แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉู่เสี่ยวเสี่ยวกับเซียวเทียนหลีจะใกล้ชิดกันมาก แต่เธอก็ยังกลัวเซียวเทียนหลีมากๆ
นิสัยของเซียวเทียนหลีไม่แน่ไม่นอน ที่ผ่านมาฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่เคยเห็นใครเหมือน เซียวเทียนหลีมาก่อนเลย แม้ว่าเขาจะมีรูปร่างหน้าตาที่หล่ออย่างน่าอัศจรรย์ แต่ขณะเดียวกันความโหดร้ายของเขาต่างก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเคยเห็นในขณะที่เซียวเทียนหลียิ้มเหมือนเทือกเขาเอลฟ์ที่สวยที่สุดในโลก พร้อมกับฆ่าคนด้วยความโหดร้ายอย่างกับทะเลสาบ
ตอนนั้นเขาหัวเราะได้ไพเราะมาก แต่วิธีการที่โหดร้ายนั้นทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวรู้สึกตกใจมากเมื่อหวนกลับไปคิดถึงมันอีกครั้ง เซียวเทียนหลีคือดอกป๊อปปี้ ถึงแม้จะสวยงามแต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ปางตายได้
เมื่อฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินเสียงหัวเราะของเซียวเทียนหลี เธออดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึดๆและพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า: “เทียน เทียนหลี ไม่ใช่ฉันที่ไปหาเรื่องเซี่ยอันหราน ไม่ใช่จริงๆ แต่เป็นเธอที่ตั้งใจใส่ร้ายคนรอบข้างฉัน…"
“เสี่ยวเสี่ยว คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ฉันฟัง เพราะฉันรู้ทุกอย่างที่คุณทำ…” เซียวเทียนหลีหรี่ตาลงเล็กน้อยและดูวิดีโอบนทีวีที่อยู่ตรงกำแพงที่ยังคงรันต่อไปเรื่อยๆไม่หยุด จากนั้นก็แสดงรอยยิ้มครึ่งๆกลางๆออกมา “เซี่ยอันหรานก็เช่นกัน ไม่ว่าเธอจะทำอะไรฉันก็รู้หมด เสี่ยวเสี่ยว แม้ว่าครอบครัวตระกูลเซียวกับครอบครัวตระกูลโม่จะไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่ครอบครัวตระกูลโม่ก็ได้รับความนิยมมากๆมาหลายปีแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะต้องก้าวลงจากตำแหน่งสักที ถึงแม้จะไม่มีคุณ ฉันก็จะจัดการกับครอบครัวตระกูลโม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ถ้าเซี่ยอันหรานใช้งานได้ดี ก็อาจจะเป็นหมากรุกที่ดีสำหรับฉันก็ได้ ดังนั้นคุณห้ามแตะต้องเธอ โม่เซ่าเหยียนเย็นชามากกว่าฉันจะเห็นจุดอ่อนขนาดใหญ่ของเขาได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย! อย่าทำเรื่องของฉันพังล่ะ"
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวขยับริมฝีปากของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำอย่างสั่นเทาว่า “แล้ว แล้วฉันควรทำยังไงล่ะ? ฉันรู้ว่าเทียนหลีไม่มีทางทำให้ฉันตกอยู่ในอันตราย แต่ฉันก็ยังอยากเป็นดาราต่อ ฉันไม่ควรมีข่าวด้านลบ…ฉัน…"
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไม่ควรทำอะไรแบบลวกๆ เสี่ยวเสี่ยว…” เซียวเทียนหลีหัวเราะเบาๆ แต่น้ำเสียงที่เขาพูดกลับทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวรู้สึกหวาดกลัว
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวรีบพูดอย่างรวดเร็ว: "ฉันไม่กล้าอีกแล้ว ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เทียนหลี ช่วยฉันด้วย คุณก็รู้ว่าเซี่ยอันหรานปฏิบัติกับฉันยังไง ถ้าฉันเป็นดาราไม่ได้ กลับกันถ้าเธอกลายเป็นดาราขึ้นมา เธอจะต้องหัวเราะเยาะฉันแน่ๆแล้วคอยเหยียบย่ำฉันให้จมดิน คุณ… คุณรักฉัน ไม่ใช่เหรอ? เทียนหลี ช่วยฉันด้วยนะ!"
“อ่า…” เหมือนเซียวเทียนหลีเพิ่งได้สติกลับมาและค่อยๆหัวเราะออกมาอย่างช้าๆ: “ตอนฉันยังเด็ก คุณเคยช่วยฉันไว้ เราใช้เวลาด้วยกันทั้งคืนบนน้ำแข็งหิมะ จากนั้นก็โชคดีที่รอดชีวิตมาได้ ตอนนั้นฉันก็รู้สึกว่าพรหมลิขิตของเราเชื่อมถึงกัน ฉันเลยพยายามอย่างหนักเพื่อตามหาเธอ ในที่สุดก็หาเธอจนเจอ ฉันจึงรักคุณ ฉันควรรักคุณ! ฉันเองก็ควรมีความสุขมากๆเหมือนกัน!”
เซียวเทียนหลีพูดอย่างช้าๆและมีรอยยิ้มบ่นอยู่บ้าง แต่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เมื่อฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินดังนั้น ทำไมถึงรู้สึกเย็นชาและแปลกขนาดนี้
มันทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวรู้สึกว่าเธอกำลังคุยกับเทพเจ้าแห่งความตาย
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวสูดหายใจเข้าลึกๆหลายครั้งและปรับอารมณ์ให้คงที่ หลังจากลังเลอยู่นาน เขาก็เรียกชื่อเซียวเทียนหลี "เทียนหลี… เทียนหลี… ความหมายของคุณคือ…"
“ฮ่าๆ…ไม่มีความหมายอื่น” เซียวเทียนหลีหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “เรื่องนี้ฉันจะช่วยคุณเอง จะทำให้หญิงสาวคนนั้นเปลี่ยนจากการถูกฆ่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง แต่คุณอย่าก่อเรื่องขึ้นอีกล่ะ "
แม้ว่าประโยคสุดท้ายของเซียวเทียนหลีจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีความเย็นชาที่น่ากลัวบ่นอยู่ ฉู่เสี่ยวเฉี่ยวตกใจและรีบพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า: “ฉันรู้แล้ว ต่อไปฉันจะไม่ก่อเรื่องอะไรอีกแล้ว"
“โอเค นอนหลับฝันดีนะ ที่รักของฉัน…” เซียวเทียนหลียิ้มและวางสายลงอย่างช้าๆ จากนั้นก็หลี่ตาและหันไปมองหิมะหนาทึบที่อยู่ด้านนอก
เซียวเทียนหลีก้มศีรษะลงแล้วค่อยๆบิดนิ้วไปมาและยกมุมปากขึ้น เขาไม่ควรโกรธฉู่เสี่ยวเสี่ยว มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย แค่หาใครสักคนจัดการกับมันแล้วปกปิดมันไว้ก็พอ แต่เซียวเทียนหลีอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ ประเทศที่เขาและฉู่เสี่ยวเสี่ยวรอดชีวิตจากค่ำคืนอันหนาวเหน็บมาด้วยกัน มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกใจดีกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวมากขึ้น กลับกันเขากลับยิ่งเข้มงวดและยิ่งหมดความอดทนมากขึ้น
“แปลกจริงๆเลย…” เซียวเทียนหลียกมุมปากขึ้นแล้วจับหน้าอกของเขา พร้อมกับแสดงรอยยิ้มแปลกๆออกมาและพูดด้วยรอยยิ้มบางๆว่า “แปลกจริงๆ ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวถึงแปลกจัง?”
ทำไมเขาถึงไม่มีความผ่อนคลายและยอมจำนนต่อฉู่เสี่ยวเสี่ยวเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกเบื่อเธอแทน?
ในตอนนี้ จู่ๆทีวีในห้องก็ฉายเซี่ยอันหรานที่เป็นส่วนหนึ่งของรายการ เซี่ยอันหรานเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนและยิ้มพร้อมกับพูดว่า "สวยมากเลย ขอให้ได้เห็นท้องฟ้าสวยๆแบบนี้ทุกๆวันเถอะ!"
เซี่ยอันหรานดูสดใสและสวยงามมาก เพราะกลิ่นไอของคนที่ดูมีความรู้แผ่ออกมาจากเรือนร่างของเธอและทำให้ยกระดับบุคลิกของเขา ถ้างั้นเธอก็น่าจะเป็นคนที่มีเสน่ห์และเซ็กซี่เป็นพิเศษ แต่เนื่องจากเธอดูเป็นหญิงสาวที่มีความรู้และไร้เดียงสาแผ่ออกมาจากร่างกายเธอ เธอจึงดูเหมือนหญิงสาวที่น่ารักและไร้เดียงสามากยิ่งขึ้น
ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวเทียนหลีเคยตรวจสอบเซี่ยอันหรานอย่างละเอียดรอบคอบมาก่อน เขาอาจจะรู้สึกว่าเซี่ยอันหรานเป็นคนที่น่ารักและไร้เดียงสามาก แต่ตอนนี้เซียวเทียนหลีรู้สึกเพียงว่าเซี่ยอันหรานคนนี้เป็นผู้หญิงจอมปลอมและซับซ้อนมากคนหนึ่ง ถ้าไม่มีวิธีการที่เพียงพอ เขาจะจับโม่เซ่าเหยียนที่ไม่เคยเหลียวแลผู้หญิงให้อยู่หมัดได้อย่างไร อีกทั้งยังเกลี้ยกล่อมหมิงเยี่ยนเฟยที่เป็นดาราดังขนาดนี้มาถ่ายทำเรียลลิตี้โชว์กับเธอ
เซียวเทียนหลีหรี่ตาและมองดูเงาเลือนลางที่สะท้อนในทีวีของเซี่ยอันหราน เขารู้เรื่องของถังรั่วชิวและฉู่เสี่ยวเสี่ยวนานแล้ว แถมยังเข้าใจทุกรายละเอียดของความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา แต่เขาไม่ได้สนใจเลยสักนิด อีกทั้งยังรู้สึกว่าการที่ถังรั่วชิวและฉู่เสี่ยวเสี่ยวอยู่ด้วยกัน ก็สามารถบรรเทาความเหงาของฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ ซึ่งก็เป็น "ความดี" อย่างหนึ่งที่เขาปฏิบัติต่อฉู่เสี่ยวเสี่ยว
แต่เมื่อมองไปที่เซี่ยอันหรานที่เป็นคนกลางซึ่งอยู่ระหว่างชายสองคนอย่างโม่เซ่าเหยียนและหมิงเยี่ยนเฟย เซียวเทียนหลีไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงโกรธได้ขนาดนี้?
“ต่ำ! ยั่วยวนผู้คนเก่งจริงๆ!” ดวงตาของเซียวเทียนหลีเบิกกว้างแล้วจ้องไปที่เงาเลือนลางของเซี่ยอันหรานที่สะท้อนบนกระจกอย่างดุดันและค่อยๆขจัดรอยยิ้มแปลกๆที่อยู่บนใบหน้าของเขามาโดยตลอด จากนั้นก็ดุด่าอย่างรุนแรง
ระดับการกัดฟันของเซียวเทียนหลี ไม่เหมือนกำลังมองผู้หญิงที่ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเขา แต่กลับเหมือนสามีที่กำลังจ้องมองภรรยาที่นอกใจ
เมื่อเซียวเทียนหลีด่าเซี่ยอันหรานเสร็จ เขาก็อึ้งทันที จากนั้นก็ขมวดคิ้วและหันไปมองเซี่ยอันหรานที่อยู่ในทีวี เซียวเทียนหลีมองเซี่ยอันหรานเป็นเวลานาน ก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างช้าๆอีกครั้ง: "ช่างเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวจริงๆ ดูเหมือนที่เธอเมินฉันในลิฟต์วันนั้น ก็เป็นวิธีการที่ปฏิเสธการต้อนรับอย่างหนึ่งสินะ"
เซียวเทียนหลีจ้องเซี่ยอันหรานที่อยู่ในทีวีด้วยรอยยิ้มแปลกๆบนใบหน้าของเขาและพูดช้าๆว่า "น่า … น่าสนใจจริงๆ … "
ไกลออกไปในอีกประเทศหนึ่ง เซี่ยอันหรานซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในห้องของตัวเอง จู่ๆร่างกายก็รู้สึกหนาวขึ้นมาไปทั้งตัว ทำให้เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที ในตอนนี้ท้องฟ้าส่องสว่างมากแล้ว แต่เซี่ยอันหรานยังคงรู้สึกหนาวไปทั้งตัว
เซี่ยอันหรานยืนขึ้นพร้อมกับกอดแขนของเธอไว้ เธอหันศีรษะมองไปรอบๆ ความรู้สึกที่ทำให้เธอรู้สึกหนาวไปทั้งตัวนี้ ทำให้เธอรู้สึกว่าโม่เซ่าเหยียนมายืนอยู่ข้างๆเธอ แต่ความหนาวเย็นแบบนี้ต่างจากโม่เซ่าเหยียน โม่เซ่าเหยียนเป็นความหนาวเย็นที่ไม่แยแสอย่างหนึ่ง แต่นี่เป็นความรู้สึกเย็นชาอย่างมืดมนอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้เซี่ยอันหรานรู้สึกกลัวเป็นพิเศษ
เซี่ยอันหรานรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังถูกงูพิษจ้องมองและงูพิษตัวนี้ก็ซ่อนอยู่ในความมืดมิดพร้อมกับจ้องมองเธอตลอดเวลา
เซี่ยอันหรานยังไม่ได้ทำให้จิตใจของเธอสงบลง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างฉับพลันทำให้หัวใจของเธอเต้นรัว เซี่ยอันหรานรีบลุกขึ้นและเปิดประตูอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ประตูเปิดออก เซี่ยอันหรานก็เห็นเฉิงเสี่ยวเถียนที่กำลังร้องไห้ราวสายน้ำ
“เป็นอะไร? เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วและถามอย่างกระวนกระวาย
“ตายแล้ว!” เฉิงเสี่ยวเถียนมองไปที่เซี่ยอันหรานและร้องไห้ไม่หยุด: "เก๋อหงหงตายแล้ว!"
เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วและก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ: “อะไรนะ? เก๋อหงหงตายแล้วงั้นเหรอ? ตายได้ยังไง?"
“เมื่อกี้ตำรวจมาสอบสวนที่กองถ่าย บอกว่าเป็นการฆ่าตัวตาย!” เสียงของเฉิงเสี่ยวเถียนสั่นเทาและส่ายหัวอย่างช้าๆ: “แต่เมื่อวานเก๋อหงหงยังแสดงสีหน้าที่ดูเกลียดชังฉันมากอยู่เลย เธอจะไปฆ่าตัวตายได้ยังไง? ถึงแม้ฉันจะไม่เข้าใจความคิดที่อยู่ในใจของคนอื่น แต่ถ้าคนๆหนึ่งจะฆ่าตัวตายก็ต้องรู้สึกหมดหนทางสิ เธอยังไม่ได้หาทางแก้แค้นฉันเลย เธอจะไปฆ่าตัวตายได้อย่างไร? ตามนิสัยของเธอ แม้ว่าจะฆ่าตัวตายจริงๆ ก็ต้องทำให้ฉันลำบากใจไม่ใช่เหรอ?”
เซี่ยอันหรานสูดลมหายใจเข้าลึกๆและรู้สึกหนาวไปทั้งตัว เธอรีบปิดปากของเฉิงเสี่ยวเถียนอย่างรวดเร็ว: "เสี่ยวเถียน อย่าพูดอะไรส่งเดชแบบนี้ ไม่ว่าเก๋อหงหงจะตายเพราะอะไร ก็ไม่เกี่ยวกับเธอ แม้ว่าเขาจะถูกฆาตกรรมแล้วถูกระบุว่าเธอฆ่าตัวตาย เธอก็ห้ามเข้าไปมีส่วนร่วมกับคดีนี้ พวกเขาสามารถทำให้การตายของเก๋อหงหงกลายเป็นการฆ่าตัวตายได้ ถ้างั้นก็เป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำให้อีกคนฆ่าตัวตายโดยไม่ต้องอาศัยความพยายามใดๆ เข้าใจไหม?”
เฉิงเสี่ยวเถียนอ้าปากค้างด้วยความตกใจและพยักหน้าซ้ำไปมา : “ฉัน ฉันเข้าใจแล้ว แต่ว่าเก๋อหงหง … "
“เราทำอะไรไม่ได้แล้ว” เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว “ไม่ว่าเก๋อหงหงจะตายยังไง ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ เสี่ยวเถียนเราไม่มีอำนาจมากพอที่จะตรวจสอบการตายของเก๋อหงหง ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเก๋อหงหงไม่ได้ดีจนถึงขั้นที่เราจะไปเสี่ยงตรวจสอบเพื่อเขาเป็นการส่วนตัว พูดออกมาอาจจะฟังดูโหดร้าย แต่ไม่ว่าเก๋อหงหงจะตายยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเรา! ถ้าไม่ใช่เพราะเก๋อหงหงแล้วเป็นคนอื่นๆที่อยู่รอบตัวเรา ถ้าพยายามอย่างสุดชีวิตก็อาจจะตรวจสอบเบาะแสเจอ แต่เก๋อหงหงไม่คุ้มค่าพอให้เธอกับฉันไปเสี่ยง!”
“แต่ว่า ถ้าฉันถูกใส่ร้ายว่าเป็นขโมย เก๋อหงหงก็จะไม่ตายใช่ไหม?” เฉิงเสี่ยวเถียนพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
"เขาอาจจะไม่ตาย" เซี่ยอันหรานถอนหายใจเบาๆ "แต่เขาจะมีชีวิตอยู่และใส่ร้ายคนอื่นไปเรื่อยๆ ใส่ร้ายคนอื่นว่าเป็นขโมย ใส่ร้ายคนอื่นว่าโจรกรรม และอาจจะใส่ร้ายคนอื่นว่าเป็นฆาตรกร ค่อยๆชั่วร้ายจากเรื่องเล็กๆจนกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ บางทีหลังจากที่เธอถูกจับเข้าคุกเก๋อหงหงอาจจะไม่ตาย แต่สักวันหนึ่งเธออาจกลายเป็นฆาตรกรที่ฆ่าผู้คน ดังนั้นเธอไม่ควรคิดแบบนี้และไม่ควรยอมจำนนต่อความชั่วร้าย”
เฉิงเสี่ยวเถียนหายใจเข้าลึกๆแล้วพยักหน้าและพูดด้วยเสียงร้องไห้: “ฉัน ฉันเข้าใจแล้ว ฉันคิดผิดเอง ตอนนี้ทีมงานทั้งหมดต่างก็กำลังพูดถึงเรื่องนี้ ส่วนใหญ่บอกว่าหลังจากฉู่เสี่ยวเสี่ยวพาเก๋อหงหงกลับไปในคืนนั้น เธอก็ด่าเก๋อหงหงอย่างรุนแรง ดังนั้นเลยทำให้เก๋อหงหงมองไม่เห็นหนทาง "
ฉู่เสี่ยวเสี่ยว…
เมื่อเซี่ยอันหรานได้ยินชื่อฉู่เสี่ยวเสี่ยว เธออดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง จิตใจที่โหดเหี้ยมอำมหิตของฉู่เสี่ยวเสี่ยวเหมือนกับชาติที่แล้วเลยจริงๆ
MANGA DISCUSSION