กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 31:คําเชิญเข้าหน่วยลับ
นิยายกําเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ:Reborninto…
Chapter31:คําเชิญเข้าหน่วยลับ
แม้ว่าคุโรโตะจะรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยแต่เขารู้ว่าชิซุยจะไม่ใช้ความสามารถของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาที่นี่แน่นอนเช่นเดียวกับเขาที่จะไม่ใช้จุติเหนี่ยวสวรรค์,จุติพิชิตฟ้าและหุ่นเชิดคาเสะคาเงะ
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าชิซุยใช้ท่าไม้ตายอย่างเทพต่างสวรรค์และซูซาโนะโอะออกมาจริงๆคุโรโตะก็มั่นใจว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะชิซุยได้อย่างแน่นอนดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายเขาจึงยอมรับชัยชนะอย่างเสียไม่ได้
หลังจากทําความเคารพกันและกันหลังจากประลองแล้วคุโรโตะก็เดินออกไปจากสนามแต่เขาก็ถูกไก,อาสีมะและเพื่อนๆล้อมไว้ทันที
ไกแสดงความยินดีอย่างมีความสุข“ยินดีด้วยนะคุโรโตะ!”
หลังจากชนะในรอบนี้คุโรโตะได้เลื่อนขั้นเป็นโจนินพิเศษอย่างเป็นทางการไกจึงแสดงความยินดีกับเขาล่วงหน้า
อาสึมะเหลือบมองชิซุยที่อยู่ห่างออกไปและกระซิบกับคุโรโตะ“ฉันคิดอยู่แล้วว่าคงจะไม่มีใครชนะชิซุยได้ยกเว้นนายวิชาเคลื่อนย้ายพริบตาของเขาแข็งแกร่งมาก!”
ไกก็เงยหน้าขึ้นและเห็นด้วยกับคําพูดของอาสึมะ“อืมฉันคิดอยู่นานแต่ก็ไม่สามารถหาวิธีรับมือกับวิชาเคลื่อนย้ายพริบตาของชิซุยได้เลยมันเร็วมากถือได้ว่ามันเป็นวิชาดาบที่แข็งแกร่งที่สุดถ้าฉันได้สู้กับเขาฉันคงจะสู้ไม่ได้แน่ถ้าไม่ใช้กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลัง”
เมื่อฟังคําสรรเสริญที่เขาได้รับจากทั่วทุกมุมคุโรโตะก็คิดอย่างเงียบๆว่า“เนตรจุติทําให้ฉันเหนือกว่าอุจิฮะยังไงล่ะ
อย่างแรกเนื่องจากเนตรจุติมีความทนทานต่อคาถาลวงตาเป็นอย่างมากแม้ว่าจะเป็นคาถาลวงตาจากเนตรวงแหวนแต่ความจริงข้อนี้ก็ทําให้เขาได้เปรียบตระกูลอุจิฮะเกือบทุกคน
อย่างที่2ด้วยการมองเห็นอันเฉียบคมของเนตรจุติทําให้เขาสามารถมองเห็นการโจมตีด้วยวิชาดาวกระจายแบบพิเศษของอุจิฮะได้อย่างชัดเจน
และสุดท้ายเนื่องจากวิวัฒนาการของเนตรสีขาวไปสู่เนตรจุติและการตื่นขึ้นของลําดับพันธุกรรมทั้งหมด33ลําดับทําให้ปริมาณจักระของเขาเพิ่มขึ้นจนแซงหน้าคนจากตระกูลอุจิฮะส่วนใหญ่ในรุ่นเดียวกันดังนั้นเขาจึงมีความได้เปรียบมากมายเมื่อสู้กับอุจิฮะ
แน่นอนว่าข้อดีเหล่านี้ทําให้เขาได้เปรียบเพียงแค่อุจิฮะที่มีเนตรวงแหวนธรรมดาที่มีจุดหยดน้ํา3จุดเท่านั้น
ถ้าเขาต้องเผชิญหน้ากับอุจิฮะที่มีเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผามันก็คงยากที่จะบอกว่าเนตรจุติของเขาสามารถทนต่อคาถาลวงตาของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้อย่างน้อยก็ในตอนนี้
คุโรโตะหยุดความคิดของเขาและยิ้มให้ไกและอาสึมะที่ยังคงพูดถึงชิซุยอยู่แล้วเขาก็พูดว่า“ไม่แปลกใจเลยที่ชิซุยได้ชื่อว่าเป็นอุจิฮะที่อัจฉริยะที่สุดในรุ่นนอกจากอิทาจิที่ตอนนี้ยังเด็กอยู่ก็คงจะไม่มีใครเทียบเขาได้อีกแล้วดังนั้นเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ก็ไม่แปลก”
อาสึมะพยักหน้าให้กับคําพูดของคุโรโตะแต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงมืดมน
ไกหัวเราะอย่างเต็มที่“ฮ่าฮ่าฮ่ามีอีกหนึ่งเป้าหมายที่ฉันต้องตามให้ทันแล้ว….!!!”
อาสึมะพูดไม่ออกเพราะทัศนคติที่มองโลกในแง่ดีของไก“มันมีอะไรน่าดีใจขนาดนั้น?”
ไกตบไหล่อาสึมะและโชว์ฟันขาวพร้อมหัวเราะอย่างมีความสุข“การแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างเพื่อนคือพลังวัยรุ่นของจริง!!!นายต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นนะอาสึมะไม่อย่างนั้นนายจะถูกทิ้งจนไม่เห็นฝุ่นแน่…”
อาสึมะมองไปที่คุโรโตะจากนั้นก็เหลือบมองไปที่ชิซุยและสุดท้ายก็ต้องไปที่ไก“ถูกทิ้ง?!ฮะ…ไม่มีทาง!!!!”หลังจากพูดจบอาสึมะก็หันหลังและเดินจากไปอย่างโกรธเคือง
ไกไม่สนใจความโกรธของอาสิ้มะและเริ่มมองไปรอบๆอย่างกระหายและพึมพํากับตัวเองว่า“เมื่อไหร่จะถึงคิวฉันสะที่?!เลือดฉันพุ่งพล่านไปหมดแล้วฉันรอแทบไม่ไหวแล้ว!!!”
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทําความสะอาดและซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้ที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้จากนั้นการต่อสู้คู่ต่อไปก็เริ่มต่อไป
ไกและอาสึมะทําได้ดีและเอาชนะคู่ต่อสู้ได้สําเร็จแต่ละคนได้รับการเลื่อนตําแหน่งขึ้นเป็นโจนินพิเศษ
หลังจากผ่านไปหลายรอบผู้ชนะ 15 คนก็ได้รับการตัดสินอย่างรวดเร็วและเมื่อได้ผู้ชนะทั้ง 15 คนการประเมินเลื่อนขั้นโจนินพิเศษก็สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ
แม้ว่าอุจิฮะชิซุยจะแพ้ให้กับฮิวงะคุโรโตะแต่เพราะความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพที่ไร้ที่ติของเขาเขาจึงได้รับการเลื่อนขั้นเป็นกรณีพิเศษและได้เป็นโจนินพิเศษในที่สุด
ไม่มีใครคิดค้านการตัดสินใจเลื่อนขั้นให้ชิซุยเป็นกรณีพิเศษของโฮคาเงะรุ่น3เพราะทุกคนได้เห็นการต่อสู้ระหว่างฮิวงะคุโรโตะกับอุจิฮะชิซุยและพวกเขาทั้งหมดก็รู้ว่าชิซุยมีคุณสมบัติเกินเกณฑ์ที่จะเป็นโจนินพิเศษแต่เขาโชคไม่ดีที่ได้ต่อสู้กับคุโรโตะ
หลังจากการประเมินเสร็จสิ้นโฮคาเงะรุ่น3 ก็เรียกฮิวงะคุโรโตะ,ไมโตะไก
ซารุโทบิอาสึมะและอุจิฮะชิซุยไปพบที่ห้องทํางานโฮคาเงะ
ขณะพ่นควันออกจากท่อยาสูบเขาได้ตรวจสอบโจนินพิเศษทั้ง4คนและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า“พวกเธอทั้ง4คนเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรุ่นของพวกเธอพวกเธอคือเสาหลักของโคโนฮะในอนาคตดังนั้นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและประสบการณ์ให้กับพวกเธอฉันหวังว่าพวกเธอจะตกลงเข้าร่วมเป็นหน่วยลับและกลายเป็นรากฐานที่สําคัญของหมู่บ้านเพื่อปกป้องโคโนฮะจากเงามืด”
โคโนฮะกําลังต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีความแข็งแกร่งดังนั้นฮิวงะคุโรโตะ,ไมโตะไกและอุจิฮะชิซุยก็ไม่ลังเลเลยสักนิดและตกลงทันทีเพราะแต่ละคนมีเหตุผลและวัตถุประสงค์ในการยอมรับโอกาสนี้แต่เป้าหมายสูงสุดก็ยังเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามโดยไม่คาดคิดซารุโทบอาสึมะ,ลูกชายของโฮคาเงะรุ่น3ได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมหน่วยลับอย่างหนักแน่นและกอดอกก่อนจะพูดว่า“ผมไม่อยากเป็นอยู่ในเงามืด!”
โฮคาเงะขมวดคิ้วกับคําตอบที่ไม่คาดคิดจากลูกชายของเขาและพูดอย่างเย็นชาว่า“เธอกําลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร!?”
ซารุโทบิอาสึมะที่กําลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่ดื้อรั้นและไม่ฟังคําพูดของพ่อตัวเองเขามองผ่านคุโรโตะ,ไกและชิซุยอย่างเย็นชาและตะโกนใส่โฮคาเงะด้วยเสียงอันดังว่า“ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่าผมไม่ได้แย่ไปกว่าใครที่นี่!”
หลังจากประกาศสิ่งนี้เขาก็ส่ายหัวและออกจากสํานักงานก่อนที่ใครจะตอบโต้อะไร
อาสึมะไม่ใช่คนงี่เง่าแต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่มีความคิดที่เฉียบแหลมอย่างแท้จริงอย่างน้อยก็ในฐานะนักยุทธศาสตร์เขาก็เป็นอัจฉริยะดังนั้นหลังจากผ่านการทดสอบ 2–3 รอบนี้และเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ในแต่ละรอบที่อ่อนแอกว่าเขาจริงๆเขาจึงได้เรียนรู้ถึงกลอุบายต่างๆที่ถูกนํามาใช้และเขาก็จะฝึกฝนจนมีคุณสมบัติเป็นโจนินพิเศษอย่างแท้จริง
แม้ว่าคุโรโตะอาจเชื่อว่าสิ่งนี้ไม่มีอะไรผิดปกติแต่ในทางกลับกันอาสึมะกลับคิดว่าที่เขาได้รับการเลื่อนขั้นเพราะอิทธิพลจากพ่อของเขา
และเขาก็รู้ตัวด้วยว่าเขาไม่แข็งแกรงพอที่จะต่อสู้กับคนอย่างฮิวงะคุโรโตะและอุจิวะชิซุยเขาไม่สามารถรับประกันได้ด้วยซ้ําว่าเขาจะชนะแม้กระทั่งกับไมโตะไกดังนั้นเลือกจึงเลื่อที่จะจากไปด้วยความผิดหวัง
หลังจากปัญหาเล็กน้อยของอาสึมะโฮคาเงะก็ไม่สนใจที่จะพูดอะไรต่อเขาเพียงแค่บรรยายสรุปให้ทั้ง3ฟังเกี่ยวกับกระบวนการทั้งหมดของการได้รับคัดเลือกเข้าสู่หน่วยลับจากนั้นจึงหันหลังกลับและเดินจากไป
วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมากคุโรโตะจึงปฏิเสธไกที่ชวนเขาไปฉลองการเลื่อนตําแหน่งและกลับบ้านทันที
แต่ทันทีที่เขาเข้าไปในบ้านเขาก็พบงตาเดียวนอนอยู่ตรงมุมห้องของเขาและส่งเสียงพ่อ
หลังจากหยิบกระดาษจากปากของงูและมองดูมันคุโรโตะก็เผามันทิ้งทันทีจากนั้นเขาก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดธรรมดาและไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่งในหมู่บ้าน
เมื่อขึ้นไปบนชั้น2คุโรโตะก็เข้าไปในห้องที่จองไว้และพูดกับโอโรจิมารุที่กําลังพักผ่อนอย่างสงบขณะจิบสาเกราวกับว่าเขาอยู่ในห้องทดลองของเขา“ท่านโอโรจิมารุแอบเข้ามาในหมู่บ้านกลางวันแสกๆแบบนี้มันอันตรายนะครับ!”
“อันตราย?”โอโรจิมารุยิ้มอย่างดูถูก“ตอนนี้โฮคาเงะรุ่น4กับพลังสถิตร่าง9หางก็ตายไปแล้วและตาแก่รุ่น3ก็ยุ่งอยู่กับงานของเขาตลอดเวลาดังนี้นการเข้ามาในหมู่บ้านมันง่ายกว่าที่คิด”
โอโรจิมารุพูดถูกจริงๆตอนนี้หมู่บ้านมีนินจาระดับคาเงะเหลืออยู่ไม่มากนักและหลังจากการตายของโฮคาเงะรุ่น4ก็แทบจะไม่มีใครในโคโนฮะที่เป็นภัยคุกคามโอโรจิมารุซึ่งเป็นนินจาระดับคาเงะได้
ไม่ว่าจะเป็นเซียนกบอย่างจิไรยะหรือโฮคาเงะรุ่น3พวกเขาก็จะไม่ใช้กําลังเต็มที่ในการต่อสู้กับโอโรจิมารุเพราะความสัมพันธ์ที่พวกเขามีต่อกัน
ดังนั้นแม้ว่าโคโนฮะในเวลานี้ดูเหมือนจะได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาแต่สําหรับโอโรจิมารุที่คุ้นเคยอย่างยิ่งกับทางลับและเส้นทางต่างๆของหมู่บ้านการมาที่โคโนฮะก็เหมือนการเดินเล่นในสวนหลังบ้านของเขา
คุโรโตะคิดในใจขณะมองดูท่าทางเย็นชาของโอโรจิมารุจากนั้นเขาก็ถามอย่างสุภาพว่า“ถ้าอย่างนั้นท่านเรียกผมมามีอะไรเหรอครับ?”
โอโรจิมารุจ้องไปที่ฮิวงะคุโรโตะครู่หนึ่งและในที่สุดก็พูดขึ้นว่า“ไม่ต้องรีบร้อนไปการคัดเลือกเลื่อนตําแหน่งโจนินพิเศษเป็นยังไงบ้าง?”