“ ……ได้อาวุธสุดดีเลิศมาแบบงงๆ เฉยเลยนะ ”
“ อือ……ถึงจะยังไงแต่มันก็นะ อยากจะเอากลับไปคืนร้านในทันทีเดี๋ยวนี้เลยเชียวแหละ…… ”
ผมเดินตามเมืองไปด้วยกันกับอลิเซีย พลางรู้สึกใจเต้นตึ๊กๆ นิดหน่อยกับอาวุธสุดดีเกินตัวที่ได้รับมา
หากเทียบกับดาบดุ้นคุณชายที่กลายเป็นอะดามันไทต์ของผมแล้วก็ยังถือเป็นอาวุธในขอบเขตสามัญสำนึกอยู่หรอก แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นของเกรดสูงที่มีความทนทานและอานุภาพสูงล้ำซะจนดาบทั่วไปเทียบไม่ติดฝุ่นเลยเชียวละ
หนำซ้ำคุณเวพุสยังถึงขั้นพูดว่า “เรื่องบำรุงรักษาก็ให้ฉันจัดการเอง แล้วก็ถ้าเตรียมวัสดุมาให้ก็จะรับทำอาวุธและเครื่องป้องกันใหม่ให้ในราคาถูก ขอมาได้เลยนาไม่ต้องมามีเกรงจงเกรงใจ” อะไรแบบนั้นด้วยอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเอาอกเอาใจกันสุดขีดไปเลย
แต่ก็นะ จะปฏิเสธน้ำใจของคนที่พูดถึงขนาดนั้นมันก็ดูไม่ดี
ผมจึงจำใจยอมรับความเมตตาของคุณเวพุส แล้วจึงก้าวเท้าตรงไปยังที่หมายถัดไป
“ ที่นี่คือกิลด์นักผจญภัยของเมืองนี้สินะเนี่ย ”
สถานที่ซึ่งผมกับอลิเซียมุ่งหน้ามาเป็นที่ถัดไป ก็คืออาคารอิฐขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้ขอบเมือง
กิลด์นักผจญภัย
นั่นก็คือสถาบันที่จะเกลี่ยงานให้กับเหล่าผู้คนนอกสังกัดกองทัพที่หมายจะรับงานเช่นปราบมอนสเตอร์หรือเก็บวัตถุดิบด้วยตัวเองแน่ะ
หากอยากจะได้รับคำอนุญาตใช้งานไอเท็มยกเลิกพันธสัญญานายบ่าว ก็จะต้องสร้างความมั่นใจและผลงานที่เหมาะสมในฐานะนักผจญภัยขึ้นมาให้ได้
ถึงไม่ใช่แบบนั้นแต่พวกผมก็จำต้องหาค่าครองชีพเลี้ยงปากท้องอยู่ทุกวัน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเริ่มทำงานในฐานะนักผจญภัยให้ได้โดยเร็วมากขึ้นเพียงหนึ่งวันก็ยังดี
เงินทุนที่รับมาจากคุณพ่อก็ใช่ว่าจะมีให้ใช้ได้ไปตลอดซะหน่อยนี่เนอะ
แกร้งแกร้ง
ดันเปิดประตูไม้ด้วยกันกับอลิเซีย
จุดที่ไม่ว่าเมืองไหนก็มีเหมือนกันก็คือ ภายในกิลด์จะมีร้านเหล้าถูกสร้างติดอยู่ด้วย
สายตาราวกับจับจ้องประเมินราคาของเหล่าผู้คนที่ตรงอิมเมจกลุ่มอันธพาลแบบเป๊ะๆ มันทิ่มแทงเข้ามาอยู่เหมือนกัน แต่เอาเป็นว่าแสร้งเหมือนไม่ได้สังเกตไปก่อน
ผมกับอลิเซียเดินตรงดิ่งไปยังโต๊ะประชาสัมพันธ์ แล้วจากนั้นจึงเปล่งเสียงเข้าหาคุณพี่สาวโต๊ะประชาสัมพันธ์โดยที่รู้สึกประหม่าเล็กๆ ร่วมด้วย
นี่แหละคือ ‘สิ่งที่อยากทำให้แล้วเสร็จในวันนี้อันดับ 2’
“ ขอโทษนะครับ อยากจะลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยน่ะครับ ”
“ ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยลงชื่อนักผจญภัยและสเตตัสเพลทเข้าไปในคริสตัลทางด้านนี้ด้วยค่ะ ”
ผมกับอลิเซียทำตามคำชี้แนะของคุณพี่สาวประชาสัมพันธ์ โดยการก้าวไปอยู่เบื้องหน้าเมจิคไอเท็มทรงคริสตัลที่ถูกตั้งเอาไว้ตรงมุมโต๊ะ
เอาละ ก่อนอื่นเลยก็ต้องลงชื่อนักผจญภัยใช่มั้ย……ประเด็นคือไอ้การลงชื่อนี่น่ะ จะใช้ชื่อปลอมหรือชื่อเล่นแทนไปก็ได้เหมือนกันแหละ
เหมือนจะเป็นผลลัพธ์จากปัจจัยต่างๆ นาๆ ที่มาผสมผสานรวมกันน่ะนะ อย่างเช่นถูกเหล่าผู้มีอำนาจกดดันให้ใช้ระบบแบบนี้เพื่อป้องกันไม่ให้นามบ้านเกิดของขุนนางที่ถูกขับไล่แพร่กระจายเป็นที่รู้กันไปในวงกว้างเอย จงใจใช้ระบบแบบนี้เพราะเห็นว่าต่อให้เป็นคนที่มีภูมิหลังอดีตไม่ดีแต่ก็ยังจะถือเป็นกำลังรบอันเลอค่าสำหรับกิลด์ได้เอยอะไรเอย
เพราะแบบนั้นเลยมีผลข้างเคียงทำให้คนที่หนีออกจากบ้านอย่างอลิเซียสามารถทำงานโดยที่หลบซ่อนตัวได้ง่ายมากขึ้นก็จริง แต่ก็มีไม่บ่อยครั้งนักหรอกที่ขุนนางจะหลบหนีออกจากบ้าน ดังนั้นก็เลยเหมือนว่าจะไม่ถูกเห็นเป็นปัญหามาตลอดยันปัจจุบันแน่ะ
ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้คนมีอิมเมจของนักผจญภัยเป็นพวกอันธพาลนอกกฎหมายไปกว่าครึ่ง
ก็ตามนั้นแหละ ผมจึงลงชื่อปลอม ‘เอริออร์’ ที่ใช้กับพวกโซเนียลงไป
ตามมาด้วยอลิเซียที่อ้าปากเพื่อจะลงชื่อต่อ
“ ……ภ ร ร ย า ข อ ง เ อ ริ โ—— ”
“ แอลลี่! ตั้งไว้ว่าแอลลี่แล้วกันนะ! ”
ผมหยุดอลิเซียที่พยายามจะลงชื่อนักผจญภัยที่โคตรจะอิสระเกินเหตุได้แบบฉิวเฉียด แล้วจึงกุชื่อที่พอน่าจะเข้าท่าขึ้นมา วะ หวิดไปแล้วไง……
เกือบจะได้อับอายในอีกความหมายที่ต่างจาก <มารตัณหา> แล้วไงละผม
เอาละกลับมากันใหม่……ถัดไปก็ลงสเตตัสเพลท
ตรงนี้เองก็เหมือนกัน หากอยากจะเลี่ยงการเผยตัวตน ก็สามารถเลือกได้ว่าจะแสดงข้อมูลไหนบ้างให้กิลด์ได้รับทราบ
ในกรณีของพวกผม ข้อมูลที่เลือกแสดงให้เห็นนั้นมีเพียงเพศสภาพกับอายุเท่านั้น แน่นอนว่า <กิฟต์> นี่คือเก็บเป็นความลับ
เกี่ยวกับเลเวลนี่ตัวเลขของผมมันออกจะผิดแผกแปลกจากชาวบ้านเค้าด้วยไง ก็เลยอยากจะปิดเอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นเรื่องใหญ่น่ะนะ
สเตตัสเพลทนั้นเป็นสิ่งที่ติดตัวเราในฐานะบัตรประจำตัวประชาชนที่ไม่อาจปลอมแปลงด้วย ดังนั้นลงข้อมูลเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการยืนยันผลงานและรับเงินค่าตอบแทนแล้ว
ประเด็นคือ ในตอนที่ยื่นเรื่องขอใช้ไอเท็มยกเลิกพันธสัญญานี่เห็นว่าจะมีความจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน ดังนั้นตัวตนแท้จริงของผมก็คงจะต้องถูกรู้เอาในตอนนั้นอยู่ดีหรอก……แต่ก็ช่วยไม่ได้แหละ
ทีนี้พอผมกับอลิเซียที่ลงข้อมูลเสร็จเรียบร้อยกลับมายังโต๊ะประชาสัมพันธ์ปุ๊บ
“ 14 ปี……นอกจากชื่อกับเพศสภาพแล้วที่เหลือเว้นว่างหมด……คิดจะลงทะเบียนแค่นี้จริงหรือคะ ”
ท่าทางคำพูดของคุณพี่สาวโต๊ะประชาสัมพันธ์ที่ได้รับข้อมูลจากคริสตัลนั้น พลันฟังดูถากถางรุนแรงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
และแล้วเค้าก็ป่าวประกาศออกมาเช่นนี้ดั่งกับเป็นการผลักไล่ไสส่งพวกผม
“ ในกรณีที่ลงทะเบียนด้วยข้อมูลแค่นี้ พวกคุณจะต้องเข้ารับบททดสอบแบบศึกจริงตามวิธีที่ทางเราเป็นผู้กำหนดนะคะ? ”
มาแล้ว
ผมตอบรับว่า “ครับ” ให้กับสถานการณ์ที่เป็นไปดังที่คาดเอาไว้
“ ……อาจจะบาดเจ็บหนักเลยก็ได้นะคะ ต่อให้เกิดอะไรขึ้นทางเราก็จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นนะ? ”
“ ไม่เป็นไรครับ ”
ไม่หวั่นไหวกับแม้กระทั่งคำยืนยันที่ถูกกล่าวออกมาด้วยวาจาเหมือนข่มขู่ ผมพยักหน้ารับรู้อย่างไม่ลังเล
วงการนักผจญภัยนั้นจะถูกผูกโยงกับความฝันที่จะเป็นเจ้าของตำนานการผจญภัย ตำนานวีรบุรุษ และความหวังที่จะรวยทางลัดได้ง่าย
ดังนั้นเด็กที่เหลิงได้ใจเพราะเพิ่งได้รับ <กิฟต์> มาหมาดๆ หรือไม่ก็คนที่ไร้ญาติพี่น้องจึงมักจะใช้ประโยชน์จากการไม่เปิดเผยตัวในตอนลงทะเบียน ทำการปกปิด <กิฟต์> ที่อ่อนแอหรือสเตตัสที่กำลังอยู่ระหว่างพัฒนาเพื่อหวังจะรับงานที่หนักหนาเกินกำลังตัวเองอยู่ไม่น้อย
เพราะฉะนั้น ในกรณีที่ข้อมูลสเตตัสที่แสดงให้เห็นตอนลงทะเบียนมีน้อยเกินไป ทางกิลด์ก็จะขอตรวจวัดความสามารถในรูปแบบของการทดสอบ และในบางกรณีแล้วก็อาจจะจงใจเล่นแรงเพื่อหวังขยี้หัวใจความฝันให้เหลวแหลกเลยด้วย
เพื่อรักษาชื่อเสียงของกิลด์ ประคองคุณภาพของนักผจญภัย และป้องกันไม่ให้มีใครต้องตายโดยใช่เหตุน่ะ
“ เฮ้ยๆ อย่าดีกว่าม้างหนูๆ~ ”
“ ผู้ทดสอบของที่นี่โหดกว่าที่อื่นเป็นไหนๆ เลยเชียวนา~! ”
“ ก็เป็นถึงท่าน <นักรบแรงยักษ์> เลเวลสูงเลยนี่เนาะ ”
“ ถ้าอยากได้เงินนักหนางั้นคืนนี้ก็มาบ้านพี่สิจ๊ะ เดี๋ยวจะเอ็นดูให้อย่างดีเล้ยย! ”
เหล่านักผจญภัยที่เฝ้ามองดูพวกผมก็พากันส่งเสียงเย้ยหยันเข้ามา
กระนั้นแล้วผมก็ยังไม่ยอมขยับจากโต๊ะประชาสัมพันธ์ แสดงเจตจำนงที่จะลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง
เพราะตั้งแต่ที่รู้ว่ามีความจำเป็นต้องปกปิด <กิฟต์> , ผมก็ได้คาดการณ์เอาไว้เรียบร้อยแล้วละว่าจะต้องเจอการรับน้องแบบนี้น่ะ
เป็นในจังหวะนั้นเอง
“ เห็นได้ยินเสียงฮือฮาก็นึกว่ามีเรื่องใหญ่อะไรแต่ที่ไหนได้ ช่วงหลังจากพิธีประทาน <กิฟต์> ก็เป็นซะแบบนี้ทุกทีเลย……มีเด็กที่คิดว่าเป็นนักผจญภัยมันง่ายโผล่มาเป็นรายที่เท่าไหร่แล้วคะเนี่ยวันนี้ ”
ที่มีผู้หญิงหุ่นเพรียวรูปโฉมงดงามกระโดดลงมาจากชั้นสองของกิลด์
เผ่าฮิวแมนอายุช่วง 20 ปีต้นๆ ที่มีเส้นผมสีฟ้าและบรรยากาศที่ดูสงบใจเย็นเป็นเอกลักษณ์จุดเด่น
“ เฮ่อ ฉันเองก็ไม่อยากทำเรื่องโหดร้ายมากนักหรอกนะคะ แต่ก็ต้องมาดูกันว่าเด็กคนวันนี้จะต้องถูกหักกระดูกซักกี่ซี่ถึงจะตัดใจยอมแพ้ได้ ”
โพล๊ะ!
“ ฉันคือผู้ทดสอบชื่อเรนนี่ เอมเมอรัลด์ เลเวล 80—ถ้าจะกลับก็รีบซะในตอนนี้นะคะ? ”
คุณเรนนี่บีบกำแพงของกิลด์—หรือก็คืออิฐให้แหลกคามืออย่างแสนง่ายดาย พลางส่งรอยยิ้มหน้าบานตรงมาให้ทางผม
MANGA DISCUSSION