ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~ - ตอนที่ 6: พันธสัญญานายบ่าว

พริบตาที่ผมตะโกนสุดเสียงว่า “อย่ามองนะ!” เข้าใส่ ก็พลันมีตราสัญลักษณ์อันสุดแสนจะลามกถูกสลักฝังลึกลงไปในบริเวณท้องน้อยของอลิเซีย

 

“ นะ นั่นมันอะไรน่ะ……? ”

 

ในระหว่างที่ผมกำลังสับสนอลหม่านหนักเข้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน อลิเซียก็ได้กล่าวอย่างเยือกเย็นออกมา

 

“ ……ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน แต่เห็นเหมือนว่ามันทำปฏิกิริยากับเสียงของเอริโอ อาจเป็นปรากฎการณ์สกิลลั่นที่มักเห็นได้บ่อยในช่วงที่เพิ่งได้รับ <กิฟต์> มาไม่นานก็ได้…เอริโอ หยุดเขินอายแล้วเอาสเตตัสเพลทมาให้ดูชัดๆ อีกครั้งซิ ”

 

ว่าแล้วอลิเซียก็ขยับตัวเข้ามาหมายจะส่องดูสเตตัสเพลทของผมเข้าอีกรอบ

ทว่า

 

“ ……? ”

 

ตราสัญลักษณ์ที่ถูกสลักไว้กับท้องน้อยของอลิเซียพลันส่องสว่าง

เพียงเท่านั้น ร่างกายของคุณหล่อนก็หันขวับไปยังทิศทางอื่นอย่างกะทันหัน

อลิเซียเอียงหัวอย่างสับสนแล้วจึงหันกลับเข้ามาหาผม แต่พอพยายามจะมองสเตตัสเพลทปุ๊บตราสัญลักษณ์ก็ส่องแสงส่งให้เธอหันขวับไปอีก

 

ราวกับว่าไม่อาจขัดขืนเสียงร้อง “อย่ามอง (สเตตัสเพลท) นะ!” ที่ผมตะโกนออกไปเมื่อตะกี้นี้เลยยังไงยังงั้น

 

“ จะ เจ้านี่มันหรือว่า…… ”

 

นึกได้ถึงสิ่งที่สุดจะเชื่อ ผมจึงลองพูดกับอลิเซียว่า “จะดูสเตตัสเพลทก็ได้นะ” เป็นการทดสอบ

 

“ ……ดูได้แล้ว ”

 

เท่านั้นแหละตราสัญลักษณ์ก็ไม่ส่องแสงอีกต่อไป อลิเซียเข้ามาส่องสเตตัสเพลทของผมได้อย่างปกติแล้วในคราวนี้

 

อำกันใช่มั้ยเนี่ย……ผมว่าเช่นนั้นพลางเบิกตาโพลง แต่เหตุการณ์ที่บังเกิดขึ้นต่อหน้าล้วนเป็นความจริงแท้ทั้งหมด

 

คำพูดว่า “อย่ามอง (สเตตัสเพลท) นะ” ที่ผมตะโกนออกไปในจังหวะก่อนที่ตราสัญลักษณ์จะถูกสลัก

ตราที่ส่องแสงตลอดทุกครั้งที่อลิเซียพยายามขัดขืน

แล้วก็สกิล [พันธสัญญานายบ่าว] ที่ปรากฎขึ้นเหนือช่องสกิลของผม

 

ยากจะเชื่อสุดขีดเลย……แต่พบเจอกับความเป็นจริงดังกล่าวนี้แล้วก็มีสิ่งที่คิดได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

 

“ เกิดเป็นพันธสัญญานายบ่าวขึ้น ระหว่างอลิเซียกับผม……? ”

 

พันธสัญญานายบ่าว

ตามเดิมแล้ว นั่นเป็นคำที่สื่อถึงสกิลที่ผู้ได้รับ <กิฟต์> ซึ่งถูกเรียกว่า <เทมเมอร์> จะสามารถใช้งานเข้าใส่มอนสเตอร์

ต้องไล่ต้อนให้ไม่อาจสู้กลับเอย, ต้องสัมผัสตัวกันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินระดับนึงเอย……หากเคลียร์เงื่อนไขที่มีหลากหลายเช่นนั้นได้แล้วก็จะถือว่าทำสัญญาสำเร็จ ส่งผลให้สามารถสั่งมอนสเตอร์ให้ทำตามที่พูดได้

 

หากใช้ไอเท็มแบบพิเศษและดำเนินขั้นตอนที่ซับซ้อนแล้วต่อให้เป็นมนุษย์ด้วยกันก็สามารถสานพันธสัญญานายบ่าวได้ด้วยเหมือนกัน แต่จะใช้ส่วนใหญ่ไปในทางบังคับควบคุมเหล่าอาชญากรซะมากกว่า…… หากว่านี่เป็นพันธสัญญานายบ่าวจริงงั้นก็มีจุดที่แปลกๆ อยู่

 

“ ……น่าจะจริงตามที่เอริโอพูด คงเป็นพันธสัญญานายบ่าวไม่ผิดแน่ แต่แปลกนะ <อัศวินศักดิ์สิทธิ์เทวะ> มีภูมิต้านทานต่อการโจมตีประเภทนั้นสูงออกจะตาย ”

 

ใช่

ผู้ที่ได้รับ <กิฟต์> สาย <อัศวินศักดิ์สิทธิ์> จะมีภูมิต้านทานการโจมตีทางจิตที่ส่งผลเสียทางสเตตัสแบบนั้นโดยไม่เกี่ยงเลยว่าจะมีสกิลในครอบครองน้อยหรือมาก และอลิเซียที่ถือครองประสิทธิภาพระดับสูงสุดภายในหมู่ <อัศวินศักดิ์สิทธิ์> ก็น่าจะมีภูมิป้องกันเชิงด้านนั้นสูงมากเป็นพิเศษเลย

 

ปกติแล้วต่อให้จะทำยังไงก็ไม่มีทางสานพันธสัญญานายบ่าวได้หรอก

ถ้าอย่างนั้นความเป็นไปได้ที่พอจะคิดออกก็คือ……สกิลที่ปรากฎขึ้นมาของผมมันมีฤทธิ์รุนแรงมากระดับที่ขอแค่ทำตามเงื่อนไขสำเร็จก็เรียบร้อย ต่อให้อีกฝั่งเป็น <อัศวินศักดิ์สิทธิ์เทวะ> แต่ก็สามารถบังคับจับทำพันธสัญญานายบ่าวได้โดยไม่มีข้อแม้เลย

 

……ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก

สมมตินะ ต่อให้มีสกิลที่ทรงอำนาจระดับนั้นอยู่จริง แต่การจะเทม <อัศวินศักดิ์สิทธิ์เทวะ> ให้ได้นี่มันก็สมควรต้องมีเงื่อนไขที่ยากโหดหินสุดๆ ไปเลยถูกมั้ย

แล้วผมไปเคลียร์เงื่อนไขพรรค์นั้นได้เมื่อไหร่ไม่ทราบ

 

“ ไม่สิ……ตอนนี้ที่สำคัญกว่านั้น…… ”

 

เรื่องพวกนั้นคิดไปก็ไม่ได้อะไร

ถึงแม้ตามเดิมแล้วจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เห็นกันอยู่เต็มตาว่าพันธสัญญานายบ่าวได้ถูกทำสำเร็จไปแล้วเรียบร้อย

ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ต้องคิดก่อนเป็นอันดับแรกก็คือเรื่องอื่น

 

“ ต้องรีบยกเลิกสัญญาพรรค์นี้ให้ได้โดยด่วน……! ”

 

เล่นเทม <อัศวินศักดิ์สิทธิ์เทวะ> แบบนี้มันก็เหมือนทำบาปกรรมเย้ยฟ้าดีๆ และที่สำคัญก็คือตัวผมเองไม่อยากจะมีความสัมพันธ์แบบนี้กับอลิเซียด้วย

สภาพที่สามารถสั่งให้ทำอะไรตามคำพูดได้โดยเมินเฉยต่อความสมัครใจของอีกฝ่ายพรรค์นี้ มันไม่ได้มีวี่แววของความสุขเลยซักนิด

 

“ ……อยู่แบบนี้ต่อไปฉันก็ไม่ได้ติดใจนะ ถ้ามีความสัมพันธ์เป็นนายบ่าวก็จะแยกออกห่างจากกันเกินระยะนึงไม่ได้ด้วย เท่านี้ก็จะได้อยู่ด้วยกันกับนายท่านไปตลอดแล้ว ”

“ นายทะ……แต่ผมไม่เอา! ผมอยากจะมีความสัมพันธ์แบบจริงใจกับอลิเซียต่างหากเล่า! ”

“ ……ฮึก ”

 

แม้จะเป็นสถานการณ์ประหลาดเช่นนี้แต่อลิเซียก็ยังทำท่าทางชิลๆ ด้วยสีหน้าเฉยเมยได้อยู่อีก

ผมตะโกนใส่คุณเธอด้วยใบหน้าแดงก่ำไปพลาง เริ่มต้นคิดหาวิธีคลายพันธสัญญา

 

……แต่ว่าควรจะทำยังไงดีล่ะ

ในกรณีที่เทมคนด้วยกัน จะจำเป็นต้องใช้เมจิคไอเท็มแบบพิเศษเช่นปลอกคอหรือกำไลมือเป็นต้น หากผู้เป็นนายทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนแล้วปลดเมจิคไอเท็มออกซะก็จะถือว่าเป็นการคลายพันธสัญญา

แต่ในฝั่งของพวกเรา ถึงอลิเซียจะมีตราสัญลักษณ์แต่ก็ไม่ได้ถูกจับสวมใส่เมจิคไอเท็มใดๆ เลย

 

แม้จะลองเลียนแบบวิธีคลายพันธสัญญาของ <เทมเมอร์> โดยการเงื้อมือไปยังตราแล้วกล่าวออกเสียงว่า ‘คลายพันธสัญญา’ แต่ตราสัญลักษณ์ก็ไม่แสดงปฏิกิริยาเลยซักนิด

ถึงกับไปไม่เป็นไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีเลย

 

“ ในเมื่อเป็นแบบนี้……คงต้องหวังพึ่งไอเท็มทำลายพันธสัญญาอย่างเดียวแล้วมั้ง…… ”

 

มีกลุ่มคนที่ใช้วิชาเทมในทางที่ผิดอยู่เหมือนกัน

จึงมีไอเท็มที่สามารถใช้ทำลายพันธสัญญาได้จากภายนอกอยู่ไงล่ะ เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือผู้คนที่ถูกบีบให้ยอมสวามิภักดิ์ด้วยวิธีการอันไม่ควรน่ะนะ

 

แต่ไอเท็มดังกล่าวก็ถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างค่อนข้างรัดกุมเลย

เพราะตามหลักแล้ววิชาเทมมักจะถูกใช้เพื่อบังคับควบคุมเหล่าอาชญากรไง หากไอเท็มยกเลิกพันธสัญญาถูกแย่งชิงไปขึ้นมาก็มีเสี่ยงที่จะนำไปสู่การหลบหนีของเหล่าอาชญากรน่ะ

 

ดังนั้นผู้ที่สามารถใช้งานไอเท็มดังกล่าวด้วยดุลยพินิจของตนเองอย่างอิสระจึงมีจำกัดเพียงราชวงศ์และขุนนางเพียงหยิบมือ……หรือไม่ก็นักผจญภัยระดับท็อปที่ก่อวีรกรรมผลงานและสร้างความเชื่อใจเอาไว้มากพอประมาณเท่านั้น

 

เนื่องจากตระกูลสการ์เล็ตที่เป็นบ้านเก่าของผมมีหน้าที่หลักคือการพิทักษ์ประเทศ ก็เลยไม่ได้ถูกมอบหมายให้ดูแลไอเท็มยกเลิกพันธสัญญา คุณพ่อบอกเอาไว้ว่าถ้ามีเรื่องลำบากก็ยินดีจะช่วย แต่ถ้าขอร้องให้ได้ใช้ไอเท็มยกเลิกพันธสัญญาแล้วก็มีความจำเป็นจะต้องอธิบายเรื่องราวความเป็นมาให้ตระกูลอื่นได้ฟังอย่างละเอียด

 

หากเป็นแบบนั้นชื่อเสียงของอลิเซียก็จะเสียหายอย่างหนักเลย ด้วยความผิดของคนน้ำหน้าอย่างผมนี่แหละ

 

(เอิ่มแต่ก็ เล่นล่อกันไปซะขนาดนั้นไม่พอ อลิเซียยังกะจะตั้งท้องให้ลูกของผมเต็มเหนี่ยวด้วยอีกนี่จะคิดแบบนั้นไปก็เหมือนไม่ใช่เรื่องแล้วอยู่หรอกนะ……แต่การถูกจับทำพันธสัญญานายบ่าวมันก็ถือเป็นสิ่งที่เสื่อมเสียมากถึงระดับนั้นแหละ)

 

“ ถ้างั้น……ทางเลือกที่พอจะมีหวังก็คงมีแค่ [สร้างชื่อเสียงในฐานะนักผจญภัย] เท่านั้นละมั้งนะ…… ”

 

ช่วงแรกที่ถูกไล่ออกจากนครหลวงก็มีกลุ้มว่าจะใช้ <กิฟต์> ในนาม <มารตัณหา> เพื่อตั้งตัวหาเลี้ยงชีพยังไงอยู่หรอก แต่ถ้ามีอลิเซียที่เป็น <อัศวินศักดิ์สิทธิ์เทวะ> กับผมที่แกร่งขึ้นมาระดับสามารถประลองกำลังชนะอลิเซียคนนั้นได้แล้วละก็น่าสามารถสร้างชื่อในฐานะนักผจญภัยได้อยู่แหละ คิดว่านะ

 

ถึงอย่างนั้น แต่กว่าจะสร้างวีรกรรมผลงานที่มากเพียงพอจะขอใช้ไอเท็มยกเลิกพันธสัญญาได้นี่มันจะกินเวลานานถึงขนาดไหนเลยเชียว……เป็นในระหว่างที่ผมครุ่นคิดอยู่เช่นนั้น

 

“ ……หากคิดจะยกเลิกพันธสัญญา งั้นก็น่ามีการอัพเลเวลเป็นอีกทางเลือกนึง ”

 

อลิเซียที่ไหงถึงเอาแต่จ้องผมตาไม่ละมาตลอดจนถึงเมื่อกี้พลันกล่าวพึมพำเช่นนั้นออกมา

 

“ ……ถึง Lv สกิลจะไม่ขึ้นแต่ถ้าเลเวลของเจ้าตัวอัพขึ้นมาแล้วก็เหมือนว่าจะสามารถทำอะไรได้กว้างยิ่งขึ้นด้วย ไม่แน่อาจทำให้มีสกิลสำหรับใช้ยกเลิกพันธสัญญาปรากฎขึ้นมาก็ได้ ”

“ อ๊ะ จริงสินะ ”

 

จริงด้วยแฮะ

เอ้อ <กิฟต์> ในนาม <มารตัณหา> นี่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อนด้วย ดังนั้นก็เลยไม่รู้แน่ชัดเหมือนกันหรอกว่าจะคลายได้อย่างเข้าทางแบบนั้นรึเปล่า……แต่ก็ควรลองทำทั้งหมดเท่าที่ทำได้ดูเนอะ

 

……เอ้ยแต่ถึงว่าแบบนั้น วิธีการอัพเลเวลของผมนี่สรุปแล้วก็คือต้อง……ทำเรื่องทะลึ่งไม่ใช่เหรอนั่น……

 

เป็นในจังหวะที่ผมหน้าแดงเรื่ออยู่น่ะเอง

 

“ ……เอริโอ ถ้างั้นก็ มาทำกันเถอะนะ…..? ”

“ เอ๊ะ!? ”

 

อลิเซียกระโจนเข้ามาจับผมกดอีกแล้ว!?

 

“ ……เท่าที่เห็นจาก <กิฟต์> และชื่อสกิลสุดอนาจาร บวกกับการเลเวลอัพอย่างก้าวกระโดดแล้ว……คิดว่าเงื่อนไขการเลเวลอัพของเอริโอจะต้อง เป็นการทำเรื่องอย่างว่าแน่เลย ถูกไหม……? ”

 

โป๊ะแตกซะแล้ว!

 

“ ……อยากจะยกเลิกพันธสัญญานายบ่าวกับฉันใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นก็ต้องจัดหนักเอาให้ร้องขอชีวิตเลยสิ…… ”

“ ทำพูดแบบนั้น แต่อลิเซียก็แค่อยากทำเรื่องอย่างว่าเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ!? ”

“ ……แล้วไง? ”

 

ไม่ปฎิเสธ!?

 

เอิ่มผมนี่ก็แบบว่านะ คือไงดี อยากจะจัดกับอลิเซียเยอะๆ เลยเหมือนกันนั่นแหละ ไม่ได้รังเกียจเลยซักนิดเลยหรอก……แต่จะล่อทำกิจกรรม [เสริมความสนิทสนม] กันทั้งวันทั้งคืนในสถานที่ที่ยังอยู่ใกล้กับนครหลวงแบบนี้ได้ซะที่ไหนกันเล่า!

 

จะยังไงก็ตามแต่การอัพเลเวลนับเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องนั้นผมเองก็ไม่ได้กะจะปฏิเสธหรอก แต่คิดว่าพวกเรื่องบนเตียงนี่สมควรทำเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้นแหละนะ ……ว่าตามตรงคือหากถูกสาวน่ารักแบบนี้คอยตามอ้อนตามรุกอยู่ตลอดแล้วผมก็มั่นใจได้เลยว่าตัวเองมีหวังตบะแตกทนไม่ไหวแหง ต้องไม่ลืมว่าผมมีสกิลงี่เง่าชื่อพยศเย็ดอยู่กับตัวด้วยนะเอ้อ……

 

“ อ๊ะ จริงด้วย! ”

 

เป็นตรงนั้นเองที่ผมนึกออก

ตามจริงแล้วไม่อยากใช้อะไรพรรค์นี้หรอกนะ……แต่ถ้ามีพันธสัญญานายบ่าวก็จะสามารถสั่งหยุดอลิเซียได้

 

“ อลิเซีย ยอมให้ทำเรื่องอย่างว่าได้เฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้นนะ! ”

 

ตะโกนสุดเสียง

ทว่า

 

“ อ้าว……? ”

 

อลิเซียไม่เห็นจะหยุดเลย!

พอผมเป็นงงอยู่ อลิเซียก็เขยิบใบหน้าเข้าใกล้ท่อนล่างของผมไปพลาง,

 

“ ……หรือว่า เพราะเป็นสกิลพันธสัญญานายบ่าวของ <มารตัณหา> ก็เลยสั่งให้หยุดทำเรื่องอย่างว่าไม่ได้รึเปล่านะ……เอะเฮะเฮะ สำเร็จ ”

 

วิเคราะห์สกิลของผมออกมาอย่างเยือกเย็นว่างั้น

โกหกใช่มั้ย!?

 

โอ๊ยยปัดโธ่!

เป็นพันธสัญญานายบ่าวที่ไม่รู้วิธีคลายบวกกับมีประสิทธิภาพสุดอันตรายแท้ๆ แต่พอถึงเวลาสำคัญจริงๆ กลับไร้ประโยชน์สิ้นดีเนี่ยนะ แกจะต้องเป็นสกิลที่สุดหาดีไม่ได้ขนาดไหนถึงจะพอใจกัน!

 

พันธสัญญานายบ่าวทำงานขึ้นมาเองมั่งละอะไรมั่งละ……ถ้าไม่รีบตรวจสอบพลังของสกิลแต่ละประเภทอย่างละเอียดโดยด่วนละก็ได้มีหวาดเสียวกันมั่งแหละ

ผมคิดเช่นนั้นไปพลางเค้นสมาธิควบคุมกำหนัดตัวเองเต็มกำลัง แล้วจึงหาทางสลัดตัวหลุดจากการยั่วยวนของอลิเซียได้ในที่สุด