ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ - ตอนที่ 3 พบครอบครัวอีกครั้ง
เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาภายในห้อง และตกกระทบลงบนร่างของเซี่ยอันหราน แสงอาทิตย์ในยามเช้าที่ให้ความอบอุ่นเล็กน้อยนั้นได้ปลุกให้เซี่ยอันหรานตื่นขึ้นมา
เซี่ยอันหรานรีบลืมตาขึ้นในทันที เพราะนึกว่าได้เห็นเข้ากับภาพใบหน้าอันน่ารังเกียจของถังรั่วชิวและฉู่เสี่ยวเสี่ยว แต่ว่าเซี่ยอันหรานกลับพบว่าตนเองอยู่ที่ตระกูลเซี่ย ได้กลับมาอยู่ในห้องที่เคยอาศัยอยู่ครั้งก่อนแต่งงาน
การตกแต่งภายในห้องเหมือนเมื่อหกปีที่แล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
หรือว่าเธอได้ย้อนเวลากลับมาเมื่อหกปีที่แล้ว นี่มันเป็นไปไม่ได้!
เซี่ยอันหรานรีบสวมใส่รองเท้า วิ่งไปยืนอยู่ที่ด้านหน้ากระจกและจ้องมองไปที่ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้ากระจก เซี่ยอันหรานผงะไปด้วยความตกใจ บนกระจกสะท้อนภาพหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์และงดงาม สิ่งนี้ทำให้เซี่ยอันหรานดวงตาเบิกโพลงไปด้วยความตกใจ
นี่เป็นตัวเธอเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เป็นตัวเธอที่มีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น ผิวของเธอขาวนวลเนียน ผมยาวปล่อยให้สยายตามธรรมชาติอยู่ที่บริเวณหน้าอก เอวเล็กคอดกิ่ว และความโค้งนั้นทำให้ผู้คนต่างพากันหัวใจสั่นไหว
ปีนี้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ครอบครัวรุ่งเรืองมีความสุข อีกทั้งยังสาวสวยอ่อนวัย ผิวไม่ได้แตกเป็นลวดลายเนื่องจากการตั้งครรภ์หรืออ้วนท้วมเลย พ่อแม่ของเธอยังไม่ได้เสียชีวิตเนื่องจากเหตุการณ์รถชน พี่ชายก็ยังไม่ได้ติดคุก เธอพึ่งจะได้รับผลสอบสัมภาษณ์จากบริษัทวงการบันเทิงหวาอวี่ ถังรั่วชิวยังคงเป็นเพียงแค่แฟนหนุ่มของเธอเท่านั้น เธอยังไม่ได้แต่งงานกับถังรั่วชิว ไอ้เศษเดนมนุษย์คนนั้น
ทั้งหมดพึ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง!
เธอ เซี่ยอันหราน กลับได้รับโอกาสอีกครั้งหนึ่ง! ในครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมให้พ่อแม่จากไปอย่างแน่นอน จะไม่ยอมให้พี่ชายถูกใส่ร้ายจนติดคุก และจะไม่ยอมให้ธุรกิจของครอบครัวต้องพังพินาศ เซี่ยอันหรานกำหมัดตัวเองแน่น จากนั้นก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดแล้วเดินออกจากห้องไป
พ่อแม่ของเซี่ยอันหรานตกแต่งห้องให้เป็นไปตามรูปแบบของตะวันตก บริเวณทางเดินถูกวางด้วยพรมราคาแพง การที่ได้กลับมาเดินบนพรมนี้อีกครั้งหนึ่งนั้นทำให้เซี่ยอันหรานมีความรู้สึกที่อัดแน่นจนสับสนไปหมด ครอบครัวที่ดีขนาดนี้ทำไมถึงได้พังพินาศไปแบบนั้นกันนะ
เมื่อมาครุ่นคิดในตอนนี้แล้ว เซี่ยอันหรานรู้สึกว่าเรื่องเคราะห์ร้ายทั้งหมดของตระกูลเซี่ยนั้นมีสาเหตุมาจากตัวเธอ ถ้าหากว่าเธอไม่ได้หลงรักถังรั่วชิว ทำให้พ่อแม่ของเธอต้องเข้าไปช่วยเหลือตระกูลถัง ตระกูลของพวกเขาก็จะไม่ต้องล้มละลายลงไปเพราะด้วยเหตุการเงินขัดสน พ่อแม่ของเธอก็จะได้ไม่ต้องประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างทางที่จะหาเงิน พี่ชายของเธอเองจะไม่ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือบริษัท แล้วไม่ระมัดระวังตัวจนตกหลุมพลางของคนอื่นแล้วต้องถูกใส่ความจนต้องติดคุกไป
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีสาเหตุมาจากตัวเธอทั้งสิ้น เมื่อคิดได้ดังนี้ เซี่ยอันหรานจึงนิ่งชะงักอยู่ที่หน้าทางเข้าห้องรับประทานอาหาร เธอมีความรู้สึกที่ไม่กล้าไปพบหน้าคนในครอบครัวขึ้นมา
"อันหราน วันนี้ตื่นเช้าจังเลย!" เสียงอันเขินอายของใครบางคนก็ดังขึ้นมา เป็นเสียงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวนั่นเอง
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเมื่อ 6 ปีที่แล้วเองก็อายุ 20 ปี แต่ว่าเป็นเพราะฉู่เสี่ยวเสี่ยวมีรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนกว่าวัย จึงดูละม้ายคล้ายกับเด็กมัธยมปลาย ฉู่เสี่ยวเสี่ยวโตมาโดยมีรูปลักษณ์ราวกับเป็นเสี่ยวเสี่ยวผู้น่าสงสาร ขณะนี้เองน้ำเสียงของเธอก็ดูเหนียมอาย จึงยิ่งทำให้ดูน่าสงสารมากยิ่งขึ้น ราวกับว่ามีใครกำลังรังแกเธออย่างไรอย่างนั้น
เซี่ยอันหรานได้ยินเสียงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็พลันขมวดคิ้วขึ้นมาทันที กัดฟันกรอดแล้วหันหน้าไปมองฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่แสร้งทำตัวเป็นเด็กสาวผู้อาภัพ
ฉู่เสี่ยวเสี่ยว! การได้กลับมาใช้ชีวิตอีกครั้งหนึ่งนี้ ทำให้เกมมันพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง เธอคอยดูฉันเล่นงานเธอให้ตายได้เลย!
"อันหราน ลูกพึ่งตื่นเหรอ ลูกดูเสี่ยวเสี่ยวสิ ตื่นแต่เช้าเลย ลูกเองก็ต้องหัดเรียนรู้จากเสี่ยวเสี่ยวให้มากๆ แล้วนะ"
เซี่ยอันหรานได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ก็รีบเงยหน้าขึ้นไปในทันที ผลปรากฏว่าก็ได้พบเข้ากับ กู้เหม่ยอวี้ คุณแม่ของเธอเอง คุณแม่ของเธอดูเหมือนกับเมื่อชาติที่แล้วไม่มีผิดเพี้ยน ยังคงสวมใส่ชุดกี่เพ้าเข้ารูปตามแบบจีนครั้นเมื่ออยู่บ้านเช่นเคย มีท่าทีที่สง่างาม และที่นั่งอยู่ข้างๆ แม่ของเธอก็คือคุณพ่อ เซี่ยจวิน และพี่ชายของเธอ เซี่ยหมิงเซวียน
เมื่อได้ยินคำพูดของกู้เหม่ยอวี้ เซี่ยจวินและเซี่ยหมิงเซวียนต่างก็เงยหน้าขึ้นมามองเซี่ยอันหราน
เซี่ยจวินและเซี่ยหมิงเซวียนมองเซี่ยอันหราน บนใบหน้าของพวกเขาเจือไปด้วยความขบขัน และแทบจะพูดออกมาพร้อมกันว่า "อันหรานถ้าไม่มีเรื่องอะไรล่ะก็ นอกพักอีกสักหน่อยก็ได้นะ"
เซี่ยจวินกล่าวจบ ก็มองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วขมวดคิ้วพลางกล่าวเสริมขึ้นมาว่า "ฉู่เสี่ยวเสี่ยวต่อไปนี้เองก็ไม่ต้องตื่นแต่เช้าขนาดนี้ก็ได้นะ"
เซี่ยหมิงเซวียนกลับไม่แม้แต่จะยอมมองฉู่เสี่ยวเสี่ยวเลยแม้แต่น้อย
เซี่ยอันหรานเอามือป้องปาก เกือบจะร้องได้ออกมาเสียงดัง เธอกลับได้พบกับภาพที่คนในครอบครัวของเธอทุกคนกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง ครั้งที่แล้วที่เซี่ยอันหรานได้พบหน้าพ่อแม่ก็คือภายในห้องเก็บศพที่โรงพยาบาล และได้พบกับพี่ชายที่ศาล
ภาพที่ปรากฏนี้สำหรับเธอแล้วนั้น ช่างดูห่างไกลเสียเหลือเกิน ไกลมากเสียจนสามารถพบเจอได้แต่ในความฝันเท่านั้น เพราะว่าภาพนี้ช่างงดงามจนเกินไป จนถึงขนาดที่เจือจางความรู้สึกชิงชังที่ได้มาเจอกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวอีกครั้งหนึ่ง
เซี่ยอันหรานกลัวว่าคนอื่นจะสังเกตเห็นท่าทีที่ประหลาดของตน จึงรีบแสร้งทำท่าหาวออกไป แต่ก็ยากที่จะกลบเสียงอันสั่นเครือของตนเองได้ "หนู เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย ก็เลยตื่นสายแบบนี้"