ขอสายลมพารักคืนใจเธอ - บทที่ 34 เคยมีเด็กตายในท้อง
ได้ยินที่เขาสองคนคุยกัน ฉันก็เดาออกแล้วว่าพวกเขานัดกันมาที่นี่ และตอนที่อยู่สวนยาสมุนไพร ก็กลัวว่าฉันจะตามมา เลยบอกให้ฉันกลับบ้านก่อน
“ดารัณ ทำไมแกหน้าด้านอย่างนี้ พี่อาธิปไปถึงไหน แกก็ตามมาจนได้วะ” เฉียวจินเหยนไม่เคยพูดดีกับฉัน เห็นหน้าฉันทีไร ก็จะพูดเสียดสีฉันตลอด ไม่เคยเกรงใจกัน
ฉันก็ขี้เกียจไปเถียงกับเขา แค่บอกว่า “ฉันมากับเพื่อนฉัน อย่าคิดไปมากเลย”
ฉันไม่ได้ว่างขนาดนั้น คอยตามอาธิปไปทั่ว
นัชชามองดูฉัน หลิ่วตาลง และพูดขึ้นมาว่า “แกเพิ่งทำแท้งลูกมาไม่ใช่เหรอ ทำไมรับออกมาเที่ยวเล่นเร็วขนาดนี้”
“ก็เหงาแหละ พี่อาธิปไม่ได้เตะเขา เขาก็ต้องออกมาหากินเป็นเรื่องปกติ” เฉียวจิ่นเหยนพูดไม่เคยเกรงใจ
ฉันขมวดคิ้วตา แต่พยายามควบคุมอารมณ์ไว้ และบอกเขาว่า “คุณเฉียวนี่กลับบ้านไปอย่าลืมบ้วนปากด้วยนะคะ กลิ่นเหม็นลอยไปในอากาศทั่วเลย”
ฉันก็ไม่ได้ถูกใจกับสองคนนี้เหมือนกัน ฉันหันตัวและจะเดินไป
นัชชาก็มาขวางทางฉัน และมองฉันพูดว่า “ไม่เจอกันไม่กี่วัน เธอนี่ด่าเก่งขึ้นนะ ทำไม สัญญาหย่ายังไม่เซ็นอีกเหรอ ลูกก็ทำแท้งไปแล้ว เธอคิดว่าพี่อาธิปจะเอาผู้หญิงที่เคยมีลูกตายในท้องไว้ข้างตัวเขาอีกเหรอ”
ฉันโมโหมาก แต่ก็พยายามควบคุมตัวเองไว้ มองเขาแบบเฉยชา และหัวเราะ แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ มีเด็กตายใจท้องเหรอ นัชชาคะ นี่เพิ่มจะกี่วันเอง เธอก็ลืมไปแล้วเหรอว่าในท้องตัวเองนั้นเกิดอะไรขึ้น”
“อี…..” เธอโกรธจนหน้าแดง แล้วก็ยกมือจะตบฉัน
แต่ฉันดักมือเธอไว้ “ในเมื่ออยากจะทำตัวเป็นนางเอกแอ๊บแบ้วแล้วก็ ต้องทำให้มันเนียนกว่านี้ ดูหน้าตาเธอตอนนี้สิ ถ้าอาธิปเข้ามาเห็นเข้า เขาคงจะต้องรับเกียจเธอละมั้ง”
พูดจบ ฉันก็ปล่อยมือเธอ แล้วฉันก็จะเดินไปจากตรงนั้น
แต่ฉันคิดไม่ถึงว่า นัชชาจะเล่นงานฉันตรงนี้ พอฉันปล่อยมือปุ๊บ เธอก็แกล้งล้มลงไป และไปชนกับกำแพงแบบกะทันหัน
ถ้ามองจากที่ไกล ๆ ก็จะเข้าใจว่าฉันเป็นคนผลักเธอให้ล้ม
แล้วก็บังเอิญอาธิปกับคุณกวินเดินมาเห็นฉากนี้เข้าพอดี
“ดารัณ แกจะบ้าเหรอ นัชชาเขาแค่ต่อว่าแกนิด ๆ หน่อย ๆ จะเป็นอะไรไป” เฉียวจิ่นเหยนก็ไปช่วยนัชชาลุกขึ้นมา และก็พูดเสียงดังต่อฉันในขณะเดียวกัน
อยู่ดี ๆ ก็มาต่อว่าฉัน ทำไมฉันต้องมารับอะไรแบบนี้ด้วย
“ถ้าลูกตาและสมองของ มีอยู่แต่ไม่ได้ใช้งานเนี่ย ก็ไปบริจากให้คนที่ต้องการใช้จริง ๆ นะคะ อย่าเอาไว้ให้เปล่าประโยชน์ มันน่าเสียดายค่ะ” อ้ายผู้ชายคนนี้เลวจริงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมอาธิปมีเพื่อนแบบนี้ด้วย
เห็นอาธิปกับคุณกวินสองมือล้วงกระเป๋าไว้ และก็ไม่พูดไม่จา ฉันมองหน้าเขาสองคนแวบหนึ่ง แล้วฉันก็จะเดินไปจากตรงนี้โดยไม่ได้ทักทายกัน เพราะฉันกำลังโกรธมาก
แต่เฉียวจิ่นเหยนดึงมือฉันไว้ แล้วบอกว่า “ด่าและตบคนอื่นเสร็จ ก็จะหนีไปเลยเหรอ พ่อแม่ไม่ได้สั่งสอนเหรอไง”
“เฉียวจิ่นเหยน แกเป็นโรคจิตหรือเปล่าคะ แกเห็นฉันผลักเขาตอนนั้นคะ ถ้าจะหาว่าฉันด่าเขา พวกคุณไม่ได้ด่าฉันเหรอ” ฉันอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว ก็ขี้เกียจไปเถียงกับเขาอีก ฉันเลยปัดมือเขาออก แล้วก็ไปจากตรงนั้น
ตอนเดินผ่านข้างตัวอาธิป เขาจับข้อมือฉัน ฉันเลยหยุดเดิน และมองหน้าเขา
สีหน้าเขาดุเดือด สายตาเย็นชา ฉันดูออกว่าเขาโกรธ
“คุณอาธิป มีอะไรหรือเปล่าคะ” ตอนนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ใช่ภรรยาของอาธิป ฉันเป็นคนนอก
ยิ่งอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันก็ยิ่งรู้สึกเสียใจ
และเห็นสายตาของอาธิปแบบนี้ ฉันก็ยิ่งเกลียดพวกนี้
“ไปกล่าวขอโทษ” อาธิปบอก ทำท่าเป็นคำสั่ง
ฉันขมวดคิ้วตา และของขึ้น “อาธิป คุณก็เป็นบ้าไปอีกคนหรือเปล่าคะ ทำไมฉันต้องขอโทษเขาด้วย”
“เธอผลักเขาล้ม” เขาพูด น้ำเสียงต่ำ และไม่พอใจ
ฉันผลักให้เขาล้มเหรอ ฉันโกรธจนรู้สึกขำ ฉันเลยหัวเราะขึ้นมา และพูดว่า “อาธิป ถ้าเกิดลูกตาของคุณก็บอดแล้ว ก็รีบไปคว้านออกเลยค่ะ อย่าเก็บไว้เปลืองพื้นที่”
“ดารัณ!!!” เขาตะโกนชื่อฉัน น้ำเสียงเย็นชาอย่างจะเอาฉันตาย “ไปขอโทษเขาเดี๋ยวนี้!!!”