ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~ - ตอนที่ 27: พ็อกเก็Oมอนสเตอร์ โกลด์/ซิลเวอร์/เพลน
- Home
- ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~
- ตอนที่ 27: พ็อกเก็Oมอนสเตอร์ โกลด์/ซิลเวอร์/เพลน
ด้วยอำนาจของงอกเงยดุ้นคุณชาย ทำให้ไอ้จ้อนของผมเพิ่มขึ้นเป็น 2 แท่ง
แถมยังรู้ว่าหลังจากงอกไอ้จ้อนใหม่แล้ว นกเขาเก่าจะสูญเสียความสามารถในการแชร์ประสาทสัมผัสร่วมไป กระนั้นแล้วนกเขาเก่าก็ยังคงมีฤทธิ์ของแปลงดุ้นเหมาะเจาะเด็ดดวงอัตโนมัติพ่วงมาทั้งอย่างนั้น ผมจึงเกิดข้อสงสัยอย่างนึงขึ้นมา
การที่นกเขาเก่าภายหลังจากแยกตัวออกยังคงมีฤทธิ์ของสกิลแปลงอัตโนมัติพ่วงมาด้วยนี่ก็หมายความว่า ไม่แน่แล้วอาจจะพ่วงฤทธิ์ของสกิลสุดเสื่อมตลอดมาจนถึงตอนนี้ได้ด้วยรึเปล่า
กล่าวคือ สามารถผลิตดาบดุ้นคุณชายเป็นจำนวนหลายเล่มได้รึเปล่า?
แล้วทีนี้ผมก็เริ่มทำการทดลองต่างๆนาๆ โดยถูกอลิเซียซึ่งฟื้นตัวหายเหนื่อยแบบถี่ๆ จับปล้ำไปด้วยหรอกนะ……แต่จะว่าตรงตามคาดหมายหรือผิดไปจากที่คาดหมายดีละ ผลลัพธ์ที่ได้มันออกจะค่อนข้างครึ่งๆ กลางๆ ซะเหลือเกิน
ก่อนอื่นเลยก็คือแปลงรูปทรงดุ้นคุณชาย สกิลตัวนี้แทบจะไม่มีผลกับนกเขาเก่าที่ไม่อาจแชร์ประสาทสัมผัสร่วม ถ้าพยายามก็พอจะเปลี่ยนรูปทรงได้อยู่หรอก แต่มวลสารไม่ค่อยจะเปลี่ยนไปเท่าไหร่ แถมยังออกมาผิดจากอิมเมจที่ผมคิดเอาไว้อย่างประหลาดเอยอะไรเอย คุณภาพค่อนข้างต่ำเลยน่ะ
อีกด้านนึง แปลงคุณสมบัตินั้นหากเปรียบกันแล้วจะถือว่าใช้ได้ผลในระดับค่อนข้างดี
นกเขาเก่าที่แยกออกจากผมโดยสมบูรณ์ก็สามารถเปลี่ยนกลายเป็นหิน ไม้ และแร่โลหะนาๆ ประเภทได้เช่นกัน
แต่ไม่ว่ายังไงก็แปลงให้กลายเป็นอะดามันไทต์ตัวสำคัญไม่ได้ ผมจึงถึงข้อสรุปว่าภายหลังจากแยกตัวออกโดยสมบูรณ์แล้ว ฤทธิ์ของสกิลต่างๆ ที่มีผลกับนกเขาเก่าจะทำงานในสภาพดาวน์เกรดแน่ะ
ที่แปลงดุ้นเหมาะเจาะเด็ดดวงอัตโนมัติยังคงทำงานได้ตามปกตินี่ อาจจะเพราะเป็นสกิลที่ไม่มี Lv ก็ได้
อุตส่าห์คิดว่าถ้าผลิตดาบดุ้นคุณชายได้เป็นจำนวนมากแล้ว จะสามารถมอบให้อลิเซียใช้งานเป็นการเคลียร์ปัญหาเรื่องอาวุธได้อย่างลงตัวซะอีก……ดูทีแล้วอะไรมันคงไม่ง่ายแบบนั้นแฮะ
……แต่ก็นะ ถ้าจะให้อลิเซียที่เป็น <อัศวินศักดิ์สิทธิ์เทวะ> จับไอ้จ้อนของผมเข้าฟาดฟันต่อสู้แบบนั้นแล้วก็คงงามหน้า ออกจะสมควรต้องยินดีด้วยซ้ำมั้งที่ทางเลือกอันโคตรแหกหลักจริยธรรมพรรค์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นมา
ก็ เป็นการตรวจสอบสกิลที่ค่อนข้างผิดหวังนิดหน่อยหรอก……แต่เป็นตรงนี้เอง ที่ผลการทดลองซึ่งเหมือนเป็นการทดสอบหลักจริยธรรมของผมได้ทะลึ่งบังเกิดขึ้นมา
ถึงแม้ผลจากสกิลดาวน์เกรดจะทำพิษให้นกเขาเก่าไม่อาจแปลงกลายเป็นอะดามันไทต์ แต่มันสามารถแปลงเป็นแร่โลหะนาๆ ประเภท—กล่าวคือแปลงเป็นทองและเงินได้อย่างปลอดภัยไร้ปัญหาเลยไง
หากเป็นแบบนี้แล้วก็แน่นอน ไอเดียที่แล่นเข้าหัวย่อมมีได้เพียงหนึ่ง
<…….ไอ้เจ้านี่ ไม่แน่แล้วอาจจะพอเอาไปขายได้รึเปล่า……? ถ้าขายออกก็จะช่วยในการหางบจัดเตรียมอาวุธให้อลิเซียได้มาก……>
แต่พอคิดถึงตรงนั้นแล้วผมก็สะบัดหัวพร้อมกล่าว “ไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้!”
คนบ้าที่ไหนจะเอาไอ้จ้อนตัวเองไปขายกัน แถมโลหะก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกซื้อนำไปแปรรูปอยู่สูง ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วก็ไม่รู้เลยว่าจะเกิดฟีดแบคแบบไหนอย่างไรกับตัวผมบ้าง
แล้วก็ยังไม่รู้ซักนิดเลยด้วยว่าแปลงคุณลักษณะจะมีฤทธิ์ทำงานคงทนได้นานมากขนาดไหน การเอาไปขายเนี่ยนับว่าเป็นทางเลือกที่ไม่มีทางทำได้จริงเลยละ
เป็นตรงนั้นที่ผมนึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องที่ต้องสำรวจอยู่อีก
“ เพราะใช้งอกเงยดุ้นคุณชายก็เลยมีไอ้จ้อนเพิ่มขึ้นเป็นสองแท่ง……แต่แท่งเก่าที่ไม่มีประสาทสัมผัสเชื่อมแล้วมันจะเสนอหน้าคงอยู่แบบนี้ไปถึงไหนเลยน่ะ……? ”
ผมมองไปยังนกเขาเก่าที่กลิ้งเกลือกอยู่เหนือเตียง
ไม่รู้หรอกนะว่ามีหลักการยังไง แต่ที่ยังคงสภาพโด่ยืนตรงพร้อมสู้ศึกได้แบบนี้ ก็แสดงว่ามีเลือดไหลเวียนอยู่ในเจ้า ‘แท่งเก่า’ นี่ด้วยเช่นกัน กล่าวคือมีการทำเมแทบอลิซึมนั่นแหละ
ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่เน่าในเร็ววันหรอก แล้วแบบนี้เมื่อไหร่มันจะหายไป—ให้ว่าแล้วมันจะหายไปในช่วงที่ผมยังมีชีวิตอยู่รึเปล่านี่ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่รู้คำตอบ
ลองคิดในใจว่า ‘จงหายไป’ ดูแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล นกเขาเก่าที่แยกตัวออกยังคงมีชีพจรเต้นตึกๆ อย่างแข็งขันอยู่ตรงนั้นเหมือนเช่นเคย
“ ถ้ารอเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหายไป งั้นก็จะนำไปสู่ปัญหาว่าจะทำยังไงกับไอ้จ้อนที่เพิ่มขึ้นมาดีสินะ……ชวนกลุ้มในหลายแง่มุมเลยแฮะ ”
กลับกันแล้ว ถ้าเกิดว่ามันจะหายไปในเวลาไม่นาน แบบนั้นก็จะสามารถเพิ่มจำนวนไอ้จ้อนได้อย่างอุ่นใจ แล้วก็จะกำจัดทางเลือกสุดปัญญานิ่มอย่างเอาไอ้จ้อนของตัวเองไปขายออกตลาดพรรค์นั้นให้หายไปจากหัวของผมโดยสมบูรณ์ได้ด้วย
ผมทำการใช้งอกเงยดุ้นคุณชายสร้างไอ้จ้อนใหม่ขึ้นมาเพิ่มอีกสองแท่งเพื่อตรวจสอบดูว่ามันจะหายไปตามกาลเวลารึเปล่า สรุปคือได้ความออกมาว่า ในห้องแห่งนี้มีนกเขาแท้ที่งอกออกมาจากตัวผมโดยตรงอยู่ 1 แท่ง และนกเขาเก่าอีก 3 แท่ง
แล้วจากนั้นผมจึงทำให้นกเขาเก่าทั้งสามแท่งกลายเป็น ‘ไอ้จ้อนทอง’ , ‘ไอ้จ้อนเงิน’ และ ‘ไอ้จ้อนเพลน (ไอ้จ้อนธรรมดาที่ไม่ได้ใช้แปลงคุณลักษณะ)’ แตกต่างกันไปสามดุ้นสามสไตล์ เสร็จแล้วจึงเก็บไว้ในกระเป๋าสัมภาระ
กะจะคอยเฝ้าจับตาดูเป็นระยะยาวน่ะ ว่าไอ้จ้อนที่เพิ่มมาจะคงอยู่ได้นานขนาดไหน และจะเกิดความแตกต่างตามคุณลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่อย่างไร
(ส่วนเรื่องที่ว่าผลิตไอ้จ้อนได้มากสุดกี่แท่งนี่ ไว้ค่อยสำรวจอีกทีหลังจากที่ทราบเงื่อนไขการหายไปของไอ้จ้อนที่แยกตัวออกก่อนก็แล้วกัน ก็ถ้าผลิตเพิ่มออกมาเต็มหมดแล้วทำให้หายไปไม่ได้ขึ้นมา มีหวังได้ฉิบหายวายป่วงกันพอดี……)
แล้วก็
ลองเปลี่ยนหำที่เชื่อมกับระหว่างขาให้กลายเป็นอะดามันไทต์ก่อนแล้วค่อยถอดออก -> ใช้งอกเงยดุ้นคุณชายดูแล้ว แต่พอมีไอ้จ้อนงอกขึ้นมาใหม่ปุ๊บ ดาบอะดามันไทต์ก็หวนกลับเป็นไอ้จ้อนธรรมดาด้วยตัวเอง เป็นตัวยืนยันให้เห็นชัดแน่นอนว่าผลิตดาบดุ้นคุณชายหลายๆ แท่งไม่ได้จริงนั่นแหละ
อืม ในระหว่างที่เรื่องต่างๆ นาๆ ทำเอาผมชักหวาดหวั่นว่าตัวเองโดนไอ้เจ้า <กิฟต์> นี้กัดกร่อนจนปัญญานิ่มไปทีละนิดทีละหน่อยแล้วรึเปล่า วันเวลาก็เคลื่อนผ่านไปได้ราวหลายวันหลังจากที่เริ่มการทดลองตรวจสอบความคงทนของดุ้นแยกออก
ผมที่รู้สึกอึ้งบ้างเพลียบ้างกับไอ้จ้อนสามสหายที่ต่อให้เวลาผ่านไปซักเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววจะหายไปนั้น ได้มุ่งหน้ามายังกิลด์ภายในเมือง
เพื่อขอรับค่าตอบแทนแบบก้อนใหญ่ๆ ทีเดียวจากการพิชิตดันเจี้ยนที่ไล่ถล่มไปในระยะนี้นั่นเอง
ไปแสดงตัวที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ของกิลด์ แล้วจึงเอ่ยทักเข้าหาคุณสาวประชาสัมพันธ์ที่กลายเป็นคนคุ้นหน้ากันไปแล้ว
“ ยินดีต้อนรับค่ะ คุณเอริออร์ แล้วก็คุณแอลลี่ เห็นว่าตอนที่ลุยพื้นที่เกิดดันเจี้ยนระเบิดนี่แสดงฝีมือเฉิดฉายแบบหนึ่งปะทะหมื่นเลยสินะคะ ”
คุณสาวประชาสัมพันธ์เรียกชื่อนักผจญภัยที่ลงทะเบียนไว้ของพวกผมไปพลางเข้าต้อนรับด้วยรอยยิ้มสดใส
“ มารับค่าตอบแทนจากการพิชิตดันเจี้ยนใช่มั้ยคะ? ช่วยรอซักประเดี๋ยวนะ ค่าตอบแทนของทั้งสองคนมันก้อนใหญ่มากเลย…… ”
เป็นช่วงหลังจากที่คุณพี่สาวประชาสัมพันธ์ลุกจากไปได้ซักระยะนึงนั่นเอง
“ อ๊ะ ไม่ได้เจอกันนานนะทั้งสองคน ได้ยินแล้วละ เห็นว่าโชว์ลวดลายฝีไม้ลายมือในแนวหน้าของกลุ่มรับมือดันเจี้ยนระเบิดซะยิ่งใหญ่เลยใช่มั้ย? ”
ที่มีคนส่งเสียงทักลงมาหาพวกผมจากชั้นสองของกิลด์
ก็สงสัยอยู่ว่าใคร ที่แท้ก็คือเด็กสาวผู้มีผมสีแดงเป็นเอกลักษณ์จุดเด่น
โซเนียซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของกิลด์มาสเตอร์ไล่ทักทายเหล่านักผจญภัยคนอื่นๆ ด้วยใบหน้าร่าเริงแจ่มใสไปพลาง วิ่งตรงลงมาหาพวกผม
เป็นการพบกันครั้งแรกตั้งแต่ที่โดนจับไอ้จ้อนแบบตรงๆ เต็มไม้เต็มมือเพราะอุบัติเหตุเล็กน้อย ผมก็เลยออกจะรู้สึกอายขายหน้าขึ้นมานิดๆ หรอกนะ แต่ดูเหมือนว่าโซเนียจะเก่งด้านการปรับอารมณ์พวกนี้ด้วย
เธอเข้ามาชวนคุยอย่างสดใสด้วยท่าทางที่ไม่ต่างไปจากเดิม
“ ป๊ะป๋า—กิลด์มาสเตอร์ก็บอกว่าอยากจะขอบคุณใหม่อีกรอบด้วยละ เห็นว่าเพราะได้ทั้งสองคนช่วยก็เลยน่าจะสามารถคลี่คลายดันเจี้ยนระเบิดได้อย่างรวดเร็วแน่ะ ……เลยอาจฟังดูกะทันหันหน่อยก็จริง แต่พรุ่งนี้จะไปกินข้าวกลางวันกับฉันมั้ย? ทั้งสองคนเพิ่งจะมาที่เมืองได้ไม่ทันไรเอง ฉันจะช่วยนำทางพาเที่ยวในเมืองแล้วแนะนำร้านดีๆ ให้เยอะๆ เลยนะ ”
“ เอ๊ะ จะดีเหรอ? ”
“ แน่นอนสิ ก็นอกจากทั้งสองคนจะเป็นผู้มีพระคุณของฉันแล้ว ยังเป็นผู้มีพระคุณต่อแถวบริเวณนี้ทั้งหมดเลยอีกด้วยนี่นะ กะอีแค่ช่วยนำทางในเมืองแค่นี้เรื่องขี้ปะติ๋ว……ให้พูดแล้วออกจะช้าเกินไปซะด้วยซ้ำนะ ”
โซเนียพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
นับเป็นข้อเสนอที่ช่วยพวกผมได้มากเลย
มีกำหนดการณ์ว่าหลังจากรับค่าตอบแทนในวันนี้แล้ว จะหาเวลาเยียวยาร่างกายจิตใจที่อ่อนล้าจากการหักโหมพิชิตดันเจี้ยนซักพักอยู่พอดี ไปเดินเล่นในเมืองก็คงเป็นการพักผ่อนได้ดีไม่หยอก
……ไม่แน่โซเนียอาจจะได้ยินข้อมูลพวกนี้มาจากกิลด์มาสเตอร์ก่อนแล้วล่วงหน้า ก็เลยสบหาโอกาสเข้ามาชวนกันแบบนี้รึเปล่านะ
“ ขอบคุณนะ ช่วยได้มากเลยละ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ตอนกลางวันขอรบกวนหน่อยก็แล้วกัน ”
“ ตกลงกันแล้วนะ! ถ้างั้นไว้ตอนกลางวันพรุ่งนี้……นี่ร้านก็คงจะคนเยอะเนอะ งั้นเดี๋ยวตอนเช้าๆ จะไปรับในที่พักแรมของทั้งสองคนก็แล้วกันนะ ”
และแล้วผม อลิเซีย และโซเนียจึงสัญญาจะเดินเที่ยวรอบเมืองด้วยกันก่อนจะแยกย้ายหรอกนะ—แต่ยังจำได้อยู่รึเปล่า
ไอ้เจ้า ‘การคุยธุรกิจสุดทะลึ่งซึ่งจะเกิดในไม่ช้า’ ที่เปรยเอาไว้ในตอนที่ผมโดนโซเนียจับเป้าเข้าน่ะ
การสัญญาว่าจะเดินเที่ยวรอบเมืองกับโซเนียในวันนี้นี่แหละ ได้เป็นตัวกำหนดชะตากรรมที่ไอ้จ้อนผมจะต้องประสบพบเจอไปแบบครึ่งๆ แล้ว