กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 16
หลังจากสังเกตกับดักที่อิทาจิสร้างขึ้น แล้วคุโรโตะก็สุ่มเลือกจุดที่สะอาดและนั่งพิงกับต้นไม้และพักสายตา
ขณะนั้น คุโรโตะก็คิดเรื่องของเขา
นอกจากจะไม่มีข้อมูลของเนตรจุติแล้ว ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่จํากัดการพัฒนาของเขาในขณะนี้ ก็คือปริมาณจักระของเขา
เมื่อเนตรจุติเข้าสู่จุดเสถียรหลังจากช่วงปรับตัว การเพิ่มขึ้นของปริมาณจักระของเขาก็เริ่มคงที่เช่นกัน แม้ว่ามันยังคงเพิ่มอยู่ทุกวันๆ แต่มันก็เพิ่มขึ้นน้อยมากเมื่อเทียบกับในช่วงปรับตัว
ในแง่ของปริมาณจักระ แม้ว่าเขาจะมีปริมาณจักระมากกว่าคนในรุ่นเดียวกัน แต่ก็ยังไม่ทําให้เขาพอใจ เขายังไม่เข้าใกล้ระดับของ โฮคาเงะรุ่น 4 เลยด้วยซ้ํา!
ในความเป็นจริง ไม่มีวิธีใดที่จะแก้ปัญหานี้ได้
แต่…
สัตว์หางเป็นแหล่งจักระที่มหาศาล ทําให้พลังสถิตร่างเกือบทุกคนมีจักระไม่จํากัด ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาสามารถควบคุมสัตว์หางได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สัตว์หางทั้ง 9 ตัวก็อยู่ในการควบคุมของหมู่บ้านใหญ่ทั้ง 5 ดังนั้นการคิดจับสัตว์หางเหล่านี้ก็เหมือนกับการคว้าอาหารจากปากเสือ ถ้าเขาไม่ระวังให้ดีก็เหมือนกับเขาจุดไฟเผาตัวเอง
ในทางกลับกัน เรบิ(0 หาง)นั้นแตกต่างออกไป มันคือสัตว์หางที่ถูกสร้างขึ้น แม้ว่าความแข็งแกร่งและความเสถียรของมันจะด้อยกว่าสัตว์หางทั้ง 9 ตัวอยู่มาก แต่ถ้าหากใช้เพียงแค่จักระของมันเป็นเหมือน“แบตเตอรี”มันก็อาจช่วยแก้ปัญหาเรื่องปริมาณจักระของคุโรโตะได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ คุโรโตะก็เหลือบมองชินโนที่กําลังพักผ่อนอยู่ไม่ไกลโดยไม่ได้ตั้งใจและคิดกับตัวเองว่า “กว่าเรบิจะปรากฏตัวออกมา อุซึมากิ นารูโตะก็โตเป็นวัยรุ่นแล้ว ถ้าฉันต้องรอนานเป็น 10 ปีแบบนั้นมันก็คงจะไม่มีประโยชน์ คงต้องหาวิธีที่ทําให้ เรบิ ปรากฏตัวออกมาเร็วขึ้นสะแล้ว”
เช้าวันรุ่งขึ้น
ทั้ง 3 เตรียมพร้อมและออกเดินทางอีกครั้ง เมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่แคว้นแห่งเสียง พวกเขาก็ถูกกลุ่มนินจาพเนจรเจอตัวทันที
นินจาพเนจรมักจะเป็นนินจาถอนตัวจาก 5 หมู่บ้านใหญ่ และนินจากบฏจากหมู่บ้านเล็กๆ
โดยทั่วไปแล้วนินจาเหล่านี้จะไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก ดังนั้นพวกเขาจึงรวมตัวกันและยึดแคว้นเล็กๆ อย่างแคว้นชา หรือแคว้นนามิที่ไม่ได้รับการปกป้องจากหมู่บ้านนินจา
เมื่อมองไปที่นินจาพเนจรที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเขา อิทาจิถามว่า “หัวหน้า เราจะทํายังไงดีครับ?”
คุโรโตะ มองไปรอบๆ และพูดเบาๆ “มีนินจา 3 คนซุ่มโจมตีจากด้านหน้าและอีก 3 คนอยู่ข้างหลัง ฉันจะจัดการด้านหน้า ส่วนเธอจัดการด้านหลัง รีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด อย่าเปิดโอกาสให้มันหนีไปได้!”
เมื่อ คุโรโตะ ออกคําสั่งเสร็จ เขากับ อิทาจิ ก็หายตัวไปอย่า งรวดเร็วและพุ่งเข้าหานินจาพเนจรที่เป็นเป้าหมายของพวกเขา
ในฝั่งของ คุโรโตะ เขาไม่ได้ใช้วิชาของเนตรจุติ แต่ด้วย การตรวจจับที่น่าทึ่งของ เนตรจุติ เขาจึงจัดการกับนินจาพเนจรทั้ง 3 คนตรงหน้าของเขาด้วยกระบวนท่ามวยอ่อนและจบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว
และเมื่อคุโรโตะ หันกลับไปมองที่อิทาจิ เขาก็พบว่าอิทาจิก็จบการต่อสู้แล้วเช่นกัน
ด้วยทักษะการขว้างคุในที่ยอดเยี่ยมควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวที่ไร้ร่องรอยของเขา ทําให้การโจมตีของอิทาจิไร้ที่ติและ ไม่ด้อยไปกว่าคุโรโตะเลยในทุกๆด้าน
การต่อสู้ทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นแค่การยืดเส้นยืดสาย จากนั้นทั้ง 3 คนก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักและยังคงเดินหน้าต่อไป
หลังจากเดินต่อไปอีกครึ่งวัน จู่ๆคุโรโตะก็หยุดชะงัก
ทั้งอิทาจิและชินโนก็ดูงงงวย แต่เมื่อสังเกตเห็นว่าคุโรโตะกําลังมองไกลออกไปด้วยใบหน้าที่จริงจังมาก พวกเขาจึงไม่ถามคําถามอะไร แต่กลับตื่นตัวโดยไม่รู้ตัว
หลังจากหายใจไม่กี่ครั้ง คุโรโตะก็พูดด้วยน้ําเสียงหนักแน่น “พวกเรามีปัญหาแล้ว!”
อิทาจิ ถามว่า “นินจาคุโมะเหรอครับ?”
คุโรโตะ พยักหน้า
ทันใดนั้นก็มีคน 4 คนเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างรวดเร็ว ทุกคนมีจักระจํานวนมากโดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้า เขามีจํานวนจักระมากกว่าทุกคนที่คุโรโตะเคยเจอมา มากกว่าโฮคาเงะ รุ่น 3 เสียอีก!
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้ง 4 ไม่ได้พยายามปกปิดการเคลื่อนไหวของพวกเขาเลยด้วยซ้ํา นั่นก็หมายความว่าเป้าหมายของพวกเขาคือกลุ่มของเขาอย่างแน่นอน
คุโรโตะไม่ได้โง่ถึงขนาดนั้น เขาตระหนักแล้วว่าสิ่งที่ชินโนขโมยไปจากหมู่บ้านคุโมะนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่สําคัญมาก ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงจะไม่ส่งทีมชัดยอดขนาดนี้มาเพื่อไล่ล่าเขา
หลังจากหายใจเข้าออกได้เพียง 10 ครั้ง ร่างทั้ง 4 ก็ปรากฏ ตัวขึ้นบนต้นไม้ใหญ่รอบทิศและตรวจสอบ คุโรโตะ กับคนอื่น ๆ โดยไม่ปิดบัง
ในขณะที่อีกฝ่ายวิเคราะห์กลุ่มของคุโรโตะ คุโรโตะก็วิเคราะห์อีกฝ่ายเช่นกัน
ฝั่งตรงข้ามมีทั้งหมด 4 คน หัวหน้าของพวกเขาเป็นนินจาสาวที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุโรโตะ และจากความทรงจําในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เขาสามารถเดาตัวตนของเธอได้ทันที แม้ว่าเขาจะจําชื่อของเธอไม่ได้ แต่เขาก็มั่นใจได้ว่าเธอคือ พลังสถิตร่างของมาทาทาบ
(T/N : เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน ผู้แปลได้ไปหาข้อมูลมาแล้วว่า พลังสถิตร่างของมาทาทาบิ หรือ 2 หาง มีชื่อว่านิอิ ยูกิโตะ)
นอกจากพลังสถิตร่างแล้ว นินจาอีก 3 คนในทีมก็เป็นนินจาระดับโจนินขั้นสูง พวกเขาน่าจะเป็นทีมที่ถูกจัดขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อดูแลยูกิโตะ โดยคําสั่งของไรคาเงะรุ่น 3 แห่งหมู่บ้านคุโมะ
หลังจากจ้องศัตรูอยู่ครู่หนึ่ง ยูกิโตะก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “นี่ เจ้าหนูโคโนฮะ! รีบหนีไปสะจะดีกว่า! กลับไปบอกหมู่บ้านของพวกแกว่าพวกแกเจอนินจาคุโมะ หมู่บ้านคงจะไม่โทษแกที่แกยกเลิกภารกิจ!”
เห็นได้ชัดว่าเธอกับ คุโรโตะ อายุใกล้เคียงกัน แต่เธอกลับมองเขาว่าเป็นเด็ก
ตอนนี้ผู้อ่านคงจะจินตนาการถึงอารมณ์ของตัวเอกของเรา
เช่นเดียวกับยูกิโตะ นินจาคุโมะคนอื่นๆก็จ้องมองไปที่คุโรโตะและอิทาจิด้วยสายตาดูหมิ่นอย่างเห็นได้ชัด การกระทําแบบนี้เป็นธรรมชาติของนินจาคุโมะ
ตามความรู้สึกที่คลุมเครือของคุโรโตะที่มีต่อยูกิโตะ เธอเป็นคนหยิ่งผยองเกินไป เธอยืนยันที่จะเลือกต่อสู้กับฮิดัน และลงเอยด้วยการถูกจับตัวไป ไม่ใช่แค่เสียมาทาทามิไป แต่เธอยังเสียชีวิตอีกด้วย
ตอนนี้สีหน้าของชินโนดูไม่แน่ใจ
เขามีประสบการณ์มากมายในการเดินทางไปทั่วโลก ในสายตาของเขา ฮิวงะ คุโรโตะ และ อุจิฮะ อิทาจิ เป็นนินจาที่เก่งมาก แต่เมื่อเทียบกับพลังสถิตร่างของคุโมะแล้ว พวกเขาอ่อนแอกว่าอย่างเห็นได้ชัด
อิทาจิเป็นคนช่างคิด เมื่อเขาเห็นทีมไล่ล่าที่หมู่บ้านคุโมะส่งมา เขาก็เดาได้ทันทีว่า ชินโน นายจ้างของพวกเขาต้องซ่อนอะไรบางอย่างที่สําคัญมากไว้อย่างแน่นอน
เมื่อเห็น คุโรโตะและอิทาจิ ดูนิ่งไม่ไหวติง ยูกิโตะจึงพูดอีกครั้งว่า “ผู้ชายคนนี้ชื่อ ชินโน เขาได้ขโมยความลับสําคัญของเราไป เขาเป็นแค่หัวขโมย พวกแกคิดว่ามันคุ้มค่าไหมที่จะยอมสละชีวิตเพื่อคนไร้ค่าแบบนี้”
ชินโนปฏิเสธทันที “ฉันไม่เคยเข้าไปในหมู่บ้านของพวกเธอเลย ฉันจะไปขโมยความลับของพวกเธอได้อย่างไร? พวกเธอจะมาโยนความผิดให้ฉันไม่ได้!”
ยูกิโตะ ยิ้มเยาะ “ไม่ต้องมาเถียง ไม่ว่าแกจะพูดความจริงหรือไม่ก็ตาม เราจะได้รู้กันหลังจากที่เราสอบสวนแก!”
ตอนนี้คุโรโตะลังเลจริงๆ เขามาทําภารกิจก็เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง และถ้าเขาไม่ต่อสู้ก็เท่ากับว่าเขาทรยศนายจ้างของเขา แล้วแบบนี้เขาจะมีชื่อเสียงได้อย่างไร อีกอย่าง การละทิ้งภารกิจก็จะทําให้เขาถูกหมู่บ้านลงโทษอีกด้วย
แต่ พลังสถิตร่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ธรรมดา เมื่อพวกเขาเริ่มต่อสู้กัน ก็ยากที่จะควบคุม
ขณะที่คุโรโตะกําลังชั่งน้ําหนักถึงข้อดีข้อเสียอยู่นั้น ก็เกิดการระเบิดขึ้นในระยะไกลอย่างกะทันหัน
ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทั้งศัตรูและสายตาของพวกเขาก็ถูกดึงดูดไปที่ระยะไกล
เมื่อคุโรโตะมองไป ก็พบว่ามีคน 2 คนกําลังต่อสู้กันอยู่ และจําได้ว่าทั้ง 2 คนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอาจารย์ของเขา, โอโรจิมารุ และ จิไรยะ 2 ใน 3 นินจาแห่งโคโนฮะ
ในขณะนี้ จากหางตาของเขา เขาก็สังเกตเห็นว่ามีความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชินโน