ของขวัญวันสวาท - ตอนที่ 17
“รินไม่น่าเชื่อเขาเลย….”
“เราทุกคนต่างก็ตกเป็นเหยื่อของเขาทั้งนั้น”
รินนรีปาดน้ำตาทิ้ง หันมากุมมือของปรางค์ทิพย์
“ฉัน..ต้องขอโทษเธอด้วยที่…เป็นผู้หญิงด้วยกันแท้ๆ แต่ก็ยังส่งเธอไปทำแบบนั้น”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ผิดที่โกงบริษัท ถ้าฉันไม่ทำผิดอะไรไว้ ก็คงไม่มีใครมาทำอะไรฉันได้หรอกค่ะ”
รินนรียิ้มให้หญิงสาว ปรางค์ทิพย์หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตาให้เธอ
“เข้มแข็งต่อไปนะคะ ชีวิตของเรายังอีกยาวไกล”
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอกปรางค์ทิพย์ ฉันไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน และฉันก็มีทางออกของฉันอยู่แล้ว”
“เจ้าหนุ่มคนนั้น ฉันเช็คประวัติมันแล้ว มันรักดีพอควร จะให้มันมาช่วยงานที่บริษัทก็ได้นะ
“อย่าดีกว่าค่ะ เขาก็แค่ตัวละครหลอกๆ ที่ฉัน…”
“ไม่ต้องพูดหรอก ฉันเข้าใจ แต่ตัวละครหลอกๆ ของเธอ เขารักเธอจริงๆ นะ ฉันให้คนของฉันตามดูให้แล้ว”
“นี่คุณท่าน ตามดูรินทุกฝีก้าวเลยหรือคะ?”
รัณมองนิ่ง พยักหน้ารับ
“มันเกี่ยวข้องกับคดี ฉันต้องเก็บรายละเอียดไว้ทั้งหมด”
“แสดงว่าริน ก็ต้องเจอข้อหาด้วย”
รัณส่ายหน้ายิ้ม มองหญิงสาวด้วยความปราณี
“ฉันคุยกับตำรวจไว้แล้วว่าขอกันเธอไว้เป็นพยาน เธอจะตกลงไหม?”
“ฉันมีทางเลือกด้วยหรือคะ?”
******
ภายหลังจากที่รินนรีกลับไปแล้ว ภายในห้องเหลือเพียงปรางค์ทิพย์กับรัณเท่านั้น ชายหนุ่มเดินไปล็อคประตูแล้วกลับเข้ามาหาหญิงสาวที่นั่งอกสั่นขวัญแขวนอยู่คนเดียว
“เธอกลัวฉันไหม? ปรางค์ทิพย์”
เสี้ยวหน้ากากถูกวางลงตรงหน้าของหญิงสาว เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าเสี้ยวหนึ่งมีรอยบากน่าเกลียด
“ไม่หรอกค่ะ เพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าแผลเป็นของคุณคือใจคน”
“อืม ตอบได้ดี”
“คุณรัณไม่เอาผิดฉันแล้ว ใช่ไหมคะ?”
เธอถามอย่างหวาดๆ เพราะหลังจากที่เธอพลีกายให้เขาแล้ว เขาก็ดูแลเธออย่างดี ไม่ซักถามอะไรเธออีก และไม่ได้แตะต้องเธอเลย กระทั่งวันนี้ ทนายของเขามาพร้อมกับตำรวจ แล้วเรื่องราวทุกอย่างสรุปจบในวันนี้ โดยที่เธอนั่งฟังอยู่ด้วย เสมือนเป็นพยานในคดีที่เธอไม่ได้เกี่ยวข้องเลยสักนิด
“ทางคดีที่เกี่ยวข้องกับนายเล็ก มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอนี่”
“แล้วคดีที่ฉันยักยอกเงินบริษัทละคะ คุณบอกเองว่าคุณราณ ไม่ได้โอนเงินกลับมาคืนบริษัท”
“ใช่ เลขาฯ ของฉันเช็คแล้ว ยอดเงินที่เธอยักยอกไป ยังไม่มีการโอนคืน เธอถูกมันหลอกแล้วล่ะ”
ปรางค์ทิพย์หน้าม่อยลงทันที ถึงเธอจะไม่เกี่ยวข้องกับคดีของราณ แต่คดีฉ้อโกงบริษัทก็ยังติดตัวเธออยู่ดี
“คุณรัณคะ ฉันขอร้องเถอะนะคะ อย่าจับฉันส่งตำรสจเลย ฉันจะพยายามหาเงินมาคืนให้คุณให้ได้”
รัณมองหน้าหญิงสาวนิ่ง
“ฉันก็มีทางออกให้เธอแล้วเหมือนกัน”
******
พลบค่ำ เป็นเวลาที่ทุกคนเริ่มทะยอยออกจากที่ทำงานกันแล้ว ไฟในตึกเริ่มดับลงทีละดวง คงมีเพียงบางห้องเท่านั้นที่ยังทำงานกันอยู่ รวมทั้งห้องประธานกรรมการบริษัทที่ยังปิดเงียบ และห้ามผู้ใดรบกวน หน้าห้องว่างเปล่าไร้เงาของผู้คน มีเพียงโถงทางเดินที่การ์ดยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าลิฟท์ ซึ่งไกลจากห้องอันโอ่โถง
รัณ ซึ่งในเวลานี้ยังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ท่านประธานเช่นเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิม คือ มีเงาร่างของหญิงสาวคนหนึ่งยืนเท้าแขนอยู่ที่โต๊ะทำงาน ส่วนขาอีกข้างหนึ่งยกพาดอยู่ที่พนักเก้าอี้ ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวเหยเก ท่อนบนและท่อนล่างเปลือยเปล่าอวดทรวงอกทรงสล้าง เธอยืนบิดร่างไปมาด้วยอารมณ์ที่ตื่นเพริสไปตามแรงปรารถนา ริมฝีปากอิ่มสูดปากครางซี๊ดซ๊าด
“อูยย…คุณรัณขา ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว….โอยย”
สะโพกกลึงกลึงขยับยกขึ้นส่ายไปมา สองขากางอ้าออกเท่าที่จะสามารถทำได้ ฝ่ามือเธอจับอยู่ที่ศีรษะของชายหนุ่มที่กำลังลงลิ้นสาก ๆ ลากปาดไปมากับปากร่องกลีบกุหลาบที่ฉ่ำหวาน น้ำเมือกเหนียวใสซึมออกมาจากช่องรูไม่ขาดสาย กลีบกุหลาบของเธอถูกมือจับให้แบะกว้างออกไปอีก ติ่งไตเม็ดเล็ก แข็งตัวตั้งชูชันสั่นระริกเมื่อโดนปลายลิ้นดุนดันอย่างจัดเจน
“อูยย….ซี๊ดดดด…คุณรัณขา…เสียวเหลือเกิน”
ร่างของชายหนุ่มปรับเอนตัวกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ เขาดึงสะโพกหญิงสาวเข้ามาหาในขณะที่แหงนหน้าล่อลิ้นอยู่กับเนินเสียวของเธอ จนร่างยั่วยวนนั้นสะบัดเร่าๆ ไปด้วยความกระสัน แล้วนิ้วกลางอันแข็งแรงก็แยงเข้าชักออกพร้อมกับงอกระดิกสะกิดกับผนังร่องรัก พร้อมๆ กับปลายลิ้นที่สัมผัสติ่งไตที่กำลังไหวระริกด้วยความกระสันรัญจวน