กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 26 : คัดเลือก
กําเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ : Reborn into Naruto…
Chapter 26 : คัดเลือก
ไก ไม่มีขีดจํากัดสายเลือด แต่ความเฉียบคม ความว่องไวและความเชี่ยวชาญในวิชากระบวนท่าของเขาก็สูงมาก ดังนั้นการใช้ จุติเหนี่ยวสวรรค์ ของ คุโรโตะ จึงไม่สามารถซ้อนจากการรับรู้ของไกได้ในระยะใกล้เช่นนี้
แต่ ไก ก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจาก คุโรโตะ อธิบายว่ามันเป็นวิชาลับ เขาจึงอุทานด้วยความประหลาดใจทันที “ฉัน ไม่ได้สังเกตเลยจนกระทั่ง นินจาตระกูลคางุยะ ลอยเข้ามา ต้ องบอกเลยว่ามันเป็นวิชาที่ทรงพลังมากจริงๆ”
จุติเหนี่ยวสวรรค์ นั้นเหมือนกับ หมื่นลักษณ์เหนี่ยวสวรรค์ของเพนวิถีสวรรค์ มันเป็นวิชาที่แข็งแกร่งมากและไม่จําเป็นต้องประสานอินด้วยซ้ําดังนั้นมันจึงสามารถใช้งานได้ทันที
ผู้ที่ไม่รู้ถึงความสามารถของวิชานี้มักถูกจัดการอย่างง่ายดายในการเผชิญหน้าครั้งภายใต้การโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อไม่นานมานี้ ซาโซริ แห่งทรายสีแดง ก็เกือบจะพลาดท่าเพราะวิชานี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องเสียหุ่นเชิด คาเสะคาเงะรุ่น 3 ไปนี่เป็นเพียงการแสดงให้เห็นว่า จุติเหนี่ยวสวรรค์ มีประโยชน์แค่ไหนในการเปลี่ยนสถานการณ์การต่อสู้
ในเวลานี้ คุโรโตะ ยิ้มออกมาและพูดอย่างเคร่งขรึม “จําไว้นะ อย่าเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวิชานี้ให้ใครรู้ มันเป็นวิชาลับที่จะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายไม่รู้ข้อมูลเท่านั้น!”
ความลับของ จุติเหนี่ยวสวรรค์ ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ คุโรโตะเลือกใช้ในการต่อสู้กับนินจาพเนตร เพราะพวกเขาต้องถูกกําจัดอยู่ แล้ว
ไก พยักหน้ารับคําพูดของ คุโรโตะ “ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร”
คุโรโตะ ไม่กังวลว่า ไก จะเปิดเผยข้อมูลนี้ เพราะแม้ว่า ไกจะดูตลกและตลกเล็กน้อย แต่ คุโรโตะ ก็รู้ดีว่า ไก เป็นนินจาที่มีระเบียบวินัยมาก
หลังจากพูดคุยกันมากขึ้น ทั้ง คุโรโตะ และ ไก ก็เร่งความเร็วการเดินทางเพื่อกลับไปให้ถึงหมู่บ้านให้เร็วที่สุด
เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้าน ฮิวงะ คุโรโตะ และ ไมโตะ ไก ก็เดินตรงไปที่ศูนย์ภารกิจและส่งมอบรายงานภารกิจเสร็จสิ้นพร้อมหลักฐานเป็นศพ 5 ศพ
เนื่องจากภารกิจเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ ภาพลักษณ์ของฮิวงะคุโรโตะจึงเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และตอนนี้ภารกิจระดับ A ทั้งหมดรวมถึงภารกิจการลอบสังหารทีมของเขาก็มีสิทธิ์ทําได้
เพราะ คุโรโตะ ไม่เพียงแต่ทําภารกิจสําเร็จอย่างสมบูรณ์เท่านั้นแต่เขายังได้นําศพของนินจาขีดจํากัดสายเลือด วิชากระดูกของคิริกลับมาได้อีกด้วย มันเป็นความสําเร็จที่มากเกินคาด
ร่างกายของนินจานั้นถือได้ว่าเป็นแหล่งข้อมูลชั้นยอด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศพของนินจาที่มีขีดจํากัดสายเลือดมันมีค่ากับการวิจัยมาก ดังนั้นในช่วงสงคราม หมู่บ้านนินจาใหญ่ ๆ จึงมักจะจัดทีมรวบรวมศพที่มีความสามารถ ซึ่งรับผิดชอบเฉพาะในการรวบรวมศพของนินจาที่มี ขีดจํากัดสายเลือด เพื่อนํามาวิจัย
ในเดือนต่อมา คุโรโตะ และ ไก ทําภารกิจกันอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาทําภารกิจระดับ A สําเร็จไปอีก 4 ภารกิจและภารกิจระดับ B อีก 9 ภารกิจด้วยอัตราที่มีประสิทธิภาพมาก ตอนนี้ทีม 2 คนได้รับความสนใจจากนินจาคนอื่น ๆ อย่างมากเพราะพวกเขาคิดว่าเป็ นการตั้งทีมที่ทําภารกิจได้สําเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจระดับ B อีกครั้ง คุโรโตะ ที่กําลังเดินทางกลับบ้านก็รู้สึกว่ามีคนกําลังสอดแนมเขาอยู่
เขาสังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัวเขาอย่างสงบแต่เขาก็ไม่พบสิ่งใดที่จะยืนยันความรู้สึกนี้ของเขา
แม้ว่าผู้คนจะเดินผ่านไปผ่านมาตามถนนรอบ ๆ เขา แต่เขาก็ไม่เห็นว่ามันใครกําลังแอบมองเขาอยู่ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงรู้สึกว่ามีใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่างกําลังแอบมองเขาอยู่
มันทําให้เขาสงสัยว่าทําไมจู่ ๆ เขาก็รู้สึกเช่นนั้น
ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามีบางอย่างที่สามารถแอบมองเขาได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ โฮคาเงะรุ่น 3 ใช้อยู่บ่อย ๆ
ลูกแก้วคริสตัล!
*หมายความว่าท่านรุ่น 3 กําลังแอบดูฉันอยู่งั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าในที่สุดการทํางานหนักในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมาของฉันจะดี งดูดความสนใจของท่านรุ่น3 ได้แล้วสินะ!”
หลังจากที่เดาได้ว่า โฮคาเงะรุ่น 3 กําลังแอบแอบเขาอยู่ คุโรโตะก็ไม่ได้สนใจมากนัก
การสอดแนมของ ท่านรุ่น3 แสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มพิจารณาคัดเลือกคนที่จะเลื่อนขั้นแล้ว และ ฮิวงะ คุโรโตะ ก็เป็นคนที่เขาสนใจ ไม่อย่างนั้นคนอย่างโฮคาเงะรุ่น 3 ที่มีงานยุ่งอยู่ตลอดเวลาคงจะไม่ มานั่งสอดแนวจูนินอย่างเขา
การสอดแนมดังกล่าวกินเวลากว่า 1 เดือน
เดิมที่ คุโรโตะ ระมัดระวังการกระทําของเขาเป็นอย่างมากและหลังจากที่รู้ว่าโฮคาเงะรุ่น3 กําลังสอดแนมเขาอยู่ เขาก็ใส่ใจกับการกระทําของเขามากขึ้นไม่มีพฤติกรรมผิดปกติ นอกจากการทําภารกิจอย่างต่อเนื่องเขาสามารถมั่นใจได้เลยว่าโฮคาเงะรุ่น3 จะไม่ได้เห็นอะไรนอกจากนั้น
และแน่นอนว่าไม่นานหลังจากนั้น คุโรโตะ ก็ได้รับหนังสือแจ้งให้เข้าร่วมการคัดเลือกเพื่อเลื่อนขั้นเป็น โจนินพิเศษ
โจนินพิเศษ ถือได้ว่าเป็นกําลังสําคัญของหมู่บ้าน แม้ว่าหมู่บ้านจะสามารถระดมกําลังนินจาได้หลายหมื่นคนในช่วงสงคราม แต่ที่ จริงแล้วมีโจนินและโจนินพิเศษ อยู่เพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น และ นอกนั้นก็เป็นจูนินและเกะนิน
ความแตกต่างของจํานวนนี้หมายความว่า โจนินพิเศษมีสถานะและอํานาจเป็นถึงรองผู้บัญชาการ ในช่วงสงครามและต้องสั่งการทีม 3 คนอีกด้วย
สถานที่ที่ใช้ในการทดสอบคัดเลือกในครั้งนี้เป็นฐานลับของหน่วยลับ เมื่อไปถึงสถานที่สอบคุโรโตะ ก็พบกับคนที่คุ้นเคยหลายคน
ผู้เข้าคัดเลือกรับการเลื่อนขั้นในครั้งนี้มีนินจาจากรุ่นเดียวกับเขาหลายคนได้แก่ ไมโตะ ไก , ยูฮิ คุเรไน , ซารุโทบิ อาสึมะ , อุมิโนะอิรุกะ มิทาราชิ อังโกะ ชิรานุอิ เก็นมะ , เก็กโค ฮายาเตะ , เอบิซีและคนอื่น ๆ
จูนิน เหล่านี้เป็นนินจารุ่นเดียวกับ คุโรโตะ นอกเหนือจากพวกเขาเหล่านี้แล้วก็ยังมี จูนิน ชั้นยอดอีกมากมายที่อายุมากกว่าพวก เขานอกจากนั้นแล้วก็ยังมี อุจิฮะ ชิซุย นินจาอัจฉริยะจากตระกูล อุจิฮะที่อายุน้อยกว่า คุโรโตะ
ทันทีที่ คุโรโตะ เข้าไปในพื้นที่คัดเลือก เขาก็ได้ยินเสียง ไก ตะโกนจากระยะไกล “คุโรโตะ ทางนี้! ทางนี้!”
คุโรโตะ เดินเข้าไปหา ไก อย่างไม่เขินอาย จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเข้าไปทักทายเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่น ๆ พร้อม ๆ กัน
ถ้าเป็นเมื่อก่อน คุโรโตะ คงจะสงวนท่าที่ในการเข้าไปพูดคุยกับคนกลุ่มนี้ ท้ายที่สุดนินจาก็เป็นอาชีพที่ความแข็งแกร่งเป็นปัจจัยที่สําคัญมากหากไร้ซึ่งความแข็งแกร่ง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นจากปีเดียวกันแต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จะไม่ ได้สนิทกันอย่างแท้จริง
โชคดีที่ตอนนี้ คุโรโตะ ไม่ไหมือนเดิมอีกต่อไป ตอนนี้เขามีความมั่นใจมากพอที่จะเข้าไปคุยกับเพื่อนร่วมชั้นของเขาอย่างใจเย็น ในแง่ของความแข็งแกร่งทางจิตใจ เขารู้สึกเหนือกว่าคนอื่นๆเล็กน้อย
เมื่อเห็นใบหน้าที่เย็นชาและเฉยเมยของ คุโรโตะ , ซารุโทบิ อาสีมะ จึงตัดสินใจเริ่มบทสนทนา “เฮ้ คุโรโตะ ฉันได้ยินมาว่าไม่กี่เดือนมานี้นายกับ ไก ทําภารกิจระดับ A เสร็จไปหลายภารกิจเลย
เหรอ?”
เมื่อได้ยินคําถามนี้ของ อาสึมะ คนอื่น ๆ ก็มุ่งความสนใจไปที่คุโรโตะ เพื่อรอฟังคําตอบ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสนใจที่จะฟังผู้เข้าคัดเลือกที่เป็นที่จับตามองมากที่สุดในวันนี้
คุโรโตะ พยักหน้า “ใช่”
ไก ที่อยู่ด้านข้างก็หัวเราะและพูดว่า “เห็นไหมล่ะ? ฉันไม่ได้โกหกจริง ๆ เราทําภารกิจระดับ A และภารกิจระดับ B เสร็จไปเยอะแยะเลย!”
คนที่เป็นจุดอ่อนมักจะถูกหัวเราะเยาะจากคนอื่น
ไก มักจะเป็นคนที่แสดงความชื่นชมและยินดีกับความแข็งแกร่งของคนอื่น แต่ในวันนี้ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาจะได้โอ้อวดบ้างแล้วแน่นอนว่าเขาอารมณ์ดีอย่างน่าประหลาดใจ
เมื่อเด็กหลังห้องอย่าง ไก กลายเป็นที่สนใจของคนที่นี่ ก็ทําให้ความรู้สึกของทุกคนแปลกไปเล็กน้อย แต่ทุกคนที่นี่ก็เป็นนินจาพวกเขามีจิตใจที่เข้มแข็ง ดังนั้นหัวข้อในการพูดคุยจึงเปลี่ยนไปเรื่อย ๆระหว่างรอการทดสอบ
อาสึมะ เหลือบมองไปรอบ ๆ แล้วกระซิบด้วยเสียงเบา ๆ ให้แค่ พื่อน ๆ ได้ยินเท่านั้น “ฉันได้ยินมาว่าคนที่เข้าทดสอบมีมากกว่า 200 คนแต่มีแต่ 15 ลําดับแรกเท่านั้นที่จะได้เลื่อนขั้น!”
“………..เฮ้อ………..”
ทุกคนถอนหายใจพร้อมกันอย่างท้อแท้
ผู้ร่วมสอบมากกว่า 200 คน นั้นหมายความว่าผู้เข้าคัดเลือก13 – 14 คนจะได้รับการเลื่อนขั้น 1 คน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าการจะได้เป็นโจนินพิเศษนั้นยากเพียงใด
ข้อมูลที่ได้จาก อาสึมะ ทําให้เหล่านินจารู้สึกหดหูใจทันที
อิรุกะ พูดด้วยความทอว่า “ดูเหมือนจะหมดหวังแล้วสิเรา”
คุเรไน และ เอบิสึ ก็ถอนหายใจเช่นกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่มั่นใจเหมือนกับ อิรุกะ
เมื่อเห็น อิรุกะ ถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย อาสึมะก็ดูไม่พอใจ “เฮ้ มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ ไอ่เจ้าบ้า คาคาชิ ได้เป็น โจนินตั้งนาน แล้วนะเราจะยอมแพ้เจ้านั้นได้ยังไง?”
ในฐานะลูกชายของ โฮคาเงะรุ่น 3 การถูก คาคาชิแซงหน้าทํา ให้เกิดปมในหัวใจของ อาสึมะ มาโดยตลอด และความจริงที่ว่า บางครั้ง โฮคาเงะรุ่น3ก็เปรียบเทียบเขากับ คาคาชิ ก็ยิ่งทําให้เขา หกหูมากขึ้นไปอีก
ไก ที่อยู่ด้านข้างและมองว่า คาคาชิ เป็นคู่ต่อสู้ตลอดการของเขาก็กําหมัดแน่นและเห็นด้วยกับ อาสึมะ “ใช่ เราต้องไล่ตาม คาคาชิ ให้ทันให้เร็วที่สุด!”
คุโรโตะ ที่อยู่ด้านข้างไม่สนใจที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพูดคุยในหัวข้อนี้ เพราะเป้าหมายของเขาไม่ได้มีแค่ คาคาชิ แต่ยังมีโอบิโตะนางาโตะ โทเนริ และ มาดาระ อยู่อีก
ดังนั้น คุโรโตะ จึงใช้เวลานี้ในการสังเกตผู้เข้าคัดเลือกคนอื่นๆ เขาลองนับจํานวนผู้เข้าคัดเลือกดูคร่าว ๆ แล้วและจํานวนก็เหมือนกับที่อาสึมะพูด มีนินจาประมาณ 200 กว่าคน อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครที่มีประมาณจักระสูงมากเกินไปนัก ซึ่งทําให้เขามีความมั่นใจในความสามารถของเขาอยู่พอสมควร
ขณะที่ คุโรโตะ กําลังวิเคราะห์ผู้เข้าคัดเลือก นินจาหนุ่มคนหนี้งก็เดินมาข้างหน้าเขาและพูดว่า “รุ่นพี่ ขอบคุณที่ดูแล อิทาจิเป็นอย่างดีนะครับ เขาพูดถึงรุ่นพี่อยู่หลายครั้งและยังบอกอีกว่าพี่เป็นนินจาที่เก่งมาก!”
คุโรโตะ มองไปที่เขาและถามว่า “ถ้าฉันจําไม่ผิด นายคืออุจิฮะ ชิซุย ใช่ไหม?”
และเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาลืมแนะนําตัว ชิซุย ก็รับขอโทษทันที “ขอโทษที่หยาบคายนะครับรุ่นพี่ ขอโทษที่ไม่ได้แนะนําตัวผมชื่ออุจิฮะชิซุยครับ!”