เซี่ยอันหรานยังคงเอียงศีรษะมองฉู่เสี่ยวเสี่ยวแสดง จนกระทั่งเฉิงเสี่ยวเถียนมองไปที่นาฬิกาข้อมือ และเตือนเบาๆว่า:“ อันหราน พวกเราควรไปได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะไปถึงสถานที่ถ่ายทำไม่ทัน ฉันไปพูดกับผู้กำกับจินก่อน……….”
เซี่ยอันหรานพยักหน้าเบาๆ และขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ความเป็นจริงเซี่ยอันหรานปวดหัวจริงๆเมื่อได้ยินว่าเธอกำลังถ่ายทำรายการเรียลลิตี้ เมื่อรอให้เฉิงเสี่ยวเถียนกับเซี่ยอันหรานนั่งด้วยกันแล้ว เมื่อเห็นเซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว เฉิงเสี่ยวเถียนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วถามว่า:“ อันหราน คุณเป็นอะไร ?”
“ไม่มีอะไร”เซี่ยอันหรานยิ้มและพูดว่า:“ ฉันคิดว่าฉันเพิ่งเคยเจอกลุ่มรายการนี้ครั้งแรก ฉันควรจะเตรียมอาหารให้พวกเขาสักหน่อย โอ้ ใช่แล้ว เฉิงเสี่ยวเถียนคุณมีช่องทางติดต่อของหมิงเยี่ยนเฟยไหม ? คุณไปติดต่อกับหมิงเยี่ยนเฟยหน่อย ดูว่าพวกเขาเตรียมอะไร ไม่ต้องให้กองถ่ายของพวกเราทางนี้เตรียมแล้ว พวกเขาทางนั้นไม่เตรียมตัว ก็ทำให้พวกเขาทางนั้นรู้สึกน่าเกลียด”
เฉิงเสี่ยวเถียนพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า:“ แต่ว่า แต่ว่าฉันไม่มีช่องทางติดต่อพวกเขา ”
“ฉันมีช่องทางติดต่อของหมิงเยี่ยนเฟย แต่ว่า……”เซี่ยอันหรานหยุดลงชั่วขณะ จากนั้นยิ้มและพูดว่า:“ช่างเถอะ ฉันไปถามพี่เชี่ยนหรงดีกว่า”
“ไม่ต้องแล้ว”เฉิงเสี่ยวเถียนพูดด้วยรอยยิ้ม:“ฉันไปก่อนล่ะ งานก็คืองาน ควรเป็นฉันที่ประสานงานกับผู้ช่วยของอีกฝ่าย อันหราน ฉันก็เคยเป็นผู้ช่วยให้คนดังมามากมาย คุณอย่าคิดกับฉันแบบนี้”
ดังที่เฉิงเสี่ยวเถียนพูด เธอกระพริบตาไปที่เซี่ยอันหรานอีกครั้ง “เพียงแต่เซี่ยอันหรานถ้าคุณไม่เต็มใจที่จะติดต่อกับหมิงเยี่ยนเฟย เกรงว่าไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องสาธารณะและเรื่องส่วนตัว อันหราน ถ้าหากว่าหมิงเยี่ยนเฟยชอบคุณจริงๆ คุณจะไม่พิจารณาหน่อยเหรอ ?”
เซี่ยอันหรานเม้มริมฝีปากล่างของเธอ และส่ายหัวเบาๆ:“ เขาเป็นคนดีมาก แต่เขาไม่มีวาสนากับฉัน”
“เอ๊ะ ? คุณไม่ชอบเธอเหรอ ?”เฉิงเสี่ยวเถียนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ:“คิดไม่ถึงจริงๆว่าโลกนี้ยังมีผู้หญิงที่เมื่อเผชิญกับหมิงเยี่ยนเฟยแล้วจะไม่ใจเต้น คุณรู้ไหม ? ดาราสาวมากมายในวงการบันเทิงล้วนชอบหมิงเยี่ยนเฟย ”
เซี่ยอันหรานถอนหายใจเบาๆ และพูดยิ้มอย่างขมขื่น:“ไม่มีทางแล้วจริงๆ ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ฉันบังคับเธอไม่ได้จริงๆ”
เซี่ยอันหรานยิ้มเบาๆและพูดว่า:“เมื่อคุณมีคนที่ชอบในอนาคต คุณก็จะรู้เอง”
“โอ้……….”เฉิงเสี่ยวเถียนพยักหน้า:“เอ๊ะ ? อันหรานคุณหมายความว่าคุณมีคนที่ชอบแล้ว ?”
เซี่ยอันหรานผงะไปชั่วขณะ ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะรั่วไหลสิ่งที่อยู่ในใจออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็ไม่ได้บอกชัดว่าตัวเองชอบใคร และเดาว่าเฉิงเสี่ยวเถียนก็คงเดาไม่ได้ว่าจะเป็นโม่เซ่าเหยียน เซี่ยอันหรานพยักหน้าเบาๆ:“ใช่มีคนที่ชอบแล้ว แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ชอบฉัน”
อาจจะเป็นเพราะเรื่องของความรัก จึงกระตุ้นความสนใจของพวกผู้หญิง เฉิงเสี่ยวเถียนเบิกตากว้างทันที:“ อันหราน คุณแอบมีความรักเหรอ เป็นคนแบบไหนกัน ที่ทำให้คุณยอมปล่อยหมิงเยี่ยนเฟย ไปแอบชอบเขา ฉันไม่คิดไม่ถึงจริงๆว่าผู้ชายแบบไหน ที่น่าดึงดูดใจยิ่งกว่าหมิงเยี่ยนเฟย ”
เดิมทีเฉิงเสี่ยวเถียนต้องการถามเซี่ยอันหรานว่าคนที่แอบชอบคือใคร แต่ก็ยังพูดออกไป เฉิงเสี่ยวเถียนเอาคำพูดประโยคนี้กลับไป ถึงแม้เธอไม่ใช่คนที่เรียบง่าย แต่ก็ยังรู้ว่าอะไรควรถามไม่ควรถาม โดยเฉพาะเรื่องความรักของดาราหญิง ถ้าหากวันหนึ่งมันรั่วไหลออกไป งั้นเธอก็เป็นคนแรกที่จะถูกสงสัย และอาจจะทำให้เข้าใจผิด และเธออาจจะไม่สามารถรักษางานเอาไว้ได้
แต่เฉิงเสี่ยวเถียนก็ยังแปลกใจมาก เธอกระพริบตายิ้มและถามว่า:“คนๆนั้นมีบุคลิกยังไง และทำงานอะไร ?สามารถทำให้คุณชอบได้……แล้วทำไมไม่บอกเขาล่ะ ?อันหรานคุณน่ารักขนาดนี้ บางทีเขาอาจจะชอบคุณด้วยก็ได้ ไม่ เขาจะต้องชอบคุณแน่”
เซี่ยอันหรานลดสายตาลง และค่อยๆส่ายหัวเบาๆ:“ เขา……….น่าจะไม่ชอบฉัน……..”
เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว และนึกถึงคำพูดของโม่เซ่าเหยียน เธอยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า:“ เขาเคยพูดว่า จะไม่แต่งกับผู้หญิงอย่างฉัน”
“อ๋า………”เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้ว:“ในเมื่อพูดแบบนั้นออกมาได้ เป็นคนที่……..”
เฉิงเสี่ยวเถียนก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน ถ้าหากว่าเธอถูกผู้ชายที่แอบชอบบอกว่าจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ เธอคงทนไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบเซี่ยอันหรานแต่ก็ไม่ต้องปฎิเสธห้วนๆแบบนี้ ทำไมถึงไม่คิดถึงความรู้สึกของหญิงสาวบ้างนะ ?
เมื่อเฉิงเสี่ยวเถียนได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะบ่น:“ถ้างั้นอันหรานคุณยังชอบเขาอยู่เหรอ ได้ยินคุณพูดแบบนี้ ฉันคิดว่าคุณควรอยู่กับหมิงเยี่ยนเหยจริงๆ หมิงเยี่ยนเฟยเป็นคนดีมาก ช่วยคุณตั้งขนาดนี้……..”
“ก็เพราะว่าเขาปฎิบัตกับฉันอย่างดี ดังนั้นฉันจึงไม่อยู่กับเขา จากมุมมองของฉัน ฉันไม่อยากใช้คนอื่นมาเติมเต็มความรู้สึกของฉัน แบบนี้มันเห็นแก่ตัวเกินไป ฉันกับหมิงเยี่ยนเฟยมีส่วนรวมมกันเยอะแล้ว และข่าวลือก็เพิ่งแพร่กระจายไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นฉันกับหมิงเยี่ยนเฟยจึงยังคงถ่ายรายการเรียลลิตี้ต่อไป
สถานะระหว่างฉันกับหมิงเยี่ยนเฟยมีความแตกต่างกันมาก ถ้าหากอยู่กับเขา ใครก็ดูออกว่าเขากำลังช่วยฉัน ควาสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมกันแบบนี้ ทำให้ฉันตกอยู่ในความเฉยชา ในตอนที่อยู่ด้วยกัน คนอื่นๆก็จะบอกว่าฉันยึดติดกับหมิงเยี่ยนเฟย และถ้าในอนาคตเลิกกัน ไม่ว่าใครจะผิดใครจะถูก ฉันก็จะถูกกล่าวหาและทรยศต่อหมิงเยี่ยนเฟย ”
เซี่ยอันหรานหายใจเข้าลึกๆ:“รอให้รายการนี้จบ พี่เชี่ยนหรงจะหาทางช่วยฉันกำจัดเรื่องอื้อฉาวนี้”
เมื่อเซี่ยอันหรานพูดแบบนี้ เฉิงเสี่ยวเถียนพยักหน้า ยิ้มและพูดว่า:“อันหรานคุณคิดไปไกลแล้ว นี่คือเหตุผลที่ชอบ…….”
เฉิงเสี่ยวเถียนพูดและทันใดนั้นก็หยุดกะทันหัน เธอมองไปที่สายตาอันเศร้าของเซี่ยอันหราน และอดทนไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ เธอรีบหยิบแท็บเล็ตออกมาและส่งให้เซี่ยอันหราน:“อันหราน คุณดูวิดิโอที่ผ่านมาของ ‘บุพเพสันนิวาส’สิ แบบนี้คุณก็จะเห็นท่าทางของคนอื่น เมื่อถึงเวลานั้นไม่ต้องประหม่านะ อันหรานคุณรู้ไหม ? ที่จริงหลายคนในรายการเรียลลิตี้ไม่เพียงแต่ไม่เป็นที่รู้จัก และยังเป็นนักเลงอีกด้วย หลายคนถูกดุในรายการเพราะพวกเขาแสดงเกินจริง รายการเรียลลิตี้สามารถขยายข้อบกพร่องของตัวเองได้มาก แต่คุณต้องจำไว้ด้วยนะ แม้แต่คำพูดและอารมณ์ก็ต้องระวัง ไม่สามารถอวดอ้างหรือไม่สุภาพได้ ถ่ายหนังคุณสามารถตะโกนบอกคัทได้ แต่ถ่ายรายการเรียลลิตี้แม้แต่ตะโกนว่าคัทก็ทำไม่ได้นะ ต้องใช้ทักษะการแสดงจริงๆ………”
“การถ่ายทำมีไว้สำหรับบทบาทอื่น แต่แสดงรายการเรียลลิตี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวเอง ”เซี่ยอันหรานพูดพลางหัวเราะเบาๆ”
เฉิงเสี่ยวเถียนพยักหน้า:“อันหรานคุณเข้าใจตรงนี้ ฉันก็วางใจแล้ว ฉันจะติดต่อผู้ช่วยของหมิงเยี่ยนเฟย เพื่อหารือเกี่ยวกับสิ่งที่จะซื้อให้สำหรับทีมถ่ายทำ”
เมื่อเฉิงเสี่ยวเถียนพูดจบ เธอก็รีบไปโทรศัพท์ เซี่ยอันหรานยกมุมปากของเธอ และมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง หลังจากที่เฉิงเสี่ยวเถียนออกไปโทรศัพท์ข้างนอก โทรศัพท์ของเซี่ยอันหรานก็ดังขึ้นในทันที เซี่ยอันหรานก้มศีรษะมองเบอร์โทรศัพท์ มันเป็นเบอร์ของหมิงเยี่ยนเฟย
เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว ลังเลสักพักก่อนที่จะรับโทรศัพท์
หมิงเยี่ยนเฟยที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มช้าๆและพูดว่า:“ ทำไมถึงไม่โทรศัพท์หาผม ?”
เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว:“ฉัน ฉันกลัวว่าจะรบกวนคุณ”
“ผมไม่กลัวการรบกวนของคุณ” หมิงเยี่ยนเฟยพูดพลางยิ้มเบาๆ:“ อันหราน เมื่อถึงเวลาถ่ายรายการ ต้องเป็นแฟนของผมดีๆ เป็นการตอบแทนนะ และต้องประพฤติตัวให้ดีและดูแลผมดีๆด้วยล่ะ ”
เซี่ยอันหรานกัดริมฝีปากลางของเธอ และต้องการพูดว่า:“ นี่ก็เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น”
แต่เซี่ยอันหรานยังไม่ได้ทันพูดอะไรออกมา หมิงเยี่ยนเฟยที่อยู่ทางนั้นก็รีบตัดสายทิ้ง เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ กัดริมฝีปาก และหันศีรษะไปมองข้างนอกหน้าต่าง และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ หมิงเยี่ยนเฟยคนนี้ไม่ได้ทำตามกติกาอะไรเลย เมื่อถึงเวลาถ่ายรายการ ยังพูดไม่ได้จริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
เซี่ยอันหรานไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับหมิงเยี่ยนเฟยไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอยังยุ่งเกี่ยวกับโม่เซ่าเหยียน หลังจากหมิงเยี่ยนเฟยช่วยเธอแล้ว เซี่ยอันหรานก็ไม่อยากเป็นเพราะตัวเอง ทำให้หมิงเยี่ยนเฟยและโม่เซ่าเหยียนมาเกี่ยวข้อง หมิงเยี่ยนเฟยมาถึงขึ้นนี้ได้ มันยากแค่ไหน ถ้าหากเป็นเพราะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้โม่เซ่าเหยียนรำคาญ เธอเซี่ยอันหรานก็คงจะโชคไม่ดีพอที่ไปชอบโม่เซ่าเหยียน มันก็สมควรแล้ว แต่หมิงเยี่ยนเฟยมีสิทธิ์อะไรต้องไปทนรับควาโกรธของโม่เซ่าเหยียนกับเธอด้วยล่ะ ?
เมื่อมาถึงสถานที่ถ่ายทำ ก็มีคนมาแจกจ่ายอาหารที่ทั้งสองคนซื้อให้กับทีมงานแล้ว ทีมงานของกองถ่ายกำลังรับประทานอาหาร และยิ้มทักทายเซี่ยอันหรานด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยอันหรานลงจากรถและไปทักทายกองถ่าย ผู้กำกับกองถ่ายก้าวไปข้างหน้าและทักทายกับเซี่ยอันหราน:“ คุณอันหราน สวัสดีครับ ผมชื่อจางหราน เป็นผู้กำกับการถ่ายทำ คนนี้คือคนที่จะตามถ่ายภาพของคุณ พวกเราต้องการสัมภาษณ์คุณก่อน โอเคไหม ?”
เซี่ยอันหรานยิ้มและพูดว่า:“ ได้สิคะ”
“เอ๊ะ ?”เซี่ยอันหรานผู้ซึ่งไม่เคยถ่ายทำรายการเรียลลิตี้เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย:“มาสัมภาษณ์ที่นี่เหรอ ?”
ผู้กำกับจางหรานพยักหน้า:”คุณอันหราน………”
เซี่ยอันหรานยิ้มและพูดว่า:“ ผู้กำกับเรียกฉันว่าอันหรานก็ได้ค่ะ”
จางหรานยิ้มและพูดว่า:“ ถ้างั้นก็ดี อันหราน คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับความประทับใจที่คุณมีต่อหมิงเยี่ยนเฟย ”
เซี่ยอันหรานพยักหน้ามองไปที่กล้อง เธอยิ้มและพูดว่า:“คุณหมิง เป็นคน……..”
เขาเป็นคนที่แย่มาก !
“เป็นคนใจกกว้างและอ่อนโยน”
เขาเป็นคนที่มีความคิดไม่ดี !
“เขาใจดีกับทุกคน”
เขามักแกล้งฉันด้วยวิธีต่างๆนานาเสมอ !
“ดูเหมือนว่าอันหรานจะมีความประทับใจที่ดีต่อหมิงเยี่ยนเฟยนะ แต่ได้ยินคุณเรียกว่าคุณหมิงมันฟังดูแปลกๆนะ ?”จางหรานพูดพลางยิ้ม
เซี่ยอันหรานแสดงสีหน้าประหลาดใจ:“ เอ๊ะ เอ๊ะ ? แปลกเหรอ ? แต่ก็มีทีมงานหลายคนเรียกคุณหมิงแบบนี้นะ ”
“แต่เมื่อพวกเรามาถ่ายรายการด้วยกันก็ควรจะสนิทกันให้มากขึ้นสิ พวกเราควรจะมีชื่อเล่นของกันและกันนะ ?”หมิงเยี่ยนเฟยที่เพิ่งมาถึงกองถ่ายก็เดินเข้ามาที่ข้างกายของเซี่ยอันหราน เขายิ้มและพูดว่า:“ ถ้ายังไงผมเรียกคุณว่าเสี่ยวหราน คุณเรียกผมอาเฟยดีไหม ?”
อะ อะไรนะ ? ? พ่อแม่ของเธอยังไม่เคยเรียกเธออย่างใกล้ชิดว่าเสี่ยวหรานเลยเหรอ ?
แต่ก่อนที่เซี่ยอันหรานจะพูดหักล้าง ผู้กำกับจางหรานก็ยิ้มและรีบพูดขึ้นว่า:“ ตกลง ถ้างั้นก็เรียกกันแบบนี้นะ แบบนี้มันดูสนิทกันมากขึ้น และดูเหมือนคู่รักมากกว่า”
MANGA DISCUSSION