเกลือมาถูแผลหรอก!
แต่จะไม่ฟังก็ไม่ได้ เพราะต้องหาเบาะแสจากการเลียขาของหลินชั่นหรง จะได้รู้ว่าตัวเองไปพลาดตรงไหนกับครัวส่วนตัวหมิงหยุน!
หลินชั่นหรงไม่รู้เลยว่าบอสเผยรู้สึกยังไงอยู่ เขาจึงพูดต่ออย่างสุขใจ
“พอมาคิดดูดีๆ ผมรู้เรื่องแวดวงคนรวยน้อยมาก จิงโจวไม่ได้มีคนรวยเยอะขนาดนั้น ส่วนใหญ่รู้ว่าร้านเราเจาะจงวางพวกเขาไว้เป็นกลุ่มเป้าหมาย เพราะงั้นการที่บอสตัดสินใจไม่โฆษณาร้านจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
“เพราะข้อมูลจะกระจายได้เร็วมากในแวดวงเล็กๆ!
“ลูกค้าที่ชื่อเซวียเจ๋อปินเห็นโพสต์เว่ยป๋อของจางจู่ถิงเลยลองมาชิมอาหารร้านเราดู จากนั้นก็ไปชวนหวังเผิงมาลองด้วย บอสหวังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งฉวนหมินรีวิว ก็เลยไปรีวิวร้านของเราลงในฉวนหมินรีวิว ครัวส่วนตัวหมิงหยุนของเราเลยมีลูกค้าไหลมาเทมา!
“ผมไม่คิดเลยว่าร้านของเราที่ไม่มีใครรู้จักเลยจะดังขึ้นมาได้ง่ายๆ แบบนี้
“แน่นอนว่าเป็นเพราะกลยุทธ์ที่บอสวางไว้
“ครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่มีชื่อร้าน บอสหวังเลยไม่ได้ลงชื่อร้านในฉวนหมินรีวิว ตรงนี้จึงกลายเป็นจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้าน ทำให้คนถกกันเรื่องร้านเราอย่างดุเดือดเลยครับ!
“แถมการที่เราไม่มีชื่อร้านยังทำให้ร้านเราถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้น เพราะพอมีคนค้นหาแบบไม่ใส่ชื่อร้าน ร้านเราก็จะเด้งขึ้นมาทันที!
“ที่สำคัญที่สุดเลยคือกฎที่บอสตั้งไว้ อย่างห้ามถ่ายรูป ให้เปลี่ยนการจัดโต๊ะและจานชามตามอาหารที่เสิร์ฟ ให้พนักงานบริการอย่างใส่ใจแต่ก็ไม่ทำให้อึดอัด… ทุกอย่างที่ว่ามาตอบโจทย์ลูกค้าสุดๆ เลยครับ ทำให้แวดวงคนรวยชมร้านเราไม่หยุดปากเลย!
“พอร้านเราเป็นกระแสในหมู่คนรวย มันก็ส่งผลกับลูกค้าทั่วไปด้วย ถึงอาหารร้านเราจะราคาสูง แต่ลูกค้าทั่วไปส่วนใหญ่ที่ได้มาลองก็คิดว่าคุ้มกับทุกหยวนที่จ่ายไป ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะกลุ่มคนรวยต่างชมร้านเรา!”
หลินชั่นหรงชมกลยุทธ์ที่ทำให้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนประสบความสำเร็จไม่หยุด เขาไม่ได้ตั้งใจจะประจบประแจง แต่แค่พูดอธิบายความประทับใจออกมาอย่างจริงใจ
เขาอยู่ในเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น ตอนแรกเขาไม่เข้าใจการกระทำของบอสเผยเลย และไม่คิดด้วยว่าครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะประสบความสำเร็จได้
แต่ตอนนี้สิ่งที่เคยคลางแคลงใจก็กระจ่างแจ้งหมดแล้ว กลยุทธ์ที่บอสเผยวางไว้ได้ผลจริงๆ!
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก คำพูดของหลินชั่นหรงแล่นเข้าหูซ้ายแล้วทะลุออกหูขวา เขาจำข้อมูลอะไรไม่ได้มาก แต่มีอยู่สองชื่อที่จำได้ขึ้นใจ
คนแรกชื่อเซวียเจ๋อปิน อีกคนชื่อหวังเผิง ไอ้สองคนนี้แหละคือตัวต้นเหตุ!
เซวียเจ๋อปินมาลองชิมอาหารหลังจากเห็นโพสต์บนเว่ยป๋อของจางจู่ถิง แปลว่าจางจู่ถิงก็มีเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย!
ตอนนี้เผยเชียนคิดแค่ว่า ต้องระวังภัยจากทุกด้าน!
ศัตรูเยอะเกินไป เหมือนโดนล้อมไว้ทุกทาง
เผยเชียนถอนหายใจเงียบๆ โว้ย ต้องลงบัญชีดำเพิ่มอีกสามชื่อแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นวันอาทิตย์หน้าจองห้องส่วนตัวให้ผมหน่อย จัดอาหารมาแบบรอบที่แล้ว”
ชายหนุ่มพูดออกไปอย่างอ่อนแรง
…
…
หลังจากวางสายไป เผยเชียนก็รู้สึกเครียดหนัก เขาอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก
ดูจากความนิยมของครัวส่วนตัวหมิงหยุนในตอนนี้แล้วน่าจะทำเงินได้แน่นอน
แต่ก็คงไม่มากมายเท่าไหร่
แม้ด้านในครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะกว้างขวาง แต่ก็มีที่นั่งจำกัด ถึงจะมีลูกค้าเต็มร้านทั้งตอนเที่ยงและตอนเย็นก็ไม่น่าจะรับลูกค้าได้มากนัก
ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของครัวส่วนตัวหมิงหยุนสูงลิ่ว เผยเชียนจ้างเชฟมือหนึ่งมาสองถึงสามคน แถมยังมีเหล่าพนักงานเสิร์ฟที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี รวมถึงพนักงานขนโต๊ะและตกแต่งภายในด้วย แค่ค่าแรงพนักงานก็แพงโขแล้ว
ถึงอาหารที่ร้านจะราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่ได้แพงเว่อร์วัง หวังเผิงจึงคิดว่าคุ้มเงินที่จ่ายไป
ดังนั้นแม้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะทำเงินได้ แต่ก็ไม่น่าจะหาเงินคืนทุนตั้งต้นได้ในเวลาสั้นๆ
ถือว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่
เผยเชียนซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์มาในราคาหกล้านหยวน โดยระบบบันทึกเป็นสินทรัพย์คงที่มูลค่าสิบเปอร์เซ็นต์ซึ่งเท่ากับหกแสนหยวน
หมายความว่าตราบใดที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนยังทำเงินได้ไม่ถึงห้าแสนสี่หมื่นหยวนก็ยังถือว่าคุ้มค่าสำหรับเผยเชียน
แต่…ก็ขึ้นอยู่กับเวลาว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นปัญหาสำหรับเขาขึ้นมาเมื่อไหร่
เผยเชียนรู้สึกกดดัน ตอนนี้จะเข้าเดือนกันยายนแล้ว ซึ่งถือว่าผ่านมาครึ่งทางของรอบบัญชีนี้ เหลือเวลาอีกไม่มากก่อนที่วันปิดบัญชีจะมาถึง
มีสองเรื่องเร่งด่วนที่เขาต้องรีบจัดการ
เรื่องแรกคือการเปิดให้บริการเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดแล้วปล่อยให้เจ๊ง เพื่อที่จะได้ช่วยบรรเทาทุกข์ไปหน่อย
เรื่องที่สองคือเริ่มวางระบบให้โบนัสตามชื่อเสียงที่คิดเอาไว้ก่อนหน้านี้
ตั้งแต่คิด ‘ระบบให้โบนัสตามชื่อเสียง’ ได้ เผยเชียนก็วางกฎเกณฑ์ต่างๆ ไว้เกือบครบถ้วนแล้ว
ฐานโบนัสจะอิงตามเงินลงทุนช่วงแรกของโปรเจ็กต์
เกณฑ์การให้โบนัสจะคำนวณจากชื่อเสียงของแต่ละโปรเจ็กต์ ถ้าทำได้ตามเป้า ทุกคนที่มีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์ก็จะได้โบนัสตามตำแหน่งและภาระรับผิดชอบ
ส่วนสำคัญที่สุดของระบบนี้คือการกำหนดเกณฑ์ชื่อเสียงของโปรเจ็กต์
คะแนนตามเว็บต่างๆ สามารถปั่นได้ง่าย จึงไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริงเท่าไหร่
ยกตัวอย่างเช่นเกม เว็บไซต์รีวิวบางเจ้าอาจให้คะแนนสูง บางเจ้าอาจให้คะแนนต่ำ แล้วแบบนี้จะใช้อะไรเป็นมาตรฐานล่ะ
คะแนนจากชาวเน็ตก็เชื่อถือไม่ค่อยได้ เพราะอาจมีหน้าม้ามาปั่นคะแนน
แล้วถ้าเป็นคะแนนที่ได้จากสื่อเจ้าใหญ่ ความคิดเห็นของเกมเมอร์ และฟีดแบ็กภายในบริษัทล่ะ…
แต่องค์ประกอบสุดท้ายก็ไม่ต่างจากว่าเขาเป็นคนให้คะแนนเองเลยนี่นา
ดังนั้นหลังจากครุ่นคิดดู เผยเชียนก็รู้สึกได้ว่าถ้าจะใช้ระบบนี้ก็ต้องมีระบบการให้คะแนนภายในที่สมบูรณ์แบบ
สรุปแล้วการจะทำให้คะแนนมีความน่าเชื่อถือต้องใช้ปัจจัยสองอย่าง
อย่างแรกคือต้องกรองคะแนนจากหน้าม้ากับพวกปั่นคะแนนออก อย่างที่สองคือต้องวัดคะแนนในภาพรวมกว้างๆ ในวงการรีวิวหนังและเกมมีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน คือยิ่งกลุ่มเป้าหมายเล็ก ก็จะยิ่งได้คะแนนสูง
ถ้ามีกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เหล่าแฟนเดนตายก็จะทุ่มให้คะแนนกันเต็มที่ อีกทั้งก่อนที่หนังจะดัง กลุ่มคนที่ไม่สนใจก็จะไม่ดูและไม่ให้คะแนน ทำให้คะแนนเฟ้อ
พอคนมาดูหนังเยอะขึ้น คะแนนก็ย่อมตกลงเป็นธรรมดา
ดังนั้นหลังจากพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ เผยเชียนก็ตัดสินใจสร้างระบบให้คะแนนชื่อเสียงภายในเถิงต๋าขึ้นมา เขาคิดชื่อภาษาอังกฤษไว้ด้วย ซึ่งก็คือ TPDb ย่อมาจาก Tengda Project Database
ฐานข้อมูลนี้จะบันทึกโปรเจ็กต์ทั้งหมดของเถิงต๋า และประเมินคะแนนองค์รวมตามองค์ประกอบดังต่อไปนี้
การประเมินจากพนักงานระดับสูงของเถิงต๋า
การประเมินจากพนักงานทั่วไปของเถิงต๋า
การประเมินภาพรวมของสื่อเจ้าดังต่างๆ
การประเมินจากลูกค้า
และการประเมินจากชาวเน็ต
แต่ละแบบมีน้ำหนักต่างกันไป
การประเมินจากพนักงานระดับสูงของเถิงต๋าจะมีน้ำหนักมากกว่าของชาวเน็ตทั่วไป การประเมินของพนักงานทุกคนต้องใช้ชื่อสกุลจริง และมีแค่ฝ่ายบริหารระดับสูงไม่กี่คน (เช่นเผยเชียน) ที่สามารถดูการประเมินเหล่านี้ได้
ถึงเผยเชียนจะจัดการไม่ให้พนักงานประเมินมามั่วๆ หรือให้คะแนนเพื่อนตัวเองเป็นพิเศษไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยทุกคนก็น่าจะใส่ใจกับการประเมิน เพราะมีการบันทึกและสามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากใคร
ถ้าพวกเขาให้คะแนนโปรเจ็กต์ตัวเองสูงๆ เพื่อที่จะได้โบนัสมากขึ้น หรือจงใจให้คะแนนโปรเจ็กต์คนอื่นๆ ต่ำ เผยเชียนก็จะได้พิจารณาดูจุดนี้ด้วย
คะแนนจากลูกค้าและคะแนนจากชาวเน็ตมีน้ำหนักไม่เท่ากัน สำหรับผู้เล่นที่ซื้อเกมและพวกที่ไม่ได้ซื้อเกม คะแนนจากผู้เล่นที่ซื้อเกมจะมีน้ำหนักมากกว่า
เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าจะใช้ระบบไหน ก็จะมีคนบางส่วนที่คิดว่าคะแนนไม่ถูกต้อง
ถึงการให้โบนัสเยอะๆ กับโปรเจ็กต์ที่ขาดทุนจะช่วยให้เขาขาดทุนเพิ่มขึ้น แต่พนักงานของโปรเจ็กต์อื่นจะนึกสงสัยและมองว่าไม่เป็นธรรมเอาได้
ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดฐานข้อมูลการให้คะแนน TPDb ขึ้นมา เนื่องจากเป็นระบบที่เป็นธรรมและคำนวณคะแนนจากองค์รวม มีการวางเกณฑ์การให้โบนัสตามคะแนนในฐานข้อมูลและทุนตั้งต้นของแต่ละโปรเจ็กต์ ทุกคนก็น่าจะสนใจกัน
ขณะเดียวกันแต่ละโปรเจ็กต์ก็จะมีวิธีการให้โบนัสแตกต่างกันไป
ยิ่งเป็นโปรเจ็กต์ระยะยาว ก็จะยิ่งได้โบนัสบ่อยขึ้น
ยกตัวอย่างเช่นนี่เฟิงโลจิสติกส์ เนื่องจากเผยเชียนตั้งใจจะให้โปรเจ็กต์นี้เป็นโปรเจ็กต์ยาวตลอดชีวิต เขาก็อาจให้โบนัสเป็นรายไตรมาส
ส่วนเกมกลับใจคือฟากฝั่งซึ่งเป็นเกมที่ต้องซื้อมาเล่น เขาจะให้โบนัสสองถึงสามครั้ง พอมี DLC ใหม่ออกมา ก็สามารถให้โบนัสได้ตามกระแสชื่อเสียงของ DLC นั้นๆ
แน่นอนว่าเผยเชียนก็ต้องจัดการให้ทุกโปรเจ็กต์ของเขามีความเท่าเทียมกันหมด ถึงจะรักโปรเจ็กต์จุดให้บริการนี่เฟิงที่ผลาญเงินในระยะยาวได้มากกว่า แต่ก็ไม่ควรแสดงออกชัดเจนเกินไป
หลังจากสรุปทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เผยเชียนก็ส่งแผนงานให้เลขาซินด้วยความพึงพอใจ
“ตั้งแต่เดือนหน้าโบนัสของทุกโปรเจ็กต์จะอิงตามเกณฑ์นี้”