กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 24 : ต่อสู้กับ ซาบุสะ
Chapter 24 : ต่อสู้กับ ซาบุสะ
หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายถอยห่างจากก สนามต่อสู้ก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างประหลาด
ไก ดูเคร่งขรึม หลังจากการเผชิญหน้าเป็นระวะเวลาสั้น ๆ กับซาบุสะ เขาก็ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 10 แห่ง แม้ว่ามันจะเป็นบาดแผลแค่ถาก ๆ แต่ก็ถือว่าเขาได้รับบาดเจ็บ
ซาบุสะ ก็สภาพไม่ค่อยดีเช่นกัน เขาหอบอย่างหนักขณะปักดาบลงบนพื้น
ในระหว่างการต่อสู้กัน ไก สามารถถเตะ ซาบุสะ ที่ซิโครงได้ ผลกระทบของมันดูเหมือนจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากสภาพปัจ จุบันของซาบุสะที่ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงด้วยขาของตัวเองและสัญญาณของความรู้สึกเจ็บปวดที่เห็นได้จากการหายใจของเขา
คุโรโตะ ที่ยืนอยู่บนต้นไม้เห็นโอกาสนี้และพูดทันทีว่า “ไกนายถอยไปก่อนฉันจะจัดการเขาต่อเอง”
ไก ไม่โต้แย้งคําสั่งของ คุโรโตะ และถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ
แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การปะทะกันในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทําให้ ไก เข้าใจความแข็งแกร่งของ โมโมจิ ซาบุสะ เขาเข้าใจดีว่าถ้าเขาไม่ใช้กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลัง มันก็คงจะเป็นเรื่องยากสําหรับเขาที่จะเอาชนะศัตรูได้
ทันทีที่ ไก ถอยกลับไป คุโรโตะ ก็กระโดดจากต้นไม้ลงสู่พื้นอย่างเงียบ ๆ ต่อหน้าทุกคน คุโรโตะ เดินอย่างสงบเข้าไปทางซาบุสะและพูดด้วยน้ําเสียงที่ดูถูกเหยียดหยามว่า “ฉันไม่เหมือนกับ ไกคง ไม่จําเป็นต้องใช้แรงมากเท่าไรในการจัดการกับ นินจาคิริ ชั้นต่ํานินจาไร้ชื่ออย่างแก”
น้ําเสียงและแววตาของ คุโรโตะ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขามองซาบุสะเหมือนกับที่ โบอา แฮนค็อก ดูถูกทุกคนยกเว้น ลูฟี เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขากําลังคุยกับแมลงที่น่าสมเพชหรืออย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่เขาต้องการให้ทุกคนในที่นี่เห็น
แต่ ซาบุสะ จะยอมให้ตัวเองถูกดูถูกแบบนี้เหรอ? ไม่ตอนนี้เขาโกรธมาก “ไอ่เด็กเหลือขออย่างแกกล้ามาเรียกฉันว่านินาไร้ชื่อนั้น
เหรอ!!!”
ที่ละก้าว..ทีละก้าว…ฟื้บ…
คุโรโตะ เค้นจักระไปที่ขาของเขาทันทีและพุ่งเข้าหาซาบุสะด้วยความเร็วสูง!
นี่คือโอกาสที่เขารอคอย!
แม้ว่า ซาบุสะ จะแปลกใจกับการพุ่งเข้าโจมตีอย่างกะทันหันของคุโรโตะแต่เขาก็ไม่ใช่นินจามือใหม่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เตรียมจิตใจให้อยู่ในสภาวะที่พร้อมสําหรับการต่อสู้อยู่เสมอเขาฟันดาบของเขาไปในแนวนอนยังทิศทางที่คุโรโตะกําลังพุ่งมาทําให้ เกิดเป็นคลื่นพลังพุ่งตรงเข้าหาคุโรโตะ
ฟื้ม…
คลื่นลมตัดที่เกิดจากฟันพุ่งเข้าหา คุโรโตะ
แต่ คุโรโตะ ก็ไม่กลัวเลย และก็ไม่มีใครสังเกตเห็นเนตรจุติที่สองแสงอันตระการตาภายใต้แว่นตาที่เขาสวมอยู่
ด้วยการมองเห็นขั้นสูงสุดของ เนตรจุติ เขาสังเกตเห็นกระแสจักระที่ ซาบุสะ ฉีดเข้าไปที่มือขณะที่ ซาบุสะ ฟันดาบ แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่มีจักระวิ่งไปที่ขาของ ซาบุสะ และไม่มีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อที่ขาของ ซาบุสะ
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ทําให้ คุโรโตะ รู้แผนกลยุทธ์ที่ซาบุสะจะใช้โจมตีล้วงหน้า
ซาบุสะ ฟันดาบออกไปเป็นแนวนอนเพื่อบังคับให้ คุโรโตะ ถอยกลับการที่กล้ามเนื้อขาของ ซาบุสะ ไม่หดตัวก็แสดงว่าเขาจะไม่ไล่ตามหรือพุ่งเข้าโจมตี คุโรโตะ ด้วยดาบ และในเมื่อซาบุสะยังคงเค้นจักระไปที่มืออย่างต่อเนื่องก็แสดงให้เห็นว่าเขาวางแผนที่จะใช้คาถานินจาโจมตีต่อเนื่องกับการโจมตีก่อนหน้า
หลังจากเข้าใจความตั้งใจของ ซาบุสะ และทําการคํานวณทางกลยุทธ์ทั้งหมดภายในเวลาไม่กี่วินาที คุโรโตะ ก็ควบคุมจักระในกล้ามเนื้อของเขาตามลําดับ
ทุกคนมองดูการต่อสู้อยู่ห่าง ๆ
ทันใดนั้น คุโรโตะ ก็หยุดอย่างกะทันหัน!
เขาเอนหลังเล็กน้อยหลบคลื่นลมตัด! แล้วพุ่งเข้าไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เร็วขึ้น……..
การเคลื่อนไหวทั้งหมดของ คุโรโตะ เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่เขาหลบคลื่นลมตัดโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆเขาไม่ได้ถอยกลับและพุ่งเข้าหาซาบุสะ
“อะไร?!”
เมื่อเห็นว่าศัตรูไม่เปลี่ยนทิศทางหรือถอยกลับ ซาบุสะ ก็ตกตะลึงเขาเตรียมใช้แผนไว้เป็นอย่างดีแต่เขาก็ไม่คิดว่าคุโรโตะจะพุ่งเข้ามาหาเขาโดยไม่กลัวว่าเขาจะฟันดาบออกไปอีกครั้ง
เขาตระหนักได้ในทันที่ว่า คุโรโตะ มองเห็นแผนการของเขาแล้วแต่ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้วที่จะเปลี่ยนแผนเพราะคุโรโตะเข้ามาใกล้มากแล้ว
ทันทีที่ คุโรโตะ เข้าใกล้ ซาบุสะ เขาก็โบกมือและใช้กระบวนท่ามวยอ่อน 8 ทิศทันที
เมื่อเห็นการโมตีที่กําลังจะถึงตัว หัวใจของ ซาบุสะ ก็ไม่สามารถสงบลงได้อีกต่อไป
ในตอนนี้ ไม่ว่าเขาจะเหวี่ยงดาบหรือทิ้งมันทันทีเพื่อประสานอินมันก็สายเกินไปแล้ว
ปังปังและบัง………………..
เสียงฝ่ามือกระทบร่างดังขึ้นในสนามเบา ๆ แต่ก็ส่งเสียงดังไปถึงหูของทุกคนที่อยู่ที่นี่อย่างชัดเจน
ท่ามกลางเสียงกระทบฝ่ามือ ร่างของ ซาบุสะก็สั่นสะท้านและในที่สุดเขาก็ล้มลงกับพื้นราวกับลูกบอลที่ถูกลมพัด
เฮือก……………
ไม่ใช้เพราะอะไร แต่เพราะ คุโรโตะ จัดการกับ ซาบุสะ ได้ง่ายเหมือนกับนั่นเค้ก!
การเอาชนะ ซาบุสะ มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
แน่นอนว่าไม่!
ความแข็งแกร่งของ โมโมจิ ซาบุสะ นั้นน่าทึ่งมาก แม้แต่ คาคาชิที่ได้ชื่อว่าเป็นนินจาอัจฉริยะของรุ่น และหน่วยลับที่ยืนอยู่ข้างเขาก็ไม่สามารถเอาชนะซาบุสะได้
แต่ คุโรโตะ ดูผ่อนคลายมาก การเผชิญหน้านั้นเรียบง่ายมาก และเขาก็เอาชนะซาบุสะ ได้อย่างง่ายดายราวกับว่า ซาบุสะเป็นคู่ต่อสู้ที่ง่ายดาย
ในทางกลับกัน คุโรโตะ ยังคงแสดงสีหน้าเฉยเมยและเย็นชา
เขาเหลือบมองไปที่ นินจาคิริ อีก 3 คนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากนั้นก็หันกลับมาแล้วเตะ ซาบุสะ ที่หมดสติไปทางพวกเขา
“พาเขากลับไป!”
นินจาคิริ ทั้ง 3 คนช่วยกันพยุง ซาบุสะ ขึ้นมา ในขณะที่ห นึ่งในนั้นพูดว่า“เราได้รับคําสั่งมาให้ตามล่านินจาถอนตัว!”
เมื่อได้ยินคําตอบนี้ คุโรโตะ ก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และมองไปที่นินจาคิริแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “นินจาถอนตัวที่แกพูดถึงคือเป้าห มายของฉันถ้าพวกแกคิดจะขวางฉันก็ไม่รังเกียจที่จะจัดการพวก แกด้วย”
เมื่อได้ยินแบบนั้น นินจาคิริ ก็มองไปที่ ซาบุสะที่หมดสติและมองไปที่หน่วยลับโคโนฮะ อีก 2 คนที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักจากนั้นพวกเขาก็มองหน้ากันและพยักหน้าให้กันแล้วรีบถอยกลับ ขณะแบกซาบุสะไว้บนหลัง
หลังจากที่ นินจาคิริ จากไป คุโรโตะ ก็ไม่ได้พูดอะไรกับหน่วยลับโคโนฮะจากนั้นก็เดินเข้าไปหา ไก ที่ได้รับบาดเจ็บและทําแผล ให้เขาจากนั้นทั้งคู่ก็ไล่ตามเป้าหมายภารกิจต่อไป
หลังจากที่ทั้ง ไก และ คุโรโตะ จากไป นินจาโคโนฮะทั้ง 2 คนก็มองหน้ากัน
หัวหน้าหน่วยลับ พิมพ์ขึ้นว่า “เฮ้ เด็กนั่นใช้กระบวนท่ามวยออนใช่ไหม? เขาเป็นฮิวงะ งั้นเหรอ?”
คาคาชิที่ยังสวมหน้ากากสุนัขจิ้งจอกอยู่ก็พยักหน้าให้หัวหน้าของเขา “ ผมรู้จัก 2 คนนั้น เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน คนหนึ่งคือ ไม โตะ ไก และอีกคนหนึ่งคือฮิวงะคุโรโตะ”
หัวหน้าหน่วยลับ ดูประหลาดใจกับคําพูดของ คาคาชิ “ถ้าฉันจําไม่ผิดในรุ่นเดียวกับเธอ ไม่มีนักเรียนคนไหนมีแนวโน้มเป็นอัจฉริยะเหมือนเธอเลยนิแล้วทําไม 2 คนนั้นถึงดูแข็งแกร่งขนาดนี้ได้
ล่ะ?”
ใช่แล้ว นินจาส่วนใหญ่ในรุ่นเดียวกับ คาคาชิ เสียชีวิตไปในสงครามจนเกือบหมดแล้ว และผู้ที่รอดชีวิตก็เป็น จูนิน ระดับสูง มีเพียงคาคาชิเท่านั้นที่เป็นอัจฉริยะ และมีคุณสมบัติพียงพอจนเป็น โจนินได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นในสายตาของหัวหน้าหน่วยลับคนนี้ฮาตาเคะ คาคาชิ เป็นนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นของเขาแต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด
คาคาชิ ก็แปลกใจเช่นกัน
เขาไม่ได้ประทับใจ คุโรโตะ มากนัก ตามความเข้าใจของเขาฮิว งะ คุโรโตะเป็นแค่นักเรียนธรรมดาและไม่มีความสามารถพิเศษใดๆ ที่จะดึงดูดความสนใจจากเขาได้ แต่การแสดงของ คุโรโตะ ในวันนี้ทําให้เขาประหลาดใจมาก ทั้งทัศนคติและความมั่นใจที่ คุโร โตะ ทําต่อหน้าเขา ทําให้ คาคาชิ นึกถึงครูของเขา นามิคาเสะ มินาโตะ โดยไม่รู้ตัว
หัวหน้าหน่วยลับพูดด้วยอารมณ์บางอย่าง “อย่าลืมบันทึกเหตุการณ์ในวันนี้และรายงานท่าน โฮคาเงะ หลังจากกลับถึงหมู่บ้านความสามารถแบบนี้ควรได้เข้าหน่วยลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่หมู่บ้านกําลังเจออยู่ในตอนนี้”
ทางด้าน คุโรโตะ
ไก อดไม่ได้ที่จะถาม คุโรโตะ ว่า “คุโรโตะ ทําไมเราไม่ถามหน่วยลับของเราละว่าพวกเขามีข้อมูลของนินจาพเนจรพวกนั้นไหม?”
คุโรโตะ ยิ้มเมื่อได้ยินคําถามของไก “เพราะมันไร้สาระยังไงล่ะ ฉันเลยไม่ทําแบบนั้น การที่ทีมลอบสังหารของ คิริ ปรากฏตัวอยู่ที่ นี่ก็แสดงว่านินจาพเนจรเหล่านั้นเป็นนินจาถอนตัวของ คิริ และการปรากฏตัวของ หน่วยลับโคโนฮะ ที่นี่ก็แค่ โคโนฮะ ต้องการติด ตาม ทีมลอบสังหารทีมนั้นเท่านั้น ถ้าไม่ใช่แบบนั้น พวกเขาคงจะต่อสู้กันไปแล้ว”
ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้วและเดาได้ไม่ยาก
หมู่บ้านศิริ ส่งทีมลอบสังหารออกมาเพราะว่าพวกเขาต้องการจัดการกับปัญหาของพวกเขาด้วยตัวเองและนําศพนินจาถอนตัวก ลับไปพร้อมกับพวกเขาซึ่งนั้นก็หมายความว่าในกลุ่มนินจาถอนตัว เหล่านี้น่าจะมีคนที่มีขีดจํากัดสายเลือดที่มีเฉพาะในหมู่บ้านคิริอยู่ด้วย
เห็นได้ชัดว่า คาคาชิ และหน่วยลับอีกคนถูกส่งมาเพื่อติดตามทีมลอบสังหารของคิริ ที่ลอบเข้ามาใน แคว้นแห่งไฟ เรื่องนี้ยืนยันได้ว่าเป็นจริงเพราะพวกเขาไม่ได้เริ่มการต่อสู้กับแต่ยืนอยู่ในจุดยุทธศาสตร์เท่านั้น
เมื่อ ไก ได้ยินคําพูดของ คุโรโตะ มันก็ฟังดูสมเหตุสมผล
“ถ้า หน่วยลับโคโนฮะ รับผิดชอบในการตรวจสอบการเข้ามาของ ที่มลอบสังหารของคิริ เท่านั้น พวกเขาก็คงจะไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับกลุ่มนินจพเนตรที่เรากําลังตามอยู่ อีกอย่างฉันก็เจอร่องรอยของกลุ่มนินจาพเนจรแล้ว ดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องรออีกต่อ ไป” คุโรโตะ คิดอย่างเงียบ ๆ
จากนั้นพวกเขาก็ไล่ล่าต่อไป ระหว่างทางจู่ ๆ ไก ก็พูดว่า “คุโรโตะ สิ่งที่นายทําในการต่อสู้เมื่อกี้ช่างสวยงามจริงๆ ฉันไม่นึกเลยว่าศัตรูจะไม่สามารถหยุดหรือตอบโต้เมื่อนายเข้าถึงตัวเขาได้”
ริมฝีปากของ คุโรโตะ โค้งเล็กน้อยหลังจากได้ยิน ไกชมเขา แม้ จะเพียงเล็กน้อยแต่เขาก็ยิ้มอย่างสงวนท่าที่