ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~ - ตอนที่ 14: การทดสอบมดลูกครั้งที่ 1
- Home
- ขับไล่ไอ้มารตัณหา ~เพราะได้รับกิฟต์สุดอนาจารเลยโดนไล่ออกจากนครหลวง แต่แค่ทำเรื่องลามก (รวมช่วยตัวเองด้วย) ก็เวลอัพแบบพรวดพราดเฉย~
- ตอนที่ 14: การทดสอบมดลูกครั้งที่ 1
<นักรบแรงยักษ์> เลเวล 80
คำพูดดังกล่าวทำเอาผมตะลึงงัน
เพราะในฐานะผู้ทดสอบที่จะต้องขับไล่ไสส่งเหล่าผู้ที่ไม่มีแววแล้ว เลเวลระดับนี้มันสูงลิ่วเกินเหตุไปอย่างเห็นได้ชัดเลยนั่นเอง
หากมองผิวเผินเพียงตัวเลขก็อาจเห็นว่ามีเลเวลเท่ากับอาร์เมอร์แอนท์ พลาทูน แต่เลเวลของคนกับมอนสเตอร์นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาเปรียบเทียบกันอย่างเรียบง่ายแบบนั้นได้หรอก
ก็เหมือนกับที่อลิเซียที่เพิ่งได้รับ <กิฟต์> มาหมาดๆ สามารถเอาชนะอาร์เมอร์แอนท์เลเวล 40 ได้อย่างง่ายดายนั่นแหละ, สิ่งที่จะมีอิทธิพลต่ออำนาจการต่อสู้ของคนเราอย่างใหญ่หลวงก็คือความสามารถแฝงและการผสมผสานใช้งานสกิลของ <กิฟต์> ต่างหาก
<นักรบแรงยักษ์> นั้นถือเป็นคลาสที่มีความเป็นเลิศสูงในฐานะ <กิฟต์> สายต่อสู้ระยะประชิด แถมถ้ายังมีเลเวลถึง 80 อีกนี่ก็แสดงว่าคงเป็นผู้มากฝีมือพอสมควรเลยเชียวละ
เคยได้ยินมาว่าผู้ทดสอบเป็นงานที่ไม่ค่อยทำเงินซักเท่าไหร่ แล้วไหงผู้รับตำแหน่งนั้นถึงได้เป็นคนเก่งที่ยังสาวแบบนี้ซะได้ล่ะ……
แต่ถึงจะยังไง นี่ก็เป็นเพียงบททดสอบเพื่อลงทะเบียนเป็นนักผจญภัย
ไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องชนะให้ได้ลูกเดียวเท่านั้นซะหน่อย แถมยังเหมาะเหม็งจะใช้ทดสอบพลังอีกด้วย
ในเมื่อหวังจะหากินในฐานะนักผจญภัยสืบต่อไปในภายภาคหน้า จึงมีความจำเป็นต้องเก็บดาบดุ้นคุณชายที่ดูท่าจะโดดเด่นเป็นที่ฮือฮาเอาไว้เป็นไพ่ตายเท่านั้น
ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้รู้ว่าลำพังแค่อาวุธใหม่กับกายเนื้อของ <มารตัณหา> ที่ขึ้นเป็นเลเวล 75 จะสามารถไปไกลได้ถึงไหน
เป็นในจังหวะที่ผมกำลังฮึกเหิมอยู่นั่นเอง
“ จะพูดเอาไว้ก่อนเลยแล้วกันค่ะ ”
ด้านหลังของกิลด์
ณ ลานโล่งที่ถูกใช้เป็นสนามซ้อมขนาดย่อมๆ นั่นเอง ที่ผู้ทดสอบซึ่งยืนประจันหน้ากับพวกผม—คุณเรนนี่ เอมเมอรัลด์พลันอ้าปากกล่าวขึ้นดั่งกับเป็นการย้ำเตือนอีกครั้ง
“ ฉันน่ะไม่ถนัดเรื่องการออมมือซักเท่าไหร่ อย่างเมื่อวานก็เพิ่งจะน้ำเดิ……ใส่แรงมากเกินไปจนเผลอตัวทำให้เหล่าเด็กหนุ่มผู้รับการทดสอบโดนฟาดจนแขนหักไปพร้อมกับอาวุธเลยเชียว เท่านั้นไม่พอ แม้จะถูกตัดสินว่าไม่ผ่านเกณฑ์ไปแล้วแต่ก็ยังดึงดันตามออดอ้อนอย่างดื้อรั้นไม่เลิกลา ก็เลยพลั้งมือสั่งสอนความน่ากลัวของนักผจญภัยให้ฝังลึกเข้าไปในร่างกายของพวกเขาอย่างประณีตบรรจงเลยค่ะ……ทั้งที่ฉันซึ่งเป็นผู้ลงมือเองก็รู้สึกปวดใจเป็นเหมือนกันแท้ๆ นะ ดังนั้นจะขอถามซ้ำใหม่อีกครั้ง คิดจะเข้ารับการทดสอบจริงน่ะหรือคะ? ”
นี่คนคนนี้เค้ามาเป็นผู้ทดสอบไปทำไมกันน่ะ?
ถือเป็นคู่มือทดสอบพลังที่ยอดเยี่ยมไปเลยก็จริง แต่มันก็ชักจะน่ากลัวนิดหน่อยแล้วเหมือนกันนะครับเงี้ย……
สงสัยเสียงในใจมันจะโผล่ออกมาทางสีหน้าละมั้ง คุณพี่สาวประชาสัมพันธ์ที่รับหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินจึงอ้าปากกล่าวขึ้นอย่างเงียบๆ
“ ผู้ทดสอบเป็นตำแหน่งที่จะถูกสัญญารั้งตัวเอาไว้เป็นเวลานาน หนำซ้ำยังไม่ค่อยได้เงินรางวัลมากมายนักจึงทำให้ไม่ค่อยมีใครคิดอยากจะทำกัน แต่ในแง่นี้ ไม่รู้ทำไมคุณเรนนี่ถึงได้อาสาจะรับตำแหน่งด้วยตัวเองอยู่ตลอดทุกปี ก็เลยถือเป็นบุคลากรที่เลอค่าเป็นอย่างยิ่งเลยสำหรับกิลด์ค่ะ แถมเค้ายังช่วยทำหน้าที่บดขยี้จิตใจของผู้รับการทดสอบที่หัวรั้นได้อย่างแน่นอนเลยด้วย ขยี้ไปพร้อมกันกับกระดูกน่ะนะ ”
คุณพี่สาวประชาสัมพันธ์บอกเล่าเรื่องราวเบื้องลึก แล้วจึงพูดคำเตือนครั้งสุดท้ายว่า “คือว่า ถ้าจะเลิกก็ยังทันนะคะตอนนี้……?” ราวกับเป็นห่วงเป็นใยพวกผมเลยก็มิปาน
แต่ผมก็ตอบกลับเค้าไปว่า “ขอบคุณนะครับ” แค่นั้น พร้อมก้าวเข้าไปยืนกลางสนามซ้อมด้วยตัวคนเดียวดั่งกับเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงของตนเอง โดยทิ้งให้อลิเซียอยู่ตรงมุมของสนามซ้อมทั้งอย่างนั้น
เท่านั้นแหละคุณเรนนี่พลันแสดงความแปลกใจให้ลอยเด่นขึ้นมาเหนือโฉมหน้าอันงดงาม
“ ? มีอะไรหรือคะ? การทดสอบนี้มีไว้เพื่อดูกำลังโดยรวมของปาร์ตี้ ดังนั้นจะเข้ามาพร้อมกันทีเดียวทั้งสองคนเลยก็ได้นะคะ? หากไม่ทำเช่นนั้นก็คงสู้ไม่เป็นสู้หรอก ”
“ ไม่ครับ ไม่เป็นไร ”
ผมตอกกลับคำพูดของคุณเรนนี่อย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ ก็ไม่ได้คิดว่าจะชนะได้หรอกครับ……แต่พอดีผมอยากจะลองสู้กับคุณแบบตัวต่อตัวดูน่ะ ”
สู้แบบตัวต่อตัวนี่แหละจะเหมาะสมกับการทดสอบพลังที่สุด และถ้าทำได้ก็ไม่อยากจะเปิดเผยพลังความสามารถของอลิเซียให้เห็นเป็นวงกว้างในที่สาธารณะด้วย หากตัวผมคนเดียวสามารถแสดงฝีมือได้มากเพียงพอ งั้นอลิเซียที่เป็นสมาชิกปาร์ตี้เดียวกันก็น่าจะผ่านเกณฑ์ไปด้วยนั่นแหละ—ด้วยเหตุผลเช่นนี้เอง ผมจึงได้ท้าใส่เดี่ยวกับคุณเรนนี่
และแล้ว ในพริบตาที่ผมตั้งดาบซึ่งได้รับจากคุณเวพุสขึ้นมาเตรียมพร้อม
บรรยากาศที่ห่อหุ้มรอบตัวคุณเรนนี่ก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและไร้ความปรานีมากเข้าไปอีกระดับ
“ ให้มันได้อย่างนี้สิ……ถ้าไม่หักกระดูกซักเจ็ดแปดซี่ก็คงไม่เจียมกะลาหัวสินะคะเด็กคนนี้ ย่อมได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มการทดสอบกันเลย! ”
ว่าแล้วสิ่งที่คุณเรนนี่กระชากขึ้นมากำเอาไว้ด้วยสองมือ ก็คือกระบองเหล็กขนาดยักษ์สองท่อน
ไม้ตะบองที่ด้ามถือเรียวปลายหัวหนาใหญ่ แบบเดียวกับที่มักเห็นก็อบลินพกพาอยู่บ่อยๆ นั่นละ
แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ทำจากไม้ มันคืออาวุธหนักที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากเหล็กไหลที่ได้รับการอบคืนตัวอย่างดีเลยต่างหาก
อาวุธสารพัดประโยชน์ที่อาศัยน้ำหนักมหาศาลเพื่อทุบทำลายอาวุธและเครื่องป้องกันของอีกฝ่าย หนำซ้ำยังใช้ป้องกันตนเองได้ด้วยความแข็งแรงทนทานที่เพียบพร้อมต่างจากดาบ
คุณเรนนี่กุมอาวุธสุดทรงอำนาจที่จะสามารถเริ่มต้นใช้ได้ก็ต่อเมื่อครอบครองพละกำลังของ <นักรบแรงยักษ์> ไว้กับตัว แล้วจึงพุ่งปรี่กระชั้นชิดเข้ามาในจังหวะเดียวกับที่การต่อสู้เปิดฉากเริ่มต้น เร็วมากซะจนคิดไม่ถึงเลยว่าสองมือกำลังกำกลุ่มก้อนมวลโลหะเอาไว้
“ ยอมรับธรรมเนียมของนักผจญภัยแต่โดยดีซะเถอะ ”
ฟู่มม—!
กระบองเหล็กที่คุณเรนนี่ยกสูงขึ้นบนได้ถูกเหวี่ยงทุ่มลงมาด้วยระดับความเร็วที่เหมือนกวัดแกว่งกิ่งไม้ หากโดนเข้าไปอย่างจังก็คงเจ็บหนักไม่ใช่เล่นแน่นอน
ทว่า
(มองเห็น—!)
การมองเห็นของผมที่เลเวลอัพนั้น สามารถมองตามการโจมตีนั่นได้อย่างชัดเจนเลย
วันวานของการฝึกปรือตนเองที่บ้านเกิดได้ทำให้ร่างกายขยับออกไปเองแบบเกือบๆ อัตโนมัติ
ผมแสดงท่วงท่าเหมือนจะเอาดาบรับกระบองเหล็กที่ไล่ตรงเข้ามา แต่แท้จริงแล้วใช้ดาบปัดเพื่อให้การโจมตีแฉลบออกไปเป็นแนวเฉียงแทน
ตู้มมมมม!
กระบองเหล็กที่พลาดเป้าถูกฟาดลงกระแทกพื้น ส่งให้กิลด์สั่นสะเทือน
ในจังหวะเดียวกัน คุณพี่สาวประชาสัมพันธ์ที่รับบทกรรมการตัดสินก็ล้มก้นจ้ำเบ้าเหมือนทานทนแรงกระแทกไม่ไหวไปพลางเปล่งเสียงหลุดออกมา
“ ห้ะ……!? ปัดแรงช้างสารของคุณเรนนี่ได้……!? บะ บังเอิญรึเปล่า……!? ”
คิดว่าหากเป็นกรณีปกติแล้ว เท่านี้ก็คงจะถือว่าผ่านเกณฑ์แล้วละมั้ง
แต่คุณพี่สาวประชาสัมพันธ์เค้ายังคงอึ้งค้างไม่สร่างจากความตกตะลึง หนำซ้ำคุณเรนนี่ก็ยังกล่าวออกมาด้วยแววตาทึ่ง,
“ นี่มัน……! สงสัยเพราะประจำตำแหน่งเป็นผู้ทดสอบนานเกินไป สายตาดูคนก็เลยเสื่อมสภาพสินะคะนี่ ”
แววตาของเค้าพลันเปลี่ยนแปลง
ดวงตาที่จับจ้องมายังผมข้างนั้นไม่ใช่แววตาที่กำลังจ้องมองเด็กไม่รู้ประสีประสาอีกต่อไป แต่กลายเป็นแววตาที่เพ่งตรงเข้าใส่ผู้ฝึกปรือศิลปะการต่อสู้อันเท่าเทียมกัน
ดั่งกับเป็นการไถ่โทษที่ดูหมิ่นตลอดมา พละกำลังได้เอ่อล้นทะลักออกมาจากทั่วร่างของคุณเรนนี่
“ ฮ่าาาาาาาาาาา! ”
คุณเรนนี่ทุ่มกระบองเหล็กลงมาพร้อมเสียงคำรามที่ดังสนั่นรุนแรง
ความเร็วและอานุภาพนั้นสูงล้ำระดับที่การโจมตีครั้งแรกเทียบไม่ติดฝุ่น
อย่าว่าแต่จะกันด้วยอาวุธเลย หากเป็นปกติแล้วแค่โดนเฉี่ยวไปนิดๆ ก็เพียงพอจะทำให้อาวุธหรือร่างกายแหลกเละได้สบาย
แต่การโจมตีดังกล่าวก็ยังไม่วาย ถูกผมที่เลเวลอัพขึ้นมามองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยอยู่ดี
หากจะมีปัญหาก็ตรงที่……
(อานุภาพสูงขนาดนี้……ต่อให้ปัดไปแต่แขนกับอาวุธของผมจะทนรับไหวรึเปล่า……!?)
ต่อให้มีความเสี่ยงที่จะถูกบีบให้ต้องตั้งรับป้องกันตัวสถานเดียวก็ไม่เป็นไร ทุ่มสุดกำลังเน้นหลบเอาไว้ก่อนคงจะปลอดภัยกว่า
แต่ถ้าทำแบบนั้นแล้ว งั้นผมจะเข้าเผชิญหน้ากับผู้เก่งมากความสามารถระดับนี้ไปทำไมกันเล่า
ผมทะยานเข้ารับการโจมตีของคุณเรนนี่อย่างตรงๆ ซ้ำใหม่อีกครั้ง
กรี๊กกกกกกกกก!
“ ขุ่ก—! ”
ใบดาบแล่นเสียดสีกับกระบองเหล็ก ส่งประกายไฟลอยปลิวว่อนอย่างยิ่งใหญ่
กำลังปัดอยู่แท้ๆ แต่แรงกระแทกที่แสนหนักหน่วงกลับถาโถมเข้าใส่สองมือ
ทว่า
ดาบที่ได้รับมาจากคุณเวพุสกับกายเนื้อของผมที่เลเวลอัพ ก็สามารถทานทนแรงกระแทกดังกล่าวได้ตลอดรอดฝั่งอย่างไม่ยากเย็น
“ ฮึก!? กระทั่งการโจมตีนี้ก็ยังจะปัดได้อย่างไร้บาดแผลอีกหรือคะ!? ”
คุณเรนนี่เปล่งเสียงออกมาอย่างตกตะลึง
พริบตานั้น ผมก็ทุ่มกำลังใส่เข้าไปในสองขา
“ ย่าาาาาาาาาาาาาาาา! ”
ทะยานตรงอัดเข้าใส่คุณเรนนี่ที่ถูกปัดการโจมตีที่ใกล้เคียงกับเอาจริงและกำลังเซเสียศูนย์อยู่เพียงเล็กน้อย กระแทกกระทั้นอัดการโจมตีด้วยดาบสั้นตรงเข้าไปใส่บริเวณเครื่องป้องกันของเค้า แต่
กรี๊กกกกกกกกกก!
กระบองเหล็กอีกท่อนก็ได้เข้ามารับการโจมตีของผมเอาไว้
(แย่แล้ว!)
หากถูกบีบให้ต้องดันประชันกำลังทั้งแบบนี้ละก็ เค้ามีหวังได้ใช้เรี่ยวแรงของ <นักรบแรงยักษ์> แสดงความเป็นใหญ่ซัดผมลอยปลิวไปเลยแน่
ผมคิดเช่นนั้นแล้วกำลังจะดึงอาวุธกลับมาอยู่หรอกนะ……
“ เอ๊ะ? ”
แต่ในพริบตาให้หลัง ผมก็เผลอตัวเปล่งเสียงเซ่อๆ ออกมา
เพราะดาบที่สมควรน่าจะถูกเรี่ยวแรงของ <นักรบแรงยักษ์> หยุดไว้ได้ชะงัดนักนั่น—มันไม่ได้มีท่าทีว่าจะหยุดนิ่งแม้แต่น้อยนิดเลยยังไงล่ะ
“ ห้ะ—!? ”
และแล้วในชั่ววินาทีที่คุณเรนนี่ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความตื่นตะลึงยิ่งกว่าผมได้เปล่งเสียงดั่งกับจะสื่อว่า “เป็นไปไม่ได้” ออกมานั่นเอง
วู่มม! ดาบของผมที่ถูกเหวี่ยงเป็นวงกว้างสุดแขน ก็ได้เป่าร่างคุณเรนนี่ให้ปลิวกระเด็นไปอย่างรุนแรง
“ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!? ”
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
คุณเรนนี่กระแทกเปรี้ยงเข้ากับรั้วสูงที่ล้อมรอบกิลด์เอาไว้
รั้วระเบิดแหลกกระจุย ร่วงกราวลงมาทับร่างของเค้าซะจนหายลับไปจากการมองเห็นเลยเชียว
…………………………เอ๊ะ?