ดาบที่ปรากฏอย่างกะทันหันออกมาจากบริเวณที่ผมซุกดุ้นซึ่งแยกออกจากร่างเล่มนั้น ได้พลันเข้ามาอยู่ภายในกำมือของผมดั่งกับรอเสียบมานาน
มันช่างฟิตเหมาะมือซะดั่งกับว่าเคยกำมาเป็นเวลาแสนเนิ่นนานเลยก็มิปาน
เห็นดาบที่เข้ากันได้กับมือขวาเป็นปี่เป็นขลุ่ยเล่มนั้นแล้ว ผมก็ถึงกับตกตะลึงอึ้งทึ่ง
“ นี่มัน……นอกจากแยกถอนดุ้นคุณชายแล้ว ยังกำลังเรียกใช้แปลงรูปทรงกับแปลงคุณลักษณะอยู่พร้อมกันอีกด้วย……!? ”
ใช้แปลงรูปทรงเพื่อทำให้ดุ้นมีรูปร่างเป็นดาบ
ใช้แปลงคุณลักษณะเพื่อทำให้ดุ้นกลายเป็นโลหะ
ด้วยอำนาจเหล่านี้ จึงทำให้ดุ้นของผมที่ถูกแปลงสภาพกลายเป็นดาบหนึ่งเล่มสามารถคงอยู่ในสภาวะแยกห่างออกจากระหว่างขา และกำลังสงบนิ่งอยู่ภายในกำมือของผมได้
โคตรจะไม่เข้าใจเลยว่าอะไรมันยังไง
แม้จะอยู่ระหว่างต่อสู้แต่ก็ชักอยากจะเอามือกุมหัวแล้วแผดเสียงร้องลั่นออกมา
แต่ก่อนหน้าที่จะสิ้นหวังกับสกิลของตัวเอง สัมผัสวัสดุของดาบที่กำลังกำอยู่ภายในมือก็ได้ทำเอาผมหลุดพูด “อย่าบอกนะ……!?” พร้อมจ้องมองตาค้าง
ออร่าการมีตัวตนอันมหาศาลท่วมท้นที่เคยเห็นเพียงไม่กี่ครั้งในช่วงที่ยังอยู่ในนครหลวง
สีขาวขุ่นโปร่งใสอันแสนงดงาม ผสานเข้ากับผิวใบดาบที่ปราศจากความมัวหมอง
แล้วก็เป็นจริงตามที่ถูกระบุเอาไว้ในตำรา, แม้จะดูมีขนาดใหญ่แต่กลับมีน้ำหนักเบาหวิวมากซะจนน่าตกใจ
หากความทรงจำของผมไม่ได้ผิดพลาด สิ่งนี้จะต้องเป็นหนึ่งในแร่โลหะสุดหายากที่ว่ากันว่าจะสามารถขุดค้นพบได้เป็นปริมาณน้อยแสนน้อยภายในชั้นลึกสุดของดันเจี้ยนความโหดระดับสูง
อะดามันไทต์นั่นเอง
“ เอ้ยๆๆ! แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง……!? ”
นามของโลหะที่แข็งแรงทนทานมากที่สุดได้แล่นเข้ามาภายในหัว แต่ผมก็ชิงปฏิเสธความเป็นไปได้ดังกล่าวลงในบัดดล
ก็ใช่อยู่ แปลงคุณลักษณะดุ้นคุณชายน่ะสามารถเปลี่ยนไอ้จ้อนของผมให้กลายเป็นหิน เหล็ก ต้นไม้และอะไรอีกนาๆ สารพัดประเภทได้เลยจริงนั่นแหละ
แต่อะดามันไทต์นี่เกินไป……ก็นี่มันเป็นสกิลใช้ตัวคนเดียวที่ปรากฎขึ้นมาในตอนที่ยังมีเลเวลแค่ 50 เองนะ แถมยังเป็นแค่ Lv4 เท่านั้นเองนะ งั้นมันจะไปสำแดงอิทธิฤทธิ์ที่บ้าบอคอแตกขนาดนั้นได้ซะที่ไหนกันล่ะ
อย่าว่าแต่จะทดลองในตอนตรวจสอบสกิลเลย ไอ้วิธีการใช้งานพรรค์นี้คิดไม่ถึงซะด้วยซ้ำไป และเจ้าปรากฎการณ์สุดแปลกแหวกทุกความคาดหมายมันก็เกินกว่าที่ผมจะสามารถทำใจยอมรับให้ได้ในทันที
แต่ก็ไม่มีเวลาให้มัวมาสับสนงงงวยอยู่เลยแม้แต่น้อยนิดเดียว
“ กุกี๊————! ”
“ ขึก! ”
อาร์เมอร์แอนท์ พลาทูนตั้งหลักได้ใหม่ ก่อนจะทะยานปรี่เข้ามาใส่ผม
ร่างมหึมาถูกหุ้มไว้ด้วยเปลือกนอกโลหะอันหนาเตอะ กระนั้นแล้วกลับพ่วงไว้ด้วยความเร็วการเคลื่อนไหวที่ไม่เข้ากับขนาด
ต่อให้เป็นผมในตอนนี้แต่หากโดนจังๆ เข้าไปก็คงไม่น่ารอด
หนำซ้ำพวกมดในบริเวณใกล้เคียงยังผสานกำลังความสามัคคี คอยสกัดกั้นปิดทางหนีทีไล่พร้อมขัดขวางไม่ให้ผมสามารถป้องกัน
แค่ดุ้นแปลงสภาพกลายเป็นดาบแล้วมันทำไม ไม่ใช่เวลามามัวมึนตึ๊บอยู่เลยซักนิดเดียว
“ ขุ่ก! ”
ผมกระโดดเหินขึ้นไปยังเหนือหัวของพวกมดในทันที
จากนั้นผมจึงเก็บดาบที่ด้ามใกล้จะพังอยู่ร่อมร่อ ปล่อยร่างไปกับสัญชาติญาณโดยการหันมากำดุ้นที่แปลงสภาพเป็นดาบแทนที่
ไม่คิดว่าเจ้านี่จะเป็นอะดามันไทต์ของจริงหรอก
แต่อย่างน้อยก็ช่วยแข็งถึกทนทานกว่าดาบเล่มเดิมทีเถอะ……!
ทุบด้ามดาบอัดเปรี้ยงเข้าใส่ร่างของอาร์เมอร์แอนท์ พลาทูน โดยที่เฝ้าภาวนาเช่นนั้นไปพลาง
พริบตาให้หลัง
โบ๊ะ!
“ กุกร๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!? ”
“ เอ๊ะ ”
อาร์เมอร์แอนท์ พลาทูนแผดเสียงกรีดร้องดังลั่นระดับที่เสียงก่อนหน้าเทียบชั้นด้วยไม่ติด
จุดที่โดนทุบด้วยด้ามดาบได้บุ๋มลึกเข้าไปเป็นแผลเหวอะ
แต่ดาบดุ้นคุณชายที่ผมซึ่งลงมาเหยียบพื้นกำลังกำเอาไว้นั้น……กลับไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่นิด
ดุ้นผม ทำไมแข็งปั๋งจัง……?
“ อะ อำกันใช่มั้ยเนี่ย……!? ”
สถานการณ์อันสุดจะเชื่อบีบให้เผลอหลุดเปล่งเสียงอย่างตะลึงงัน
และเป็นในจังหวะที่ผมกำลังผลาญเวลาไปกับการตกใจครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวันนั่นเอง
“ กรี๊ดดดดดดด!? ”
ได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กสาวผมแดงก้องมา
หันมองไปก็พบว่ามีมดหลักสิบกว่าตัวกำลังสุมหัวกันอยู่ใกล้พวกอลิเซีย หมายมั่นคิดจะแยกเขี้ยวอันคมกริบเล่นงานเข้าใส่เหล่าคนคุ้มกันที่หมดสติ
“ ……ขุ่ก ”
อลิเซียรับมือสถานการณ์ได้อย่างค่อนข้างดีแล้ว
แต่หากโดนมดจำนวนมากรุมจู่โจมเข้าใส่จากรอบทั่วทิศ ระยะที่สามารถป้องกันได้ด้วยตัวคนเดียวก็จะถูกจำกัดให้เล็กลงมาอย่างไม่อาจเลี่ยง
“ ฮึก! ผมนี่มันงี่เง่าสิ้นดี! กำลังอยู่ระหว่างต่อสู้แล้วในหัวยังคิดถึงแต่ดุ้นอยู่นั่นแหละ! ”
ผมทะยานตรงเข้าไปกะจะช่วยในทันที แต่มีเวลาเพียงชั่วพริบตาแบบนี้จะไปยังไงให้ทัน……! เป็นในยามที่กำลังกัดฟันกรอดอยู่นั่นเลย
จุ๊ด!
“ เอ๊ะ? ”
มีบางอย่างแล่นเฉือนอากาศ แหวกฟ้าผ่าท้องนภา
นั่นก็คือดาบดุ้นคุณชายที่ผมกำอยู่ในมือ
นกเขายักษ์พลันเปลี่ยนแปลงรูปทรงในพริบตา ดั่งกับตอบสนองต่อความรู้สึกของผมเข้าอีกครา
กล่าวคือ เปลี่ยนกลายเป็นคมดาบอันยาวยืดสุดขั้วที่ย่นระยะห่างกับศัตรูให้เหลือ 0 ได้ในชั่วอึดใจ
ซุ่บ!
“ กิ๊!? ”
เปลือกนอกของอาร์เมอร์แอนท์ที่สามารถปัดดาบธรรมดาให้กระเด้งออก กลับถูกกระซวกทะลุอย่างแสนง่ายดาย
หนำซ้ำ อานุภาพของดาบดุ้นคุณชายก็ยังไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
“ ……! ”
พอผมกวาดดาบเป็นแนวนอนในทันที ดาบก็แล่นเฉือนผ่าร่างของอาร์เมอร์แอนท์ได้อย่างไม่มีสะดุดติดขัดใดๆ
กระชากฉีกฝูงมดที่อยู่ข้างเคียงได้ซะหยั่งกับเป็นบัตเตอร์เลยเชียวละ
และที่น่าตกใจก็คือ ดาบดุ้นคุณชายไม่ได้แสดงท่าทางเหมือนกับว่าจะหักเลยแม้ซักนิดเดียว
ตอนนี้ดาบเล่มนี้ได้ถูกลดความหนาของใบดาบลงมาเพื่อนำไปใช้เพิ่มระยะโจมตี คงจะมีขีดจำกัดของมวลสารที่สามารถใช้แปลงสภาพได้ละมั้ง ในปัจจุบันก็เลยบางจ๋อยซะยิ่งกว่านิ้วของผมซะอีก
กระนั้นแล้วก็ยังไม่หักเลยแม้แต่นิด ไม่มีท่าทีจะหักเลยด้วยซ้ำไป
ผมผสานกำลังกับอลิเซีย ใช้ดาบที่เปลี่ยนแปลงรูปทรงได้ดั่งใจไล่ชำแหละฝูงมดให้ร่างแยกออกเป็นชิ้นๆ จนหมดเกลี้ยงไม่เหลือหลอเลยซักตัวเดียว
“ กุ……กี๊—————! ”
ที่ยังคงหลงเหลือ ก็มีเพียงอาร์เมอร์แอนท์ พลาทูนที่โดนผมทุบเข้าไปจนขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้เท่านั้น
คงคิดกะจะสร้างบาดแผลทิ้งเอาไว้เป็นครั้งสุดท้ายละมั้ง มันจึงเค้นกำลังพุ่งแหน่วตรงเข้ามาจากข้างหลังผม ทว่า
“ แปลงรูปทรง ”
คราวนี้ผมเรียกใช้สกิลโดยที่นึกอิมเมจอย่างชัดเจนอยู่ในหัว
เท่านั้นแหละเรียบร้อย ใบดาบของดาบดุ้นคุณชายที่ยืดขยายจนบางจ๋อยพลันแผ่กิ่งก้านสาขางอกเป็นใบดาบเพิ่มออกมาอีก 5 เล่ม แล้วไม่รอช้ายืดขยายไปยังทิศเบื้องหลังของผมในทันตา
ฟิ้ว!
“ กิ๊……!? ”
เสียงร้องยามสิ้นใจของผู้นำแห่งเหล่ามดดังขึ้นเบาๆ ประสานไปกับเสียงสายลมถูกเฉือน
และที่ก้องดังกังวานขึ้นในพริบตาถัดมา ก็คือเสียงของร่างมหึมาที่ถูกผ่าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเช่นเดียวกับเหล่าพลทหารชั้นต่ำ
“ …… ”
การต่อสู้จบลงด้วยชัยชนะอย่างล้นหลาม และท่ามกลางป่าที่กลับมาเงียบเชียบนั่นเอง ที่ผมจำต้องปักใจยอมรับเท่านั้นแล้ว
ดูจากความทนทาน ความแข็ง แล้วก็ความคมที่ย่ำยีเปลือกนอกของอาร์เมอร์แอนท์ได้อย่างกินหมูแล้ว
ก็เห็นกันชัดเจนว่าเจ้าสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสกิลของผมนี้, เจ้าดาบเล่มนี้, มันคืออะดามันไทต์ของแท้แน่นอนเลย
และถึงแม้จะมีขีดจำกัดด้านมวลสาร แต่ก็เหมือนว่าจะเป็นดาบมารที่เปลี่ยนแปลงรูปทรงได้ดั่งใจผมเลยอีกด้วย
ไม่อยากจะเชื่อเลย
ถึงจะเป็นผลลัพธ์จากการใช้สกิลหลากหลายตัวพร้อมกันทีเดียว แต่ก็จะมีสมรรถภาพสูงล้ำผ่าเหล่าเกินไปแล้ว
หากมีพลังนี้ก็คงสู้กับศัตรูส่วนมากได้โดยไม่ต้องลำบากยากเย็น
แต่ว่า……
“ ต่อสู้โดยใช้ดุ้นตัวเองเป็นอาวุธเนี่ยนะ……ไอ้แบบนี้มันคนโรคจิตวิตถารแบบไร้ข้อแก้ตัวเต็มๆ เลยนี่นา……! ”
ดาบดุ้นคุณชายบ้าบออะไรกันเล่า ปัญญานิ่มเห็นๆ เลยไม่ใช่เหรอนั่น
ผมถึงกับเข่าทรุดลงมานั่งกองกับพื้น
นี่มันอัศวินปลัดขิก……ไม่สิเรียก อัศิวลึงค์ เลยก็ว่าได้
ก็รู้สึกสุขใจหรอกนะที่ช่วยทุกคนเอาไว้ได้
แต่เมื่อรับรู้ว่าตัวเองได้ห่างไกลออกจาก <อัศวินศักดิ์สิทธิ์> ที่เฝ้าหลงใหลมาตลอดตั้งแต่วัยยังเล็กไปเรื่อยๆ เข้าแล้ว ผมก็รู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจขึ้นมาใหม่อีกรอบนึงเลย
MANGA DISCUSSION