กําเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ - ตอนที่ 267-268: เขาเป็นแฟนของฉัน, สร้างความแตกตื่น…
- Home
- กําเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ
- ตอนที่ 267-268: เขาเป็นแฟนของฉัน, สร้างความแตกตื่น…
นิยาย กําเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ Chapter 267 268: เขาเป็นแฟนของฉัน, สร้างความแตกตื่น…
Chapter 267: เขาเป็นแฟนของฉัน
“ตราบใดที่มันปลอดภัย ฉันไม่เกี่ยงเรื่องราคาค่ะ” กู้หนิงกล่าว โรงงานไม่แพงไปว่าหินหรอก
“แล้วพนักงานที่ลงจ้างไว้มีกี่คนคะ?” กู้หนึ่งถาม
“สาม บัญชีคนหนึ่งอีกสองคนดูแลเรื่องตัดหิน” เจิ้งเผิงตอบ
“รบกวนถามพวกเขาว่าพวกเขาเต็มใจทํางานกับฉันไหม ฉันสามารถจ่ายเงื่อนเดือนที่น่าพอใจแก่พวกเขาได้”
“ได้ ผมจะถามให้” เจิ้งเผิงกล่าว อันที่จริงเขารู้ว่าคนงานของเขาจะเห็นดวยโดยที่เขาไม่ต้องถาม
กู้หนิงและเพิ่งเผิงสนทนาจบแล้ว ส่วนเรื่องโรงงานพวกเขาจะพูดคุยกันทีหลัง
หลังจากนั้นพวกเขาก็เซ็นสัญญาเช่าร้านและกู้หนิงก็โอนเงินค่าเช่าหนึ่งปีให้เจิ้งเผิง
เธอจําเป็นต้องจดทะเบียนบริษัทของเธอก่อน จึงจะสามารถเซ็นสัญญาจ้างแรงงานได้
เมื่อพวกเธอเดินออกจากร้านของเจิ้งเผิง เพิ่งเชาถึงก็พูดขึ้นว่า “ให้ผมช่วยคุณจุดเทียนบริษัทไหม?”
“ดีเลยค่ะ” กู้หนิงไม่ปฏิเสธ ถ้าเธอทําเองคงใช้เวลานาน
ก้หนิงส่งเอกสารทั้งหมดให้เพิ่งเช่าถึง ชื่อบริษัทของเธอคือ Colorful Jade Provider เธอทําการบ้านมาก่อนแล้ว แค่ยังไม่ได้จดทะเบียนบริษัท
ตอนนี้ห้าโมงกว่าแล้ว เพิ่งเข้าถึงคิดว่าจะไปจัดการจุดเทียนบริษัทให้กู้หนิงพรุ่งนี้
กู้หนึ่งและเลิงเชาถึงไปกินข้าวด้วยกัน แต่ก่อนที่พวกเขาจะออกจากถนนพนันหินเฉียวหยาก็โทรมาเธอลืมไปเลยว่าพวกเขายังอยู่ที่ร้านจนกระทั่งเดี๋ยวนี้
เฉียวหยาบอกกู้หนึ่งว่ามีคนมาก่อปัญหาที่ร้าน กู้หนิงจึงต้องย้อนกลับไปที่ร้านของเธออีกครั้ง
เพิ่งเข้าถึงตามกู้หนึ่งไปด้วย เมื่อเขาเห็นเกาอี้และเฉียวหยา เขาก็มองด้วยสายตาเย็นเยียบทันที ทําเอาเกาอี้และเฉียวหยาหนาวๆร้อนๆ
เกาอี้และเฉียวหยาไม่รู้จักเลิงเชาถึง แต่สัมผัสได้ว่าเขาต้องรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ถึงได้มองไม่เป็นมิตรแบบนี้
กู้หนิงก็สังเกตได้เช่นกันเธอรีบพูดขึ้นว่า “พวกเขาสองคนทํางานให้ฉันค่ะ”
เพิ่งเชาถึงถอนสายตากลับมาเขายังคงเงียบไม่พูดจา
“คนนี้คือแฟนฉันเอง ไม่ต้องกังวล” กู้หนึ่งปลอบใจพวกเขา เกาอี้และเฉียวหยาใจชื้นขึ้นนิดหน่อย เกาอี้และเฉียวหยาไม่ได้มองกู้หนึ่งเป็นเด็ก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เธอจะมีแฟน แฟนของเธอดูมีอานาจมากจากประสบการณ์อันยาวนานของพวกเขา พวกเขาตระหนักดีว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งกว่าพวกเขามากอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งหรือทรงพลังแค่ไหน พวกเขาก็สนใจแค่ว่าเขาไม่ได้คุกคามพวกเขา
สายตาของกู้หนึ่งตกไปที่ชายสามคนที่นั่งตัวสั่นด้วยความกลัวที่มุมห้อง พวกเขาหน้าบวมปูดโปน เห็นได้ชัดว่าเกาอี้และเฉียวหยาได้สอนบทเรียนให้พวกเขาแล้ว
“บอส พวกมันอ้างว่าตระกูลหยางส่งพวกมันมา” เฉียวหยาเอ่ยหน้านิ่ง
ตระกูลหวาง?
ไม่ต้องสงสัย ต้องเป็นหวางหงหมิง เพราะกู้หนึ่งเพิ่งมีปัญหากับเขามาหยกๆ เธอรู้ว่าหวางหงหมิงคงไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจ แต่เพิ่งเข้าถึงไม่ใช่ เขาไม่พอใจมาก มองชายสามคนนั้นด้วยประตาคมกล้า พวกเขาตกใจกลัวหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม
นับประสาอะไรกับผู้ชายเหล่านั้น แม้แต่หนิงพร้อมเฉียวหยาและเกาอี้ก็ยังคิดว่ามันน่ากลัว
กู้หนิงจับมือเพิ่งเชาถึง “ไม่เป็นไร”
เพิ่งเข้าถึงบีบมือกู้หนึ่ง เขารู้สึกผ่อนคลาย
“ปล่อยพวกมันไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ถ้าตระกูลหวางยังกล้าทําอีกครั้ง ได้เห็นดีกันแน่” กู้หนิงเอ่ย ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนใจดี แต่เธอคิดว่าไม่จําเป็นที่จะต้องหงุดหงิดแค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้
จากนั้นเธอก็มองชายสามคนและเตือนพวกเขาว่า “บอกคนที่อยู่เบื้องหลังพวกแกว่าถ้ามีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้นอีก ฉันไม่อยู่เฉยแล้วนะ ตอนนี้พวกแกไปซะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสามคนก็วิ่งหนีหางจุกตูด
“เกาอี้ เฉียวหยา พวกเธออยู่ที่นี่อีกสักหน่อยแล้วกัน ฉันจําเป็นต้องหาโรงงานที่เหมาะกว่านี้อยู่ ถ้าเจอแล้ว พวกเราจะขนของไปไว้ที่นั้น เพื่อตระกูลหวางพยายามสร้างปัญหาให้เราอีก” กู้หนึ่งสั่ง
ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลัวตระกูลหวาง เธอก็ไม่ได้อยากมีปัญหาบ่อยๆเหมือนกัน ดังนั้นเธอต้องหาโรงงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ไม่มีปัญหา!” เกาอี้และเฉียวหยาตอบ
เมื่อสั่งงานเรียบร้อยแล้ว กู้หญิงและเพิ่งเชาถึงก็ไปที่โรงงานที่เพิ่งเผิงแนะนํา
ระหว่างทาง ในที่สุดกู้หนิงก็มีเวลาโทรหาซื้อตู้เย่
เพิ่งเช้าถึงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย แต่ปล่อยให้ซื้อตู้เย่จัดการกับความยุ่งเหยิงที่เกิดจากสมาชิกของแก๊งฉิงนั้นดีกว่า
ซื้อตู้เยรับสายของกู้หนึ่ง และพูดว่า “สวัสดี มีอะไรรึเปล่า?”
“เอ่อ มีบางอย่างที่น่ากลัวเพิ่งเกิดขึ้นและฉันหวังว่าคุณจะช่วยฉันได้” มันเป็นเรื่องน่าอายเล็กน้อยสําหรับกู้หนึ่งที่จะรบกวนซิตเย่
“เกิดอะไรขึ้น?” ซื้อตู้เยถาม
“เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ…” กู้หนึ่งเล่าให้ซื้อตู้เยฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านของเจิ้งเผิง “คุณช่วยฉันพูดดับผู้อาวุโสในแก๊งจิ้งหยุดสร้างปัญหาให้เจิ้งเผิงในเมืองเถิงได้ไหมคะ? เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ค่ะ” กู้หนึ่งยังบอกอีกว่าเธอรู้แล้วว่าเขาเป็นผู้นําของแก๊งจึง
เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ซื้อตู้เยไม่สนใจ แต่เมื่อมีกู้หนิงเข้ามาเกี่ยวด้วย เขาย่อมไม่อยู่เฉย
“ได้ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง” ซื้อตู้เย่รับปาก
กู้หนิงกล่าวขอบใจเขาก่อนวางสาย
“คุณรู้จักกับสองคนนั้นยังไง?” เพิ่งเชาถึงถามกู้หนิง น้ําเสียงจริงจัง
สองคนที่เขาหมายถึงคือเกาอี้และเฉียวหยา
Chapter 268: สร้างความแตกตื่นในเมืองเถิง
กู้หนึ่งเข้าใจว่าเพิ่งเชาถึงห่วงความปลอดภัยของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ปิดบังความจริง แต่เพียงละเว้นรายละเอียดบางอย่าง “พวกเขาถูกไล่ล่าโดยนักฆ่าและได้รับบาดเจ็บสาหัส ฉันช่วยพวกเขาไว้ แล้วตอนนี้พวกเขาก็ทํางานให้ฉันค่ะ ฉันมีแฮ็กเกอร์ลบชื่อของพวกเขาออกจากรายชื่อค่าหัวแล้ว ตอนนี้พวกเขาปลอดภัยแล้ว”
อันที่จริงเลิงเขาถึงไม่ได้รู้จักกูหนิงมากนัก เขารู้เพียงภูมหลังครอบครัวของเธอ และข้อมูลส่วนตัวบางส่วนของเธอเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงอยากรู้มาตลอดว่าทําไมเธอถึงเก่งกังฟู และมีความเชี่ยวชาญในการเป็นนักแม่นปืน ทักษะความสามารถของเธอดีกว่าสมาชิกอาวโสของหน่วยรบพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น ความเฉียบแหลมทางธุรกิจที่โดดเด่น และทักษะในการพนันหินของเธอ ยังสร้างความประทับใจให้กับเขา เธอยังมีแฮ็กเกอร์เพื่อลบชื่อของนักฆ่าล่าออกจากรายการนักล่าค่าหัวอีกด้วย
เพิ่งเขาถึงไม่มั่นใจว่าโปรแกรมเมอร์ที่เก่งกาจที่สุดในเรดเฟรมจะทําเช่นนั้นได้ มีเพียงแฮกเกอร์ไม่กี่คนในประเทศนี้ที่ทําแบบนั้นได้
ในฐานะแฟนของกู้หนึ่ง เขาย่อมอยากรู้เกี่ยวกับตัวเธอ แต่มันเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าไม่เธอไม่อยากบอกเขา เขาก็จะไม่ถาม
ส่วนหนึ่ง เธอรู้น้อยมากเกี่ยวกับเขาเช่นกัน เธอรู้แค่ว่าเขาเป็นนายทหารระดับนายพลที่มาจากเมืองหลวง แต่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเขาเลย
พวกเขาไม่ได้ถามข้อมูลซึ่งกันและกัน เพราะว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม ถึงจะเป็นแฟนกัน แต่นานๆที่ได้พบกันจึงยังมีช่องว่างระหว่างกันอยู่
กู้หนิงและเพิ่งเชาถึงมาถึงโรงงานภายในเวลาไม่กี่นาที
พื้นที่โรงงานแห่งนี้สร้างขึ้นไม่ถึงห้าปี ค่อนข้างใหม่ โรงงานมีขนาดใหญ่และแม่งออกเป็นพื้นที่เล็กๆมากมาย มีประตูแยกไปยังพื้นที่เล็กๆแต่ละแห่ง ในการผ่านประตูต้องมีบัตรผ่านหรือบัตรประจําตัวประชาชน และมีอาคารโรงงานอย่างน้อยสี่ถึงแปดอาคารซึ่งเป็นของบริษัทเดียวหรือหลายบริษัทในแต่ละพื้นที่
กู้หนิงและเพิ่งเข้าถึงตัดสินใจตรวจสอบว่ามีโรงงานให้เช่าหรือไม่
โชคดีที่มีโรงงานว่างมากมาย แม้ว่ากู้หนึ่งต้องการแค่ห้องขนาดใหญ่ แต่เธอตั้งใจจะขยายธุรกิจดังนั้นห้องขนาดใหญ่ไม่เพียงพอ
ในท้ายที่สุดเธอเลือกทั้งตึกซึ่งมีขนาด 400 ตารางเมตร มีสามชั้นและห้องใต้ดินราคาขายอยู่ที่สามสิบหกล้านหยวน
ก้หนิงคิดว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะซื้อทั้งตึก เธออยากเข้าไปดูข้างในก่อน เธอโทรไปที่หมายเลขของคนขาย
คนขายมาทันที เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่แถวนี้ จึงใช้เวลาสิบนาทีในการมาถึง
คนขายทักทายกู้หนึ่งและเพิ่งเข้าถึง เขาพาพวกเธอเข้าไปชมข้างในตึก
มีโรงจอดรถที่สามารถรองรับรถได้สี่คัน พร้อมกับโกดังว่างที่ชั้นหนึ่ง และพื้นที่ออฟฟิศขนาดใหญ่ 100 ตร.ม. อยู่ที่ชั้นสอง มีห้องทํางานสามห้อง ห้องประชุมแผนกต้อนรับ ห้องอาบน้ําห้องเตรียมอาหารในออฟฟิศ และคลังสินค้าบนชั้นสองชั้นสามมีโรงอาหารขนาดใหญ่ 100 ตารางเมตร และโกดังว่างอีกด้านหนึ่ง
ตึกนี้มีลิฟต์จากห้องใต้ดินไปยังชั้นสามเพื่อความสะดวกในการส่งสินค้า
กู้หนึ่งพอใจ ในเมื่อเธอชอบ จึงตัดสินใจซื้อทันที แต่ว่าสํานักงานอสังหาริมทรัพย์กำลังจะเลิกงานดังนั้นเธอจึงต้องรอพรุ่งนี้เพื่อให้กระบวนการทางกฎหมายเสร็จสิ้นดังนั้นเธอจึงเซ็นสัญญากับคนขายและจ่ายเงินมัดจํา 1 แสนหยวนก่อน และคนขายส่งกุญแจให้กู้หนึ่ง
กู้หนิงก็ได้รับบัตรผ่านซึ่งเธอสามารถใช้เพื่อเข้าสู่พื้นที่โรงงานเล็กๆ แห่งนี้ได้
พนักงานที่ทํางานที่นี่ต้องมีบัตรผ่าน
หลังจากหาโรงงานได้ กู้หนิงก็โทรหาเกาอี้ เธอบอกเขาให้เตรียมรถไว้ขนถ่ายหิน เธอจะกลับไปหาเขาและพามาที่โรงงานที่หลัง
ในขณะเดียวกัน ชื่อของถึงอันหนึ่งก็สร้างความแตกตื่นในเมืองเถิงและอุตสาหกรรมอัญมณี บางคนสงสัยว่าใช่เรื่องจริงรึเปล่าเพราะว่ามันน่าตกใจเกินไปที่จะเป็นเรื่องจริง
ภายในอพาร์ทเมนต์สุดหรูในเมืองหลวง หญิงสาวอายุประมาณ 24 ปีกําลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา เธอสวมชุดลูกไม้สีดารัดรูปซึ่งเน้นให้เห็นถึงทรวดทรงองเอวที่สมบูรณ์แบบของเธอ เธอมีผมหยิกยาวสีแดงเข้ม แต่งหน้าเข้มดูเย้ายวน เธอกําลังท่องอินเทอร์เน็ต และทันใดนั้นก็เห็นข่าวในอินเทอร์เน็ต เธอถอดสี และกระโดดขึ้นจากโซฟาด้วยความตกใจเมื่อเห็นชื่อยังอันหนึ่ง หล่อนยังไม่ตาย?
เธอไม่สนเนื้อหาข่าว แต่ขยายรูปให้ใหญ่ขึ้นเพื่อระบุว่าผู้หญิงในข่าวใช่คนเดียวกับถังอันหนึ่งหรือไม่
เมื่อเธอพบว่าผู้หญิงในภาพนั้นไม่ได้คล้ายกับถังอันหนึ่งเลยผู้ เธอรู้สึกโล่งใจอย่างมาก แค่คนชื่อเดียวกันเท่านั้นเอง เธอคิดกับตัวเอง
“หยาซิน เป็นอะไรไป?” ผู้ชายอายุราวๆ 30 ปี เดินออกมาจากห้องนอน เขาสังเกตเห็นเธอดูตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาอยู่ในชุดสูทสีดําและมีใบหน้าที่หล่อเหลา
ผู้หญิงคนนี้คือน้องสาวคนละแม่ของถังอันหนึ่ง ในขณะที่ผู้ชายคือฉีซีเยว่ อดีตคนรักของกู้หนึ่ง
“อ้อ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่อ่านข่าวในเน็ต” ถังหยาซินตอบ ถึงแม้เธอจะแน่ใจว่าผู้หญิงในข่าวไม่ใช่พี่สาวของเธอ แต่เธอก็ยังประหม่าอย่างไม่ทราบสาเหตุ ถังอันหนึ่งตายไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะมีชีวิตอยู่ เพราะเธอเป็นพยานในการเอาศพของถังอันหนึ่งไปเผา
“ข่าวอะไร?” จีซีแยวเดินเข้าไปหา
ถังหยาซินยื่นโทรศัพท์มือถือของเธอให้ฉีซีเยว่ เขาตกใจที่เห็นชื่อถังอันหนึ่ง คว้าโทรศัพท์ของเธอโดยไม่รอช้า
PPK
รอเรื่องนี้อยู่น้า ???