กําเนิดเทพเจ้าเหนือยุทธ์ เล่มที่ 4 บทที่ 22 เจ้ารู้หรือยัง?
เล่มที่ 4 บทที่ 22 เจ้ารู้หรือยัง?
ทั่วทั้งร้านอาหารกลายเป็นเงียบกริบ คนที่กําลังกินอยู่แทบจะสําลักอาหารออกมา อ่านั่นคือเล่ยอี้! ผู้เยาว์อันโดดเด่นของลานมังกรศักดิ์สิทธิ์! ต่อให้เป็นสามตระกูลใหญ่ของเหมืองหลวงหรือกระทั่งขุนนางใหญ่ยังต้องไว้หน้าศิษย์ของลานมังกรอยู่ส่วนหนึ่ง ไม่ต้องกล่าวว่าเล่ยอี้เป็นหนึ่งในสิบยอดเยี่ยมของลานมังกรแล้ว….
เด็กสารเลวนี้เป็นใครกัน? เป็นไปได้ว่าสมองมันได้รับการกระทบกระเทือน? อ่า…หลายคนอยากจะบ้าตายเมื่อเห็นเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งขู่ว่าจะฆ่าหนึ่งในสิบยอดเยี่ยมของลานมังกร!
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
เล่ยอี้ยังคงสับสนตามสถานการณ์ไม่ทัน ตั้งแต่เกิดมาล้วนมีแต่ผู้คนให้ความเคารพเขา ด้วยความสามารถที่สูงล้ำและได้เข้าร่วมกับลานมังกรตั้งแต่อายุยังน้อย เลยอี้นั้นเป็นหนึ่งคนที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิและความหยิ่งยโส กระทั่งภายในลานมังกรคนอื่นก็ยังให้เกียรติเขา แต่ตอนนี้เขากลับถูกเด็กบ้านนอกไม่รู้หัวนอนปลายเท้าข่มขู่?
“บัดซบ! ตลอดชีวิตข้าเคยแต่ข่มขู่ผู้คน และไม่อนุญาตให้ใครมาข่มขู่ข้า!”
ไม่ต้องรอให้เล่ยอี้กล่าวออกมา ชายวัยกลางคนด้านข้างเขาพลันทุบลงไปบนโต๊ะและตวาดออกมาเสียงดัง
“เจ้าสวะสารเลว เจ้ากําลังหาที่ตาย! จงรีบคุกเข่าขอขมานายน้อยบัดเดี๋ยวนี้เ”
ทว่า…ทุกอย่างกลับยังคงเงียบสงบ หยางอี้มิได้สนใจชายวัยกลางคนแต่อย่างใด จับตะเกียบอีกครั้งเพื่อคีบอาหารเข้าปากและกล่าวออกมาอย่างสบายๆ
“สาม!”
ชายวัยกลางคนนั้นเต็มไปด้วยโทสะทันที กระทั่งผู้จัดการก็มองมายังหยางอี้ด้วยความสมเพช ตอนนี้ถ้ามันจะตายผู้จัดการก็จะไม่แยแสแม้แต่น้อย มีแต่คนโง่เท่านั้นที่กล้ายั่วยุเล่ยอี้
“สอง!”
เสียงของหยางอี้ดังขึ้นมาอีกครั้งทําให้ชายวัยกลางคนชักดาบออกมาและพุ่งเข้าไปหาชายหนุ่มหมายจะฟันร่างของเขาให้ขาดเป็นสองท่อน ทว่าก็ถูกหยุดไว้ก่อนโดยเล่ยอี้ เขายิ้มออกมาพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง เล่ยอี้มองไปยังหยางอี้ด้วยสายตาดูถูก
“ หยุดก่อน ไม่จําเป็นต้องรีบร้อน ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าเด็กนี่จะฆ่าข้าได้อย่างไร?”
เสียงของเล่ยอี้นั้นเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส! ด้วยอายุเพียง 23 ปี เขาก็ได้ก้าวมาถึงระดับปฐพีขั้นที่ 8 แล้ว และยังเป็นแนวหน้าของลานมังกร เด็กเบื้องหน้านี้จะอาศัยอะไรมาจัดการเขา? โดยไม่รู้ตัวผู้คนภายในร้านอาหารทั้งหมดใครจะคาดคิดว่าในร้านแห่งนี้จะมีชายชราท่าทางซอมซ่อที่เป็นตัวตนระดับจักรพรรดินั่งอยู่?
“หนึ่ง!”
“นับเร็วๆหน่อยได้หรือไม่เจ้าหนู? แสดงให้ข้าเห็นถึงคําพูดของเจ้า! ฮ่าๆ”
หยางอี้มองไปยังเล่ยอี้พร้อมกับยิ้มออกมา รอยยิ้มของเขานั้นมากพอจะสั่นคลอนหัวใจของผู้คน
“ในเมื่อเจ้าต้องการข้าก็จัดให้! จางข้าเปลี่ยนใจแล้ว อย่าให้ถึงตาย…”
“ขอรับนายน้อย!”
ข่งจางรับคําหยางอื้อย่างนอบน้อยก่อนที่ดวงตาของเขาจะเต็มไปด้วยจิตสังหารอันมากล้น เพียงพริบตาเล่ยอี้และคนอื่นๆไม่ทันได้ตอบสนอง ร่างของชายชราที่ดูธรรมดาพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย ก่อนจะปรากฏตัวตรงหน้าของชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองโดยไม่ทันตั้งตัว
ปัง !
เสียงบางอย่างดังขึ้นพร้อมกับร่างของเล่ยอี้ที่กระเด็นทะลุกําแพงออกไปหน้าร้าน สายตาทุกคู่กลายเป็นตกตะลึงทันที ด้วยความรวดเร็วชายวัยกลางคนตอบสนองต่อเหตุการณ์ฟันดาบลงไปยังร่างของข่งยีจางแต่ดาบของเขาก็มาได้เพียงครึ่งทางก่อนที่ร่างเขาจะกระเด็นตามผู้เป็นนายออกไป
อึก ! ผู้จัดการหน้าซีดเผือดทันที นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ความหวาดกลัวเกาะกุมทั้งหัวใจของเขา การที่จะตบระดับปฐพี่ให้กระเด็นออกไปดังว่าวขาดปานง่ายดายเช่นนั้นอย่างน้อยชายชราผู้นี้จะต้องมีระดับสูงกว่าหนึ่งช่วงชั้น ? เป็นไปได้ว่านี่คือตัวตนระดับสวรรค์?
โดยไม่สนใจสายตาเบิกกว้างของผู้คน ข่งยีจางก้าวเดินช้าออกไปด้านนอก ชายชรามองดูร่างสะบักสะบอมของทั้งสองด้วยสายตาว่างเปล่า ชายวัยกลางคนนั้นหมดสติไปแล้วอีกทั้งดูเหมือนจะบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย ฝ่ามือของข่งยีจางนั้นเต็มไปด้วยลมปราณระดับจักรพรรดิ ไม่มีทางที่พวกนั้นจะทนได้แน่นอน
นับเป็นโชคร้ายของเล่ยอี้ที่ข่งยีจางยั้งมือไว้เขาจึงมิได้สลบ ไปในทันที ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวราวกับมัจจุราชมายืนอยู่เบื้องหน้า
“จ เจ้า ไม่อาจทําร้ายข้าได้ ข ข ข้าเป็นลูกชายของผู้นําตระกูลเลยนะ”
“เพีย! ต่อให้เจ้ายกมาทั้งตระกูลก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้”
ข่งยี่จางพูดขึ้นพร้อมกับใช้มือจับไปยังคอเสื้อของเล่ยอี้
“อ่า…ผ ผู้อาวุโสโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข ข้าผิดไปแล้ว”
“คนที่เจ้าต้องขอขมาไม่ใช่ข้า! ไปซะ!”
อ้ากกก
เสียงร้องของเล่ยอี้ดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของเขาที่ถูกข่งจางโยนกลับเข้ามาในร้านและไปหยุดอยู่ตรงโต๊ะของหยางอี้พอดี ด้วยความทุลักทุเล เล่ยอี้ที่มีสภาพผมเผ้ายุ่งเยิงเสื้อขาดเปรอะเปื้อนค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองหยางอี้ที่กําลังคีบอาหารเข้าปากด้วยความหวาดกลัว
ครั้งนี้เขาเจอตอเข้าแล้ว! เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา! การที่มีคนรับใช้แข็งแกร่งเช่นนั้นเป็นไปได้ว่าเขาคือนายน้อยจากตระกูลทรงอํานาจหรือนิกายพิทักษ์ฟ้า? เพราะในจักรวรรดิแห่งนี้แม้จะมี ตัวตนระดับจักรพรรดิอยู่ไม่น้อยและคนเหล่านั้นล้วนเป็นระดับขุนนางและผู้นําตระกูลที่มีชื่อเสียง เป็นไปไม่ได้ที่ตัวตนระดับนี้จะลดตัวลงมาเป็นข้ารับใช้เด็กหนุ่มธรรมดา
เมื่อคิดได้เช่นนี้หัวใจของเล่ยอี้พลันสั่นสะท้านร่างกายหนาวสั่นไปทั่วทั้งตัว อ่า…หากว่าเด็กคนนี้มาจากนิกายพวกนั้นล่ะก็ตายโหง! ขนาดจักรพรรดิต้าหลงยังไม่กล้าไม่สุภาพกับนิกายพวกนั้น แล้วตัวเขาเองจะต่างอะไรไปจากหมดปลวก?
“น น้องชาย ข้าผิดไปแล้วโปรดยกโทษให้ข้าด้วย”
หยางอี้ไม่ได้สนใจเล่ยอี้เลยแม้แต่น้อย เพียงหางตาของเขาก็ไม่แม้จะเหลือบแลไปมองมัน เขาคีบอาหารชิ้นสุดท้ายเข้าปากก่อนจะวางตะเกียบลง
“ที่นี้เจ้ารู้หรือยังว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร?”
หยางอี้พูดขึ้นมาพร้อมกับใช้ผ้าที่วางอยู่บนโต๊ะเช็ดปากหลังการทานอาหาร เมื่อเสร็จเรียบร้อยเขาจึงลุกขึ้นยืนและเหลือบสายตาลงไปมองเลย
“ล เล่ยอี้เข้าใจแล้ว ข้านั้นโง่เขลาที่บังอาจพูดจาใหญ่โตต่อหน้าท่าน”
เล่ยอี้พูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังข่งยีจางที่เดินตามเข้ามาด้วยสายตาหวาดกลัว ร่างกายของเขาพลันบังเกิดความเจ็บปวดแล่นผ่านทันทีเมื่อสบตากับชายชรา ขณะเดียวกันข่งจางก็กล่าวขึ้นมา
“จะทําอย่างไรต่อขอรับนายน้อย ดูเหมือนข้างนอกเริ่มจะวุ่นวายแล้ว”
หยางครุ่นคิดเล็กน้อย เขาวางถุงเงินไว้บนโต๊ะก่อนจะกล่าวออกมาพร้อมกับเดินนําออกไปด้านนอกท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์
“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะข้าไม่อยากวุ่นวาย นําตัวเจ้านั่นตามมาด้วยข้ามีบางอย่างจะถามเขา”
“ขอรับนายน้อย”
MANGA DISCUSSION