เซี่ยอันหรานยังคงยืนอยู่ที่หน้าต่างเพื่อดูโม่เซ่าเหยียนนั่งรถออกไป เธอยื่นมือออกมา แตะกระจกมองรถของโม่เซ่าเหยียน เซี่ยอันหรานรู้สึกว่าโม่เซ่าเหยียนแปลกมาก ดูเย็นชาไม่เห็นใจความรู้สึกของคนอื่น ทำให้เธอไม่เพ้อฝันต่อเขาอีก แต่เมื่อเธอรู้สึกผิดหวังอย่างสิ้นเชิงก็ให้ความหวังเธอขึ้นมาอีก
เขาควบคุมคนได้จริงๆ ตบหัวแล้วก็ลูบหลัง ล้อเล่นอย่างง่ายดาย มิน่าล่ะถึงท่าทีจะเย็นชา ยังสามารถเอาชนะใจคนได้มากมายขนาดนั้น
เซี่ยอันหรานรู้สึกว่าหัวใจของเธอถูกบีบอยู่ในกำมือของโม่เซ่าเหยี่ยน ความรู้สึกนี้ทันแย่มากๆ
เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว ถอนหายใจยาว จนกระทั่งเซี่ยอันหรานมองไม่เห็นรถของโม่เซ่าเหยียนแล้ว เธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งรถไปที่คฤหาสน์ตระกูลเซี่ย
กลับมาถึงบ้าน เซี่ยอันหรานก็ถูกกู้เหม่ยอวี้ตลอดทั้งบ่าย เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น เซี่ยอันหรานยังคงได้ฟังคำบ่นว่าสะอื้นไห้ของกู้เหม่ยอวี้ : "ดูคุณสิ เหนื่อยล้าแค่ไหน ทำไมผอมขนาดนี้?"
เซี่ยอันหรานฟังคำนี้ น้ำซุปที่อยู่ในปาก ก็แทบจะพ่นออกมา เธอบีบๆแก้มของตนเอง เพื่อแก้ตัวกับรูปร่างของตนเอง : "แม่ คุณดูฉันบำรุงร่างกายจนหน้ากมขนาดนี้ เหมือนคนผอมหรอ? คุณจะบ่นอะไร ต้องบ่นบนพื้นฐานความเป็นจริงสิ"
กู้เหม่ยอวี้ทำเสียงไม่พอใจเบาๆ : "ยังไงก็ดูผอม คุณกลับมาอยู่บ้านไม่ดีกว่าหรอ แม่รับรองว่าจะดูแลร่างกายของคุณอย่างดีเลย"
เซี่ยอันหรานถอนหายใจอย่างจนปัญญา : "ดูแลให้ฉันอ้วนใช่ไหม แม่ คุณรู้ไหมว่าลดน้ำหนักมันไม่ง่าย?"
"สาวน้อย อ้วนๆจึงจะดูดี อย่าไปเรียนรู้ตามคนอื่นเลย ทุกวันก็ลดน้ำหนัก ทำลายร่างกายตนเองจนอ่อนแอ ร่างกายเป็นต้นทุนที่ใหญ่ที่สุด พวกคุณยังเด็กไม่รู้จักทะนุถนอมร่างกาย อีกสักครู่ฉันจะให้คนมาทำความสะอาดห้องของคุณ คืนนี้นอนพักที่บ้านเถอะ" กู้เหม่ยอวี้พูดจบก็ตักซุปให้เซี่ยอันหรานอีกหนึ่งถ้วย
เซี่ยอันหรานมองถ้วยซุปในมือ นึกถึงใบหน้าเย็นชาที่น่ากลัวของโม่เซ่าเหยียน ก็ขมวดคิ้ว : "เกรงว่าจะไม่ได้ ฉัน พรุ่งนี้ฉันยังมีธุระ วันนี้……คืนนี้ต้องกลับไป……”
เพราะเซี่ยอันหรานหวาดกลัว น้ำเสียงที่พูดก็ยิ่งต่ำลง
กู้เหม่ยอวี้เห็นก็ขมวดคิ้ว ดูเหมือต้องการจะพูดอะไร เซี่ยอันหรานก็เปลี่ยนเรื่องทันที : "แม่ คุณรู้ไหม? เมื่อเร็วๆนี้ฉันได้มีบทบาทที่ดีในการถ่ายหนังด้วย เป็นเซียนจิ้งจอกน้อยที่น่ารักมากเลย ถึงเวลาเข้าฉาย คุณต้องไปดูนะ"
"แสดงเป็นเซียนจิ้งจอกหรอ?" กู้เหม่ยอวี้คีบอาหารให้เซี่ยอันหราน : "ไปถ่ายหนัง ก็อย่ารับบทสะเปะสะปะ แสดงเป็นลูกสาวคนรวยได้ หรือหญิงสาวในตระกูลดัง บทเซียนจิ้งจอกเลอะเทอะอะไรกัน?"
"เอะอะอะไรกัน?" เซี่ยจวินกับเซี่ยหมิงเซวียนยิ้ม เดินเข้ามาจากข้างนอก
กู้เหม่ยอวี้เห็นเซี่ยจวินกับเซี่ยหมิงเซวียนกลับมา ก็ให้คนใช้ไปเอาถ้วยกับตะเกียบมาเพิ่ม จากนั้นก็กล่าวกับเซี่ยจวินด้วยรอยยิ้ม : "พูดกับอันหราน เธอไปถ่ายบทบาทที่สะเปะสะปะ ใช่สิ วันนี้พวกคุณไม่มีธุระหรอ? ทำไมถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้?"
ได้ฟังคำพูดนี้ของกู้เหม่ยอวี้ สีหน้าเซี่ยหมิงเซวียนเคร่งขรึมลง มีแต่การแสดงออกของเซี่ยจวินที่ไม่เปลี่ยนไป ยิ้มแล้วพูดกับกู้เหม่ยอวี้ว่า : "วันนี้งานเลี้ยงอาหารค่ำถูกยกเลิกไป ดังนั้นเลยกลับมาทานข้าวกับพวกคุณเร็วหน่อย"
"มาทานข้าวกับพวกเราเถอะ อันหรานบอกว่า อีกสักครู่ต้องกลับไป พักที่บ้านไม่ได้ พวกคุณพูดๆกับเธอหน่อย!" กู้เหม่ยอวี้ไม่สามารถโน้มน้าวเซี่ยอันหรานได้ ก็พยายามดึงเซี่ยจวินมาเป็นพวก
เซี่ยจวินมองเซี่ยอันหรานแล้วยิ้มพูดว่า : "ไอ๊หยา ลูกสาวมีธุระไม่ว่าง ยังคิดว่าเธอเป็นเด็กๆอยู่หรอ? ต่อไป……”
เซี่ยจวินพูดจบ จู่ๆก็หยุดไปชั่วขณะ สีหน้าแข็งทื่อ จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดต่อว่า : "ต่อไปพวกเขาก็ต้องดูแลตัวเอง"
"เธอรู้จักดูแลตัวเองซะที่ไหน คุณวางใจหรอ?" กู้เหม่ยอวี้บ่นต่อ
แต่เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เธอมองดูการแสดงออกของพ่อและพี่ชายของตนเอง ก็รู้สึกว่าผิดปกติ เหมือนมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น สามารถเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้ เป็นไปได้ไหมที่บริษัทต้องพบกับอุปสรรคเช่นเดียวกับในชาติที่แล้ว? แต่ตอนนี้ตระกูลเซี่ยเลิกให้ทุนกับตระกูลถังแล้ว บริษัทก็ดำเนินกิจการไปได้ด้วยดีตลอด ไม่ง่ายที่จะถูกโจมตีให้ล้มลงหรือเปล่า? งั้นเป็นเพราะอะไร?
เซี่ยอันหรานสงสัยอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้ถาม ทานข้าวเสร็จแล้ว เซี่ยอันหรานก็พูดปลอบกู้เหม่ยอวี้ว่าจะกลับบ้านมาดูเธอบ่อยๆ กู้เหม่ยอวี้จึงไม่บ่นอีก
เซี่ยหมิงเซวียนขับรถไปส่งเซ่ยอันหรานกลับบ้าน เมื่อเซี่ยอันหรานนั่งอยู่บนรถกับเซี่ยจวิน ยังคงไม่สบายใจ หนึ่งเป็นเพราะกังวลเรื่องตระกูลเซี่ย สองเป็นเพราะเซี่ยหมิงเซวียนจะเจอเข้ากับโม่เซ่าเหยียน
เซี่ยอันหรานขมวดๆคิ้ว ถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม เซี่ยหมิงเซวียนได้ยินเสียงถอนหายใจของเซี่ยอันหราน ก็ขับรถไปด้วยหันมามองเซี่ยอันหรานไปด้วย ยิ้มพูดว่า : "คุณเป็นอะไร เพราะเรื่องอะไรถึงได้กลุ้มใจขนาดนั้น?"
เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว มองเซี่ยหมิงเซวียนอย่างจริงจัง : "พี่ คำพูดนี้ฉันควรจะถามพวกคุณนะ ท้ายที่สุดแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นในบริษัท? ทำให้คุณกับพ่อกลุ้มใจขนาดนั้น วันนี้พ่อยังพูดแบบท้อใจแบบนั้น ครอบครัวของเราไม่ได้ราบรื่นมาตลอด แต่คุณกับพ่อไม่ได้หนักใจเช่นนี้ แต่วันนี้พวกคุณเป็นแบบนี้ ทำให้ฉันเป็นห่วงมากจริงๆ"
เซี่ยหมิงเซวียนขมวดคิ้วแน่น หันไปมองเซี่ยอันหราน หัวเราะขึ้นมา : "ประสบการณ์มากขึ้นจริงๆ รู้จักคิด ใช่มีบางอย่างเกิดขึ้นกับบริษัท รักตนเองก่อนเถอะเรากำลังหาทางออกอยู่ พ่อกับฉันสามารถแก้ปัญหานี้ได้"
"ซัพพลายเออร์มีปัญหาหรอ?" เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วแน่น การล้มละลายของครอบครัวพวกเขาในชาติที่แล้วเริ่มต้นขึ้นจากซัพพลายเออร์มีปัญหา
เซี่ยหมิงเซวียนแปลกใจเล็กน้อย: "คุณรู้ได้ยังไง?"
เหมือนกับชาติที่แล้วจริงๆ! แต่ชาตินี้ไม่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงไปแล้วหรอ?
เธอไม่ได้แต่งงานกับถังรั่วชิวอีก ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเซี่ย ตระกูลเซี่ยก็ไม่ได้เกื้อหนุนทางด้านการเงินตระกูลถังอีก แต่เกิดปัญหาขัดสนทางด้านเงินทุน เป็นเพราะอะไร? ทำไมถึงยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก?
หรือว่าเรื่องในชาติที่แล้ว ที่ครอบครัวของเธอเกิดเรื่องล้มละลายอย่างรวดเร็ว ก็คือมีบางคนไม่ชอบครอบครัวของเธอ อยากให้ครอบครัวของเธอล้มละลายงั้นหรอ? แต่ถึงแม้ตระกูลเซี่ยจะมีศัตรู ก็เป็นเพียงศัตรูที่ปล้นชิงตามไฟ(ฉวยโอกาสซ้ำเติมคนที่ประสบเคราะห์ร้าย) ศัตรูที่ต้องการให้ตระกูลเซี่ยตายจริงๆ ทั้งมีความสามารถในการทำให้ตระกูลเซี่ยต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ คือใครกัน? ใคร ที่เกลียดตระกูลเซี่ยจนเข้ากระดูกขนาดนี้?
เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว จมดิ่งอยู่ในความคิดของตนเอง แต่เซี่ยหมิงเซวียนร้อนใจ นำรถจอดข้างทาง ถามเซี่ยอันหรานว่า: "คุณรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้ตระกูลเซี่ยกำลังเผชิญความบำบาก? ใครเป็นคนบอกคุณ?"
เซี่ยอันหรานดึงสติกลับมา รีบอธิบาย: "นี่ก็เห็นกันอยู่ทนโท่ไม่ใช่หรอ? ธุรกิจเกิดปัญหา ก็ต้องเป็นสองสามเรื่องนั้นแหละ ไม่ใช่ซัพพลายเออร์ก็เป็นแหล่งเป้าหมาย ไม่ก็เป็นช่องโหว่ทางเงินทุน ฉันเติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจ ชินหูชินตามาตั้งแต่ไหนแต่ไร จะไม่เข้าใจได้ยังไงล่ะ? พี่ คุณดูถูกฉันเกินไปแล้วนะ"
เซี่ยอันหรานพูดพลาง ยังทำหน้าตาบูดบึ้งโกรธเคือง หลังจากเซี่ยหมิงเซวียนได้ฟัง ก็โล่งอก เอื้อมมือไป ลูบๆหัวของเซี่ยอันหราน: "เอาล่ะ คาดไม่ถึงว่าจะรู้เยอะขนาดนี้ คุณก็ไม่ต้องกังวลนะ คุณต้องเชื่อใจฉันและพ่อ"
"ฉันรู้แล้ว!" เซี่ยอันหรานระงับความงุนงงทัเงหมดภายในใจ แล้วยิ้มขึ้นมา หันไปมองด้านนอกหน้าต่าง แต่ในสายตายังคงยากที่จะปิดบังความกังวล
เธอกลัวอย่างมาก กลัวมากว่าเรื่องชาติที่แล้วทั้งหมดจะหลับมาอีกครั้ง เธอจนปัญญาที่จะแบกรับความเจ็บปวดของการสูญเสียครอบครัวไปอีกครั้ง
เห็นว่าใกล้จะถึงคฤหาสน์แล้ว เซี่ยอันหรานกลังว่าเซี่ยหมิงเซวียนจะเจอกับโม่เซ่าเหยียน จึงรีบบอกเซี่ยหมิงเซวียนจอดรถทันที เปิดประตูรถแล้วพูดว่า: "พี่ ฉันเข้าไปก่อนนะ ใกล้ตะมืดแล้ว ฉันคงไม่ได้เขิญให้คุณเข้าไปนั่งนะ ฉันกลับย้านก่อน"
"เด็กคนนี้……" เซี่ยหมิงเซวียนมองเซี่ยอันหรานที่วิ่งเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว ก็ยิ้มแล้วส่ายหัวอย่างจนใจ
เซี่ยอันหรานกลับถึงคฤหาสน์ พอเปิดประตู ก็พบโม่เซ่าเหยียนนั่งอยู่บนโซฟาไม่รู้ว่ากำลังดูข้อมูลทางธุรกิจอะไร เซี่ยอันหรานเดินเข้าไปในบ้านอย่างช้าๆ พูดเสียงเบาๆอย่างเชื่อฟังว่า: "โม่เซ่าเหยียน ฉันกลับมาแล้ว"
โม่เซ่าเหยียนคล้ายกับตั้งใจดูข้อมูลในมือ เป็นเวลานานจึงตอบกลับด้วยเสียงที่เคร่งขรึมว่า: "อืม……ไปล้างมือ รอแปปนึงเดี๋ยวพวกเราทานข้าวกัน"
เซี่ยอันหรานรีบพูดว่า: "อ้อฉันทานที่บ้านมาแล้ว ฉันไม่หิว"
"เข้าใจแล้ว" โม่เซ่าเหยียนตั้งใจอ่านข้อมูลนั้นอย่างมาก ไม่ได้เงยหน้า จ้องมองสมุดข้อมูลที่อยู่ในมือ แล้วก็พลิกไปอีกหน้าหนึ่ง
เซี่ยอันหรานเข้าใจว่าเป็นเอกสารสำคัญทางธุรกิจ เธอก็เลยไม่ได้สนใจดูเอกสารในมือโม่เซ่าเหยียน รีบกล่าวว่า: "งั้นฉันขึ้นชั้นบนก่อนนะ"
พูดจบ เซี่ยอันหรานก็เดินผ่านจากด้านหลังของโม่เซ่าเหยียน ขณะที่เธอเดินผ่านข้างๆโม่เซ่าเหยียน ก็กวาดสายตามองเอกสารในมือโม่เซ่าเหยียนโดยไม่ได้ตั้งใจ เซี่ยอันหรานก็ทึมทื่อไปทันที นี่โม่เซ่าเหยียนดูอะไรกัน ใช่ข้อมูลทางธุรกิจซะที่ไหน ทำไมเอกสารถึงวาดภาพอวัยวะของผู้หญิง อีกทั้งยังชัดเจนขนาดนั้น
เซี่ยอันหรานนิ่งอึ้งไป เป็นเวลานาน จึงพูดอย่างติดอ่างออกมา: "โม่เซ่าเหยียน คุณ คุณดูอะไรเนี่ย"
โม่เซ่าเหยียนหันไปมองเซี่ยอันหราน ตอบกลับอย่างไม่สงสัยว่า: "ก็คุณบอกว่าขึ้นเตียงกับฉันแล้วไม่สบายไม่ใช่หรอ? ฉันก็กำลังศึกษาอยู่ไง"
เซี่ยอันหรานเบิกตาโต อดไม่ได้ที่จะมองข้อมูลในมือของโม่เซ่าเหยียนอย่างอยากรู้อยากเห็น เห็นสองสามคำในข้อมูลลางๆ: "ตื่นเต้น…..สำเร็จความใคร่…..จุดอ่อนไหว….."
เซี่ยอันหรานตะลึงงัน จ้องมองตาโต: "คุณจะทำอะไร?"
"ศึกษาไง" โม่เซ่าเหยียนตอบกลับด้วยเสียงที่สงบ: "ร่างกายของผู้หญิงคุ้มค่าที่จะศึกษาค้นคว้า รอให้ฉันศึกษาจนเข้าใจแล้ว คุณก็ไม่ต้องหวาดกลัวที่จะอยู่ด้วยกันกับฉันแล้ว จากการการสำรวจ จุดอ่อนไหวของผู้หญิงสี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์อยู่ที่หู ดังนั้นการกระซิบเบาๆข้างหูของผู้หญิง จะช่วยเพิ่มให้พวกเธอมีความรู้สึกพิเศษ คุณจะมาลองหน่อยไหม?"
"ห๊ะ?" เซี่ยอันหรานเบิกตาโพรง รีบก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง: "ไม่ ไม่ต้องหรอก…..ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องนี้ อันที่จริง ก่อนหน้านี้ก็……"
โม่เซ่าเหยียนเงยหน้ามองไปยังเซี่ยอันหราน: "ฉันไม่อยากได้ยินคุณบอกว่าก่อนหน้านี้ดีมาก ในเมื่อคุณรู้สึกว่าไม่สบาย จนปัญญาที่จะทนรับได้ งั้นพวกเราก็ต้องปรับปรุง ปรับปรุงจนถึงสภาวะที่สบายที่สุดจึงจะหยุด"
โม่เซ่าเหยียนพูดจบ ก็เปิดข้อมูลอีกฉบับ กางออกแล้ววางตรงหน้าเซี่ยอันหราน
เซี่ยอันหรานกวาดสายตามอง ใบหน้าก็แดงขึ้นมาทันที คุณพระ! โม่เซ่าเหยียนปริ้นท์ท่าบนเตียงมากมายขนาดนั้นออกมาเลยหรอ?
MANGA DISCUSSION