ขอสายลมพารักคืนใจเธอ - บทที่ 39 เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับความรัก
คุณกวินเดินไปนั่งที่โซฟา เหลือบตามองฉันและบอกว่า “เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับความรักหรอก ถ้าคุณคิดจะอยู่กับอาธิป ก็ต้องพูดความจริงให้อาธิปได้รู้ เขาจะมีวิธีแก้ไขของเขาเอง”
วิธีอะไรล่ะ
แต่อันนี้ฉันไม่ได้ถามไป แต่ละคนต้องมีความคิดของตัวเอง ฉันไม่เข้าใจว่าวิธีการแก้ไขที่คุณกวินบอกนั่นคืออะไร แต่ฉันรู้อย่างเดียวว่า ลูกคนนี้เป็นลูกของฉันคนเดียว
อาธิปเขาไม่ได้รักฉันอยู่แล้ว ถ้าอาก๋งยังอยู่ ฉันก็ยังสามารถอาศัยอาก๋งช่วยมัดอาธิปอยู่กับฉันได้ แต่ตอนนี้อาก๋งเสียไปแล้ว ฉันไม่มั่นใจว่าฉันยังผูกมัดเขาได้อีกนานแค่ไหน
ใช้ลูกในท้องมาเสี่ยงต่อการพนันชีวิตแบบนี้ มันไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด
ฉันเงียบไปสักพัก และบอกว่า “เรื่องดูแลลูกในท้อง ก็ฝากคุณกวินด้วยนะคะ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ฉันมีแผนอยู่แล้ว แต่ยังไงก็ขอบคุณคุณกวินมากนะคะ”
อาจจะเป็นเพราะฉันไม่ได้เชื่อฟังที่เขาพูด คุณกวินขมวดคิ้วตา และก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เขาก็ถอนหายใจแล้วบอกว่า “เดี๋ยวช่วงบ่ายผมยังมีธุระต้องทำ อย่าลืมกินยาด้วยนะ ไปแล้วครับ”
คุณกวินไปแล้ว ฉันก็ไม่ได้กินน้ำขิงที่อาธิปทำให้ รู้สึกกระเพาะไม่ค่อยสบาย ตอนนี้อายุครรภ์ยังไม่เท่าไร เลยยังไม่มีอาการแพ้ท้อง แต่ตอนนี้ฉันยังไม่อยากกินอะไรจริง ๆ
ฉันเลยขึ้นห้องไปนอน สักพัก ก็มีสายโทรเข้ามา เป็นเบอร์โทรแปลกหน้า ฉันเลยรับสาย
รับสายสักพัก ทางโน้นถึงพูดมาว่า “ฉันเอง นัชชา”
ฉันตะลึงใจ ขมวดคิ้วตา และบอกว่า “คุณนัชชามีไรหรือเปล่าคะ”
“เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน โลเคชั่นที่นัดฉันส่งไปทางแมสเซสให้แล้ว”
เธอพูดจบ ก็ไม่ให้โอกาสฉันพูด วางสายไปเลย
ฉันไม่เข้าใจเลยว่านัชชาเธอจะทำอะไร
แต่ยังไงก็ไม่พ้นเรื่องอาธิปหรอก
ว่าแต่ ทำไมฉันต้องเชื่องฟังเธอด้วย ให้ฉันไปก็ไปตามที่สั่งเหรอ ฉันเปิดอ่านโลเคชั่นที่นัชชาส่งมา แล้วก็แคปหน้าจอไปให้อาธิป และส่งข้อความไปด้วยว่า “คุณนัชชานัดฉันไปคุยกัน แต่ฉันกลัวว่าฉันจะเผลอควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ แล้วไปตบเขาอีก ฉันเลยปฏิเสธเขาไปแล้ว”
เพิ่งส่งข้อความไปสักพัก อาธิปก็โทรมา
ฉันรับสาย แล้วก็ยืนพิงไว้ที่ชานระเบียงของห้องนอน ชมวิวข้างนอก ก็รับสายขึ้นมาพูดแบบชิล ๆ ว่า “คุณอาธิป มีอะไรหรือเปล่าคะ”
ฉันรู้ว่าฉันพูดไปแบบนี้ ผู้ชายฝั่งโน้นจะขมวดคิ้วตา และไม่พอใจนิด ๆ เขาบอกว่า “เธออยู่ไหน”
“อยู่บ้านค่ะ”
“อืม” เขาหยุดพูดสักครู่ แล้วก็พูดต่อว่า “พักผ่อนอยู่บ้านดี ๆ”
ฉันพยักหน้า แล้วบอกว่า “รับทราบค่ะ”
ดูท่าทางเขาน่าจะได้อ่านข้อความที่ฉันส่งไปแล้ว วางสายไปแล้ว ฉันก็นอนไม่หลับ และก็ไม่มีอะไรทำ ฉันเลยไปหาหนังสือที่ห้องอ่านหนังสือของอาธิปมาอ่าน
ก่อนหน้านี้มั่วแต่ทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาในห้องนี้ นาน ๆ ทีได้มีเวลาพักผ่อน ก็ทิ้งงานทั้งหมด พักผ่อนให้เต็มที่เลย
ห้องอ่านหนังสือของอาธิปกว้างใหญ่มาก ประเภทหนังสือก็หลากหลาย ฉันหยิบหนังสือที่มีรูปภาพประกอบมาอ่านแบบอ่านผ่าน ๆ นั่งอ่านไม่นาน ฉันก็รู้สึกเมื่อยตัวไปหมด
ก็เลยวางหนังสือและเดินตระเวนอยู่ในห้องอ่านหนังสือของเขา และเห็นมีตู้เล็ก ๆ ที่ดูเก่า ๆ วางไว้อยู่มุมหัดเขียนพู่กัน
ด้วยความแปลกใจ ฉันเลยเปิดมาดูว่าข้างในมีอะไร เปิดมาเห็นมีรูปถ่ายอยู่หลายใบ เป็นรูปถ่ายเก่ามากแล้ว แต่ดูออกว่าเป็นรูปตอนเด็ก ๆ ของอาธิป
ฉันไม่เคยได้เห็นหน้าคุณพ่อและคุณแม่ของอาธิป ฉันเห็นมีรูปถ่ายใบหนึ่งมีหนุ่มสาวคู่หนึ่ง และผู้หญิงอุ้มเด็กไว้ที่อวบแขน หน้าตายิ้มแย้มดูเป็นคนใจดี
หน้าตาของหนุ่มผู้ชายดูคล้าย ๆ อาธิป และก็ดูคล้ายกับอาก๋ง น่าจะเป็นคุณพ่อของอาธิป ส่วนสาวผู้หญิงดูอ่อนโยนและมีเสน่ห์ ก็คงจะเป็นคุณแม่ของอาธิป
และฉันก็เปิดดูรูปถ่ายที่เหลือต่อไป รูปถ่ายใบหลัง ๆ ทำให้ฉันรู้สึกผิดปกติ ในรูปถ่ายหลายใบช่วงท้าย ๆ เด็กที่อุ้มอยู่ในวงแขนของคุณแม่กลายเป็นเด็กผู้หญิง ฉันเลยเกิดความสงสัย ปรากฏว่ามีอยู่หลายใบ มีเด็กหญิงอายุสองถึงสามขวบคนนึงยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อแม่ของอาธิป
แต่ก่อนอาก๋งเคยเล่าให้ฟังว่า พ่อแม่ของอาธิปมีลูกชายคนเดียว เหมือนไม่มีลูกสาว และคุณอาก็ไม่มีลูก ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ว่าเป็นลูกสาวของคุณอา
แล้วเด็กหญิงคนนี้เป็นใคร