กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 40 : ความลับของ มิโกะ
นิยาย กําเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ : Reborn into Na…
Chapter 40 : ความลับของ มิโกะ
หลังจากเดินทางมาหลายวันหลายคืน ทีมก็มาถึงภูเขาปีศาจในที่สุด
เมื่อมองดูรูปลักษณ์อันน่าสยดสยองของภูเขาที่อยู่ข้างหน้า ปาคุระก็ถามขณะระงับความไม่สบายใจในใจของเธอว่า “ที่น่ากลัวแบบนี้คือภูเขาปีศาจงั้นเหรอ?!”
มิโกะ พยักหน้าในขณะที่อธิบายสั้น ๆ เพิ่มเติม “มีภูเขาไฟธรรมชาติอยู่ภายใน ภูเขาปีศาจที่สามารถระงับจักระชั่วร้ายได้ มันเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการผนึกโมเรียว”
เมื่อฟังคําอธิบายของมิโกะ ปาคุระก็ถามว่า “แล้วเราจะทําอย่างไรต่อไป?”
การแสดงออกของนินจาทุกคนไม่ว่าจะเป็นซึนะหรืออิวะ เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านื้อย่างสิ้นเชิง ไม่มีร่องรอยของความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของพวกเขาอีกต่อไป เหลือแต่เพียงความกังวลหลังจากที่ได้เห็นปีศาจด้วยตาตัวเอง และอันตรายของมันที่สามารถท่าลายหมู่บ้านได้ ดังนั้นทุกคนจึงต้องการทําภารกิจให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
มิโกะ พูดขณะชี้ไปที่ทางเข้าถ้ําที่ตรงเข้าไปด้านในของภูเขา “นปีศาจเข้าไปในถ้ํานั้นและผนึกร่างของมันไว้ที่นั่น!”
หัวหน้าทีมอิวะ ถามด้วยความงุนงง “ผนึกแค่ร่างเหรอ?”
มิโกะ พยักหน้าเบา ๆ “ใช่ค่ะ มีเพียงร่างของเขาเท่านั้นที่จะถูกผนึกไว้ที่นั่น”
หัวหน้าทีมอิวะ ยังคงถามด้วยความงุนงง “ทําไมล่ะ??!”
“พลังของ โมเรียว แข็งแกร่งเกินไป และจักระของมันก็มีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างมาก ถ้าผนึกมันไว้ในที่เดียวกัน มันจะสามารถหลุดออกมาได้ในเวลาไม่กี่ปี” หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เธอก็พูดต่อ “ดังนั้น ร่างและวิญญาณของมันต้องถูกผนึกแยกจากกัน เพื่อลดโอกาสที่มันจะหลุดออกมาได้ไ”
“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มพิธีผนึกกันเถอะครับ!” คาคาชิ พูดขณะที่เขาเริ่มมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอันห่างไกลและพูดอย่างครุ่นคิด “ถ้าเราไม่รีบ มันอาจจะมาถึงที่นี่ก่อนที่เราจะเตรียมการเสร็จ เรามีเวลาไม่มากแล้ว”
ในเวลานี้ คุโรโตะยืนขึ้นและพูดกับทุกคนว่า “ทุกคนป้องกันอยู่ภายนอก ฉันจะเข้าไปปกป้องท่านมิโกะ ในระหว่างกระบวนการผนึกครั้งสุดท้ายเอง!”
ทุกคนประหลาดใจกับการตัดสินใจอย่างกะทันหันของ คุโรโตะ
การปกป้องมิโกะในระหว่างกระบวนการปิดผนึกขั้นสุดท้ายถือได้ว่าเป็นส่วนที่อันตรายที่สุดของภารกิจนี้ ไม่ต้องพูดถึง นินจาซึนะ หรือ นินจาอิวะ แม้แต่ คาคาชิ, ไก และชิซุย ที่มาจากหมู่บ้านเดียวกับคุโรโตะก็มองหน้ากันอย่างสงสัย
ไม่มีใครเข้าใจว่าทําไมคุโรโตะถึงอาสาในส่วนที่อันตรายที่สุดของภารกิจนี้
ปาคุระถามเสียงเข้ม “หมายความว่ายังไง?”
คุโรโตะ พูดอย่างใจเย็น “ก็อย่างที่ฉันพูด เมื่อปีศาจมา ปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่ต้องขัดขวางมัน สิ่งที่คุณต้องทําคือสกัดกองทัพของมัน และฉันจะรับผิดชอบในการถ่วงเวลาปีศาจในขณะที่มิโกะกําลังผนึกมัน”
หัวหน้านินจาอิวะ คพูดอย่างเย้ยหยัน “ฉันคงไม่สามารถไว้ใจให้นายทําเรื่องนี้ได้!”
แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะต่อสู้กับ โมเรียว ด้วยตัวเอง แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะทํา ให้สิ่งต่างๆ ยุ่งเหยิง ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นด้วยกับ คุโรโตะ ในทันที
เมื่อเห็นความไม่พอใจจากทั้ง 2 หมู่บ้านชิซุยก็ยืนขึ้นโค้งคํานับทุกคนและพูดอย่างจริงใจว่า “ผมจะช่วยเขาถ่วงเวลาโมเรียวเองครับ ได้โปรดวางใจให้พวกเราท่าภารกิจนี้ด้วยครับ!”
คุโรโตะ รู้สึกขอบคุณ ชิซุย อย่างจริงจังสําหรับการสนับสนุนของเขาและกระซิบเบา ๆ ว่า “ขอบคุณมาก!”
ชิซุยไม่พูดอะไรแต่ส่งยิ้มอย่างอ่อนโยน
ในทางกลับกัน ปาคุระ พูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าอย่างนั้น โคโนฮะ ต้องรับผิดชอบถ้าภารกิจนี้ล้มเหลว!”
ในมุมมองของเธอ ความเชื่อมั่นของทั้ง 2 คนแม้ว่าพวกเขาจะเห็นพลังของปีศาจแล้ว นั่นก็หมายความว่าพวกเขาต้องมีวิธีบางอย่างที่ทําให้พวกเขามั่นใจว่าจะทําภารกิจได้สําเร็จ
แม้ว่าคาคาชิจะยังสงสัยอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังเลือกที่จะไว้วางใจ คุโรโตะและชิซุยเมื่อเห็นความมั่นใจของพวกเขา
สําหรับหัวหน้านินจาอิวะ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพยักหน้าด้วยสีหน้ามีดมนเพราะเขาแพ้เสียงของคาคาชิและปาคุระ
หลังจากการตัดสินใจเสร็จสิ้น ทุกคนก็เริ่มเตรียมการทันที
คุโรโตะพาไกไปด้านข้างและพูดด้วยเสียงกระซิบ “อย่าให้ใครนอกจากปีศาจเข้าไปในถ้ํา แม้แต่นายและคาคาชิ เข้าใจไหม?”
ไกรู้สึกสับสนเล็กน้อย “ทําไมล่ะ?”
“ฉันจะอธิบายให้ฟังที่หลัง แต่ตอนนี้ทําตามที่ฉันบอกก่อน!”
เห็นได้ชัดว่าไกไม่เห็นด้วย และถามอย่างกังวลว่า “แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นข้างในล่ะ? นายจะให้เราอยู่แต่ข้างนอกจริง ๆ เหรอ?!”
คุโรโตะพูดอย่างเคร่งขรึม “ถ้าทั้งฉันและชิซุยไม่สามารถจัดการกับปีศาจได้ เราก็คงไม่รอดแล้วล่ะ!”
“คุโรโตะ นายต้องเชื่อในเพื่อนสิ ฉันอาจจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะช่วยนายได้ แต่คาคาชิแข็งแกร่งมาก ถ้าเป็นเขา เขาต้องช่วยนายได้แน่!”
“งี่เง่า! เป็นเพราะฉันเชื่อใจทั้งนายและคาคาชิต่างหาก ฉันจึงขอให้เธอเชื่อใจฉันด้วย! นอกจากนี้ การสกัดกั้นทหารหินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย!” คุโรโตะยืนกรานด้วยรอยยิ้ม “จาค่าพูดของฉันไว้ ห้ามใครอื่นนอกจากปีศาจเข้าไปข้างในเด็ดขาด ใช้ประตูพลัง ถ้ามันจําเป็น!”
เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของคุโรโตะ ไกจึงตัดสินใจเชื่อในค่าพูดของคุโรโตะ และพยักหน้าอย่างจริงจัง “ก็ได้ ฉันจะเชื่อนาย!”
ด้วยความมั่นใจของไก คุโรโตะ ชิซุย และมิโกะ จึงเดินเข้าไปในถ้ําของภูเขาปีศาจ
ขณะที่เดินอยู่ในถ้ําที่มืดมน คุโรโตะถามก็มิโกะว่า “ท่านต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเตรียมการให้เสร็จ?”
มิโกะดูเหมือนจะคิดเรื่องนี้มานานแล้วจึงตอบเขาทันทีว่า “การเตรียมการใช้เวลา ไม่นานค่ะ แต่จะใช้เวลาอย่างน้อย 15 นาทีหรืออาจนานกว่านั้นในการเปิดใช้งาน!”
คุโรโตะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “พูดอีกอย่างก็คือ เราต้องถ่วงเวลาโมเรียวไว้ อย่างน้อย 15 นาที?”
มิโกะ พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
มิโกะไม่แน่ใจว่าคุโรโตะและชิซุย จะสามารถถ่วงเวลาโมเรียวได้นานขนาดนั้นหรือไม่ ดังนั้นเธอจึงพร้อมที่จะเสียสละตัวเองในขณะที่ผนึกปีศาจ นอกจากชิออน ลูกสาวของเธอแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเธอจากการทําเช่นนั้นได้
เมื่อได้ยินคําพูดของมิโกะ ชิซุยก็กัดฟันพูดอย่างจริงจังว่า “คุณคุโรโตะให้ผมสู้กับมันเถอะครับ!”
คุโรโตะเหลือบมองไปทางชิซุย เล็กน้อยจากด้านข้างแล้วส่ายหัว “เธอยังเด็กเกินไปที่จะต่อสู้กับพลังระดับสัตว์หางได้ เธออาจจะมีพลังก็จริง แต่ร่างกายในตอนนี้ของเธอยังโตไม่เต็มที่ มันจะทําให้ร่างกายของเธอรับภาระหนักเกินไป”
ความแข็งแกร่งของชิซุย มาจากเนตรของเขา ส่วนความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาสูงกว่าคนอื่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเนื่องจากข้อจํากัดของร่างกายที่ยังไม่โตเต็มที่ของเขา และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงขาดจักระที่จําเป็น
ชิซุยอยากจะยืนกรานว่า “แต่…”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะพูดจบ คุโรโตะก็ขัดจังหวะเขา “ไม่ต้องห่วง ฉันมีแผนแล้ว สิ่งที่เธอต้องทําก็คือหยุดปีศาจเอาไว้ในตอนแรก หลังจากนั้นฉันจัดการเอง”
ในเวลานี้ มิโกะที่เดินอยู่ข้าง ๆ ก็พูดแทรก “บางทีฉันอาจจะถ่วงเวลามันได้ซัก พัก!”
คุโรโตะถามเธอด้วยความรุนงง “ท่านจะทําอะไร?”
จากคําถามของคุโรโตะ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ถอนหายใจและตัดสินใจสารภาพว่า “ปีศาจโมเรียว มีความเกี่ยวข้องกับบางอย่างกับมิโกะแห่งแคว้นโอนิ หากท่านยืนยันที่จะรู้ เจ้านั้น…มันเป็นส่วนหนึ่งของฉันจริง”
ชิซุยเบิกตากว้างกับข้อมูลที่คาดไม่ถึงนี้ “อะไรนะ……?!?!”
อย่างไรก็ตาม คุโรโตะก็ไม่แปลกใจเท่าไร แม้ว่าเขาจะจ่าเรื่องราวเบื้องหลังความพัวพันระหว่างมิโกะกับปีศาจไม่ได้ทั้งหมด แต่เขาก็ยังรู้ว่ามีความเชื่อมโยงลับระหว่างทั้ง 2 ไม่เช่นนั้นปีศาจก็คงจะไม่ไล่ตามเธอตั้งแต่แคว้นโอนิมาจนถึงแคว้นนูมะ
หลังจากสารภาพความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เธอซ่อนไว้ในใจแล้ว มิโกะก็ดูเหมือนจะรู้สึกผ่อนคลาย และเธอก็คุกเข่าลงต่อหน้าคุโรโตะและชิซุย เพื่อแสดงการขอโทษ