ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~ - ตอนที่ 37: ต้นเหตุของความผิดปกติ
- Home
- ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~
- ตอนที่ 37: ต้นเหตุของความผิดปกติ
รูของอาร์เมอร์แอนท์มีลักษณะคล้ายกันกับดันเจี้ยนประเภทถ้ำอย่างมาก
แต่จะต่างกับดันเจี้ยนก็ตรงที่รูไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากพลังเวทเอนเอียง ทำให้กำแพงไม่ได้ส่องประกาย กลับกันแล้วที่ส่องแสงเฉิดฉายทั่วบริเวณภายในก็คือมอสเรืองแสงที่อาร์เมอร์แอนท์เพาะปลูกเอาไว้
เนื่องจากความทนทานของกำแพงจะหนาบางขึ้นอยู่กับสารคัดหลั่งที่อาร์เมอร์แอนท์ปล่อยออกมา ก็เลยใช้งานเวทมนตร์ที่ทรงพลังอย่างมั่วซั่วไม่ได้ แล้วก็แน่นอนว่าไอเท็มหลบหนีที่ใช้งานได้เฉพาะภายในดันเจี้ยนซึ่งมีพลังเวทเอนเอียงนั้นย่อมใช้งานภายในนี้ไม่ได้อีกเหมือนกัน การพิชิตรูของอาร์เมอร์แอนท์จึงมีระดับความยากสูงยิ่งกว่าการพิชิตดันเจี้ยนธรรมดาที่มีระดับเลเวลเท่ากันซะอีก
ทว่า
“ ……เอริโอ……หัวมุมถัดไปมีศัตรูอยู่ 3 ตัว…… ”
“ เข้าใจแล้ว ย่าาาาาาา! ”
“ หากปล่อยให้เอริออร์คุงจัดการอยู่คนเดียวก็เสียชื่อหัวหน้าหน่วยพิชิตกันพอดีค่ะ! <บัฟแรงช้างสาร> ! ”
“““ กี๊—————!? ”””
อลิเซียที่ช่วยกระซิบบอกข้อมูลซึ่งได้จากสกิลตรวจจับรอบบริเวณให้กับผมอย่างลับๆ
ผมที่สะบั้นหั่นร่างของศัตรูด้วยดุ้นอะดามันไทต์ซึ่งคงตัวอยู่ในสภาพดาบยาว
คุณเรนนี่ที่กวัดแกว่งกระบองเหล็กเข้าบดขยี้ฝูงมด
หน่วยพิชิตบุกทะลวงรูเข้าไปแบบนอนสต๊อปโดยมีพวกผมสามคนนำอยู่หน้ากลุ่ม
สมกับที่เป็นรูขนาดใหญ่ยักษ์ มีมดที่มุ่งหน้าเข้ามาใส่พวกผมอยู่เป็นจำนวนมากพอตัว
แต่คงเพราะเพิ่งจะส่งชนิดกองทัพออกไปได้แหม่บๆ ละมั้ง ทำให้เหมือนจะไม่มีกำลังรบที่ทรงพลังหลงเหลืออยู่แล้ว
พวกผมก็เลยแหวกทางที่ใกล้ที่สุดไปได้โดยไม่มีลำบากลำบนเลยแม้แต่น้อยนิดเดียว
นักผจญภัยที่บุกเข้ามาในรูนั้นมีจำนวนราวๆ 50 คนได้
ทัพแนวหลังจะวิ่งตามเส้นทางที่พวกผมแหวกให้ไปพลาง ปิดทางแยกย่อยด้วยเมือกที่ได้จากการนำเวทมนตร์ของนักเวทน้ำและเมจิคไอเท็มแบบพิเศษมาผสมผสานกัน ถึงจะปิดได้แค่ชั่วคราว แต่ก็พอจะยับยั้งไม่ให้มีมดถล่มเข้ามาในเส้นทางที่ใกล้สุดได้อยู่
และ ภายหลังจากแล่นทะลวงไปตามรูอันกว้างใหญ่ได้ซักระยะ
““ กี๊———! ””
เมื่อมาถึงหน้าห้องวางไข่ที่มีควีนอยู่
เสียงคำรามแหลมสูงก็ดังสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วพื้นที่เปิดกว้าง
เทียบเท่าเลเวล 120
ต่างกับเจเนอรัล เจ้านี่แหละคือพันธุ์สุดแกร่งของอาร์เมอร์แอนท์ที่มีความเป็นเลิศในด้านพลังการต่อสู้แบบเพียวๆ
อาร์เมอร์แอนท์ การ์เดี้ยนสองตัวปรากฎออกมาอยู่เบื้องหน้าพวกผมพร้อมกับออร่าความน่าเกรงขามที่แสนเหนือล้ำ
แต่,
“ ย่าาาาาาาาาา! ”
กระทั่งมันเหล่านั้นก็ยังไม่ใช่คู่มือของพวกผม
ทั้งกรงเล็บขนาดใหญ่ยักษ์ ทั้งคมเขี้ยวแสนน่าหวาดผวา ทั้งเกราะหนาที่มีไว้เพื่อปกป้องควีน—ทั้งหมดมวลล้วนไร้ซึ่งความหมายเมื่ออยู่เบื้องหน้าดาบดุ้นคุณชายของผม
เอี้ยวตัวหลบร่างยักษ์ที่ถลาเข้าคุกคาม แล้วจึงบั่นคอทั้งสองหลุดออกจากบ่าด้วยดุ้นที่แปลงสภาพจนแข็งปั๋ง
“ หะ เฮ้ยๆ……เจ้าหนูเอริออร์มันจะเก่งเกินคนไปแล้วรึเปล่าน่ะ……!? ”
“ การ์เดี้ยนเลยนะยะ ในการพิชิตรูที่ขยายใหญ่แล้ว ไอ้เจ้าพวกนั้นมันถือเป็นอุปสรรคที่น่ากลัวเป็นอันดับหนึ่งเลยเชียวนะ……!? ”
“ ฉันคิดไว้ไม่มีผิดจริงๆ เอริออร์คุงเป็นเด็กหนุ่มที่เลิศสุดในใต้หล้าแล้วค่ะ……แต่งงานกันเถอะนะ ”
เหล่าผู้คนจากทัพแนวหลังต่างพากันส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา
แต่จะประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด
นี่คือรูที่ให้กำเนิดชนิดกองทัพออกมาโดยไม่มีนักผจญภัยคนไหนรับรู้เลยเชียวนะ
ถ้าจะมีตัวตนที่ผิดแผกแหวกสามัญสำนึกรอคอยอยู่เบื้องหน้าก็หาได้เป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใดไม่
รักษาระดับความหวาดระแวงเอาไว้ พวกผมก้าวล้ำเข้าไปในห้องใหญ่ที่มีควีนเฝ้ารอคอย
แต่ความหวาดระแวงดังกล่าวก็ไร้ค่าเปล่าโดยสมบูรณ์
เพราะที่กำลังนอนแผ่อยู่ลึกเข้าไปในห้องขนาดใหญ่ ก็คืออาร์เมอร์แอนท์ ควีนประเภทธรรมดาสามัญเลยนั่นเอง
และมันที่ตัวใหญ่จัดซะจนไม่มีปัญญากระทั่งจะหนีไปยังห้องอื่นตัวนั้น ก็ถูกสกิลโจมตีของคุณเรนนี่เล่นงานจนสิ้นใจตายอย่างแสนง่ายดาย
“ อะไรวะ เห็นเค้าว่าเป็นรูที่มีแต่สิ่งเหนือคาด ไอ้เราก็เลยนึกไปไกลว่าจะมีตัวที่แกร่งผ่าเหล่าแบบไหนโผล่มาซะอีก ผิดหวังเลยนะเนี่ยเงี้ย ”
“ ที่ง่ายแบบนี้ก็เพราะมันเพิ่งส่งชนิดกองทัพออกไปได้แหม่บๆ เองไงกำลังรบเลยเหลือน้อย ……และที่สำคัญก็คือพ่อหนุ่มเอริออร์เค้าแกร่งเกินไปด้วยนั่นแหละ อืมแต่จะยังไงก็เถอะ เคลียร์เรื่องได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ก็ดีแล้วละนะ ”
ว่าแล้ว ทัพแนวหลังก็แยกตัวออกเป็นกลุ่มย่อยๆ เริ่มต้นลงมือกวาดล้างพวกมด
แต่ท่ามกลางระหว่างนั้น ก็มีคุณเรนนี่ที่เป็นหัวหน้าหน่วยกับผู้คนรอบตัวเค้าเท่านั้นที่ต่างออกไป
“ แปลก……มันธรรมดามากเกินไปค่ะ ถ้ามีน้ำยาแค่นี้ก็ไม่เห็นเข้าใจเลยว่าพวกมันขยายรูให้ใหญ่แบบลับๆ ได้อย่างไร จะต้องมีเบื้องลึกอะไรซักอย่างอยู่อีกแน่ ”
ผมเองก็เห็นตรงกัน
ผมก็เลยตัดสินใจ เข้าไปพูดกับคุณเรนนี่ที่เริ่มต้นทำการตรวจสอบศพของควีน
“ เอ่อ ความจริงแล้วมีอะไรที่ผมรู้สึกติดใจอยู่นิดหน่อยน่ะครับ ขอผมไปสำรวจลึกๆ ในรูหน่อยจะได้รึเปล่าครับ? ”
“ ? ก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ยังมีพวกมดหลงเหลืออยู่ภายในรู หากเป็นเอริออร์คุงก็น่าจะรับมือได้อย่างไม่มีอะไรต้องห่วงก็จริง แต่หาคนร่วมไปเป็นเพื่อนเพื่อกันเหนียวไว้ซะจะดีกว่านะ ”
เมื่อได้รับคำอนุญาตจากคุณเรนนี่ที่เพ่งสมาธิจดจ่อกับการชันสูตรพลิกศพ ผมก็มุ่งหน้าลึกเข้าไปในห้องวางไข่ด้วยกันกับอลิเซีย
บริเวณแถวนั้นเป็นทางตรงที่ยืดยาวต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ไม่ใช่ทั้งจุดเก็บตุนอาหารหรือจุดเก็บอุจจาระ แต่เป็นทางเดินลึกลับของแท้
(ตอนที่ใช้ดุ้นตรวจจับโครงสร้างของรัง พบว่ามีทางเดินลึกลับที่นูนออกมาจากภาพรวมของรังอย่างเห็นได้ชัดอยู่หลายจุดเลย แถมยังล้วนเป็นทางเดินที่ยาวมากจนไม่น่าจะแค่ขุดพลาดเฉยๆ ด้วย—ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในทางเดินดังกล่าวนั่นเหมือนกันหรอก……แต่ก็เป็นแค่ทางตันจริงด้วยสินะ)
ลองมาสำรวจดูเพราะสงสัยว่ามันอาจจะเชื่อมกับสถานที่ล่าเหยื่อแบบลับๆ รึเปล่าน่ะ
ทว่าก็ได้ผลตามที่ทราบจากดุ้นตรวจจับก่อนหน้านี้ ทางเดินขาดช่วงไปอย่างสมบูรณ์เข้ากลางคัน
แต่ถ้าอย่างนั้นก็จะยิ่งชวนงงหนักเข้าไปใหญ่
พวกอาร์เมอร์แอนท์มันขุดทางเดินที่ไร้ความหมายพรรค์นี้ไว้เพื่ออะไรกันน่ะ?
และ เป็นในยามที่ผมครุ่นคิดอยู่แบบนั้นเอง
“ ……เอริโอเป็นฝ่ายให้ท่าเองเลยหรือ ดีใจจัง……❤ ”
“ เอ๊ะ!? เอ้ย อลิเซีย!? ”
จู่ๆ อลิเซียก็จับผมกดลงกับพื้นเฉย อะไรมันเป็นยังไง!?
“ ? ก็เห็นจู่ๆ ชวนมายังที่ลับตาคน……เลยนึกว่ากุเรื่องสืบสวนขึ้นมาเพื่อแยกตัวออกจากคนอื่นๆ……แล้วจะมาทำการ ‘สนิทสนม’ กับฉันเสียอีก…… ”
“ ไม่เอาๆ ไม่ทำ! ”
“ ……แต่ว่า เพราะเอริโอให้ความหวัง……ตรงนั้นของฉันก็เลยแฉะพร้อมรบเรียบร้อยแล้ว……ขอหน่อยนะสอดแค่หัวไม่ต้องมิดมากก็ได้…… ”
“ สอดแค่หัวไม่ต้องมิดนั่นมันอะไร๊!? ที่สำคัญถ้าขืนทำอะไรแบบนั้นในที่แบบนี้ เดี๋ยวก็โดนคนเขาจับได้กันพอดีสิ! ”
“ ไม่เป็นไร……จะพยายามกลั้นเสียงเอาไว้ แล้วก็จะใช้ <ตรวจจับรอบบริเวณ> คอยเฝ้าระวังรอบตัว แถมหากใช้ <ข่ายเทพพิทักษ์> กางกำแพงเวทปิดทางตรงนี้เอาไว้แล้ว……ก็จะไม่มีใครหน้าไหนมาขัดได้อีกด้วย ”
อย่าเอาสกิลสุดยอดเยี่ยมของ <อัศวินศักดิ์สิทธิ์เทวะ> มาใช้กับอะไรพรรค์นี้ได้มั้ย!?
และ เป็นในยามที่ผมพยายามห้ามปรามอลิเซียอยู่นั่นเอง
“ ……เอ๊ะ? ”
ที่จู่ๆ ดวงตาของอลิเซียก็เบิกโพลง
แล้วจึงเอ่ยกล่าวสิ่งที่เหลือเชื่อออกมา
“ ……เอริโอ มีอะไรบางอย่าง……อยู่ลึกเข้าไปตรงอีกฟากนึง ของทางตันนี้…… ”
“ เอ๊ะ……? ”
นั่นคือคำพูดของอลิเซียที่น่าจะกำลังเปิดใช้ตรวจจับรอบบริเวณ
ผมที่เกิดลางสังหรณ์ไม่สู้ดีสุดขีดนั้น พลันใช้ดาบดุ้นคุณชายขุดกำแพงในทันใด
และหลังจากขุดต่อเนื่องไปได้ซักระยะ จู่ๆ ปฏิกิริยาตอบกลับก็ขาดหายไป
ผมเตะทำลายกำแพงลงในเปรี้ยงเดียว แล้วจึงพบว่า,
“ ห้ะ……!? ”
ที่แผ่กว้างอยู่ตรงนั้นก็คือพื้นที่ซึ่งปลดปล่อยประกายแสง
ไม่ใช่มอสเรืองแสง
แต่เป็นกำแพงที่ส่องสว่างเพราะพลังเวทเอนเอียง
กล่าวคือ ดันเจี้ยนนั่นเอง
“ ที่นี่มัน……ดันเจี้ยนที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้พื่อใช้เป็นแหล่งเก็บทรัพยากร!? ไหงรูของอาร์เมอร์แอนท์ถึงเชื่อมติดกับที่นี่ได้ล่ะ……!? ”
ภาพอันสุดจะเชื่อได้ทำให้หัวหยุดหมุนไปซักระยะ
แต่ในพริบตาถัดมา ความคิดที่หยุดกึกก็พลันระเบิดบึ้มขึ้นพร้อมกันในคราเดียว
(อย่าบอกนะว่า พวกมันเข้าไปล่ากินมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนตรงๆ เลยงั้นเหรอ!? โดยฉวยโอกาสในตอนที่นักผจญภัยไม่อยู่!?)
(เพราะแบบนั้นอาร์เมอร์แอนท์ก็เลยเพิ่มจำนวนขึ้นมาได้ แต่อยู่มาวันนึงดันเจี้ยนก็ถูกไล่ทำลายไปเกือบหมด พวกมันที่ตกอยู่ในสภาวะอาหารขาดแคลนอย่างกะทันหันจึงก่อตัวกันเป็นชนิดกองทัพแล้วพุ่งออกไปล่าเหยื่อภายนอก……หากคิดแบบนี้แล้วก็พอจะสมเหตุสมผลอยู่!)
(แต่ว่าถ้าจำไม่ผิดแล้ว ดันเจี้ยนจะสามารถเข้าได้จากทางเข้าเท่านั้นไม่ใช่เหรอ……แต่ในความเป็นจริงแล้วรูมันก็เชื่อมกับดันเจี้ยนจริงๆ เลย……จะว่าไปมอนสเตอร์ก็เกิดขึ้นมาในดันเจี้ยนได้ด้วยนี่นะ เพราะแบบนั้นก็เลยพิเศษต่างจากมนุษย์หรือไง!?)
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีข้อสงสัยและข้อสันนิษฐานอื่นๆ ปรากฎขึ้นมาอีก
แต่ลำพังแค่ผมกับอลิเซียคงไม่อาจตรวจสอบให้รู้แน่ชัดไปยิ่งกว่านี้ได้แล้ว
ผมทำการปิดเส้นทางเพื่อป้องกันไม่ให้มีมอนสเตอร์เข้ามา แล้วจึงวิ่งกลับทางเดิมไปพร้อมกับอลิเซียที่พูดอะไรไม่ออก
“ คุณเรนนี่แย่แล้วครับ! เจ้ารูนี้มันทำการเพิ่มกองกำลังด้วยวิธีการที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อนเลย……! ถ้าเกิดว่ายังมีรูอื่นๆ ที่ทำแบบนี้ด้วยเหมือนกันละก็—! ”
เป็นตรงนั้นเองที่คำพูดของผมขาดห้วงไปครั้งนึง
เพราะพวกคุณเรนนี่ที่ยืนล้อมรอบศพของควีนเค้ากำลังตีสีหน้าเคร่งเครียดมากยิ่งกว่าเมื่อตะกี้อีกนั่นเอง แต่คุณเรนนี่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติของฝั่งพวกผมในทันที ก่อนจะยุให้กล่าวรายงานสถานการณ์
และพอผมบอกเล่าถึงสิ่งที่เห็นอยู่ลึกเข้าไปในทางเดิน พร้อมกับเสนอข้อสมมติฐานต่างๆ นาๆ แล้ว,
“ ……ฮึก!? ”
สีหน้าของพวกคุณเรนนี่ก็ซีดเซียวซะมากจนผิดปกติ
และเป็นในจังหวะที่ผมกำลังคิดว่า “อย่าบอกนะ……” กับปฏิกิริยาดังกล่าวอยู่นั่นเอง
“ ……เมื่อครู่นี้ เราตรวจพบ ‘ร่องรอยของปีก’ อยู่ในศพของควีนค่ะ ”
คุณเรนนี่พยายามเรียบเรียงคำพูดออกมาอย่างเยือกเย็น
“ กล่าวคือควีนตัวนี้เป็นรุ่นที่สอง—ชนิดอพยพนั่นเองค่ะ ”
ชนิดอพยพ
นั่นคือชนิดของอาร์เมอร์แอนท์ที่ครอบครองความสามารถโบยบิน ซึ่งจะถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อรังอยู่ในสภาวะอิ่มตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อแตกตัวออกเดินทางไปสร้างรังที่อยู่ใหม่นั่นเอง
และโดยส่วนมากแล้ว เจ้าชนิดอพยพเหล่านี้จะได้รับสืบทอดลักษณะของรุ่นที่หนึ่ง—กล่าวคือเรียนรู้เทคนิคการล่ามาจากรูบ้านเกิดอย่างละเอียด หนำซ้ำยังว่ากันว่าพวกมันจะออกเดินทางไปสร้างรังพร้อมกันกว่าหลายตัวเลยอีกด้วย
พูดง่ายๆ ก็คือ
“ รีบไปรายงานให้ทางกิลด์รับทราบเถอะค่ะ รูแห่งนี้เป็นเพียงยอดของผู้เขาน้ำแข็งเท่านั้น ไม่แน่แล้ว อาร์เมอร์แอนท์ที่มีสติปัญญามากถึงระดับที่กาฝากกับดันเจี้ยนเพื่อขยายกองกำลังอย่างลับๆ มันอาจจะกระจายตัวไปอยู่ทั่วทุกหนแห่งแล้วก็เป็นได้ ”
ไม่ใช่แค่ระดับชนิดกองทัพแล้ว
ภัยพิบัตินับไม่ถ้วนกำลังเก็บสะสมกำลังรบ อยู่ลึกล้ำลงไปในใต้ดินโดยที่พวกผมไม่ได้รับรู้อะไรเลย