กําเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ REINCARNA… Chapter 233 234:ทําไมไม่ขอความช่วยเหลือจากผม?, …
Chapter 233: ทําไมไม่ขอความช่วยเหลือจากผม?
และเธอจะไม่มีทางหยุดไปพบปะผู้ชายคนใหม่ เพราะเธอจําเป็นต้องมีเครือข่าย
กู้หนิงพลิกตัวตะแคงมาทางเลิ้งเราถึงและถามเขาว่า “คุณทิ้งเพราะว่าฉันมีเพื่อนผู้ชายหรอคะ?”
“เขาจีบคุณ” เพิ่งเขาถึงไม่ปิดบังความจริงที่ว่าเขาทิ้งถ้าซื้อตู้เย่ไม่จีบกู้หนิงเขาก็คงไม่ทิ้ง
“อะไรนะ? ไม่!” กู้หนิงค่อนข้างประหลาดใจ เธอไม่เชื่อเพราะเธอไม่คิดว่าชื่อตู้เยี่ปฏิบัติต่อเธอแตกต่างจากคนอื่นตรงไหน
“คุณรู้ได้ยังไง?” กู้หนึ่งถาม
“สัญชาตญาณผู้ชาย” เพิ่งเขาถึงตอบด้วยด้วยความมั่นใจ
“ฮ่า ฮ่า” กู้หนิงหัวเราะเสียงดัง ถึงแม้ชื่อท่อตู้เยจีบเธอจริงเธอก็ไม่มีทางรับรักเขา
“คุณขาดความั่นใจหรือไม่เชื่อใจฉัน?” กู้หนิงหัวเราะ
เพิ่งเขาถึงจ้องกู้หนิงนิ่ง แต่ยังคงเงียบ เขาไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน
กู้หนิงรู้ว่าเขาคิดอะไร ถึงเขาจะไม่เชื่อใจเธอ เธอก็ไม่โทษเขาเพราะเพิ่งจะเป็นแฟนกันได้ไม่นานเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะรู้สึก
ไม่มั่นคง
ถ้ากู้หนิงคุ้นเคยกับเพิ่งเขาถึงเมื่อไหร่ เธออาจรู้สึกกลัวเหมือนกันเพราะเขาทั้งหล่อและน่ากินมาก
“ถ้าคุณไม่นอกใจฉัน ฉันก็ไม่มีวันทําให้คุณเจ็บ” กู้หนิงให้สัญญาเธอขยับตัวเข้าไปหาเขาเพื่อจูบเบาๆ
เพิ่งเขาถึงมีหรือจะเต็มใจปล่อยเธอไปหลังจากได้รับจุมพิตแผ่วเบา เขาจูบเธอกลับอย่างดูดดื่ม
เพิ่งเขาถึงไม่ถนัดการจูบ เขาจึงต้องใช้เวลาสักพักในการหาวิธีที่เหมาะสมริมฝีปากของเขาบดริมฝีปากเธอไปมาเป็นเวลานานก่อนที่ลิ้นของเขาจะเข้าแทรกเข้าไประหว่างฟันของเธอและเข้าไปในปากของเธอเขากดเธอเข้าหาเขาตอนนี้ร่างกายของเธออยู่ ล่างโดยมีเขาอยู่ด้านบนนี่เป็นครั้งแรกที่กู้หนึ่งใกล้ชิดกับผู้ชายคนหนึ่ง เธอหมดเรี่ยวแรงปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความอบอุ่นนี้
พวกเขาจูบกันอย่างอ้อยอิ่ง เพิ่งเชาถึงเริ่มไม่พอใจกับการแค่ได้จูบมือของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเธอ
กู้หนึ่งตัวสั่นจากการถูกเล้าโลม แม้ว่าเธอจะไม่ถือที่ต้องเมคเลิฟกับเขาแต่เธอยังไม่ได้เตรียมพร้อมสําหรับเรื่องนี้ เธออยากจะผลัก เขาออกเธอพยายามอย่างสุดความสามารถแต่ร่างกายไม่ยอมฟังเธอทําได้เพียงปล่อยให้เพิ่งเขาถึงจูบเธออย่างเอาแต่ใจ
เธอหายใจหอบ เพิ่งเขาถึงจูบไล่ตั้งแต่แก้มและลําคอขาวผ่องผิวของเธอนุ่มลื่นและมีกลิ่นหอม เลิงเชาถึงแทบสําลักความหอมนี้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้
ทันใดนั้นเองเสียงปิดประตูห้องข้างๆดังลอดเข้ามา เพิ่งเชาถึงชะงักดึงสติตัวเองกลับมาได้ แม้ว่าภายในห้องพักจะมีแผ่นกั้นเสียงแต่ด้วยโสตประสาทที่เหนือใคร เขาสามารถได้ยินเสียงจากด้านนอก
เมื่อเห็นกู้หนิงเผยอริมฝีปากบวมเล็กน้อย เพิ่งเขาถึงก็ตื่นตระหนก“หนิงหนิง ขอโทษ ผมแค่…”
“ไม่เป็นไรค่ะ” กู้หนิงสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ บังคับตัวเองให้สงบลงเธอยิ้มอย่างอ่อนโยน เธอไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ยังไม่ได้เตรียมใจสําหรับเรื่องนี้
เพิ่งเขาถึงไม่กล้าทําต่อ พยายามข่มตาให้หลับและกอดกู้หนิงไว้ในอ้อมแขนแต่สําหรับผู้ชายนั้นยากมากที่จะหลับหลังจากเพิ่งผ่านการจูบที่เร่าร้อนส่วนกู้หนิงม่อยหลับไปในเวลาอันสั้น
เพิ่งเขาถึงไม่หลับจนกระทั่งดึก
เช้าวันต่อมา เพิ่งเชาถึงยืนอยู่ตรงหน้าต่างกําลังคิดอะไรบางอย่าง
“คิดอะไรอยู่คะ?” กู้หนิงเอ่ยปากถาม
เพิ่งเชาถึงหันกลับมามองเธอ “ไม่มีอะไร คุณอยากกินข้าวเช้าที่นี่หรือออกไปกินข้างนอก?”
“ข้างนอกดีกว่า เครื่องบินจะออกเก้าโมงครึ่ง พวกเรากินข้าวเช้าก่อนไปสนามบินแล้วกันค่ะ”
จากนั้นพวกเขาก็เก็บกระเป๋าและเดินไปร้านอาหาร
ที่รีสอร์ทมีบริการรถรับส่งสนามบิน กู้หนิงกับเลิงเชาถึงจึงตัดสินใจไปสนามบินด้วยรถของรีสอร์ท
กู้หนิงโทรหา K และบอกเขาว่าเธอกําลังจะกลับเมือง F
K เสนอตัวไปส่ง แต่กู้หนิงบอกปัด
กู้หนิงไม่ได้เดินหลบไปคุยโทรศัพท์ ดังนั้นเพิ่งเขาถึงจึงได้รู้สาเหตุที่กู้หนิงมาที่เมือง D ในครั้งนี้จากการพูดคุยทางโทรศัพท์
หลังจากวางสาย เพิ่งเขาถึงถามด้วยความแปลกใจว่า “คุณสามารถรักษาโรคได้ด้วยเหรอ?”
“ค่ะ” กู้หนิงไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่ม
กระนั้นเพิ่งเขาถึงไม่ค่อยพอใจนิดหน่อยที่กู้หนิงบินมาเมือง Dเพียงแค่เพื่อจัดการธุระกับผู้ชายในโทรศัพท์ “ถ้าคุณต้องการตรว จสอบอะไรบางอย่างทําไมขอให้ผมช่วย?”
กู้หนิงอธิบายว่า “คุณช่วยฉันเยอะมาแล้ว ฉันไม่สามารถพึ่งคุณได้ตลอดไปและฉันจําเป็นต้องการผู้ช่วยที่ชํานาญในด้านนี้ เขาเป็นแฮกเกอร์ชื่อดังว่า K มันเป็นประโยชน์ต่อฉันมากที่เขายิ นดีช่วยฉัน”
ได้ยินคําอธิบายของเธอ เขาก็ไม่พูดอะไรต่อ
เขารู้ว่าเธอกําลังเริ่มต้นทําธุรกิจและจําเป็นต้องมีคนที่มีความสามารถมาช่วยงาน ดังนั้นเขาจึงไม่ขัดขวางเธอในการจ้างคนและสร้างเครือข่ายสิ่งเดียวที่เขาจําเป็นต้องทําคือคอยให้ความช่วยเหลือยาม ที่เธอต้องการและป้องกันไม่ให้ผู้ชายคนอื่นที่ต้องการจีบเธอมาวอแวอยู่ใกล้เธอได้
เมื่อทั้งคู่มาถึงเมือง F ก็พากันไปกินข้าวที่ร้านอาหารก่อน
หลังจากกินข้าวเสร็จ เพิ่งเขาถึงไม่อยากแยกจากกู้หนิงดังนั้นกู้หนิงจึงยังไม่กลับบ้านทันที ทั้งคู่จึงพากันไปยังถนนขายของเก่า
กู้หนึ่งไม่ได้มาที่ถนนขายของเก่านานแล้ว และเธอคิดถึงบรรยากาศตอนที่เธอสามารถหยิบของเก่าของแท้ได้จากร้านค้าแผงลอยแน่นอนว่าเพิ่งเชาถึงยังไงก็ได้ตราบใดที่เขาได้อยู่กับเธอ
เพิ่งเชาถึงโทรเรียกให้คนเอารถมาให้เขา ผ่านไปสิบนาที่รถก็มาถึงจากนั้นเขาก็ขับรถไปที่ถนนของเก่ากับกู้หนิง
ระหว่างทาง กู้หนิงโทรหากู้ม่านและบอกว่าเธอกลับมาแล้วจะกลับถึงบ้านคืนนี้
ถนนของเก่ายังเหมือนเดิมที่กู้หนิงมาครั้งแรก ของปลอมมีมากมายยากมากที่จะพบของแท้สักชิ้น
“คุณชอบของเก่า?” เพิ่งเชาถึงถาม เมื่อเห็นกู้หนิงจดๆจ้องๆวัตถุโบราณ
“ใช่ค่ะ” กู้หนิงตอบ
“ผมพอมีอยู่บ้าง เดี๋ยวส่งไปให้ที่หลัง”
“เอ่อ ฉันแค่สนุกกับการคุ้ยหาของเก่า ไม่ได้ชอบสะสมจริงๆจังๆ” กู้หนิงพูด
Chapter 234: จานสีพาสเทลที่มีลวดลายลูกท้อเก้าลูกเก้าลูกและค้างคาวห้าตัว
หลังจากนั้นไม่นานกู้หนิงก็สังเกตเห็นวัตถุที่มีพลังเป็นจานสีพาสเทลกว้างสามสิบเซนติเมตรมีลวดลายลูกท้อเก้าลูกและค้างคาว ห้าตัว
แผ่นจานสีขาวใสและเรียบเนียน สีพื้นหลังของจานและสีของภาพวาดรอบๆนั้นทั้งบริสุทธิ์และสวยงาม สองสีรวมเข้าด้วยกันทําให้เกิดความสง่างามและชั้นสูง ดังนั้นคนทั่วไปอาจคิดว่า มันเป็นของปลอมและคนนอกจะไม่มีทางเชื่อว่ามันเป็นของแท้แม้ ว่าจะมีคําพูดแนวตั้งสองบรรทัดว่าเป็นสมัยหย่งเจิ้นราชวงศ์ชิงที่ด้านล่างของจาน
ลวดลายรอบจานมีน้ําหนักเบาและชัดเจนในเวลาเดียวกันสีของลูกท้อเป็นสีแดง แต่ไม่สดใสและเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดงตามธรรมชาติทุกสัมผัสของปลายพู่กันนั้นตวัดลวดลายอย่างอ่อนช้อย
ดอกท้อมีก้านใบยาว โดยมีด้านสว่างด้านหน้า และด้านหลังสีเข้มกว่าด้านหน้าของใบท้อเป็นสีเขียวในขณะที่ด้านหลังเป็นสีน้ําเงินและสีเข้มซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างภายใต้แสงแดด ใบไม้มีการกระจายอย่างหนาแน่นและมีไดนามิกพอสมควร ซึ่งเข้ากับค้างคาวแดงได้เป็นอย่างดี
กู้หนึ่งถามราคา เจ้าของร้านบอกว่าสองพันหยวน ดังนั้นกู้หนึ่งจึงจ่ายเงินโดยไม่ลังเล
เพิ่งเขาถึงอยากจะจ่ายให้กู้หนิงแต่กู้หนิงปฏิเสธ จะมีความหมายอะไรถ้าเขาจ่าย
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ
หลังจากที่กู้หนิงและเพิ่งเขาถึงเดินจากไปไม่นาน ชายวัยกลางคนก็รีบมาพร้อมกับชายชราที่มีอายุราวเจ็ดสิบปี พวกเขาหยุดอยู่จุดที่กู้หนิงซื้อจาน
“อาจารย์ครับนี่คือ…” ชายวัยกลางคนพูด ก่อนที่เขาจะพูดจบเขายืนนิ่งอึ้งเมื่อเหลือบมองไปที่แผงลอย จากนั้นเขาก็ตกใจและส่งเสียงถามว่า “จานสีพาสเทลที่มีลวดลายของลูกท้อเก้าลูกและค้างคาวห้าตัวอยู่ไหนแล้ว?”
เจ้าของแผงลอยไม่รู้ว่าทําไมชายคนนี้ถึงมีท่าทางแบบนั้น แต่เขาจําชายชราที่ยืนอยู่ข้างๆได้ เขาเป็นภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์และเป็นผู้นําของสมาคมโบราณวัตถุ “กู้ชางเจียง”
ชายวัยกลางคนเคยมายืนดูของเก่าที่ร้านแผงลอยนี้มาก่อนแล้วเขาจ้องมองจานสีพาสเทลอยู่นาน แต่ก็ยังไม่ซื้อ ตอนนี้เขากลับมาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุเพื่อตรวจสอบมันอีกครั้งทันใดนั้นเจ้าของร้านก็รู้สึกได้ว่าจานสีพาสเทลนั้นอาจเป็นของแท้
“นี่ ผมถามคุณอยู่นะ” ชายวัยกลางคนถามอีกครั้ง
เจ้าของร้านตอบว่า “อ้อ ผมขายไปแล้ว”
“อะไรนะ!” ชายวัยกลางคนทําหน้ายอมรับไม่ได้ ถึงเขาจะยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นของแท้รึเปล่า แต่ก็มั่นใจสามในสี่ส่วนว่าใช่นั่นเป็นเหตุผลว่าเขาไปเชิญอาจารย์ของเขาและกลับมาที่นี่อีกครั้ง แค่ ไม่กี่นาทีจานสีพาสเทลก็ขายไปแล้วนี่เป็นข่าวที่เลวร้ายที่สุดสําหรับเขา
เจ้าของร้านเองก็ไม่ต่างกัน เขาอดคิดกับตัวเองไม่ได้ว่าถ้าจานพาสเทลนั้นเป็นของแท้จริงๆ เขาก็สูญเสียลาภก้อนใหญ่ไปแล้ว ตอนนี้เขาก็เสียใจไม่ต่างกัน
“ใคเป็นคนซื้อไป?” ชายวัยกลางคนยังไม่ยอมแพ้คนซื้อยังอยู่แถวนี้แน่นอน
“เป็นเด็กสาววัยรุ่นกับผู้ชายคนหนึ่ง”
“พวกเขาไปทางไหน?”
“ทางขวา
“อาจารย์ครับ ตามพวกเขาไปกันเถอะ ผมคิดว่าบางทีพวกเราอาจตามพวกเขาทัน” ชายวัยกลางคนหันไปพูดกับชายชรา
พวกเขาต้องการซื้อจานไปสะสม
“รอเดี๋ยวครับ” ขณะที่ชายทั้งสองกําลังจะจากไป เจ้าของร้านเรียกไว้ก่อน “จานนั้นเป็นของแท้หรอครับ?”
“ผมก็ยังไม่แน่ใจ” ชายวัยกลางคนตอบ จากนั้นก็พาชายสูงวัยเดินไปทางขวาอย่างรวดเร็ว
กู้หนิงและเพิ่งเขาถึงเดินถอดน่อง ดูสินค้าที่วางเรียงรายตามข้างทางดังนั้นชายทั้งสองจึงตามพวกเธอทัน กู้หนิงถือจานพาสเทลไว้ ในมือพวกเขาจึงทราบได้ทันทีว่าเป็นเธอ
“นี่ แม่หนู รอเดี๋ยว” ชายวัยกลางคนร้องทัก ถึงจะดูเสียมารยาทแต่เขาไม่อยากเสียเวลา
กู้หนิงและเพิ่งเชาถึงหยุดเดิน ทั้งคู่คิดว่าผู้ชายที่ร้องเรียกคงมีเรื่องด่วนร้อนใจ
อย่างไรก็ตามเมื่อกู้หนิงสังเกตเห็นกู้ชางเจียงที่ยืนอยู่ข้างผู้ชายคนนั้นเธอพลันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“อาจารย์กู้ ยินดีที่ได้พบค่ะ” กู้หนิงทัก
“แม่หนูรู้จักฉันด้วยหรือ?” ชางเจียงประหลาดใจกู้หนิงดูคุ้นๆในสายตาเขาแต่เขานึกไม่ออกว่าใครเคยพบกันที่ไหนมาก่อน
รึเปล่า
กู้หนิงยิ้มให้อย่างสุภาพ “ พวกเราพบกับที่งานเลี้ยงวันเกิดนายท่านฉินค่ะ กู้หนิงค่ะ”
“โอ้ เป็นหนูนี่เอง” กู้ชางเจียงจําได้แล้วตอนนั้นกู้หนิงแต่งหน้า จัดเต็ม แต่ตอนนี้เธอไม่ได้แต่งหน้ากู้ชางเลี่ยงจึงจําเธอไม่ได้ตั้งแต่แรกกระนั้นก็ยังจําชื่อเธอได้
“พวกคุณเรียกพวกเราเอาไว้เป็นเพราะจานพาสเทลนี้ใช่ไหมคะ?” กู้หนึ่งถาม
“ใช่! ลูกศิษย์ของฉันเดินผ่านร้านนั้นและเห็นจานใบนี้เขาไม่มั่น ใจว่าเป็นของแท้รึเปล่า เมื่อพวกเรากลับไปที่ร้านอีกครั้งก็พบว่ามันถูกขายไปแล้ว” กู้ชางเจียงกล่าว
“ในเมื่ออาจารย์อยากดูเชิญค่ะ”จากนั้นกู้หนิงก็ยื่นจานให้กู้ชางเจียง
“ฉันคิดว่าพวกเราหาที่ดูมันใกล้ๆดีกว่า”
กู้หนึ่งเห็นด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงไปร้านน้ําชาที่อยู่ใกล้ๆ
กู้ชางเงี่ยงพิจารณาจานใกล้ๆอยู่พักใหญ่ๆ หลังจากที่มั่นใจว่าเป็นของแท้แน่นอน เขาก็ตื่นเต้นมากกว่าเดิม เขาถามกู้หนิงว่า “หนู หนูซื้อมันเพราะหนูรู้ว่ามันเป็นของแท้ใช่ไหม?”
กู้หนิงยิ้ม อธิบายว่า “หนูเองก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงก็เลยซื้อ ต่อให้เป็นของปลอม ก็ยังเป็นจานที่สวยอยู่ดี สา มารถเอามันมาตกแต่งบ้านได้”
กู้ชางเจียงพยักหน้ารับ
“หนูกู้ ฉันขอถามหนูหน่อยว่า หนูเต็มใจขายให้พวกเราไหม?” กู้ชางเจียงถามเขาต้องการมันมาเป็นชุดสะสมของเขาจริงๆ
MANGA DISCUSSION