ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ - ตอนที่ 58 พบกับศัตรูเก่าอีกครั้ง
แน่นอน เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะผลักเขา เธอยอมรับความพ่ายแพ้ ปล่อยให้โม่เซ่าเหยียนฉุดรั้งเธอไป ขอเพียงแต่เธอรักษาเจตนาเดิมไว้ได้ ถ้ามันไปถึงขั้นนั้น โม่เซ่าเหยียนอยากจะทิ้งเธอ เธอไม่สามารถอ่อนแอกอดขากางเกงโม่เซ่าเหยียนร่ำไห้ขออยู่ต่อ เช่นนั้นก็พอแล้ว
เซี่ยอันหรานยกมือขึ้น กอดโม่เซ่าเหยียนกลับ มือเธอลูบหลังโม่เซ่าเหยียน แล้วเขาลูบบนท้ายทอยเธอ ทำให้จูบของเธอกับโม่เซ่าเหยียนถูกปลุกเร้ามากยิ่งขึ้น ไม่ใช่คำขอฝ่ายเดียวของโม่เซ่าเหยียนอีกต่อไป เซี่ยอันหรานก็พยายามเรียกร้องอุณหภูมิร่างกายของโม่เซ่าเหยียน เพื่อความรักอันน้อยนิดในตัวของเขา
มาเซ่าเหยียนยกมือขึ้นอย่างยากที่จะห้ามใจ ปลดกระดุมของเซี่ยอันหราน แต่ถูกเซี่ยอันหรานกดไว้ : "ไม่ ไม่ได้ ยังไม่ได้ ยังต้องรออีกสองวัน อีกทั้งร่างกายคุณตอนนี้ก็ไม่ดี ไม่เหมาะที่จะทำเรื่องแบบนี้"
โม่เซ่าเหยียนเม้มปากแน่น แววตาเขามืดครึ้ม ราวกับว่าในตาจะหยดลงมาเป็นหมึก พูดด้วยเสียงแหบพร่า : "แต่ฉันต้องการ!"
"แต่ว่า ร่างกายคุณไม่ได้นะ คุณต้องพักฟื้นให้ดี" เซี่ยอันหรานยกมือขึ้นลูบหน้าอกของโม่เซ่าเหยียน พูดขอร้องว่า : "ได้ไหม?"
โม่เซ่าเหยียนเม้มปากแน่น ขมวดคิ้วเล็กน้อย ฉับพลันก็กอดเซี่ยอันหรานแน่น ทำให้ศีรษะของเซี่ยอันหรานแนบชิดกับหน้าอกของตนเอง เซี่ยอันหรานพิงอยู่บนหน้าอกของโม่เซ่าเหยียน สามารถได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงแล้วการหายใจที่รวดเร็วของโม่เซ่าเหยียน โม่เซ่าเหยียนไม่ได้เคลื่อนไหวอีก กอดเซี่ยอันหรานไว้แล้วหลับตาลง
เซี่ยอันหรารแนบชิดอยู่ที่หน้าอกของโม่เซ่าเหยียน นอกจากเสียงหัวใจแล้ว ก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นๆอีก จนก่อนที่เธอจะหลับไป การเต้นของหัวใจของโม่เซ่าเหยียนเป็นเสียงเดียวที่เธอได้ยิน
ตลอดคืนนี้ เซี่ยอันหรานก็หลับไปอย่างสงบ ไม่ได้ฝันตลอดทั้งคืน เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว มือของเธอยังคงถูกโม่เซ่าเหยียนจับไว้ มือของโม่เซ่าเหยียนใหญ่มาก สามารถห่อมือเธอไว้ได้หมด ยิ่งเห็นได้ชัดว่านิ้วมือของเธอเล็กและผอม
ใบหน้าทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก ลมหายของต่างฝ่ายต่างผสมผสานอยู่ด้วยกัน เซี่ยอันหรานมองหน้าโม่เซ่าเหยียนอย่างใกล้ๆ เข้าไปใกล้ๆอย่างระมัดระวัง แล้วแอบๆจูบมุมปากของเขา
วันนี้โม่เซ่าเหยียนนอนหลับลึกเป็นพิเศษ แม้เซี่ยอันหรานจะเคลื่อนไหว แต่โม่เซ่าเหยียนก็ยังไม่ตื่น รอยบวมแดงบนใบหน้าของเขาที่เกิดจากอาการแพ้ได้หายไปแล้ว คิ้วก็ยืดออก มิงดูผ่อนคลายมาก โม่เซ่าเหยียนไม่เคยยิ้ม การแสดงออกที่ผ่อนคลายแบบนี้บนใบหน้าของโม่เซ่าเหยียนนั้นยากที่จะได้เห็น เซี่ยอันหรานอยู่ข้างๆโม่เซ่าเหยียนมานานขนาดนี้ ก็ไม่เคยเห็นโม่เซ่าเหยียนนอนหลับสนิทขนาดนี้
เซี่ยอันหรานค่อยๆลุกขึ้น เอามือที่ถูกโม่เซ่าเหยียนจับไว้แน่นออกอย่างเบาๆ ใส่เสื้อผ้าแล้วเดินลงไปชั้นล่าง ไปที่ห้องครัวและทำแซนด์วิชสองชิ้น เซี่ยอันหรานกินแซนด์วิชหนึ่งชิ้นไปพลาง ยกแซนด์วิชหนึ่งชิ้นขึ้นชั้นบนไปด้วย เดินไปถึงชั้นบน เซี่ยอันหรานก็วางแซนด์วิชไว้ข้างๆโม่เซ่าเหยียน แล้วนั่งลงข้างๆเตียง เอียงไปมองโม่เซ่าเหยียน
โม่เซ่าเหยียนหน้าตาหล่อมากจริงๆ ไม่ว่าจะดูกี่ครั้ง เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับรูปร่างหน้าตาของโม่เซ่าเหยียน รูปร่างหน้าตานี้ดูดีจนถึงดีเลิศ จริงๆไม่ใช่หน้าตาที่มนุษย์ควรจะมี
ฉับพลัน โม่เซ่าเหยียนที่หลับตาอยู่ ก็ขมวดคิ้ว ยื่นมือออกมาความหาข้างๆตัว ดูเหมือนจะหาของอะไร เซี่ยอันหรานเลยรีบยื่นมือออกไป จับไว้ทันที โม่เซ่าเหยียนที่หลับตาอยู่ ก็ถอนหายใจยาว คิ้วที่ขมวดเมื่อกี้ก็คลายออก แล้วนอนหลับต่อ
เซี่ยอันหรานทำอะไรไม่ถูก เธอยิ้มนิดๆ มองมือที่จับอยู่กับโม่เซ่าเหยียน ก็พิงอยู่ข้างๆโม่เซ่าเหยียนแล้วหลับตาลงอีกครั้ง
เซี่ยอันหรานไม่ได้หลับไปอีกครั้ง แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยรู้สึกซาบซึ้งใจที่มีผู้ชายอยู่ข้างๆเธอ ใกล้ชิดเธอขนาดนี้ ใกล้ชิดจนความถี่ในการหายใจของคนทั้งสองเกือบจะใกล้เคียงกัน แต่ดูเหมือนห่างไกลกันมาก ห่างไกลจนต้องคิดประโยคคำพูดอย่างรอบคอบ
ทั้งสองคนนอนอยู่ด้วยกัน แล้วโทรศัพท์ของเซี่ยอันหรานก็ดังขึ้น โม่เซ่าเหยียนจึงลุกขึ้นทันที ลืมตา เขามองไปนอกหน้าต่างอย่างสงสัย เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นสูงแล้ว จึงถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม : "ตอนนี้กี่โมงแล้ว?"
"สิบเอ็ดโมงแล้ว" เซี่ยอันหรานเห็นโม่เซ่าเหยียนตื่นขึ้นมา ก็รับสายโทรศัพท์ทันที
ทันทีที่ต่อสาย น้ำเสียงของโอวหยางเชี่ยนหรงดังออกมาจากในโทรศัพท์ : "ฮัลโหล อันหราน คุณไม่ได้ชอบบทของเฟิ่งรุ่ยฮวามากๆเลยใช่ไหม? ฉันช่วยคุยให้คุณได้แล้วนะ หากคุณมีเวลาในช่วงบ่ายนี้ ฉันจะส่งคุณไปลองชุดดู อีกทั้งนักแสดงหลักของกองถ่ายต้องการจะเจอด้วย คุณว่างไหม?"
เซี่ยอันหรานหันไปมองโม่เซ่าเหยียนที่ไม่ได้สติเล็กน้อย พูดอย่างเสียงเบาๆว่า : "อืม ฉันว่าง อีกสักครู่ฉันจะไป"
"ด้านนั้นคุณ……”โอวหยางเชี่ยนหรงกำลังจะพูดอะไร จู่ๆไม่รู้ว่านึกอะไรได้ ก็พูดทันทีว่า : "อืม ฉันเข้าใจแล้ว ฉันเข้าใจ คุณทำงานก่อนเถอะ"
โอวหยางเชี่ยนหรงพูดจบ ก็วางสายไป
เซี่ยอันหรานวางโทรศัพท์ กล่าวกับโม่เซ่าเหยียนด้วยรอยยิ้ม : "ทำแซนด์วิชไว้ให้คุณ คุณหิวก็กินเถอะ ฉันต้องไปลองชุด ไปก่อน"
โม่เซ่าเหยียนสีหน้าเคร่งขรึม พยักหน้าเบาๆ คิดว่าโม่เซ่าเหยียนแสดงสีหน้าที่เย็นชาเช่นนี้ตลอด เซี่ยอันหรานก็ไม่เห็นจะพิเศษอะไร ยิ้มและวางจานแซนวิชไว้ในมือของโม่เซ่าเหยียน แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป
โม่เซ่าเหยียนได้ยินเสียงปิดประตู จึงหันไปมองที่นอนที่ว่างเปล่าข้างๆเขา ก็ขมวดคิ้วแน่น
เมื่อเซี่ยอันหรานมาพบโอวหยางเชี่ยนหรง ก็ถูกใบหน้าที่คร่ำเครียดของโอวหยางเชี่ยนหรงทำให้ตกใจ เซี่ยอันหรานจึงรีบกล่าวถามว่า: "พี่เชี่ยนหรง คุณเป็นอะไรหรอ?"
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร….." โอวหยางเชี่ยนหรงพูดจบ ก็กวาดสายตามองเซี่ยอันหรานอย่างรวดเร็ว ถามอย่างตึงเครียดว่า: "วันนี้ฉันไม่ได้รบกวนอะไรใช่ไหม?"
ทันทีเซี่ยอันหรานก็เข้าใจว่าทำไมโอวหยางเชี่ยนหรงถึงแสดงออกแบบนี้ โอวหยางเชี่ยนหรงรู้ว่าเธอและโม่เซ่าเหยียนอยู่ด้วยกัน ดังนั้นจึงเป็นกังวลว่าตนเองจะรบกวนพวกเขา แล้วทำให้โม่เซ่าเหยียนโกรธ
ใบหน้าของเซี่ยอันหรานแดงระเรื่อ รีบส่ายหน้า: "ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ"
โอวหยางเชี่ยนหรงจึงถอนหายใจยาว: "งั้นก็ดี งั้นก็ดี! ฉันจะส่งคุณไปห้องลองเสื้อผ้า"
โอวหยางเชี่ยนหรงผ่อนคลายลง ขับรถอย่างรวดเร็ว ใช้ระยะเวลาน้อยมากก็พาเซี่ยอันหรานมาถึงสถานที่ลองเสื้อผ้าแล้ว ผู้กำกับละครทีวีเรื่องนี้แซ่จิน เป็นคนฮ่องกง พูดภาษาจีนกลางไม่ได้แม้แต่ครึ่งประโยค พอพบเซี่ยอันหราน ก็ทำได้เพียงใช้ภาษาจีนกลางพูดได้อย่างฝืนๆ: "อ้อ คุณก็คืออันหราน แสดงเป็นเฟิงรุ่ยฮวาใช่ไหม?"
เซี่ยอันหรานยิ้มแล้วพยักหน้าทันที: "สวัสดีค่ะผู้กำกับ ฉันคืออันหรานแสดงเป็นเฟิงรุ่ยฮวาค่ะ"
ผู้กำกับจินพิจารณาเซี่ยอันหราน แล้วพยักหน้า ใช้ภาษาจีนที่ไม่ค่อยแข็งแรงพูดต่อไปว่า: "ดีมาก คุณไปลองเสื้อผ้าเถอะ"
เห็นได้ชัดว่าละครทีวีเรื่องนี้ไม่ได้เป็นทางการอย่างภาพยนต์เรื่อง《จิ้งจอกหยก》ตัวแสดงกำหนดได้โดยไม่ต้องผ่านการออดิชั่น การลองแต่งตัวตอนนี้ ก็ปรับดีไซน์เครื่องแต่งกายตามนักแสดงด้วย เซี่ยอันหรานมีเครื่องแต่งกายหลักอยู่สามชุดในละคร ซึ่งจะแสดงถึงสามช่วงเวลาของเฟิงรุ่ยฮวา
ชุดหนึ่งคือเสื้อผ้าในวัยเด็กของเฟิงรุ่ยฮวา เป็นชุดสีเหลืองอ่อน ซึ่งเน้นความยังไม่บรรลุนิติภาวะของเฟิงรุ่ยฮวา เซี่ยอันหรานต้องการเพียงลักษณะที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา เพื่อถ่ายภาพและแต่งหน้าได้ง่าย
ชุดที่สองคือชุดสีแดงที่เฟิงรุ่ยฮวาสวมใส่ตอนแต่งงาน เดิมทีที่สีแดงทำให้คนรู้สึกยินดี ภายใต้การแต่งหน้าที่ละเอียดงดงาม บวกกับการแสดงออกของเซี่ยอันหรานที่เคร่งขรึมและเงียบสงบ แสดงออกอย่างชัดเจนต่อความเกียจชังการแต่งงงานของเฟิ่งรุ่ยฮวา
ชุดที่สามเป็นตอนที่เฟิ่งรุ่ยฮวาตกหลุมรักจักพรรดิซ่างกวนหลิง แต่พบว่าที่ซ่างกวนหลิงดีกับเธอ อันที่จริงก็เพื่อหาผลประโยชน์จากเธอ เดิมทีคนที่เขารีกมากที่สุดคือหลินสุ่ยเซียวที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา เครื่องแบบฮองเฮาเป็นสีแดงเข้มทั้งตัว ถึงแม้เครื่องประดับที่ศีรษะจะซับซ้อนอลังการ แต่ใบหน้ากลับอ้างว้างเศร้าซึม ดวงตามืดมน เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่มุมปากของเซี่ยอันหรานแฝงด้วยรอยยิ้มที่ประชดประชันเล็กน้อย แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความบ้าคลั่งในความสิ้นหวังของตัวละครเฟิ่งรุ่ยฮวานี้
ขณะที่เซี่ยอันหรานลองชุดทั้งสามชุด ผู้กำกับจินถอนหายใจยาว แล้วยิ้มขึ้นมา: "เก่งมากจริงๆ พวกคุณดูสัญญาแล้วก็เซ็นต์สัญญาได้"
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังจากเซี่ยอันหรานเซ็นต์สัญญาแล้ว ก็เงยหน้าไปยิ้มกับโอวหยางเชี่ยนหรงเล็กน้อย
ผู้กำกับจินดูสัญญาที่เซี่ยอันหรานเซ็นต์เรียบร้อยแล้ว ก็ยิ้มขึ้นมา: "ใช่แล้ว นักแสดงหญิงที่รับบทหลินสุ่ยเซียวก็มาที่นี่ด้วยนะ พวกคุณพบกันสักหน่อยนะ"
เรตติ้งของละครในชาติที่แล้วค่อนข้างดี แต่เพราะเค้าโครงละครค่อนข้างน้ำเน่า จึงไม่ได้รับความสนใจที่มากนัก เซี่ยอันหรานก็ไม่ได้มีภาพความทรงจำอะไรมาก จำได้เพียงเลือนลางว่านักแสดงหญิงคนนี้ที่แสดงบทหลินสุ่ยเซียวคือนักแสดงหญิงคนหนึ่ง ที่ถ่ายละครเรื่องนี้จบแล้วก็ไม่ได้ถ่ายละครเรื่องอื่นอีก แล้วค่อยๆหายสาบสูญไปจากวงการบันเทิง
เมื่อได้ยินว่าผู้กำกับบอกว่านักแสดงบทนางเอกมาแล้ว เซี่ยอันหรานจึงยิ้มแล้วก็หันหน้ากลับไป แต่ทันทีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ต้องแข็งทื่อไป
เธอเห็นผู้หญิงที่แสดงเป็นหลินสุ่ยเซียวคนนั้น ก็เกินความคาดหมายอย่างมาก เธอคาดไม่ถึงโดยเด็ดขาด ไม่นึกเลยว่าผู้หญิงที่แสดงเป็นหลินสุ่ยเซียวในชาตินี้ก็คือฉู่เสี่ยวเสี่ยว
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวทั้งชุด มองดูแล้วทั้งสะอาดทั้งสวยงาม เธอเดินมายังตรงหน้าเซี่ยอันหรานอย่างช้าๆ ยื่นมือของเธอออกมา ยิ้มอย่าอ่อนโยนแล้วพูดกับเซี่ยอันหรานว่า: "อันหราน สวัสดี เจอกันอีกแล้วนะ"
เซี่ยอันหรานเม้มริมฝีปากแน่น แล้วยื่นมือออกมา ยิ้มกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวแล้วกล่าวว่า: "สวัสดี ไม่เจอกันนาน"
"ที่แท้พวกคุณก็รู้จักกัน" ผู้กำกับจินยิ้มแล้วพูดว่า: "งั้นก็ดีมากเลย เสี่ยวเสี่ยวเป็นนักแสดงใหม่ที่บริษัทซิงหยวนกำลังผลักดันในช่วงนี้ อันหรานก็เป็นดาวรุ่งอีกคนหนึ่ง ในเมื่อพวกคุณรู้จักกัน ก็ต้องร่วมงานกันได้เป็นอย่างดีแน่นอน"
"แน่นอน" ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเอียงหน้า ยิ้มอย่างอ่อนช้อยกับเซี่ยอันหราน: "อันหราน ละครเรื่องนี้ ฉันเป็นนักแสดงนำ คุณเป็นตัวประกอบ คาดไม่ถึงเลยจริงๆ……"
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวพูดพลาง เดินเข้าไปใกล้เซี่ยอันหรานอีกก้าวหนึ่ง แล้วพูดกระซิบว่า: "เซี่ยอันหราน คาดไม่ถึงเลยจริงๆว่าคุณจะเลือกบทบาทเฟิ่งรุ่ยฮวานี้ ชะตาลิขิตไว้แล้ว คุณคือตัวประกอบฉันคือนักแสดงหลัก ที่สิ่งคุณได้ไปทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนต้องคืนฉันกลับมาทั้งหมด!"
"หรอ?" เซี่ยอันหรานยิ้มเบาๆ พูดกระซิบว่า: "แม้ในละครทีวีเฟิ่งรุ่ยฮวาจะเป็นตัวร้าย แต่เธอก็ยังเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และในละครคุณก็ถือว่าเป็นเมียน้อยคนหนึ่ง!"
ในละครทีวี ถึงแม้ว่าจักพรรดิจะชอบหลิวสุ่ยเซียวมาก แต่สุดท้ายก็ไม่รอให้เขาได้ปูนบำเน็จให้หลินสุ่ยเซียว หลินสุ่ยเซียวก็ป่วยตายไป กระทั่งหลินสุ่ยเซียวก็เป็นคนธรรมดาสามัญชน เธอไม่ได้มีวงศ์ตระกูลของราชวงศ์ จึงไม่ใช่แม้กระทั่งเมียน้อย