ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~ - ตอนที่ 18: ลามกโชคช่วย
“ ขอโทษนะครับ จะเอาวัตถุดิบมาส่งนี่ต้องไปที่ไหนเหรอครับ? ”
จัดการล่าหมาป่าพงไพร แล้วจึงนำหนังจำนวนสิบตัวถ้วนกลับมายังกิลด์
พอถามสถานที่ส่งมอบกับทางประชาสัมพันธ์ปุ๊บ คุณสาวประชาสัมพันธ์เค้าก็ทำสีหน้ามึนงง
“ เอ๊ะ……? กลับมาแล้วเหรอคะ!? ”
ตอนนี้คือช่วงก่อนเย็น
เพราะเดินเล่นชิลๆ สำรวจรอบบริเวณเมืองพ่วงไปด้วยก็เลยคิดว่าน่าจะกลับมาช้าไปหน่อยเลยด้วยซ้ำ แต่เหมือนว่าสำหรับคุณสาวประชาสัมพันธ์แล้วจะไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียวแฮะ
“ ถึงแม้หมาป่าพงไพรจะมีพลังต่อสู้ต่ำ แต่ก็มีนิสัยขี้ระแวงและแชร์เครือข่ายระวังภัยด้วยกันผ่านการจับกลุ่ม ขนาดนักผจญภัยในท้องถิ่นที่มีความชำนาญด้านภูมิศาสตร์ในละแวกใกล้เคียงก็ยังต้องใช้เวลาซักระยะนึงเลยเชียวนะคะกว่าจะล่าเอาขนมาได้…… ”
ถูกของเค้า หมาป่าพงไพรชอบหลบซ่อนอยู่ในจุดที่มองเห็นยากเอย แม้จะเข้ามาอยู่ในสายตาแล้วแต่ก็ปรับตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมจนหาตัวยากเอย มีนิเวศวิทยาที่ทำให้ยากจะหาตัวเจอจริงๆ นั่นแหละ
ในกรณีของพวกผมนั้นได้สกิลตรวจจับรอบบริเวณอันเป็นเลิศของอลิเซียช่วยเอาไว้ เลยคงทำให้ร่นระยะเวลาลงมาได้มากพอสมควรละมั้งนะ
“ แถมหนังนี่ก็……ถูกแทงที่คอเพียงฉึบเดียวเกือบทั้งหมดก็เลยสวยงดงามแทบไม่มีตำหนิเลยนี่คะ! เห็นว่าชนะคุณเรนนี่ได้ก็เลยนึกว่าเป็นสายเอาพลังข่มเข้าว่าอย่างเดียว แต่ที่ไหนได้ขนาดทักษะก็ยังร้ายกาจสุดยอดไปด้วยอีก……! ”
น่าหวาดกลัวที่สุด……คุณสาวประชาสัมพันธ์เค้าส่งสายตาอย่างผวามาแบบนั้น
……พูดไม่ได้
พูดไม่ได้เด็ดขาดเลย เรื่องที่ว่าถึงแม้หมาป่าพงไพรจะรวดเร็วเก่งด้านการหลบหนีแต่ก็เปราะบางอ่อนแอ หากโดนแรงของพวกผมเข้าไปก็คงแหลกกระจุยไม่เหลือซาก ดังนั้นก็เลยใช้แปลงรูปทรงดุ้นคุณชายที่ทำให้เปลี่ยนรูปร่างได้ในชั่วพริบตาจิ้มทะลวงเข้าจัดการในฉึกเดียวนั่นน่ะ……
แม้จะมีรู้สึกอึมครึมนิดหน่อยร่วมด้วย แต่พวกผมก็นำเอาหนังไปยังแหล่งรับส่งมอบที่ได้เค้าช่วยนำทางให้
เนื่องจากเป็นของคุณภาพงดงามก็เลยได้รับเงินค่าตอบแทนที่สูงขึ้นมาพอควร เห็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดแล้วผมก็เอามือไฮไฟว์กับอลิเซีย
เป็นในจังหวะนั้นเอง
“ เป็นไงล่ะจริงอย่างที่ฉันว่าเอาไว้ไม่มีผิด! กะอีแค่จัดหาหนังหมาป่าพงไพร คิดไว้แล้วเชียวว่าถ้าเป็นสองคนนั้นละก็ต้องจัดการเรียบร้อยแล้วกลับมาภายในชั่วอึดใจแน่นอนเลย! ”
ชั้นสองของกิลด์
บานประตูที่เชื่อมกับห้องทำงานของกิลด์มาสเตอร์พลันเปิดอ้าออกอย่างรุนแรง พร้อมกับมีเสียงอันร่าเริงแจ่มใสดังลงมาจากตรงนั้น
พอแหงนมองขึ้นไปยังเสียงที่คุ้นหูปุ๊บ,
“ โซเนีย? ”
ผู้ที่วิ่งทะยานลงบันไดมาอย่างสดใส ก็คือเด็กสาวผมแดงที่ผมกับอลิเซียได้ช่วยเหลือเอาไว้ในตอนที่เพิ่งมาถึงเมืองนี้
เธอที่เป็นลูกสาวคนเดียวของกิลด์มาสเตอร์นั้นดูจะมีความนิยมลามมาถึงภายในกิลด์ด้วย เหล่านักผจญภัยหน้าโหดที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ต่างพากันส่งเสียงแซว “โย่ ยัยหนูทอมบอย!” , “ก่อนหน้านี้ซวยน่าดูเลยนะ!” เอยอะไรเอยมาไม่ขาดสาย
พอโซเนียที่มีภาพลักษณ์เหมาะเหม็งกับอิมเมจสาวชาวเมืองนิสัยร่าเริงเป๊ะๆ ทำการกล่าวทักทายคืนให้แต่ละคนอย่างประณีตแล้ว เธอก็วิ่งเหยาะๆ ตรงเข้ามาหาพวกผม
“ ไม่เจอกันนาน ขอโทษด้วยนะ หลังจากนั้นมาก็ต้องพาพวกบาบาร่าไปรักษาเอย อธิบายสถานการณ์ในตอนที่อาร์เมอร์แอนท์ปรากฎขึ้นมาเอย ร่วมทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเอย กินเวลาไปนานมากพอดู……ก็เลยมาพูดขอบคุณล่าช้าไปซะได้ มีคิดจะไปหาถึงที่พักแรมอยู่เหมือนกันนะ แต่เห็นคุณพ่อบอกว่าทั้งสองคนมาที่กิลด์ก็เลยคิดว่ารออยู่ที่นี่ซะน่าจะได้เจอกันแน่นอนยิ่งกว่าน่ะ ”
โซเนียยิ้มอย่างแจ่มใสไปพลาง เอ่ยกล่าวด้วยเสียงค่อยเพื่อไม่ให้โดยรอบได้ยิน
จากนั้นจู่ๆ ก็ทำตัวอึกอักเหมือนยากจะพูดต่อ แต่ท้ายสุดก็กล่าวออกมาราวกับตัดสินใจเด็ดขาดว่า
“ แล้วทีนี้ คือว่า อยากจะขอขอบคุณดีๆ อีกรอบน่ะ……ถ้าไม่รังเกียจละก็คืนนี้ มากินข้าวเย็นที่บ้านฉันมั้ย……? ”
“ เอ๊ะ……? ”
ได้อาวุธมาจากคุณเวพุสบ้างละ ให้คุณกอร์โดที่เป็นกิลด์มาสเตอร์ช่วยใช้เส้นสายเรื่องข้อจำกัดแรงก์คำร้องให้บ้างละ คุณที่ได้รับกลับมาจากการช่วยเหลือโซเนียนั้นมีมากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหว
คิดว่าแค่นี้ก็ได้รับการตอบแทนมากพอเกินไปแล้วด้วยซ้ำหรอก แต่สำหรับโซเนีย สภาวะปัจจุบันที่ตัวเองไม่ได้ตอบแทนอะไรตรงๆ เลยนี่มันคงจะชวนอึดอัดอย่างยิ่งเลยเป็นแน่
ด้วยเหตุนั้นเอง พวกผมจึงตัดสินใจยอมรับน้ำใจของโซเนียด้วยความยินดีละ
ยามค่ำวันนั้น
“ ถ้างั้นก็ จะนำทางไปที่บ้านนะ! ”
โซเนียเดินทางมารับถึงที่พักแรมของพวกผม และพอติดตามไปจนถึงบ้านของเธอแล้วผมกับอลิเซียก็ถึงกับอึ้งไปเลย
เพราะอาคารที่ถูกเรียกขานว่าเป็นบ้านของโซเนียหลังนั้น มันช่างหรูหราใหญ่โตจนแทบเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคฤหาสน์ของขุนนางเลยน่ะเอง
ที่ตั้งก็อยู่ในจุดที่ใกล้ใจกลางของเมือง คิดว่าแค่ตำแหน่งกิลด์มาสเตอร์อย่างเดียวคงไม่อาจจะตั้งเรือนหรูระดับนี้ได้หรอก
“ ตามจริงแล้วจะให้รถม้าไปรับถึงที่พักแรมเลยก็ได้อยู่หรอก……แต่ทั้งสองคนไม่อยากทำตัวเด่นใช่มั้ยล่ะ? ”
โซเนียเอ่ยกล่าวกับพวกผมที่ตกตะลึง
ดูเหมือนเธอจะเลือกเดินถ่อมาหาเพราะคำนึงถึงเหตุผลส่วนตัวของพวกผม ถ้าเกิดไม่ติดอย่างนั้นก็คงจะถึงขั้นเรียกรถม้าให้มารับถึงที่ไปแล้ว ชักเข้าข่ายอำนาจขุนนางไปเรื่อยๆ ทุกที
อย่าบอกนะว่าโซเนียมีความเกี่ยวข้องอะไรกับขุนนาง—พอคิดเช่นนั้นพร้อมตั้งท่าระแวงขึ้นมาเล็กน้อย,
“ อ๊ะ จะว่าไปแล้วก็ยังไม่ได้บอกเลยสินะ ความจริงแล้วคุณแม่ของฉันเป็น No.2 ของกิลด์การค้าในละแวกแถบนี้น่ะ ขึ้นอยู่กับแขกที่ทำธุรกิจด้วยแล้วบางครั้งก็จำต้องทำการต้อนรับตามมาตรฐานของขุนนางบ้างเหมือนกัน ก็เลยสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นโดยมีกิลด์ร่วมเป็นเจ้าของด้วยครึ่งนึงน่ะ งืมมแต่ส่วนมากแล้วก็มีแค่ครอบครัวฉันใช้กันอยู่บ้านเดียว พูดแล้วก็ออกทำนองใช้อำนาจในทางที่ผิดชวนให้รู้สึกอึดอัดตันใจนิดหน่อยเหมือนกันหรอกนะ ”
โซเนียอธิบายให้ฟังอย่างติดตลก
อ๋อเข้าใจละ เป็นแบบนั้นน่ะเอง
เคยได้ยินว่าหากเป็นนักธุรกิจระดับท็อปคลาสก็คงมีคุยเรื่องการค้ากับขุนนางเป็นปกติ ดังนั้นจะครอบครองคฤหาสน์แบบนี้เพื่อใช้ในการต้อนรับก็ไม่ได้แปลก
หากไม่ได้มีสายเลือดข้องเกี่ยวกับขุนนาง ข้อมูลของผมกับอลิเซียก็คงจะไม่แพร่สะพัดไปหรอก ค่อยโล่งใจไปได้เปราะนึง เอ้อแต่ให้ว่ากันแล้วโซเนียก็คงไม่ใช่คนปากเปราะแบบนั้นหรอกมั้ง
……ว่าก็ว่าเถอะ โซเนียเป็นคนใหญ่คนโตยิ่งกว่าที่คิดไว้ซะอีกแฮะ มีพ่อแม่เป็นถึงกิลด์มาสเตอร์กับ No.2 ของกิลด์การค้าเลยเชียวเหรอ
เป็นในระหว่างที่ก้าวเข้าไปในบ้านของโซเนียพลางตกตะลึงกับหลายๆ เรื่องนั่นเอง ที่ผมพลันคิดได้ขึ้นมา
“ อ๊ะ แต่จะทำยังไงดีล่ะ ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้มากินข้าวในคฤหาสน์หรูแบบนี้ ก็เลยไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าดีๆ เหมาะกับสถานที่มาด้วยเลย ”
โซเนียก็ไม่ได้กำหนดอะไรมาเป็นพิเศษ เพราะงั้นก็คงไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องการแต่งกายมากมายอะไรหรอกก็จริง แต่เพราะติดความเคยชินในสมัยที่อยู่ในนครหลวงก็เลยทำให้รู้สึกว่าตัวเองทำเรื่องไม่สมควรสุดๆ ลงไปแน่ะ
และสงสัยจะเดาได้ถึงท่าทางของผมละมั้ง,
“ อ๊ะ ขอโทษนะฉันก็ลืมนึกไปเลย ถ้าอย่างนั้นก็เปลี่ยนชุดที่นี่ได้นะ มีชุดให้เลือกเยอะแยะเลยเชียวละ ”
โซเนียจึงเสนอเช่นนั้นออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ อืม ถ้าแบบนี้ก็น่าโอเคอยู่มั้งนะ ”
ผมที่ถูกพามายังห้องพักแขกกำลังพยักหน้าไปพลางตรวจดูชุดสูทที่คุณเมดช่วยเลือกให้อยู่หน้ากระจก ตอนนี้อลิเซียก็คงกำลังเปลี่ยนชุดแบบเดียวกันอยู่ในอีกห้องนึงละมั้ง
ตั้งแต่ที่ถูกไล่ออกจากนครหลวงมาก็ยังผ่านไปได้ไม่นานเท่าไหร่เลย แต่ก็รู้สึกเหมือนไม่ได้สวมชุดแบบนี้มานานมากพอตัวเหมือนกัน
“ แถมชุดแบบนี้นี่ก็นะ น่าจะเคยใส่เข้าพบปะกับคนใหญ่คนโตมาหลายต่อหลายครั้งตลอดมาตั้งแต่ตอนยังเด็กเลยแท้ๆ แต่มายันตอนนี้แล้วก็ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่เลย มันออกจะอึดอัดหรือว่าไงดี…… ”
พูดเองมันก็ยังไง แต่คิดว่าตัวผมนี่มันช่างมีนิสัยไม่เหมาะกับการเป็นขุนนางเอาซะเลยในหลายๆ ด้าน
คิดแล้วก็ยกชาที่คุณเมดเตรียมไว้ให้ขึ้นมาจิบเป็นการผ่อนคลายความประหม่า
“ อึ้ก!? ร้อน!? ”
ชุดสูทที่ไม่ได้สวมนานมันทำเอาประหม่าขนาดไหนเลยเชียวนั่น
ผมเผลอซุ่มซ่ามทำน้ำชาหกเข้าซะงั้น
แถมยังหกราดชุดสูทที่ยืมมาจากโซเนียเลยด้วยนะ
“ เหวอ แย่แล้ว! ต้องรีบถอด! ”
ก็อาจขึ้นอยู่กับประเภทของชาด้วยหรอก แต่โดยหลักแล้วคราบจะติดหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเช็ดทำความสะอาดรวดเร็วพอมั้ยนี่แหละ ผมรีบดึงกางเกงที่เปื้อนชาลงมาอย่างไว
มันเป็นในฉับพลันนั้นเลย
“ เอริออร์? ถ้าเปลี่ยนเสื้อเรียบร้อยแล้วงั้นช่วยคุยเล่นกับฉันไปจนกว่าเค้าจะจัดเตรียมอาหารเสร็จทีได้—เอ๊ะเสียงตะกี้มันอะไรน่ะ!? เอริออร์ไม่เป็นอะไรนะ!? ”
คงจะเดินมาถึงใกล้ๆ ห้องที่ผมอยู่พอดีละมั้ง
โซเนียที่เหมือนจะได้ยินเสียงร้องของผมกับเสียงดังตึงตังๆ ก็เลยพุ่งทะยานเข้ามาภายในห้องเข้าให้
““ อ๊ะ ””
พริบตานั้น ดวงตาของโซเนียกับผมที่กำลังพยายามถอดกางเกงอยู่ใกล้ประตูก็ได้สบกัน
และสายตาของโซเนียก็พลันเคลื่อนลงไปยังท่อนล่างของผมเข้าให้ในทันใด
ใช่แล้ว ท่อนล่างของผมที่ลนลานสุดขีดจนเผลอดึงกางเกงในลงมาพร้อมกับกางเกงน่ะนะ
“ ฮย้าาาาาาาาาาาาาาาา!? ”
เท่านั้นแหละ โซเนียที่หน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาในบัดดลพลันแผดเสียงกรี๊ดลั่นพลางจ้องมองตรงนั้นของผมไม่ละสายตา
“ อะ อะไรน่ะ……ของผู้ชายมันใหญ่มากถึงขนาดนี้เลยเหรอ……!? อ๊ะ ขะ ขอโทะ ฉันคือฉะ ได้ยินว่าเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วน่ะสิก็เลย!? ”
โซเนียลุกลี้ลุกลนจะก้าวออกไปจากห้องอย่างตะลีตะลาน
แต่โซเนียก็สับสนไปไม่เป็นสุดขั้วหัวใจระดับที่เลี้ยวเอี้ยวตัวกลับแบบดีๆ ก็ยังทำไม่ได้—ส่งผลให้สะดุดขาล้มทับลงมาทางฝั่งผมเฉยเลย!?
“ ว๊าากกกกกกกก!? ”
“ อ๊าาายยยยยยย!? ”
หากเป็นกายเนื้อของผมที่เอาชนะเหนือ <นักรบแรงยักษ์> ได้แล้วละก็ การจะรับตัวเธอเอาไว้ก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็น
แต่ตัวผมในตอนนี้กำลังดึงกางเกงกับกางเกงในลงมาอยู่ตรงข้อเท้ากลายเป็นท่วงท่าแบบครึ่งๆ กลางๆ และที่สำคัญสุดเลยก็คือความช็อคจากการถูกเห็นไอ้หนูมันได้ทำให้หัวผมเข้าสู่สภาวะแพนิคโดยสมบูรณ์
เสียศูนย์ทั้งอย่างนั้นจนกลายเป็นอยู่ในสภาพเหมือนโดนโซเนียจับกดลงกับพื้น
“ มะ ไม่เป็นอะไรนะโซเนีย!? เอ้ย……!? ”
ผมที่พยายามจะโอบตัวโซเนียให้ลุกขึ้นมานั้นพลันแข็งทื่อ
เพราะไอ้จู๋ของผมนั่น มันกำลังถูกหุ้มอยู่ด้วยสัมผัสที่แสนอ่อนนุ่มน่ะเอง
“ อะ……อะ……!? ”
มองไปแล้วก็พบว่าโซเนียกำลังจับงวงช้างโทงเทงของผมอยู่อย่างเต็มไม้เต็มมือ
ลมหายใจเร่าร้อนชุ่มชื้นดังฟู่ฟู่ลอยเข้ามานวดคลึงฟักแฟงแท่งใหญ่ได้ก็เนื่องด้วยเหตุที่ใบหน้าของเธออยู่ติดเกือบจะแนบชิดกับไอ้นั่น
“ ตะ ตรงนั้นของเอริออร์……นี่มัน สัมผัสที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนนี่ กลิ่นที่ไม่เคยดอมดมมาก่อนนี้……ทะ ทำไมหัวมันมึนตึ๊บไปหมด……!? ”
“ โซเนีย!? ”
ผมรีบร้อนถอยผละออกห่างจากโซเนียที่คงจะสับสนอลหม่านกับเหตุการณ์ที่สุดจะกล่าว
จากนั้นจึงรีบดึงกางเกงขึ้นมา แล้วก้มหัวลงขอโทษขอโพยสุดฤทธิ์สุดเดช
“ ขะ ขอโทษ! เผลอทำชาหกก็เลยรีบร้อนถอดเสื้อผ้าออกน่ะ! เรื่องเสื้อผ้านี่เดี๋ยวจะชดใช้ให้แน่ๆ! แล้วก็ขอโทษด้วยนะทำให้ไปจับอะไรแปลกๆ เข้าซะได้! ”
“ ห้ะ!? อะ ฉะ ฉันก็ด้วยขอโทษนะ!? ”
โซเนียที่ได้ยินคำขอโทษของผมนั้นพลันลุกขึ้นมาดั่งกับเพิ่งได้สติ
“ เสื้อผ้าอะไรนั่นช่างมันเถอะ! ฉันเองก็เหมือนมีบุญได้จับตรงนั้นของเอริออร์คุงเลยด้วยนี่นะเรียกได้ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม!? ให้พูดแล้วออกระดับที่ฉันสมควรต้องจ่ายเงินให้เลยซะด้วยซ้ำไปอีกต่างหาก!? ”
สงสัยต่างฝ่ายจะสติไม่อยู่กับเนื้อตัวกันทั้งคู่ละมั้ง เลยเหมือนได้ยินเค้าพูดอะไรที่โคตรบ้าบอสติแตกออกมาอยู่เลยยังไงชอบกล
แต่แล้วพวกผมก็หาทางดึงเอาสติกลับคืนมาได้ก่อนที่อลิเซียและคุณเมดจะวิ่งมาถึง แล้วจึงร่วมกันทำการเช็ดน้ำชาที่เปื้อนเปรอะด้วยกันทุกคน
ผมเปลี่ยนชุดครั้งที่สองโดยทำเนียนไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่รับประทานอาหารโดยไม่มีอุปสรรคติดขัด
หลังจากนั้น
เพราะได้คุณกอร์โดที่อารมณ์ดีกับวาทศิลป์ของคุณแม่โซเนียที่ดูท่าจะเชี่ยวชาญด้านการต้อนรับแขกร่วมด้วย การรับประทานอาหารก็เลยดำเนินไปอย่างชื่นมื่นตั้งแต่ต้นจนจบ และทางผมกับอลิเซียก็ดื่มด่ำกับมื้อเย็นที่ไม่ได้หรูหราจนเกินไปได้พอตัวเลยเหมือนกันหรอก……
แต่ตัวผมในตอนนี้ยังไม่ได้รู้ซักนิด ว่าเหตุการณ์ในวันนี้มันจะสืบเนื่องไปยัง ‘การคุยธุรกิจ’ อันสุดทะลึ่งตึงตังมากมายถึงขนาดนั้นในภายภาคหน้า