กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 42 : ปีศาจภายใน
นิยาย กําเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ : Reborn into Na…
Chapter 42 : ปีศาจภายใน
คําพูดของ คุโรโตะ ทําให้ มิโกะ ดึงสติของเธอกลับมาได้และเธอก็เปิดใช้งานผนึกทันที
พลังงานจักระที่ปล่อยออกมาจากผนึกทําให้กระดูกสันหลังของโมเรียวซ่าเพราะอันตรายที่สัญชาตญาณของเขารับรู้ได้ ในเมื่อมิโกะและโมเรียวเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ดังนั้นเมื่อโมเรียวเข้าใจความกลัวและจุดอ่อนของมิโกะ ในทํานองเดียวกันมิโกะก็เข้าใจความกลัวและจุดอ่อนของโมเรียวเช่นกัน
ดังนั้น มิโรคจึงสามารถสัมผัสถึงสภาพจิตใจของโมเรียวได้อย่างชัดเจน
เครื่น…ครื่น…คน…
ในขณะที่โมเรียวพยายามดิ้นรนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้หลุดพ้นเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากการจับของซูซาโนะโอะ ถ้ทั้งถก็เริ่มสั่นสะเทือนเนื่องจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรงของเขา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้การจับของชิซุยนั้นอ่อนแอลงแล้ว และเพื่อให้ยังรั้งโมเรียวเอาไว้ให้ได้เขาจึงกัดฟันและเค้นจักระทั้งหมดของเขาเข้าไปที่ซูซาโนะโอะ
ยักษ์ทั้ง 2 ต่อสู้ดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง ตัวหนึ่งพยายามรั้งเอาไว้ อีกตัวพยายามดิ้นหนี ทําให้รอยร้าวขนาดใหญ่ปรากฏบนพื้นดิน หินและดินกระจัดกระจายตกลงในลาวา ทําให้ลาวาเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป ราวกับว่าทั้งถ้าจะพังทลายและภูเขาไฟก็ปะทุขึ้นทุกขณะ
คุโรโตะเฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างทั้ง 2 ด้วย เนตรจุติอย่างใจเย็นจากกลางอากาศ ขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงเศษหินที่ตกลงมา
ร่างกายของโมเรียวใหญ่กว่า ซูซาโนะโอะ ร่าง 2 ของชิซุย ที่มีแค่ร่างท่อนบนเท่านั้น ดังนั้น ชิซุยจึงไม่ใช่ผู้ที่ได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้ เมื่อเห็นแบบนั้น คุโรโตะจึงไม่รอช้อีกต่อไปและเค้นจักระของเนตรจุติเข้าไปในหุ่น คาเสะคาเงะทันทีเพื่อใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุด
“คาถาแม่เหล็ก : ม่านทรายเหล็ก!”
ทันใดนั้น ทรายเล็กก็เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นหอกและแตกกิ่งก้านสาขาพุ่งเข้าแทงร่างโมเรียวทั่วทั้งร่างจนเหมือนกับโมเรียว ถูกขังไว้ภายในคุกทรายเหล็ก
มิโกะส่งจักระและพลังชีวิตของเธอเข้าไปในผนึกอย่างต่อเนื่อง เธอพึมพําด้วยความประหลาดใจ “ใช้ไม่เหล็กได้จริง ๆ เหรอเนี่ย??!”
ในโลกนินจา เท่าที่รู้ผู้ที่สามารถใช้ คาถาแม่เหล็ก ได้มีเพียงแค่ตระกูลจาก หมู่บ้านซึนะเท่านั้น และคนที่สามารถใช้คาถานี้ได้ในตอนนี้ก็อาจมีเพียงแค่ คาเสะคาเงะรุ่น 3 ที่หายตัวไปอย่างลึกลับเท่านั้น
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว มิโกะ จะไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนินจามากนัก แต่พวกเขาก็ยังรู้เหตุการณ์ทั่วไปและข้อมูลของโลกนินจา
ในการโจมตีครั้งก่อนของคุโรโตะ เธอยังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้เธอได้เห็นนินจาแปลก ๆ ที่บินอยู่เคียงข้าง คุโรโตะใช้ทรายเหล็ก ทําให้เธอมั่นใจว่านินจาคนนั้นเป็นนินจาขีดจํากัดสายเลือดคาถาแม่เหล็กแน่นอน
สิ่งนี้ทําให้เธอสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ นินจาโคโนฮะจะใช้วิชาลับของซึนะได้ และเธอก็เข้าใจในทันที่ว่าทําไมเขาถึงต้องการให้เธอเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
กลับมาที่การต่อสู้
ด้วยซูซาโนะโอะของชิซุย และม่านทรายเหล็กของคาเสะคาเงะ ทําให้เกิดแรงกดดันต่อโมเรียวเพิ่มขึ้นหลายเท่า ส่งผลให้การต่อสู้ของเขาอ่อนแอลง
โมเรียว แผดเสียงดังลั่น “บ้าเอ๊ย! ไอ่พวกมนุษย์ต่ําต้อยโง่เขลา พวกแกไม่เข้าใจหรอกว่าพวกแกกําลังสู้อยู่กับใคร!”
อย่างไรก็ตาม คุโรโตะและชิซุยก็ไม่สะทกสะท้านกับเสียงตะโกนของโมเรียวและพวกเขาก็เพิ่มความพยายามในการจับโมเรียวเพิ่มขึ้นอีก
“มิโรค! ดูให้ดี!!! มดเหล่านี้ไม่สามารถหยุดฉันได้!”
ใบหน้าของมิโกะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเธอก็ตะโกนเตือนว่า “แย่แล้ว ออกไปให้ห่างจากโมเรียว มันกําลังจะใช้วิชาควบคุมจิตใจ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…ฮ่าฮ่า…หนีไปก็ไม่พ้น!” ด้วยเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง โมเรียวจ้องไปที่ชิซุย และตะโกน “แกควรเป็นเกียรติที่ได้เป็นของเล่นของฉัน!”
“วิชาลับ : ปีศาจภายใน!”
ปีศาจภายในเป็นวิชาลวงตา ที่ช่วยให้โมเรียวสามารถควบคุมจิตใจของมนุษย์ได้ ผู้ที่ตกอยู่ภายใต้วิชาลวงตานี้จะกลายเป็นหุ่นเชิดไร้วิญญาณที่เชื่อฟังคําสั่งของโมเรียว อย่างไม่ขัดขืน
หลังจากใช้วิชาลวงตานั้นแล้ว โมเรียวก็ออกคําสั่งกับชิซุยทันที “ไปฆ่าพวกมัน!”
เป้าหมายที่โมเรียว สั่งให้มิซุยไปฆ่าก็คือ คุโรโตะ และหุ่นคาเสะคาเงะ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ทําให้คุโรโตะและมิโกะต่างก็มองไปที่ชิซุย ด้วยความวิตกกังวล ที่จริงแล้วหัวใจของมิโกะ เกือบจะทะลุออกมาจนเธอเกือบลืมส่งกระเข้าไปในผนึกไปชั่วขณะ
ความสนใจของทุกคนอยู่ที่ชิซุยครู่หนึ่ง
และชิซุยก็เงียบไปครู่หนึ่ง แต่ทันใดนั้น ซูซาโนะโอะก็ปล่อยมือซ้ายที่จับหัว โมเรียว หัวหนึ่งอยู่ จากนั้นก็ยกมือขึ้นไปด้านบนก่อนที่จะทุบลงมาบนหัวของโมเรียวที่ออกคําสั่งกับเขาด้วยพลังทั้งหมดที่มี
ตู้ม…
เสียงดังก้อง!
หัวของโมเรียวกระแทกกับพื้นอย่างแรง ทําให้มิโกะตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้
“นี่…มันเป็นไปได้ยังไงกัน!?” โมเรียว ตกใจอย่างมาก “ตาของแก!…ไอ้บ้าเอ๊ย!”
เห็นได้ชัดว่า โมเรียวไม่ได้โง่ และเขาก็รู้ทันทีว่าสามารถที่เขาไม่สามารถใช้วิชาลวงตากับชิซุย ได้ก็เพราะเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานั้นเอง
มิโกะก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอกลัวมากเมื่อสักครู่นี้ ถ้าชิซุย กลายเป็นหุ่นเชิดของโมเรียว จริง ๆ สถานการณ์ก็คงจะกลับตาลปัตรอย่างแน่นอน และหากเป็นอย่างนั้น เธอก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ําว่าจะสามารถผนึกโมเรียวได้หรือไม่ แม้ว่าเธอยอมตายเพื่อเร่งกระบวนการก็ตาม
แม้ว่ามิโกะจะดีใจและมีความสุขเล็กน้อย แต่สําหรับโมเรียวนั้นแตกต่างออกไป
ปีศาจตะโกนใส่ชิซุยด้วยความโกรธ “มนุษย์อย่างแกสามารถต่อต้านวิชาของฉันได้ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะภาคภูมิใจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของแก ซึม! ดูเหมือนว่าแกจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่หายากในหมู่มนุษย์…”
จากนั้นหัวหนึ่งของ โมเรียว ที่ยังคงเป็นอิสระอยู่ก็มองไปที่คุโรโตะที่อยู่อีกด้านหนึ่งด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย และตะโกนว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าข้าไม่สามารถควบคุมเด็กเหลือขอคนนั้นได้ แกก็กลายเป็นหุ่นเชิดของฉันสะเถอะ!”
“วิชาลับ : ปีศาจภายใน!”
การกระทําอย่างกะทันหันของโมเรียวนำความสิ้นหวังมาสู่มิโกะอีกครั้ง หัวใจของเธอกําลังจะหลุดออกจากปากด้วยความตื่นตระหนก
ตอนนี้เธอทั้งโกรธและรู้สึกผิด เธอโกรธกับการการกระทําที่น่ารังเกียจของโมเรียว ที่โจมตีคุโรโตะด้วยวิชาลวงตาอย่างกะทันหัน แต่เธอก็รู้สึกผิดมากกว่าที่เธอลืมเตีอนคุโรโตะ เพราะความตื่นตระหนกของเธอ
ตามที่ มิโกะ คือ 3
โกะคิดที่ชิซุ สามารถต้านทานวิชาลวงตาของโมเรียวได้ก็เพราะวิชาเนตรที่เขามี มิโกะรู้ว่าเนตรของเขาต้องเป็น เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาในต่านานของตระกูลอุจิฮะอย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะทําให้เธอตกตะลึงมากที่เขาสามารถต้านวิชาลวงตาได้
แต่นั่นไม่ใช่กรณีของคุโรโตะที่มีเนตรสีขาว ดังนั้นเธอจึงคิดว่า คุโรโตะคงจะไม่สามารถต้านทานวิชาลวงตาของโมเรียวได้
กลางอากาศ.คุโรโตะ กําาลังยืนอยู่บนทรายเหล็ก ขณะรู้สึกได้ถึงคลื่นจักระชั่วร้ายที่พัดผ่านเขา จากนั้น…
ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น…
คุโรโตะรู้สึกว่าไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น คุโรโตะจึงเพิกเฉยต่อปีศาจที่หัวเราะอย่างเย่อหยิ่งและถามชิซุยด้วยท่าทีงุนงง “เขาพยายามจะทําอะไร?”
ชิซุย ดูเหมือนจะครุ่นคิดคําถามของคุโรโตะอย่างจริงจัง แล้วจึงตอบด้วยความไม่มั่นใจบางอย่าง “ดูเหมือนว่าเขากําลังพยายามใช้วิชาลวงตาอะไรสักอย่างกับเราครับ เพราะเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ผมเลยไม่รู้สึกอะไรแล้ว คุณคุโรโตะล่ะครับ?”
“ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย!” หลังจากหยุดครู่หนึ่ง คุโรโตะ ก็ขบริมฝีปากและพูดว่า “เขาใช้มันจริง ๆ เหรอ?”
ชิซุยพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ครับ ผมว่าน่าจะอย่างนั้น”
คุโรโตะจึงหันไปทางมิโกะ และถามว่า “ท่านมิโกะจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไร กว่าผนึกจะเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ครับ?”
“ฮะ…?!” มิโกะ สับสนมากในตอนนี้ เธอต้องตะลึงหลายครั้งในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมามากกว่าตลอดชีวิตที่เธออยู่มา ตอนนี้ทั้งหมดที่เธอรู้สึกก็คือการเป็นห่วงนินจาเหล่านี้เป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์
โมเรียว ก็ตกใจเช่นกันที่วิชาของเขาไม่มีผลใด ๆ กับ คุโรโตะ ดังนั้นเขาจึงมองคุโรโตะ ด้วยความประหลาดใจมากขึ้น “เป็นไปไม่ได้! เจ้าสามารถต้านทานวิชาลวงตาของข้าได้ยังไง?! เป็นไปได้อย่างไร!???”
กับนินจาในสิทธิ โมเรียว ไม่จําเป็นต้องใช้วิชาบังคับจิตใจใด ๆ แค่คําสั่งง่าย ๆ ของเขาก็มากเกินพอที่จะทําให้พวกเขาทําตามเหมือนหุ่นเชิดที่ไร้วิญญาณ ดังนั้น โมเรียว จึงคิดว่ามนุษย์ธรรมดา ๆ คงจะไม่สามารถต้านทานวิชาของเขาได้…