กําเนิดเทพเจ้าเหนือยุทธ์ - เล่มที่ 4 บทที่ 23 อิทธิพลในเมืองหลวง
กําเนิดเทพเจ้าเหนือยุทธ์ เล่มที่ 4 บทที่ 23 อิทธิพลในเมืองหลวง
เล่มที่ 4 บทที่ 23 อิทธิพลในเมืองหลวง
ตุบ!
โอ้ย!
เล่ยอี้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อชายชราที่แบกร่างของ เขาออกมาจากร้านอาหารโยนเขาลงบนพื้นในตรอกแห่งหนึ่ง เล่ยอี้นั้นหวาดกลัวเล็กน้อย หนึ่งสิ่งที่เขารู้ในตอนนี้คืออีกฝ่ายนั้นสูงส่งเกินกว่าที่เขาจะต่อต้านได้ แต่การที่อีกฝ่ายนําเขามาด้วยเช่นนี้ เล่ยอี้ไม่รู้จริงๆ และนั่นก็เป็นสิ่งที่เขากังวลอยู่ในตอนนี้
“นายท่าน ท ท่านยังต้องการอะไรจากข้าอีก?”
“เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าเพียงต้องการถามอะไรเจ้าเล็กน้อย”
“ถามข้า?”
หยางอี้พยักหน้าพร้อมกับโยนยาเม็ดหนึ่งไปให้เล่ยอี้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด ดูเหมือนข่งยี่จางจะลงมือหนักไม่น้อยแต่ก็เพราะเล่ยอี้ทําตัวเอง
“ภายในเมืองหลวงนั้นมีขั้วอํานาจใดบ้างที่สําคัญ ทั้งตระกูล สํานักต่อสู้ ขุนนาง ทุกอย่างที่มีบทบาทสําคัญและอํานาจในเมืองหลวงจงบอกข้ามาให้หมด”
“ท่านต้องการรู้เรื่องพวกนั้น?”
เล่ยอี้รู้สึกมึนงง แค่เรื่องพวกนี้ถึงกับต้องจับตัวเขามา? หากท่านต้องการ เพียงยัดเงินให้เสี่ยวเอ้อสักหลายเหรียญทองก็สามารถรับรู้ได้แล้ว!
“ไม่ต้องถามมาก จงตอบคําถามของนายน้อยมาก็พอ”
เล่ยอี้มองไปยังชายชราด้วยความหวาดกลัวก่อนจะพยักหน้า และเริ่มเล่าเรื่องต่างๆให้หยางอี้ฟังทันที การสอบถามของหยางอี้ใช้เวลากว่า 1 ชั่วยาม ชายหนุ่มจึงเข้าใจสถานการณ์ภายในเมืองหลวง
อันดับแรก ภายในเมืองหลวงประกอบไปด้วย 2 ตระกูลมหาอํานาจที่บริหารจักรวรรดิมังกรสวรรค์ คือตระกูลซือถูและไห่ตง ตระกูลซือถูเป็นตระกูลที่ควบคุมอํานาจทางการทหารเอาไว้อย่างเบ็ดเสร็จโดยอยู่ภายใต้คําสั่งของราชวงศ์ต้าหลง และตระกูลไห่ตงนั้นควบคุมอํานาจทางการเมืองคอยบริหารประเทศภายใต้การควบคุมของราชวงศ์ต้าหลง ภายในจักรวรรดิมังกรสวรรค์แห่งนี้อํานาจสูงสุดนั้นอยู่ภายใต้บุคคลเพียงคนเดียวนั่นก็คือองค์จักรพรรดิเซี่ยงเทียน
ลําดับต่อมาคือผู้มีอิทธิพลรองจากสองตระกูลที่อยู่ภายใต้ราชวงศ์ต้าหลงมีทั้งหมด 8 กลุ่มแบ่งออกเป็น 4 ตระกูล 3 สํานักต่อสู้ และสุดท้ายคือสมาพันธ์นักปรุงยา โดย 4 ตระกูลใหญ่ประกอบไปด้วยตระกูล เลย หง ลก ผิง ทั้งสี่ล้วนเป็นตระกูลขุนนางระดับสูง
สํานักต่อสู้ทั้งสามคือนิกายพฤกษาขจี สํานักผลาญตะวัน และลานมังกรศักดิ์สิทธิ์ โดยรวมทั้งหมด 8 กลุ่มแล้วลานมังกรถือเป็นจุดสูงสุดรองจาก 3 อํานาจของราชวงศ์ กล่าวให้ถูกต้องลานมังกรเองก็ถูกก่อตั้งโดยราชวงศ์ต้าหลง อัจฉริยะมากมายภายในจักรวรรดิมังกรสวรรค์ต่างถูกดึงดูดด้วยลานมังกรแห่งนี้
การจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของลานมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยข้อจํากัดมากมายนั้นทําให้ศิษย์ภายใต้ลานมังกรล้วนเป็นมังกร ที่อยู่เหนือมังกร ค่าตอบแทนที่ลานมังกรจ่ายออกมานั้นมากเกินกว่าที่คนธรรมดาจะจินตนาการถึง ทั้งทรัพยากรและทักษะระดับสูงจํานวนมากทําให้ลานมังกรคือความใฝ่ฝันของรุ่นเยาว์ภายในจักรวรรดิแห่งนี้
และที่สําคัญศิษย์ของลานมังกรมีโอกาสสูงที่จะเข้ารับตําแหน่ง องครักษ์ของราชวงศ์ต้าหลง ไม่ต้องอธิบายหลายคนก็สามารถ เข้าใจได้ว่ามันยอดเยี่ยมเพียงไหนหากบุคคลหนึ่งสามารถเข้าถึงทรัพยากรของตระกูลที่ทรงอํานาจที่สุดของทวีปจันทร์กระจ่าง ตระกูลที่ทรงอํานาจมากที่สุดในห้าจักรวรรดิ
สําหรับสมาพันธ์ปรุงยานั้นเป็นกลุ่มที่ออกจะพิเศษเล็กน้อย ด้วยสาขาที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิมังกรสวรรค์เป็นสาขาหลักของทวีปจันทร์กระจ่าง สมาพันธ์ปรุงยานั้นไม่ขึ้นตรงต่อฝ่ายใด เป็นอํานาจที่ปกครองตนเองแต่ก็ยังนับว่ามีอิทธิพลอยู่ในมือไม่น้อย แม้แต่ราชวงศ์ต้าหลงก็ต้องไว้หน้าอยู่หนึ่งส่วน
เมื่อสรุปแล้วหยางอี้จึงเข้าใจโครงสร้างภายในเมืองหลวงแบบคร่าวๆ ส่วนเรื่องความซับซ้อนของพวกตระกูลขุนนาง ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่สนใจมันเพราะจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนผู้เข้าร่วมการประลองทั้ง 5 คนของจักรวรรดิมังกรสวรรค์ นั้นล้วนเป็นศิษย์ของลานมังกรทั้งหมด! โดยเล่ยอี้นั้นเป็นอันดับสุดท้าย
“เจ้าไปได้แล้ว ทําให้ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะไม่ปริปากเรื่องของข้า”
“แน่นอนนายท่าน ข้าจะไม่กล่าวถึงเรื่องนี้ให้ผู้ใดฟังแม้แต่ครอบครัวของข้าเอง”
“อืม..หมดธุระแล้ว เจ้าไปได้”
เล่ยอี้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกพร้อมกับรีบจากไป ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะทําให้เขาอับอาย และสร้างความอัปยศให้แก่เขา แต่เขาจะทําอย่างไรได้? เล่ยอี้ไม่กล้าเรียกร้องสิ่งใดแม้เพียงครึ่งคํา การที่เขายังมีชีวิตและร่างกายครบสมบูรณ์อยู่ก็นับว่าอีกฝ่ายได้ปราณีแล้ว
กลับมาที่หยางอี้เมื่อจบเรื่อง ชายหนุ่มและข่งจางจึงออกไปหาที่พักใหม่สําหรับคืนนี้ อีกสองวันจนกว่าจะถึงเวลานัดหมายกับหอโอสถ ก่อนจะถึงวันนั้นหยางอี้ยังมีสิ่งที่ต้องทําอีกเล็กน้อย การจะเจรจากับอีกฝ่ายให้ได้ผลดีที่สุดนอกจากการกดดันด้วยสถานการณ์ของอีกฝ่ายแล้ว ยังคงต้องมีสิ่งที่สามารถล่อตาล่อใจพวกเขาอีกด้วย
ภายในมิติพิเศษหยางอี้เปิดตําราเทพโอสถอย่างช้าๆเพื่อคัดเลือกยาระดับสามที่สามารถปรุงได้อย่างชํานาญ ช่วงที่อยู่บนเรือลมปราณระหว่างการเดินทางหยางอี้ใช้เวลา 8 ส่วนในการฝึกปรุงยา เพราะมันจําเป็นอย่างมากต่อแผนการสร้างอํานาจและรากฐานให้กับตระกูลหยาง
“ดูเหมือนตําหนักหมื่นโอสถจะโดดเด่นในเรื่องของยาฟื้นฟูลมปราณระดับสูง และจวนเย่าเฉ่าจะโดดเด่นในเรื่องยาฟื้นฟูร่างกาย”
“เฮ้อ….ทั้งสองอย่างล้วนเป็นโอสถหลักในการดํารงชีวิตของจอมยุทธ์ ในเมื่อทั้งสองเจ้านําหน้าหอโอสถไปไกลขนาดนี้ข้าสงสัยจริงๆ พวกเขารอดมาได้ยังไง”
การคัดเลือกดําเนินไปอีกหลายชั่วยาม ด้วยหอโอสถเป็นอะไรที่ร่อแร่ใกล้ตกลงมาเต็มที่ หยางอี้จึงต้องเลือกตํารับยาที่สามารถกดขี่ ตําหนักหมื่นโอสถและจวนเย่าเฉ่าได้และจะต้องไม่ใช้ทรัพยากรที่มากเกินไป มิฉะนั้นคงเป็นเรื่องยากที่หอโอสถจะสามารถจ่ายออกไปได้
“ในยาระดับสามที่ดีที่สุดที่ข้าสามารถปรุงได้ในสถานการณ์เช่นนี้สมควรเป็นตํารับยาอันนี้ “หัวใจคลื่นสมุทร”
หยางอี้มองไปยังตํารับยาและผลลัพธ์ของมันก่อนที่เขาจะพยักหน้าลงอย่างพอใจ ยาหัวใจคลื่นสมุทรนั้นเป็นยาระดับ 3 ขั้นสูง หยางอี้ไม่รู้ว่าในจักรวรรดิมังกรสวรรค์จะมีมันอยู่หรือไม่ แต่จากบันทึกของกู่เทียนชางยาชนิดนี้ จะมีคุณสมบัติที่สามารถฟื้นฟูได้ทั้งร่างกายและลมปราณในเวลาเดียวกัน แต่ข้อเสียของมันคือต้องใช้วัตถุดิบหลายชนิดที่ประกอบไปด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
และด้วยเหตุนี้จึงทําให้ยาหัวใจคลื่นสมุทรนั้นไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะวิธีการปรุงที่ยุ่งยากและข้อจํากัดเรื่องความบริสุทธิ์ จึงทําให้โดยรวมคุณสมบัติของมันที่แม้จะสามารถฟื้นฟูได้ทั้งร่างกายและลมปราณพร้อมกันก็ทําได้เพียงเท่ากับยาระดับหนึ่งเท่านั้นในขอบเขตที่มีความบริสุทธิ์ต่ํากว่า 3 ส่วน และต่ํากว่า 5 ส่วนเท่ากับยา ระดับ 2 มากกว่า 5 ส่วนขึ้นไปจึงเทียบเท่ากับยาหลักของทั้งสองเจ้าคู่แข่ง
ปรุงยาระดับ 3 ที่มีความบริสุทธิ์ 6 ส่วน! นี่ออกจะเป็นเรื่องยากเกินไปสําหรับทวีปจันทร์กระจ่าง ให้ถูกต้องอาจจะมีเพียงระดับ 7 ใบหลิวของสมาพันธ์นักปรุงยาเท่านั้นที่ทําได้ แต่นั่นก็ไม่ได้รวมอยู่ในขอบเขตที่มีการดํารงอยู่ของศิษย์เพียงคนเดียวของเซียนโอสถกู่เทียนชาง!
“สิบวันภายในมิติพิเศษคงเพียงพอที่ข้าจะสามารถปรุงมันให้ ออกมาอย่างน้อยในระดับความบริสุทธิ์ 5 ส่วน แต่ที่สําคัญคือการปรับแต่งวัตถุดิบบางชนิดที่หายากเกินไป”
หยางอี้เลิกคิดเรื่องอื่นๆทันที เมื่อตัดสินใจได้แล้ว สมาธิทั้งหมดของเขาก็จมจ่อมอยู่กับการทดลองปรับแต่งตํารับยาหัวใจคลื่นสมุทร