กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 27 : อุจิฮะ ชิซุย
นิยาย กําเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ : Reborn into …
Chapter 27 : อุจิฮะ ชิซุย
เมื่อมองดูเด็กอุจิฮะอย่างถี่ถ้วนความทรงจําของคุโรโตะก็ปรากฏขึ้นมาทันที
อุจิฮะ ขีฑ์ย!
เด็กชายผู้มีบทบาทสําคัญในการกํากับชีวิตของอิทาจิเขาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้
เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตระกูลอุจิฮะขายหนุ่มผู้มอบความจงรักภักดีและหัวใจให้หมู่บ้านอย่าง
เต็มที่ แต่ก็ต้องจบชีวิตลง เพราะถูกทรยศโดยซิมูระ ดันโซ่
หลังจากต้องสูญเสีย เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาให้กับซิมูระดันโซ์เพื่อ
หลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่าง อุจิฮะกับโคโนฮะที่ทวีความรุนแรงขึ้นเขาก็ฆ่าตัวตายอย่าง
เด็ดเดี่ยวอย่างเงียบๆ
อุจิฮะ คนเดียวที่ฉลาดกว่า อิทาจิ ต้องจบชีวิตอันแสนสั้นของเขาอย่างน่าเศร้า
เมื่อคิดถึงอนาคตของ ซีซุย คุโรโตะก็ถอนหายใจอย่างหนัก
จุดจบอันน่าเศร้าของ ซีซุย เกิดจากความไร้เดียงสาของเขา เขาไม่ควรเปิดเผยว่า
เขาม เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ควรปิดเผยวิชาลวงตาที่แข็งแกร่ง
ที่สุดของเขา คาถาลวงตา เทพต่างสวรรค์ ต่อสภาผู้อาวุโสของหมู่บ้าน
หากรู้ว่า อุจิฮะ กําลังวางแผนก่อกบฏแล้วจู่ ๆก็มีนินจาอุจิฮะที่มีวิชาที่แข็งแกร่ง
ปรากฏตัวขึ้นมา ต่อให้ คุโรโตะเป็นโฮคาเงะรุ่น 3 เขาก็จะรู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ แม้ว่า ซิซุย จะแสดงความจงรักภักดีต่อโคโนฮะมาแค่ไหน แต่เขาก็ยัง
ไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้อาวุโสอยู่ดี
“น่าเศร้าจริงๆ! คุโรโตะ ถอนหายใจ
คุโรโตะ ยิ้มและพูดกับ ชิซุย ว่า “ฉันเคยได้ยินตํานานมากมายเกี่ยวกับ เนตรวงแหวน
ฉันหวังว่าจะได้สู้กับเธอและได้สัมผัสกับพลังของเนตรวงแหวน ด้วยตัวเองนะ”
ชิซุย ยังยิ้ม “เทียบกับ เนตรสีขาว ของรุ่นพี่แล้วเนตรวงแหวนของผมก็ไม่ค่อยมี
ประโยชน์อะไรหรอกครับ แต่ผมก็จะตั้งตารอโอกาสที่เราจะได้สู้กันนะครับ”
หลังจากพูดคุยอย่างสุภาพอีก 2 – 3 คําชิซุยก็หันหลังกลับและจากไป
ชิซุย รู้ดีว่า อุจิฮะ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ที่ทําให้ 9 หางอาละวาด ดังนั้นเขาจึง
รักษาระยะห่างจากนินจาคนอื่นๆในหมู่บ้านเพื่อปกป้องตัวเองและอีกฝ่ายหนึ่ง
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของ ซิฑ์ย ที่ค่อย ๆ ห่างออกไปคุโรโตะ ก็ถอนหายใจอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้
ในความเห็นของ คุโรโตะ ความคิดของ อุจิฮะเรื่องการกบฏนั้นไร้สาระ
เนื่องจาก ตระกูลอุจิฮะ มีแค่ 3 คนเท่านั้นที่มีพลังมากพอที่จะทําเรื่องนี้ได้ นั้นก็คือ
ฝูงาคุ ชิซุย และ อิทาจิ แต่อุปสรรคก็คือทั้ง 3 คนมีความคิดไม่ตรงกัน
แน่นอนว่า ผู้นําตระกูลอุจิฮะ อย่าง ฝูงาคุเป็นคนต้นคิดเรื่องนี้แต่ ซีซุย และ อิทาจิ
ก็ไม่เห็นด้วยกับการกบฏครั้งนี้ อย่างไรก็ตามตระกูลอุจิฮะคนอื่น ๆ ก็ยังโกรธกับความอยุติธรรม
ที่พวกเขาเผชิญอยู่ พวกเขาจึงเห็นด้วยกับแผนนี้แต่ท้ายที่สุดแผนการของเขาก็กทําลายลง
เพราะการทรยศของลูกชายของเขา
อุจิฮะ ฝูงาคุ ยอมแพ้กับแผนของเขาและเติมเต็มบทบาทที่สําคัญของ อิทาจิในฐานะนินจาด้วยชีวิตของตัวเอง
และถึงแม้ว่าทั้ง 3 จะร่วมมือกันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะก่อกบฏได้สําเร็จ
ขณะที่ คุโรโตะ ถอนหายใจกับชะตากรรมที่อุจิฮะต้องเผชิญไก ก็เดินเข้ามาหาเขา
และกระซิบด้วยเสียงต่ํา ๆ “เฮ้ เด็กที่ชื่อ ชิซุยคนนั้นถึงเขาจะมีชื่อเสียง แต่ก็ดูจะอัธยาศัยดีกว่า
อุจิฮะ คนอื่น ๆ นะ!”
เก็นมะ และ ฮายาเตะ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดอย่างเย็นขาว่า“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเขากําลัง
คุยกับใคร คุโรโตะ มาจาก ตระกูลฮิวงะเขาก็เลยสุภาพด้วยแต่ถ้าเปลี่ยนเป็นนายหรือคนอื่น
เขาก็อาจจะไม่สนใจด้วยซ้ํา!”
อาสีมะ โน้มตัวและพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า“เด็กคนนั้นไม่ได้อ่อนแอเหมือนภายนอก
ถ้าพวกนายเจอเขาระหว่างการทดสอบก็ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน”
ไก ทําหน้าสงสัย “เขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ฉันได้ยินมาว่าเขาทําภารกิจสังหาร โจนินของคีรีได้ที่เดียว 3 คน เขาเป็นอัจฉริยะ
ของตระกูลอุจิฮะ!” หลังจากหยุดพูดไปชั่วคราวอาสึมะก็พูดต่อ “พ่อของฉันพูดว่าความ
แข็งแกร่งของเขาเพียงพอแล้วที่จะเป็น โจนั้นแต่ที่เขามาเข้าคัดเลือกเป็นโจนินพิเศษก็เพราะ
ภาพลักษณ์ก็แค่นั้น
ทุกคนประหลาดใจ “อะไรนะ?!”
อาสึมะ มองไปที่ทุกคนที่ดูประหลาดใจแล้วยักไหล่ก่อนจะพูดว่า “แปลกตรงไหน?
ลองมองไปรอบ ๆ ตัวพวกนายดูให้ดีเขาเป็น อุจิฮะคนเดียวที่นี่ แค่นั้นก็อธิบายทุกอย่างได้แล้ว”
เมื่อพูดจบ ทุกคนก็มองไปรอบ ๆ ทันที
และก็เป็นความจริง นินจาที่อยู่ที่นี้ทั้งหมดมีนินจาตระกูลอุจิฮะ อยู่เพียงคนเดียวนั้นก็คือ
เมื่อเข้าใจความหมายของสิ่งนี้ สิหน้าทุกคนก็แย่ลงทันที
เห็นได้ชัดว่า อาสึมะ ไม่ได้พูดผิด นั้นก็หมายความว่าที่สําหรับเลื่อนตําแหน่งที่นึ่งถูก
ล็อคไว้ให้ อุจิฮะ ชิซุย แล้วแน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเพราะเห็นได้ชัดว่าความ
แข็งแกร่งของ ชิซุย นั้นเกิดกว่าระดับนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่ คุโรโตะสังเกตเห็นเมื่อมองไปรอบ ๆ เขาก็พบว่า
ไม่มี ตระกูลฮิวงะ คนอื่นเลยนอกจากเขาและเขาก็คิดในใจว่าเขาล็อคที่ไว้ให้ฉันเหรอ? ฮิวงะ
ไปตกลงอะไรกับหมู่บ้านไว้หรือเปล่านะ?”
เมื่อเห็นท่าทางของคุโรโตะ อาสึมะที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ขยิบตาและตบไหล่ของเขา
“รู้ตัวแล้วสินะ ดูเหมือน ฮิวงะ ก็จองที่ให้นายแล้วด้วยเหมือนกัน”
คุโรโตะ ปัดแขน อาสึมะ ออกแล้วถอนหายใจอย่างไม่พอใจ“ช่างเป็นการกระทําที่สิ้นคิดจริงๆ!”
ถ้า คุโรโตะ จะบอกว่าเขาเกลียดการโกงเป็นที่สุดเขาก็จะกลายเป็นคนโกหก เพราะ
เดิมที่เขาก็ไม่ได้ชื่อในความยุติธรรมและคุณธรรมอยู่แล้วเพราะผู้มีอํานาจเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอด
และการเชื่อสายที่สูงส่งก็คือการมีอํานาจด้วยเหตุนี้การใช้วิธีนี้จึงไม่เป็นปัญหาสําหรับเขา แต่
ต่อหน้าเพื่อนร่วมรุ่นของเขา เขาต้องแสดงท่าทางรังเกียจต่อความอยุติธรรมและอภิสิทธิ์พิเศษ
ที่เขาได้มา..!
“ใช่ ๆ แค่ความแข็งแกร่งของ คุโรโตะ ก็ผ่านการคัดเลือกได้สบาย ๆ อยู่แล้ว” ใน
ฐานะเพื่อนร่วมทีมของ คุโรโตะ ไก ก็พูดสนับสนุนคําพูดของคุโรโตะแม้ว่าเขาจะไม่รู้ความคิด
ภายในของ คุโรโตะ ก็ตาม
ทุกคนก็เคยได้ยินข่าวลือถึงความแข็งแกร่งของคุโรโตะและรู้ว่าความแข็งแกร่ง
ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจริงๆดังนั้นพวกเขาจึงพยักหน้าเห็นด้วยและความจริงที่ว่าลูก
หลานของตระกูลขุนนางมีสิทธิพิเศษบางอย่างทุกคนก็ถือว่ายอมรับได้แม้จะแปลกใจเล็กน้อย
แต่ก็ไม่มีใครหงุดหงิดกับมัน
หลังจากนั้นไม่นาน โฮคาเงะรุ่น3 ก็ปรากฏตัวขึ้นที่บริเวณทดสอบในที่สุด
ผู้เข้าร่วมการทดสอบล้วนแล้วแต่เป็นนินจาที่มีประสบการณ์ดังนั้น โฮคาเงะรุ่น 3 จึง
ไม่ได้อธิบายอะไรมากมายและประกาศกฏของการประเมินทันที
ครั้งนี้เกณฑ์การประเมินจะเป็นความแข็งแกร่งในการต่อสู้หากพวกเขาแสดงความ
เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งให้โดดเด่นกว่าผู้อื่นพวกเขาก็คุณสมบัติพอที่จะผ่านรอบนี้ไปได้
เกณฑ์เหล่านี้ทําให้นินจาที่มี ขีดจํากัดสายเลือดหรือผู้ใช้วิลับต่าง ๆสามารถผ่านรอบนี้
ไปได้อย่างง่ายดาย
คู่ต่อสู้จะถูกสุ่มเลือกจากการจับสลาก
ในการประเมินรอบแรก คุโรโตะ ได้คู่ต่อสู้เป็นยูฮิคุเรไน
ในสนามประลองที่ 9
คุโรโตะ และ คุเรไน ยืนอยู่ตรงข้ามกันในสนาม
คุโรโตะ ผายมือออกไปและพูดอย่างใจเย็นว่า“คุเรไนจังดูเหมือนโฆ์คของเธอจะไม่ค่อยดีเท่าไรนะ”
ใบหน้าของ คุเรไน ดูมืดมนเล็กน้อยเธอพยายามรักษาใบหน้าที่สงบเอาไว้และไม่
ตอบการยั่วยุของ คุโรโตะ เธอแค่จ้องมองไปที่คุโรโตะอย่างตั้งใจและดูเหมือนว่าเธอกําลังมอง
หาจุดอ่อนของเขาอยู่
ในฐานะนินจาสายคาถาลวงตา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะต่อสู้กับนินจาสายกระบวน
ท่า ไม่ต้องพูดถึง ขีดจํากัดสายเลือดอย่างเนตรสีขาวและไม่ต้องพูดถึง เนตรจุติ
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าขีดจํากัดสายเลือดอย่างเนตรสีขาวและ เนตรวงแหวน มีความ
สามารถในการต่อต้านคาถาลวงตาแม้ว่าจะไม่ถึง 100% แต่ผลของคาถาก็ลดลงอย่างมาก
นี่เป็นเหตุผลว่าทําไม คุโรโตะ ถึงอยากรู้มากว่าเนตรจุติจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหาก
ถูกคาถาลวงตา เขาจึงไม่เริ่มโจมตีก่อน และรอให้คุเรไน เคลื่อนไหว
ท่าทางที่แน่วแน่ของ คุโรโตะทําให้คุเรไนรู้สึกกดดันอย่างมาก ซึ่งทําให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ภายใต้แรงกดดันของการเผชิญหน้าอย่างเงียบ ๆ ในที่สุดคุเรไน ก็ทนไม่ได้อีกต่อ
ไป
“คาถาลวงตา : ต้นไม้พันธนาการ!”
ทันทีที่ คุเรไน เคลื่อนไหว เธอก็ใช้คาถาลวงตาที่ดีที่สุดของเธอ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชา
ลวงตาลับที่พ่อของเธอถ่ายทอดมาให้เธอ
ทันทีที่ คุเรไน ใช้คาถาลวงตาของเธอ คุโรโตะ ก็ตกอยู่ในภวังค์ แต่แล้วก็กลับมา
เป็นปกติในทันทีราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คุเรไน ประหลาดใจมาก “อะไรกัน ?! เป็นไปได้ยังไง!!???”