นิยายกำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ
Chapter 251-252: ค้ามนุษย์, เพื่อนเก่า
หินก้อนที่สองเป็นหินกลวงๆไม่มีหยกอยู่ข้างในจ้าวหยูเฟิงผิดหวังเล็กน้อยแต่เขาไม่ได้เสียใจเพราะหยกoilgreenมีมูลค่าหลักล้านหยวนถือได้ว่าเขาทำกำไรได้แล้ว
อย่างไรก็ตามหินก้อนที่สามมีหยกระดับกลางค่อนสูงหยกประเภทหยกน้ำ
พระเจ้า!กู้หนิงดวงดีสุดๆ!เธอเลือกหินมาสามก้อนสองในสามมีหยกอยู่ข้างใน!
เมื่อเห็นว่าระดับของหยกนั้นค่อนข้างสูงจ้าวหยูเฟิงจึงคิดจะแบ่งปันกับกู้หนิงในภายหลัง
หยกชิ้นที่สามมีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นนิดหน่อยมูลค่าของมันราวๆยี่สิบล้านหยวนถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวหยูเฟิงไม่ขายคงมีคนรอประมูลกันอย่างดุเดือด
” คุณกู้ผมไม่คิดว่าคุณจะดวงดีขนาดนี้และผมไม่คิดจะเก็บไว้คนเดียวทำไมพวกเราไม่แบ่งผลประโยชน์ร่วมกันครับ?” จ้าวหยูเฟิงพูดกับกู้หนิงเขาเป็นผู้ชายใจกว้างเขาเต็มใจแบ่งผลประโยชน์ให้กู้หนิงซึ่งพิสูจน์ว่าเขาเป็นคนมีคุณธรรมแต่กู้หนิงไม่คิดขอส่วนแบ่งจากเขา
” คุณจ้าวขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณค่ะแต่ไม่ดีกว่า”
ไม่ว่าจ้าวหยูเฟิงจะโน้มน้าวเธออย่างไรกู้หนิงก็ยืนยันปฏิเสธในตอนท้ายเขาจึงยอมรามือ
หลังจากเลือกซื้อหินเสร็จกู้หนิงและจ้าวหยูเฟิงก็บอกลากันและแยกกันไปตามทางของใครของมัน
จ้าวหยูเฟิงคิดว่ากู้หนิงน่าจะไปหานายท่านถางดังนั้นเขาจึงไม่ชวนเธอกลับกับเขา
กู้หนึ่งเดินอยู่สักพักก็พบสถานที่ที่ไม่มีคนเธอรีบเอาหินที่ซื้อมาเก็บในห้องเก็บของกระแสจิต
ระหว่างเดินไปตามถนนพนันหินกู้หนิงเห็นหยกอยู่ในหินเต็มไปหมดเธออยากจะกว้านซื้อให้หมดแต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะเท่าไหร่
กู้หนิงเดินไปโบกแท็กซี่ไปยังโรงแรมเถิงเฟยโรงแรมห้าดาวย่านใจกลางเมืองที่ซึ่งนายท่านถางพักอยู่ดังนั้นพวกเธอจึงนัดเจอกันที่โรงแรม
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสี่โมงยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็นกู้หนิงกะว่าจะนอนพักอยู่ในห้องพักโรงแรมก่อนออกไปพบนายท่านถาง
หลังจากนั้นไม่นานหนิงก็สังเกตเห็นว่าคนขับกำลังขับแท็กซี่ไปยังสถานที่ห่างไกลแม้ว่ากู้หนิงจะไม่คุ้นเคยกับเส้นทางแต่เธอก็ทราบดีว่าโรงแรมเถิงเฟยตั้งอยู่ในตัวเมือง
ทันใดนั้นกู้หนิงก็ตระหนักว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายก่อนหน้านี้เธอได้ยนมาว่าเมืองเถิงมีปัญหาใหญ่เรื่องค้ามนุษย์แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัวเองเธอระงับความพลุ่งพล่านในใจและเอ่ยปากถามออกไปว่า” โทษนะคะทำไมเราถึงมาทางนี้ล่ะคะ?”
” โอ้เป็นทางลัดครับแปบเดียวก็ถึงแล้วครับ” คนขับแท็กซี่โกหก
กู้หนิงนิ่งคิดอยู่สักพักเธอคิดว่าอาจมีคนถูกลักพาตัวไปขายหลายคนครอบครัวของคนเหล่านั้นต้องเป็นห่วงและกระวนกระวายต่อการหายตัวไปของคนในครอบครัวดังนั้นเธอจึงตัดสินใจช่วยพวกเขาออกมา
กู้หนิงรู้สึกชิงชังถ้าเป็นไปได้เธออยากจะกวาดล้างการค้ามนุษย์ให้หมดไปในคราวเดียว
วันนี้เธออาจไปตามนัดนายท่านถางไม่ทันเธอจึงส่งข้อความไปหาเขาแจ้งว่าขอเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้เช้าแทน
นายท่านถางผิดหวังเล็กน้อยที่เขาไม่ได้พบกู้หนิงวันนี้แต่เข้าใจได้ว่าเธอคงมีเรื่องต้องไปทำ
” พวกเราอยู่บนถนนมาสิบกว่านาทีแล้วนะคะทำไมพวกเรายังอยู่นอกเมืองอยู่อีก?” กู้หนิงเอ่ยปากถามอีกครั้งราวกับว่าเธอไม่รู้ตัวว่าตกอยู่ในอันตราย
” ไม่ต้องห่วงครับพวกเราจะถึงในอีกไม่กี่นาทีนี้แล้วครับ” คนขับแท็กซี่กล่าวและโล่งใจที่กู้หนิงไม่รู้เรื่องรู้ราว
” อ๋อค่ะงั้นฉันขอบแปบหนึ่งถึงแล้วปลุกฉันด้วยนะคะ” กู้หนึ่งแสรั้งหาวอย่างกับว่าเธอเพลียมากจากนั้นเธอก็เอนหลังพิงเบาะหลับตา
” ได้ครับ!” คนขับแท็กซี่ยิ่งกว่าเต็มใจ
กู้หนิงไม่ได้หลับตาจริงๆเธอเพียงหันข้างให้คนขับแท็กซี่ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นหน้าเธอ
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในพื้นที่โดดเดี่ยวที่ล้อมรอบด้วยภูเขาเรียบร้อยแล้ว
ไม่กี่นาทีต่อมารถแท็กซี่ก็หยุดอยู่ด้านนอกโกดังร้างคนขับแท็กซี่ปลุกกูหนิง” นี่พวกเราถึงแล้ว!”
กู้หนึ่งแสร้งทำเป็นอื่นและทำหน้าตาตื่นตกใจเมื่อมองออกไปข้างนอก” ที่..ที่นี่ที่ไหน?นี่ไม่ใช่โรงแรมเถิงเฟยนี่!”
” แน่นอนว่าไม่ใช่ลงไปซะ!” คนขับรถแท็กซี่เปิดประตูหลังออกลากกู้หนิงออกมา
” มะไม่คุณจะทำอะไร?” กู้หนิงตัวสั่น
” เดี๋ยวแกก็จะรู้เอง”
” ได้โปรด…อย่าทำร้ายฉันเลย”
” ตอนนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแกแล้วแกเห็นผู้ชายกล้ามโตสองคนนั่นไหม?” คนขับแท็กซี่ชี้ไปที่ผู้ชายร่างสูงใหญ่สองคน” ฉันคิดว่าแกเงียบไว้จะดีกว่าถ้าไม่อยาก
ถูกต่อย”
กู้หนิงขัดขืนพอเป็นพิธีจากนั้นก็ยอมลงจากรถแต่โดยดี
” เข้าไป!” คนขับแท็กซี่ตวาดเสียงดังใส่กู้หนิงให้เข้าไปในโกดังครั้งนี้กู้หนิงไม่ขัดขืน
ภายในโกดังค่อนข้างวุ่นวาย
มีชายรูปร่างอ้วนเล็กน้อยหน้าตาธรรมดาอายุประมาณ40ปีนั่งอยู่บนเก้าอี้เขาสูบบุหรี่ด้วยท่าทางผ่อนคลายโดยไขว่ห้างและหลับตาและมีชายฉกรรจ์สองคนยืนอยู่ข้างหลังเขา
ที่มุมหนึ่งมีผู้หญิงสวยกำลังนั่งยองๆทั้งคู่แต่งตัวดูดีอายุราวๆสามสิบต้นๆและยังมีเด็กผู้ชายอายุประมาณ12ปีพวกเขาทั้งหมดมีสีหน้าหวาดกลัวตัวสั่นและร้องไห้ด้วยความกลัว
ข้างๆพวกเขามีผู้ชายรูปร่างสูงคนหนึ่งและผู้ชายมีกล้ามอีกคนหนึ่งพวกเขาคงถูกจับมาค้ามนุษย์ที่นี่ด้วย
กู้หนึ่งใช้ตาทิพย์สำรวจว่าพวกเขาพกปืนติดตัวด้วยหรือเปล่าโชคดีที่ไม่มีปืนถ้าเป็นอย่างนั้นก็ปลอดภัยในระดับหนึ่ง
กู้หนิงได้กลิ่นเลือดอยู่ห่างออกไปสิบเมตรทางด้านขวา
พวกมันฆ่าคนและเอาศพไปทิ้งตรงนั้น?
กู้หนึ่งใช้ตาทิพย์สำรวจทันทีและมันทำให้เธอต้องตื่นตะลึง
ผู้ชายและผู้หญิงอายุ27ปีสวมชุดดำล้วนทั้งสองบาดเจ็บ
ต้นขาของชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงและมีเลือดไหลซึมผ่านผ้าพันแผล
Chapter 252: เพื่อนเก่า
ผู้หญิงบาดเจ็บหนักกว่ามากบาดแผลของเธออยู่ที่ไหล่ใกล้หน้าอกและเลือดยังไหลซึมผ่านผ้าพันแผลจนเปียกชุ่มใบหน้าของเธอซีดมากราวกับว่าเธอสามารถตายได้ทุกเมื่อ
แต่สิ่งที่ทำให้หนิงตะลึงไม่ใช่อาการบาดเจ็บของพวกเขาแต่เป็นเพราะใบหน้าของพวกเขา
กู้หนิงจำพวกเขาได้พูดให้เจาะจงเลยก็คือเธอเมื่อตอนที่เธอยังเป็นถังอันหนิงจำพวกเขาได้ถึงแม้พวกเธอจะไม่ได้คุ้นเคยสนิทสนมกันแต่ก็ทำงานคล้ายกัน
พวกเขาเป็นนักฆ่าเหมือนกับถังอันหนิงผู้ชายคนนั้นถูกเรียกว่าอินทรีบินส่วนผู้หญิงถูกเรียกว่าวิหคสยายปีกพวกเขาไม่ได้อยู่องค์กรเดียวกันกับถังอันหนิงและถังอันหนึ่งพบพวกเขาตอนที่ฝึกอยู่ที่ป่าอเมซอนพวกเขายังร่วมมือกันทำงานภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้าย
อินทรีบินและวิหคสยายปีกเป็นคู่รักพวกเขาเคยบอกถึงอันหนิงว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือชีวิตธรรมดาแต่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะออกจากองค์กร
องค์กรของพวกเขาวางแผนจะกำจัดพวกเขาทันทีกรณีที่องค์กรถูกเปิดโปงดังนั้นพวกเขาจึงหลบหนีซ่อนตัวอยู่นานซึ่งมันไม่ได้ดีกว่าแต่ก่อนอย่างน้อยตอนอยู่ที่องค์กรพวกเขายังพอมีเวลาว่างแต่เมื่อหนีออกมาแล้วพวกเขาไม่มีทางหวนคืน
ถ้ากู้หนิงเดาถูกพวกเขากำลังอยู่ระหว่างการหลบหนี
” หัวหน้าผมได้มาอีกหนึ่งสวยมาก!” คนขับแท็กซี่พูดกับผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
เขาลืมตาขึ้นมองตรงมา
เขาตกตะลึงเมื่อจ้องมองไปที่ใบหน้าของกูหนิงจากนั้นเขาก็โยนบุหรี่ในมือลงบนพื้นก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและเดินไปหากู้หนิง” คนนี้สวยจริง!ฉันไม่คิดว่าจะขายเธอ”
เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ากู้หนิงเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเธอกู้หนึ่งไม่ได้หลบเลี่ยงขณะที่มือของเขากำลังเข้าใกล้ข้อมือของเขากะถูกกู้หนิงจับไว้และบิดหักโดยไม่ลังเลเขาตะโกนร้องลั่นอย่างเจ็บปวด
จากนั้นกู้หนิงก็ถีบหน้าท้องของเขาอย่างแรงจนเขากระเด็นปลิวกระแทกกำแพงก่อนจะร่วงลงพื้นเสียงดังเขาจุกจนพูดไม่ออก
กู้หนิงลงมือรวดเร็วจนผู้ชายกล้ามโตสองคนไม่ทันได้ตอบสนอง
พวกเขาโมโหและเริ่มโจมตีกู้หนิง
ถึงพวกเขาจะตัวโตกว่าแต่ก็เทียบกับความเก่งของกู้หนึ่งไม่ได้ในฐานะนักฆ่าเก่าที่มีทักษะการต่อสู้สูงมากพวกเขาถูกกู้หนิงซัดจนล้มไปนอนกองกับพื้นร้องโอดครวญ
การเด็กที่สาวม.ปลายมีทักษะการต่อสู้ขนาดนี้มันเหนือกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้มาก
ตอนนี้คนขับแท็กซี่เกิดเสียใจที่พากู้หนิงมาถ้าเขารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้เขาจะไม่มีวันพาเธอมาเด็ดขาด
” ลุกขึ้นแล้วรีบหนีไปซะ!” กู้หนิงพูดกับคนที่ถูกจับมาที่นั่งตัวสันอยู่มุมห้อง
พวกเขาได้สติและกล่าวขอบคุณกู้หนิงก่อนจะรีบวิ่งหนีออกจากโกดัง
กู้หนิงหยิบเชือกขึ้นมามัดพวกค้ามนุษย์จากนั้นก็เดินไปยังด้านขวา
วิหคสยายปีกและอินทรีบินตื่นตระหนก
กที่กู้หนิงเดินเข้าไปหาพวกเขาพวกเขาพยยามตั้งท่าจะปกป้องตัวเองน่าเสียดายที่ตอนนี้พวกเขาบาดเจ็บหนักและเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าก็เก่งมากถ้าเธอต้องการทำร้ายพวกเขาพวกเขาคงไม่มีโอกาสเอาชีวิตรอด
กู้หนิงไม่ได้เข้าไปใกล้เธอหยุดเดินก่อนจะถึงตัวพวกเขา” ฉันได้กลิ่นเลือดถ้าพวกคุณอยากมีชีวิตรอดก็ต้องไว้ใจฉันเพราะฉันสามารถรักษาพวกคุณได้
พวกเขาประหลาดใจกับประสาทรับกลิ่นที่เฉียบไวของกูหนิงมากแต่แทนที่พวกเขาจะดีใจกลับกลายเป็นกังวลแทน
กู้หนิงพูดถูกที่พวกเขาบาดเจ็บสาหัสและอาจตายได้พวกเขาถูกยิงพวกเขากลัวว่าหนิงจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้
ในฐานะนักฆ่าพวกเขาสามารถรักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้นได้โดยเฉพาะการเอากระสุนออกแต่ปัญหาคือพวกเขาไม่มีอุปกรณ์และยาตรงส่วนที่ถูกยิงอาจแย่ลงกว่าเดิมถ้าพวกเขาสัมผัสบาดแผลอย่างบุมบ่าม
และสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเอาชีวิตรอด
เธอจะสามารถรักษาแผลที่ถูกยิงได้หรือไม่?นี่คือสิ่งที่พวกเขาสงสัยและอยากลองดูสักตั้ง
จากนั้นอินทรีบินก็พูดขึ้นว่า” เธอสามารถเก็บเป็นความลับระหว่างพวกเราได้ไหม?”
” ได้สิฉันจะไม่บอกใคร
” ดีพวกเราไว้ใจเธอ”
กู้หนึ่งเดินเข้าไปด้านหลังกองเศษหักพัง
มีมีดผ่าตัดยาแก้ปวดและยาห้ามเลือดและอื่นที่มีประโยชน์ที่เธอเก็บไว้ในช่องเก็บของกระแสจิต
กู้หนึ่งหยิบกล่องยาขนาดเล็กออกจากกระเป๋าเป้ของเธอทันทีและนั่งยองๆข้างหน้าพวกเขาเพื่อเปิดมันเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่องยาดวงตาของอินทรีบินและวิหคสยายปีกก็พลันสว่างขึ้นก่อนที่กู้หนิงจะพูดต่ออินทรีบินก็พูดกับเธอว่า” ทำไมไม่ให้เรายืมกล่องยานี้ล่ะฉันสามารถรักษาเธอได้
เขายังกังวลว่ากู้หนิงจะรู้ว่าพวกเขาถูกยิงมา
กู้หนึ่งเข้าใจความกังวลของเขาแต่วิหคสยายปีกบาดเจ็บหนักถ้ากู้หนิงไม่ช่วยถ่ายทอดพลังเธออาจตายได้
” คุณมั่นใจหรือว่าจะเอากระสุนออกได้รวดเร็ว?” กู้หนิงถาม
ทั้งสองคนตะหนกและระวังตัวเธอรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาถูกยิง?
ก่อนที่ทั้งสองจะเอ่ยปากถามกู้หนิงก็ชิงพูดก่อนว่า” ฉันไวต่อกลิ่นมากฉันได้กลิ่นดินประสิวจางๆจากตัวของพวกคุณไม่ต้องกังวลฉันไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังหรอกตอนนี้เธอบาดเจ็บหนักมากคุณไม่มีแรงอย่างนี้แล้วจเอากระสุนออกจากตัวเธอยังไง?”
MANGA DISCUSSION