ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ - ตอนที่ 14 เผยหางสุนักจิ้งจอกของเธอออกมา
หลังจากที่เหอเฉวียนจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็พึ่งเข้าใจความหมายในคำพูดของเขา แท้จริงแล้วกำลังพูดถึงทักษะการแสดงของเธอนั้นแย่มากนี้เอง ฉู่เสี่ยวเสี่ยวกัดริมฝีปากของเธอแรงๆและจ้องไปที่ เซี่ยอันหรานที่กำลังเดินไปข้างหน้า
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวรู้สึกว่าเซี่ยอันหรานต้องพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับเธอต่อหน้าเหอเฉวียนแน่ๆเลยทำให้เขาเข้าใจเธอผิด แต่ทำไมเซี่ยอันหรานถึงดึงดูดความสนใจของเหอเฉวียนได้เร็วขนาดนี้? อืม เซี่ยอันหรานคงใช้รูปลักษณ์ของเธอเพื่อหลอกล่อเขาแน่ๆ! มิฉะนั้นเขาจะให้ความสนใจกับคนอ่อนหัดอย่างเซี่ยอันหรานได้ยังไง? ถ้าเป็นในลักษณะนี้ เหอเฉวียนก็เป็นเพียงคนแก่บ้ากามนี้เอง หึ ถ้าเธอไม่เข้าตาเหอเฉวียนงั้นก็ไม่เป็นไร
เซี่ยอันหรานเห็นการแสดงออกที่ไม่สามารถคาดเดาได้บนใบหน้าของฉู่เสี่ยวเสี่ยวจากการสะท้อนของกระจกที่ด้านข้างของถนน เซี่ยอันหรานจึงหันหลังกลับไปมองเธอ
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็รีบซ้อนสีหน้าที่แสดงออกถึงความอาฆาตแค้นเอาไว้และเปลี่ยนเป็นลักษณะท่าทางที่ดูน่าสงสารทันที เธอมองไปที่เซี่ยอันหรานอย่างไร้เดียงสาและพูดว่า: "อันหราน เรารีบกลับบ้านกันเถอะ พ่อกับแม่คงรอจนกังวลไปหมดแล้ว"
เซี่ยอันหรานยกมุมปากขึ้นพร้อมกับยิ้มและกล่าวว่า "ได้สิ"
เซี่ยอันหรานรู้สึกเบื่อหน่ายกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวเต็มที กลับบ้านครั้งนี้เธอจะไล่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวออกจากบ้านให้ได้
เมื่อพวกเธอทั้งสองคนกลับถึงบ้าน เซี่ยจวินและเซี่ยหมิงเซวียนก็กลับจากที่ทำงานและนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว
เมื่อกู้เหม่ยอวี้เห็นฉู่เสี่ยวเสี่ยวและเซี่ยอันหรานก็ยิ้มออกมาอย่างรวดเร็วและพูดว่า "มากินข้าวเร็ว อันหรานวันนี้สัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง"
"ก็ดี……"
เซี่ยอันหรานยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา: "แต่เสี่ยวเสี่ยว เพราะเธอขาดเรียนเลยไม่มีสิทธิ์สอบนิ ทำไมเธอถึงมารับฉันล่ะ?"
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่คาดคิดว่าเซี่ยอันหรานจะพูดถึงเรื่องที่เธอไม่มีสิทธิ์สอบโดยเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าเซี่ยหมิงเซวียน
ใบหน้าของฉู่เสี่ยวเสี่ยวซีดลงทันที เธอกัดริมฝีปากล่างแล้วพูดว่า "อันหราน ฉันก็เป็นห่วงเธอเหมือนกัน ถ้าตอนบ่ายฉันไม่ไปรับเธอ บางทีเธออาจจะถูกคนแก่บ้ากามคนนั้นเอาเปรียบก็ได้ ฉันได้ยินมาว่าในวงการบันเทิงนั้นซับซ้อนมาก เธอไร้เดียงสาขนาดนี้คงเสียเปรียบแน่ๆ"
"คนแก่บ้ากามอะไรกัน?ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ อันหรานถ้าอย่างนั้นไม่ต้องไปถ่ายหนังอะไรนั้นแล้ว" กู้เหม่ยอวี้เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวจงใจแกล้งทำท่าทางลังเล เธอเหลือบมองเซี่ยอันหรานแว๊บหนึ่งและพูดเสียงเบาว่า: "อ๊า … ฉันพูดผิด ฉัน … ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น"
ท่าทางการแสดงออกของฉู่เสี่ยวเสี่ยวดูเหมือนเซี่ยอันหรานกำลังบีบบังคับเธอเลยไม่กล้าที่จะพูดความจริงออกมา
กู้เหม่ยอวี้กระตือรือร้นที่จะปกป้องเธอและรีบถามว่า "อันหราน ตกลงเกิดอะไรขึ้น?"
เซี่ยอันหรานยิ้มและพูดว่า "แม่ คนๆนั้นคือผู้กำกับเหอเฉวียน เขาอายุมากกว่าพ่ออีก แถมยังเป็นคนที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ได้ยินมาว่าเขากับภรรยายังรักกันดี เขาจะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร คนแก่แบบเขาจะมีจะแผนอะไรกับฉันได้ยังไงกัน?เขาแค่คิดว่าการแสดงของฉันค่อนข้างดีก็เลยให้นามบัตรฉันมา "
ครอบครัวตระกูลเซี่ยเองก็มีการคลุกคลีกับคนในวงการบันเทิงอยู่บ้าง พวกเขาต่างก็รู้สึกโล่งใจที่ได้ยินชื่อเสียงของเหอเฉวียน
กู้เหม่ยอวี้อดไม่ได้ที่จะตำหนิฉู่เสี่ยวเสี่ยว: "เสี่ยวเสี่ยว คุณสมบัติของผู้กำกับเหอเฉวียนถือว่าไม่เลวนะ ต่อไปก็อย่าพูดเรื่องไร้สาระแล้วไปใส่ร้ายคนอื่นแบบนี้"
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของกู้เหม่ยอวี้ ใบหน้าของเธอก็เริ่มแข็งกระด้าง เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเซี่ยอันหรานตอนพูดถึงเหอเฉวียนฟังดูพวกเขาใกล้ชิดกันมาก และเมื่อนึกถึงท่าทีของเหอเฉวียนที่มีต่อเธอในวันนี้ ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วแสดงสีหน้าของความเกลียดชังต่อเซี่ยอันหราน
เมื่อเซี่ยอันหรานเห็นท่าทีการแสดงออกที่แสดงถึงความอิจฉาปรากฏขึ้นบนใบหน้าฉู่เสี่ยวเสี่ยวอย่างช้าๆ เซี่ยอันหรานก็หรี่ตาของเธอลงเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้ม:“วันนี้ผู้กำกับเขาชมฉันด้วยว่าทักษะการแสดงของฉันดีมากและต่อไปฉันจะต้องกลายเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมแน่นอน .. แถมยังบอกให้ฉันคลุกคลีกับคนที่มีทักษะการแสดงดีๆให้มากๆ … "
น้อยมากที่เซี่ยอันหรานจะยกย่องตัวเอง แต่วันนี้เธอจำเป็นต้องกระตุ้นฉู่เสี่ยวเสี่ยวให้หนักๆหน่อย ปล่อยให้เธอเผยหางสุนักจิ้งจอกออกมาภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูน่าสงสารต่อหน้าทุกคน
หลังจากได้ยินสิ่งที่เซี่ยอันหรานพูด ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็ขมวดคิ้วแน่นและอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า: “อันหราน ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอ ถ้าเกิดเขาคิดร้ายกับเธอจะทำยังไง? เธอยังไม่เคยได้รับการฝึกอบรมวิชาชีพ เธอจะมีทักษะการแสดงได้ยังไงกัน? ที่เขาเลือกเธอไม่ได้เป็นเพราะหน้าตาของเธอหรอกหรอ?ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเคยใช้ชีวิตอยู่ในบ้านครอบครัวตระกูลเซี่ยอย่างราบรื่นมาก่อน ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมจากครอบครัวตระกูลเซี่ย โดยไม่ค่อยได้รับความผ่ายแพ้มากนัก แต่วันนี้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวถูกเซี่ยอันหรานกระตุ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงและไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ในคำพูดที่เผยถึงความเจ็บแสบและความอิจฉาริษยาอย่างชัดเจน ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินอย่างชัดเจน
กู้เหม่ยอวี้ขมวดคิ้วเข้าหากัน เหมือนกับว่าเธอไม่รู้จักฉู่เสี่ยวเสี่ยวเสียอย่างนั้น: "เสี่ยวเสี่ยวเธอกำลังพูดอะไรนะ?สิ่งที่เธอพูดหมายความว่ายังไง?"