กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 22 : ร่วมทีม
Chapter 22 : ร่วมทีม
ไม่นานหลังจากนั้น ไก ก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากปาแล้วปิดประตูพลังทั้งหมด
เมื่อเห็น ไก ปิดประตูพลัง คุโรโตะ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่ก็ยังพูดอย่างเย็นชาว่า “ภายใต้การป้องกันที่สมบูรณ์แบบของฉันการโจมตีใดๆก็ไม่สามารถผ่านไปได้ นายควรจําไว้เป็นประสบการณ์”
ไก อ้าปากค้างและพูดว่า “คุโรโตะ เนตรสีขาวกับมวยอ่อนของ ฮิวงะ สมควรได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ในขีดจํากัดสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าฉันจะรวดเร็วขนาดไหนแต่ทุกการเลื่อนไหวของฉันก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของ นายได้ ”
ไก โจมตี คุโรโตะ ในขณะที่เขาเปิดประตูด่านพลังถึง 4 บานแต่ คุโรโตะ ก็สามารถป้องกันการโจมตีได้อย่างง่ายดายอย่างน้อยนั้นคือสิ่งที่ไกเห็น เพราะภายนอก คุโรโตะดูไม่เป็นอะไรเลยสิ่งนี้ทําให้ไก เชื่อว่าเขาไม่สามารถเอาช นะ คุโรโตะ ในการประลองครั้งนี้ได้แม้ว่าเขาจะต่อสู้ต่อไปก็ ตาม
ใบหน้าของ คุโรโตะ ยังคงไม่แยแส “แน่นอน การโจมตีของนายทั้งหมด ฉันมองออกหมด”
ไก นั่งลงบนพื้น “เฮ้อฉันแพ้แล้ว”
“นี่ นายควรภูมิใจในตัวเองสิที่สามารถบังคับให้ฉันใช้มวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์ ได้ วิชาของนายสุดยอดจริงๆ” หลัง จากนิ่งไปครู่หนึ่งคุโรโตะก็พูดต่อว่า “วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ แล้วกันพรุ่งนี้เช้าเจอกันที่ศูนย์ภารกิจนะ”
ไก ผงะไปครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความประหลาดใจ! “นี่นาย…นายกําลังบอกว่านายจะให้ฉันร่วมทีมเพื่อไปทําภารกิจเหรอ?!”
“อย่ามาช้าล่ะ เพราะฉันเป็นคนไม่ชอบรอ!”
หลังจากที่ คุโรโตะพูดแบบนั้น ไก ก็ไม่พูดมากอีกต่อไป
ทั้งคู่แยกกันและ คุโรโตะ ก็เดินกลับไปที่บ้านของเขา ในตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของเขากําลังจะแตกสลายและเขาก็แทบจะยืนไม่อยู่อีกต่อไป หากเขาไม่รีบจากไป เขาอาจจะหมดสติไปเพราะความเจ็บปวดแน่นอน
ไก กระสับกระส่ายดูเหมือนเขาอยากจะพูดอะไร แต่เขาก็ได้แต่ตะโกนด้วยความดีใจและกลับบ้านด้วยความตื่นเต้นเพื่อรอวันพรุ่งนี้
ไม่นานหลังจากที่ คุโรโตะ และ ไก จากกัน ที่มหน่วยลับก็ปรากฏตัวขึ้นในปาที่ทั้งคู่เพิ่งต่อสู้กัน
หลังจากสํารวจที่เกิดเหตุโดยสังเขป หนึ่งในหน่วยลับก็พูดว่า “ไม่มีร่อยรอยของการใช้คาถานินจาและคาถาลวงตาเลยดูเหมือนว่ามันจะเป็นการต่อสู้ด้วยวิชากระบวนท่าล้วน ๆ”
หัวหน้าหน่วยลับ ถามอย่างเคร่งขรึม “ยืนยันตัวตนของทั้ง 2 ฝ่ายได้หรือยัง?”
หนึ่งในทีมหน่วยลับที่อยู่ด้านข้างตอบว่า “คนหนึ่งเป็นจูนินจากตระกูลสาขาของ ตระกูลฮิวงะชื่อ ฮิวงะ คุโรโตะ และอีกคนคือ จูนิน ชื่อ ไมโตะ ไก ลูกชายของ ไมโตะ ไดและดูจากร่องรอยแล้วดูเหมือนว่าเด็กจาก ฮิงวะ จะชนะ ครับ!”
เมื่อมองไปที่ต้นไม้รอบๆ ที่หักโค่นและหลุมขนาดต่าง ๆ บนพื้นหัวหน้าทีมหน่วยลับก็พูดว่า “พวกเขาสร้างความวุ่นวายทั้งหมดนี้โดยใช้แค่กระบวนท่างั้นเหรอ? รายงานเรื่ องนี้ให้ท่านรุ่น3ทราบเด็ก 2 คนนี้น่าจับตามองเป็นอย่าง มาก!”
ทางฝั่งของ คุโรโตะ เมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาพบว่า ยูอิ กําลังทําความสะอาดบ้านอยู่ และเมื่อเขาเห็นเธอเขาก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจและลืมความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขารู้สึกไป
ยูอิ รีบออกมาทันทีที่เธอสังเกตเห็นว่า คุโรโตะกลับมา “คุโรโตะคุง ยินดีต้อนรับกลับบ้าน!”
คุโรโตะ ยิ้ม “ของคุณมากนะ ยูอิ ที่ดูแลบ้านในตอนที่ฉันไม่อยู่!”
ต่อหน้า ยูอิ คุโรโตะ ทิ้งมาดทั้งหมดของเขาไปถ้าจะมีใครในหมู่บ้านโคโนฮะ ที่ คุโรโตะสามารถไว้ใจได้โดยไม่มีเงื่อนไขก็คงจะเป็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเนี่ยแหละ
ทันทีที่ ยูอิ ออกมา เธอก็สังเกตเห็นแขนที่บวมแดงของ คุโรโตะ และเธอก็อุทานด้วยความประหลาดใจทันที “คุโรโตะคุงนายไปทําอะไรมาเนี่ยถึงได้บาดเจ็บขนาดนี้? มา ฉันจะทําแผลให้”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ฉันแค่ประลองกับเพื่อนนิดหน่อย ไม่ต้องเป็นห่วง”
อย่างไรก็ตาม ยูอิ ก็ไม่ฟัง คุโรโตะ และดึงเขาขึ้นไปบนเสื่อทาทามิ และเริ่มทําความสะอาดบาดแผลให้เขา
ทั้ง 2 นั่งเงียบ ๆ ขณะที่ ยูอิ ทําแผลให้เขา
เมื่อเธอทําที่แขนของ คุโรโตะ เสร็จ เธอก็พูดขึ้นขณะที่ทายาที่มือของ คุโรโตะ “คุโรโตะคุง ท่านฮิซาชิ ให้ฉันมาขอโทษนายและขอให้นายยกโทษให้พวกเรา”
[ฮิวงะ ฮิซาชิ เป็นน้องชายฝาแฝดของ ผู้นําตระกูลฮิวงะคนปัจจุบัน เขามีหน้าที่ช่วยเหลือผู้นําตระกูลของพวกเขาในการดูแลตระกูลสาขา]
คุโรโตะ รู้สึกสับสนเล็กน้อยกับสิ่งที่ ยูอิพูด “ขอโทษ?! ขอโทษฉันเรื่องอะไรเหรอ?”
ยูอิ ตอบว่า “นายไม่โกรธเหรอ? ทุกคนในตระกูลคิดว่าที่นายไม่ยอมกลับมาที่ตระกูล ไม่ยอมคุยกับพวกเขา เพราะนายโกรธพวกเขา เหมือนกับว่านายกําลังตีตัวออกห่าง”
เมื่อได้ยิน ยูอิ พูด คุโรโตะ ก็ตอบสนองทันที
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งตระกูลเข้าใจเขาผิด
เห็นได้ชัดว่าตระกูลคิดว่า คุโรโตะ มีข้อข้องใจต่อตระกูลเพราะตระกูลไม่ยอมช่วยเขาตอนที่เขาเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์การถอนตัวของโอโรจิมารุดังนั้นเขาจึงอาจเหินห่าง จากคนอื่นๆในตระกูล
และแน่นอนว่ามันไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิดเพราะคุโรโตะไม่เคยคิดอย่างนั้น เขารู้เขาคือฮิวงะแม้ว่าตระกูลของเขาจะเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีสถานะทางการเมืองสูง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมีอิทธิพลเหนือผู้มีอํานาจสูงสุดอย่าง โฮคา เงะ และสภาผู้อาวุโส
การตายของ ฮิวงะ ฮิซาชิ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของเรื่องนี้ แม้ว่าจะต้องเป็น ฮิอาชิ ที่ต้องตาย แต่ตระกูลก็ไม่สามารถโน้มน้าวหมู่บ้านให้ปฏิเสธความต้องการของ หมู่บ้า นคุโมะได้และจบลงด้วยการเสียสละน้องชายฝาแฝดก็คือ ฮิซาชิ แทน ฮิอาชิ
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ตระกูลฮิวงะ จะมีอํานาจอะไรที่จะปกป้องเขาจากเรื่องที่เขาเกี่ยวข้องกับ โอโรจิมารุ? ดังนั้นคุโรโตะ จึงไม่ขุ่นเคืองตระกูลฮิวงะ เพราะเขารู้ดีว่าพวกเขาไม่มีอํานาจ
การตีตัวออกห่างจากตระกูลของเขาเป็นเพียงแค่การป้องกันความลับของเขาเรื่อง เนตรจุติเท่านั้นแต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันทําให้ตระกูลเข้าใจเขาผิด และเขาสามารถใช้ความเข้าใจผิดนี้เป็นข้อแก้ตัวได้
ขณะที่ คุโรโตะ กําลังคิดเรื่องทั้งหมดนี้อยู่ในหัวความไร้เดียงสาของ ยูอิ ก็ทําให้เธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่และเธอก็ยังคงพูดต่อไปว่า“ท่านฮิซาชิ ยังบอกอีกด้วยว่าที่สภาโจนินวันนี้ท่านจิไรยะ ก็พูดชมนายด้วยน่ะถึงนายจะต้องเผชิญหน้ากับพลังสถิตร่างของคุโมะแต่นายก็เลือกที่จะยืนหยัดต่อสู้และไม่ละทั้งภารกิจ เพื่อไม่ให้หมู่บ้านเสียชื่อเสียง”
เขามองไปที่ ยูอิ ที่ดูเหมือนจะมีความสุขมากในขณะที่บอกเรื่องนี้กับเขา จากนั้นเขาถามอย่างอ่อนโยนว่า “ท่านจิรายะกลับมาที่โคโนฮะแล้วเหรอ?”
“อืม…ท่านจิรายะ เพิ่งกลับมาถึงวันนี้เอง”
“ท่านรุ่น 3 น่าจะเป็นคนที่เรียก ท่านจิไรยะ กลับมาจากการตามล่า โอโรจิมารุ แสดงว่าปัญหาที่หมู่บ้านกําลังเผชิญอยู่นั้นร้ายแรงกว่าที่เขาคิดไว้มาก”คุโรโตะ คิดในใจ
ใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 โคโนฮะ ไม่ได้มีความ ได้เปรียบเหมือนกับ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ครั้งนี้ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการร่วมมือกันของ 4 หมู่บ้านใหญ่
หากไม่ใช่เพราะ นามิคาเสะ มินาโตะ ประกายแสงสีทองแห่งโคโนฮะ ที่สามารถพลิกสถานการณ์ในสมรภูมิรบต่างๆได้มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3ก็คงจะไม่จบลงด้วยชัยชนะของโคโฮะ
ดังนั้นตอนนี้เมื่อหมู่บ้านอื่น ๆ รู้ว่าตอนนี้ 1 ใน 3 นินจาแห่งโคโนฮะถอนตัวออกจากหมู่บ้านและ โฮคาเงะรุ่น 4 กับพลังสถิตร่าง 9 หางคนที่ 2 เสียสละตัวเองเพื่อหมู่บ้าน พวกเขาก็เริ่มมีความคิดที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่อ่อน แอของ โคโนฮะ ในตอนนี้
ยังไงก็แล้วแต่ หลังจากที่ ยูอิ ทําแผลและทายาให้คุโรโตะเสร็จ เขาก็รีบพักผ่อนทันที
การประลองกับ ไก อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในการต่อสู้ที่ยากที่สุดตั้งแต่เขาได้ เนตรจุติมาแต่ในขณะเดียวกันการต่อสู้นี้ก็ทําให้เขาได้รับประสบการณ์ที่จําเป็นมาก
ในฐานะคู่ซ้อมกระบวนท่า ไมโตะ ไก นั้นไร้ที่ติ
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น คุโรโตะ ก็ใช้ผ้าพันแผลพันแขนและขาก่อนจะรีบไปที่ศูนย์ภารกิจ
แน่นอนว่าการพักผ่อนแค่ช่วงสั้น ๆ ไม่เพียงพอที่จะฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้ แต่เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเขา เขาก็ไม่ต้องการให้ไกเห็นรอยฟกช้ําของเขา
เมื่อ คุโรโตะ มาถึงศูนย์ภารกิจ ไก ก็กําลังรออยู่ที่ประตูแล้วและทักทาย คุโรโตะ ทันทีที่เห็นเขามาถึง “คุโรโตะคุง!! นี่ นี่ นี่!ฉัน! ฉันอยู่ตรงนี้!”
เมื่อมองไปยัง ไก ที่กําลังกระโดดไปมาหน้าประตูศูนย์ภารกิจ คุโรโตะ ก็รู้สึกเขินอายทันทีที่เขากลายเป็นจุดสนใจร่วมกับไก
เห็นได้ชัดว่า คุโรโตะ ไม่ตอบคําทักทายที่ตื่นเต้นมากเกินไปของ ไก และเขาก็เดินเข้าไปในศูนย์ภารกิจทันทีจากนั้นก็เริ่มพลิกดูรายการภารกิจระดับ A ที่มี
ดูเหมือน ไก จะไม่ได้สังเกตเห็นความอับอายบนใบหน้าของคุโรโตะ และกระซิบจากด้านข้างว่า “คุโรโตะภารกิจระดับ A มีแต่โจนินที่ทําได้ไม่ใช่เหรอ?”
คุโรโตะ อธิบายอย่างไม่ขอไปทีว่า “ฉันเพิ่งพาทีมไปทําภารกิจระดับ A สําเร็จมาเมื่อ 2 – 3 วันก่อนฉันเลยได้รับอนุญาตให้ทําภารกิจระดับAได้”
ไก ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด “อะไรนะ?! นายทําภารกิจระดับ A สําเร็จงั้นเหรอ?!”
สําหรับไมโตะ ไก ที่เคยทําแค่ภารกิจระดับ D และระดับ C การทําภารกิจระดับ B ให้สําเร็จก็เกินความคาดหมายของ เขาแล้วไม่ต้องพูดถึงภารกิจระดับ A มันเกินความฝันที่จะเป็นจริงดังนั้นเขาจึงค่อนข้างแปลกใจที่ได้ยินว่าคุโรโตะ นํา ทีมทําภารกิจระดับ A ได้สําเร็จด้วยตัวเขาเอง
คุโรโตะ เหลือบมอง ไก และเม้มปากแล้วพูดด้วยความรําคาญว่า “มันแปลกตรงไหน? ฉันรวมทีมกับเด็ก อุจิฮะ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะทําภารกิจระดับ A สําเร็จได้อย่างง่ายดาย
ไก ยิ้มเมื่อเห็นความเย่อหยิ่งของคุโรโตะ “ใช่แล้วฉันลืมไปนายเป็นอัจฉริยะ!”
คุโรโตะ พยักหน้าอย่างพอใจ เขาเพียงต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งในใจของ ไกแม้ว่าการถูกเรียกว่า “อัจฉริยะ” จะทําให้เขาหงุดหงิดเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่มีทางเลื อกอื่นหากเขาต้องการบรรลุจุดประสงค์