เมื่อเห็นเซี่ยอันหรานถูกทำให้ตกใจกลัวจนตัวสั่นเบาๆ โอวหยางเชี่ยนหรงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา : "วางใจเถอะ ไม่เข้าใกล้เขา ก็คงไม่สามารถมีอันตรายอะไรหรอกมั้ง? เพียงแต่เขาก็นับได้ว่าเป็นBOSSที่ดีนะ แม้ว่าจะมีบางเรื่องที่ทำอย่างเข้มงวด แต่ความสามารถในการทำงานก็ดีมาก ดีกว่าผู้นำคนอื่นๆที่ไม่เอาไหนอย่างมาก"
เซี่ยอันหรานหย้าซีดเผือด เอ่ยถามเบาๆว่า : "ถ้าไม่ระวังแล้วไปเข้าใกล้ล่ะ?"
โอวหยางเชี่ยนหรงเลิกคิ้ว คิดๆเล็กน้อย : "ก็ต้องดูว่าระดับไหน จำได้ว่ามีนักแสดงสาวคนหนึ่งสารภาพรักกับประธานโม่ เพราะอารมณ์ที่ตื่นเต้นเกินไป จึงชนเข้ากับโม่เซ่าเหยียน หลังจากนั้นก็ไม่เห็นเธออีกเลย แล้วก็เมื่อสองวันก่อน มีลูกสาวของฉิงฮวากรุ๊ป ดูเหมือนว่าจะสารภาพรักกับเขา เขาก็ทำให้ฉิงฮวากรุ๊ปล้มละลายไปเลย ประธานอาวุโสฉิงฮวาก็กระโดดตึดฆ่าตัวตาย……”
เซี่ยอันหรานได้ฟังคำพูดของโอวหยางเชี่ยนหรง สีหน้าก็ซีดเผือดยิ่งขึ้น คิดในใจ : ซวยแล้ว มิน่าล่ะถึงได้ว้าวุ่นใจอยู่ตลอด ที่แท้เพราะเกี่ยวข้องกับโม่เซ่าเหยียน แค่เพียงชนกับโม่เซ่าเหยียนเล็กน้อย ผู้หญิงคนนั้นก็หายสาบสูญไปเลย เพียงแค่สารภาพรัก โม่เซ่าเหยียนก็ทำให้ครอบครัวของอีกฝ่ายล้มละลาย ตนเองไม่ได้เพียงแต่ชนนะ ยังไปจูบโม่เซ่าเหยียน ถึงแม้ว่าจะเป็นการบังคับ แต่เนื่องจากด้วยนิสัยโม่เซ่าเหยียนที่แปลกประหลาดขนาดนี้ รู้สึกว่าตนเองยิ่งไม่น่าให้อภัย อีกฝ่ายจะจัดการตนเองก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าโม่เซ่าเหยียนพาลใส่พ่อแม่และพี่ชายของตนจะทำอย่างไร?
โอวหยางเชี่ยนหรงเห็นสีหน้าเซี่ยอันหรานที่ซีดเซียว ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ : "อันหราน ท่าทางนี้ของคุณ น่ารักดีนะ นี่……ถ้ารู้ว่าาคุณกลัวขนาดนี้ ฉันจะไม่บอกคุณเกี่ยวกับเรื่องของประธานโม่หรอก แต่คุณไม่ต้องกลัว คืนนี้ เขาไม่ปรากฏตัวอย่างแน่นอน ประธานโม่ปรากฏตัวในงานเลี้ยงแบบนี้น้อยมาก คนทั่วๆไปยากที่จะเห็นเขา……"
ไม่ยากที่จะเจอหรอก เข้าบริษัทก็เจอเลย อีกทั้งยังถูกขังอยู่ในลิฟต์ แล้วก็ไปจับจูบลูบคลำอีก!
เซี่ยอันหรานตกใจกลัวจนน้ำตาไหลออกมา เธอมีชีวิตอีกครั้ง แต่เธอไม่คิดว่าจะจบลงแบบนี้ แล้วก็ไม่คิดพ่อแม่และพี่ชาย เพราะเธอไปวุ่นวายกับโม่เซ่าเหยียนโดยไร้เหตุผล จึงต้องพบกับอันตราย
"คุณอ่ะ แทนที่จะกังวลกับประธานโม่ที่คุณอาจจะมาได้เจอตลอดกาล ยังไม่สู้กังวลงานเลี้ยงในคืนนี้ไม่ดีกว่าหรอ มา เราไปลองชุดกัน……” โอวหยางเชี่ยนหรงพูดถึงตรงนี้ จึงหันยื่นมือไปเปิดตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ด้านในมีชุดแบบต่างๆ โอวหยางเชี่ยนหรงก็หยิบชุดราตรีสีแดงออกมา
หลังจากโอวหยางเชี่ยนหรงยัดชุดราตรีใส่มือของเซี่ยอันหราน ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา : "ซารั่ว เข้ามา แต่งหน้าให้กับอันหรานของฉันหน่อย"
โอวหยางเชี่ยนหรงโทรศัพท์เสร็จ ก็นหันมาพิจารณาเซี่ยอันหรานเล็กน้อย แล้วหยิบสร้อยเพชรเส้นหนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้า ส่งให้เซี่ยอันหราน : "ใส่สร้อยเส้นนี้"
เซี่ยอันหรานสงบลงเล็กน้อย มองสร้อยเส้นนั้น แปลกใจเล็กน้อย เช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า : "สตาร์ไลท์?"
โอวหยางเชี่ยนหรงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเล็กน้อย : "คุณรู้จักสร้อยเส้นนี้ด้วยหรอ?"
เซี่ยอันหรานพยักหน้า : "สร้อยคอนี้เปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ สร้อยทั้งอันฝังเพชรไว้ที่มุมเท่านั้น ความจริงแล้วเนื้อเพชรไม่ได้โดดเด่น แต่เนื่องจากการออกแบบของสร้อยคอนั้นยอดเยี่ยม ทำให้'สตาร์ไลท์'เป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดของแบรนด์นี้ ราคาสูงที่สุด"
ดวงตาของโอวหยางเชี่ยนหรงก็ตกลงที่สร้อยเพชร : "สร้อยสตาร์ไลท์เส้นนี้มีความหมายแฝงอยู่มาก เดิมทีก็ไม่ใช่เพชรคุณภาพดีอะไร แต่ผ่านอารออกแบบและขัดเงาอย่างปราณีต สามารถให้แสงที่เปล่งประกายกว่าเพชรที่มีคุณภาพดี การเป็นดาราก็เช่นเดียวกัน นักแสดงอย่างพวกคุณคือเพชรธรรมชาติที่มีแสงอ่อนๆ แต่เมื่อผ่านการขัดเกลาและออกแบบ ก็จะเปล่งประกายสวยงามราวกับ'สตาร์ไลท์'ได้"
โอวหยางเชี่ยนหรงพูดจบ ก็หรี่ตามอง ยิ้มแล้วถามเซี่ยอันหรานว่า : "เข้าใจแบรนด์ระดับไฮเอนด์ขนาดนี้ ภูมิหลังครอบครัวของคุณคงจะดีมากเลยสินะ"
เซี่ยอันหรานสีหน้าแข็งทื่อ : "ฉัน……ฉัน……"
โอวหยางเชี่ยนหรงยิ้มแล้วโบกไม้โบกมือ : "ถ้าคุณไม่อยากพูด ก็ไม่เป็นไร มีวงศ์ตระกูลที่ไม่ถ่วงความเจริญ ดีกว่าพ่อแม่ที่เป็นผีพนัน……”
โอวหยางเชี่ยนหรงพูดถึงตรงนี้ ผู้หญิงที่ดูอ่อนโยนคนหนึ่งก็เข้ามาจากด้านนอก ผู้หญิงคนนั้นยิ้มพูดว่า : "เชี่ยนหรง จะให้แต่งหน้าให้คนสวยท่านไหนหรอ?"
โอวหยางเชี่ยนหรงชี่ไปที่เซี่ยอันหราน : "นี่อันหรานเป็นนักแสดงหน้าใหม่ของฉัน อันหราน นี่คือซารั่ว เป็นหัวหน้าช่างแต่งหน้าของบริษัทหวาอวี่"
"หัวหน้าอะไรไม่ใช่หัวหน้า ทำให้คนตลกขบขัน" ซารั่วหัวเราะเบาๆแล้วพูดต่อว่า
เซี่ยอันหรานรีบให้ไปยิ้มให้ซารั่วแล้วพูดว่า : "อาจารย์ซารั่ว สวัสดีค่ะ"
"อันหราน สวัสดี"
ซารั่วยิ้มแล้วมองไปที่เซี่ยอันหราน เห็นใบหน้าที่ละเอียดอ่อน ก็อดชื่นชมไม่ได้ : "นานแล้วที่ฉันไม่ได้เห็นคนสวยอย่างเป็นธรรมชาติเช่นนี้ ตอนนี้คนมากมายเหลือเกินที่กลายเป็นคนมีชื่อเสียง ก็ทำศัลยกรรม ทิ้งรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด ต้องทารองพื้นหนาๆเพื่อปกปิด"
ซารั่วชื่นชมเซี่อันหรานขนาดนี้ ก็ก้มหน้าอย่างเขินอายเล็กน้อย จากนั้นซารั่วก็ให้เซี่ยอันหรานนั่งที่หน้ากระจกแต่งหน้า แต่งหน้าให้เซี่ยอันหรานอย่างชำนาญ ไม่นานก็แต่งหน้าให้เซี่ยอันหรานเสร็จ ทำผมเสร็จแล้ว เซี่ยอันหรานลืมตาขึ้นมา เธอเห็นใบหน้าของเธอในกระจก ก็ตกตะลึงไปเลย
ถึงแม้ว่าเซี่ยอันหรานจะถือว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง แต่หน้าตาของเธอก็มีข้อบกพร่อง การแต่งหน้าของซารั่วสามารถช่วยปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้าของเซี่ยอันหรานได้อย่างดีมาก เสริมจุดเด่นของเธอ เซี่ยอันหรานที่อยู่ในกระจก ช่างงดงามสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
โอวหยางเชี่ยนหรงมองเซี่ยอันหราน ยิ้มขึ้นมา: "ตอนนี้สามารถสวมชุดราตรีได้แล้ว"
บริเวณเอวของชุดราตรีสีแดงรัดแน่นมาก เผยให้เห็นเส้นเว้าโค้งที่งดงามสมบูรณ์แบบของเซี่ยอันหราน กระโปรงทรงพริ้วยาวลงจรดเท้า ถึงแม้จะไม่มีลม ก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงความพริ้วไหวของกระโปรงนั้น สีของกระโปรงเหมือนดั่งกับไฟ ยิ่งขับให้ผิวของเซี่ยอันหรานที่ราวกับหยกเด่นขึ้นไปอีก ขาวหมดจดราวกับหิมะแรกในฤดูหนาว ผมลอนยาวกระจายอยู่บนบ่า เซี่ยอันหรานหน้าตามีสีสันและมีชีวิตชีวา ประกายในตาของเธอแวววาวซะยิ่งกว่าสร้อยเพชรที่ส่องประกายระยิบระยับบนคอของเธอ
ซารั่วมองเซี่ยอันหราน อดไม่ได้ที่จะชื่นชม: "งดงามจริงๆ"
โอวหยางเชี่ยนหรงเห็นเซี่ยอันหรานก็ยิ้มขึ้นมา: "ดูท่าคืนนี้อันหรานคงจะเปล่งประกายอย่างมาก"
เซี่ยอันหรานได้รับคำชื่นชม จึงยกมุมปากขึ้น ยิ้มเบาๆเล็กน้อย แต่พอนึกถึงคืนนี้ที่อาจจะต้องพบกับโม่เซ่าเหยียน รอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยอันหรานก็ค่อยๆจางหายไป
โอวหยางเชี่ยนหรงไม่ได้สังเกตเห็นการแสดงออกที่เปลี่ยนไปของเซี่ยอันหราน ยิ้มแล้วกล่าวว่า: "ใกล้จะถึงเวลาแล้ว อีกสักครู่ไปถึงงานเลี้ยง อันหรานคุณต้องแสดงรอยยิ้มที่งดงามที่สุดของคุณ คืนนี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของถนนแห่งดวงดาวของคุณ"
เซี่ยอันหรานเป่าปาก มองตนเองในกระจก เม้มปากเบาๆเล็กน้อย: "ฉันเข้าใจแล้ว"
โอวหยางเชี่ยนหรงพาเซี่นอันหรงเดินออกจากอาคารใหญ่ของบริษัท นั่งรถยนต์ ขับรถมาได้ไม่นาน ก็จอดลง ถึงแม้เซี่ยอันหรานจะนั่งอยู่ในรถ แต่ก็สามารถได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจจากด้านนอก เธอมองไปยังด้านนอกผ่านหน้าต่างรถยนต์ อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจ
นี่เป็นเพียงการประชุมประจำปีของบริษัทหวาอวี่หรอเนี่ย? ทำไมมีนักข่าวและแฟนคลับมากมายขนาดนี้ แล้วก็ดารานักแสดงที่เดินอยู่บนพรมแดง พอๆกับเทศกาลหนังเลย แต่นี่ก็อยู่ในเหตุผล เพราะนักแสดงของบริษัทหวาอวี่แทบจะเป็นคนครึ่งค่อนของวงการบันเทิง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้กำกับชื่อดังจำนวนมากที่มีสัญญากับบริษัทหวาอวี่ การเคลื่อนไหวเล็กน้อยของบริษัทหวาอวี่ เทียบเท่ากับความเจริญรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมบันเทิงทั้งหมด
"หวังว่าวันนี้คุณสามารถเป็นเหมือนสร้อยคอ'สตาร์ไลท์'เส้นนี้ ผลิบานเปล่งแสงแพรวพราวเป็นพิเศษ" โอวหยางเชี่ยนหรง เปิดประตูรถ แล้วก้าวลงจากรถ
ในฐานะที่โอวหยางเชี่ยนหรงเป็นผู้จัดการที่เป็นตัวแปรสำคัญในวงการบันเทิง พอเธอปรากฎตัว ก็ดึงดูดต่อสายตาของคนจำนวนมาก ขณะที่แฟลชกระพริบมายังโอวหยางเชี่ยนหรงอย่างต่อเนื่อง ก็หันตัวกลับไปแล้วยื่นมือ เปิดประตูรถ เซี่ยอันหรานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ยกกระโปรงขึ้นแล้วเดินลงมา
แสงแฟลชที่สว่างขึ้นในชั่วพริบตา ทำให้เซี่ยอันหรานต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย เธอห่างหายจากวงการบันเทิงไปนานมากแล้ว จึงไม่เคยชินกับแสงสปอร์ตไลท์เล็กน้อย ความรักในการแสดงที่ซ่อนอยู่ภายในใจ ทำให้เซี่ยอันหรานลืมตาขึ้น แววตาที่พร่างพราวราวกับสตาร์ไลท์ในคืนนี้
แม้ว่าในฉากจะมีดาราคนอื่นๆอยู่ด้วย ถึงแม้เซี่ยอันหรานจะไม่มีเชื่อเสียงมาก่อนเลยสักนิด แต่บรรดานักข่าวก็อดไม่ได้ที่จะเล็งกล้องไปยังเซี่ยอันหราน สายตาของคนโดยรอบก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังเซี่ยอันหราน
ความงดงามตั้งแต่แรกเริ่ม คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเซี่ยอันหราน ดาราที่สามารถเข้าร่วมการประชุมประจำปีของบริษัทวงการบันเทิงหวาอวี่ได้ ล้วนต้องมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง และแปลกหน้าแปลกตาเล็กน้อย หลายคนเป็นศิลปินที่เพิ่งเซ็นสัญญากับบริษัทหวาอวี่
ใบหน้าที่สดใสนี้ของเซี่ยอันหราน แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นศิลปินที่เซนต์สัญญาใหม่ของบริษัทหวาอวี่ หลายคนอดไม่ได้ที่จะเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอ ผู้หญิงที่สดใสและมีเสน่ห์คนนี้ จะทำความเปลี่ยนแปลงมาสู่วงการบันเทิงอย่างไร?
ขณะที่ผู้คนยังไม่ได้ดึงสติกลับมาจากการทึ่งกับเซี่ยอันหราน เสียงกระซิบกระซาบที่ดังมาจากไกลๆก็ยิ่งดึงดูดแก่ผู้คนมากมาย คนตำนวนมากหันไปมองทางด้านนั้น เซี่ยอันหรานที่เดินขึ้นบันไดไปแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง ก็เห็นโม่เซ่าเหยียนลงมาจากรถ ท่าทางของเขาทรงพลัง สวมชุดสูทสีดำ ติดกระดุมคอเสื้อจนถึงคอ หน้าผากของเขาแฝงไปด้วยนิสัยที่เยือกเย็น ใบหน้าสมบูรณ์แบบราวกับฟ้าประทาน
โม่เซ่าเหยียนใช้ขาที่เรียวยาวเดินก้าวอย่างสุขุมมั่นคง ขณะที่ก้าวไปด้านหน้า คนโดยรอบต่างก็สงบลงอย่างไม่รู้ตัว อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังก้าวหนึ่งอย่างเคารพ กระทั่งนักข่าวบางคนลืมที่จะกดไฟแฟลช เอาแต่มองผู้ชายที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่เย็นชาคนนี้ ผู้ชายคนนี้เยือกเย็นจนทำให้คนมองไปแล้วก็รู้สึกหวาดกลัว แต่เขาก็มีแรงดึงดูดที่รุนแรงมาก ทำให้ใครก็อดไม่ได้ที่จะเสี่ยงกับความเยือกเย็นจนเข้ากระดูกนี้ และก็อยากที่จะเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้
โม่เซ่าเหยียนเงยหน้า จ้องมองเซี่ยอันหรานอยู่ตลอด ตาทั้งคู่ประสานกัน เสียงเอะอะโวยวายโดยรอบคล้ายกับไม่มีอีกต่อไป เซี่ยอันหรานรู้สึกว่าความเยือกเย็นนั้นทำให้เธอสั่น โม่เซ่าเหยียนเดินเข้าไปทีละก้าว เซี่ยอันหรานคล้ายกับจมดิ่งอยู่ในดวงตาสีดำขลับนั้นของโม่เซ่าเหยียน ขยับไม่ได้แม้แต่น้อย
เซี่ยอันหรานรู้สึกว่าตนเองคล้ายกับเหยื่อที่ถูกหมาป่าจ้องมอง ไม่มีแม้กระทั่งพละกำลังที่จะต่อต้าน ทำได้เพียงรอให้เขาเดินมาถึงข้างกายของเธอ ฉีกต้นคอของเธอออก แล้วดูดเลือดที่แดงสดของเธอเป็นอาหาร
โม่เซ่าเหยียนจ้องมองเซี่ยอันหราน มือซ้ายของเขากำแน่นจนกลายเป็นกำปั้น ในกลางฝ่ามือมีรอยพิมพ์ฟันเล็กๆ ทันใดรอยพิมพ์ฟันก็ส่งกระจายความร้อนแผดเผาอย่างน่าแปลกประหลาด ความร้อนนั้นทำให้จิตวิญญาณทั้งหมดของเขาคำรามออกมาอย่างฮึกเหิม: จะไม่ให้คุณหลบหนีไปได้อีก!
MANGA DISCUSSION