กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 15
หลังจากพูดคุยเรื่องการจัดตั้งทีม คุโรโตะ ก็มองไปที่รายการภารกิจอีกครั้งและ อิทาจิ ก็ยืนอยู่ ๆ เฉยรอให้คุโรโตะ เลือกภารกิจอย่างเงียบ ๆ
เมื่อ คุโรโตะ เปิดไปหน้าที่ 2 จู่ ๆ เขาก็เจอชื่อหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขา
“ชินโน?! ทําไมคุ้นชื่อนี้จัง?” คุโรโตะดูคุ้นเคยกับชื่อนี้อย่างบอกไม่ถูกจากนั้นเขาก็อ่านข้อมูลของภารกิจนี้อย่างจิงจัง
มันเป็นภารกิจที่ง่ายมาก นั้นก็คือการพาแพทย์ชื่อ ชินโนไปยังแคว้นหนึ่งที่อยู่ติดอยู่กับ แคว้นแห่งไฟ
เมื่ออ่านรายละเอียดของภารกิจแล้ว คุโรโตะ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยเหตุผลบางอย่างทําให้เขารู้สึกคุ้นเคยกับบางสิ่งบางอย่างจากมัน
หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดเขาก็จําได้
ในความทรงจําที่คลุมเครือของ คุโรโตะ เขาจําได้ว่ามีคนจาก แคว้นเวหา คนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นแพทย์พเนจรจนมีชื่อเสียงในขณะเดียวกันก็รอโอกาสที่จะขโมยวิชาลับของหมู่บ้านต่างๆ และดูเหมือนว่าเขาจะมีชื่อว่า ชินโน ผู้ที่สร้างสัตว์หางที่ไม่มีหางที่ชื่อ เรบิ ขึ้นมาและทําให้โลกนินจาเกิดความปั่นป่วน
“เป็นเขาจริง ๆ เหรอ?”
คุโรโตะ ตัดสินใจอย่างลับ ๆ ว่าเขาจะทําภารกิจนี้ไม่ว่าเขาจะได้รับอนุญาตหรือไม่ก็ตาม
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการรับภารกิจ คุโรโตะ และ อิทาจิได้พบกับลูกค้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองไปที่ชายที่ชื่อ ชินโน ตรงหน้าอย่างใกล้ชิดคุโรโตะก็ได้คําตอบในที่สุด คนตรงหน้าของเขาไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือการแต่งกายก็ตรงกับ ชินโน ในความทรงจําของเขา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ชายคนนี้คือผู้ที่เหลือรอดชีวิตจากแคว้นเวหา และเป็นผู้ร้าง 0 หางในอนาคต
เมื่อรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายแล้ว คุโรโตะ จึงแนะนําตัวเองอย่างใจเย็น “ผมชื่อ ฮิวงะ คุโรโตะ ผมเป็น จูนิน จาก โคโนฮะและเป็นหัวหน้าทีมที่รับผิดชอบภารกิจนี้ ส่วนนี้คือ อุจิฮะ อิทาจิเป็นแกะนิน”
ชินโน ซึ่งเพิ่งอายุ 30 ต้น ๆ เขาสุภาพมากและโค้งคํานับ “รบกวนพวกเธอ 2 คนด้วยน่ะ”
“เราจะพยายามอย่างเต็มที่ครับ แต่ก่อนที่เราจะออกเดินทางผมจําเป็นต้องรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับภารกิจนี้ก่อน” หลังจากหยุดไปชั่วครู่ โรโตะ ก็ถามว่า “ทําไมท่านถึงให้ภารกิจนี้เป็นระดับ B ล่ะครับ? บอกผมหน่อยว่าศัตรูที่เราต้องเจอคือใคร?”
ชินโน รู้สึกอายและไอออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “อันที่จริงมันไม่มีศัตรูหรอก แค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อยนะ ตอนที่ฉันอยู่ใน หมู่บ้านคุโมะ ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่ามีการโจรกรรมเกิดขึ้นในหมู่บ้านของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงสงสัยในตัวฉันการขโมยนั้นเกี่ยวข้องกัน แต่พวกเธอก็เห็นว่าฉันเป็นแค่แพทย์ธรรมดาฉันจะไปทําเรื่องอะไรแบบนั้นได้ยังไง!”
“ฉันคงเป็นคนโง่ถ้าเชื่อคําพูดของแก!” คุโรโตะแอบหัวเราะในใจ เพราะเขารู้จักตัวตนที่แท้จริงของ ชินโนจากนั้นเขาก็คิดในใจ “ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะมีวิธีที่ดี ๆ ในการขโมยวิชาจากหมู่บ้านนินจาอื่น ๆ !”
แม้แต่สายลับระดับสูงของ โคโนฮะ ก็แทบจะไม่สามารถเจาะเข้าไปในสถานที่ผี ๆ อย่าง หมู่บ้านคุโมะ ได้และมันก็ยิ่งยากขึ้นไปอีกที่จะขโมยข้อมูล วิชานินจาวิชาต้องห้าม, ฯลฯของพวกเขาได้ และ ชินโน ที่ไร้ยางอายคนนี้สามารถขโมยบางสิ่งจากหมูบ้านคุโมะ ได้จริง ๆ และสิ่งที่น่ากึ่งยิ่งกว่านั้นคือเขาสามารถหนีออกมาได้หลังจากขโมยของออกมาแล้ว นี่เป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนอย่างแน่นอน
คุโรโตะ ตัดสินใจที่จะไม่กําจัดเขาและคิดว่าควรจับตาดูผู้ชายคนนี้ เพราะเขาอาจมีประโยชน์ในอนาคต
หลังจากเตรียมตัวเล็กน้อย ทั้ง 3 ก็ออกเดินทางไปยังแคว้นแห่งสายฟ้า
ทันทีที่เขาออกจากหมู่บ้าน คุโรโตะ ก็สังเกตเห็นความจริงจังของ อิทาจิไม่ว่าจะเป็นการเลือกเส้นทางหรือสถานที่ตั้งค่ายการเลือกของเขาก็เป็นการเลือกที่ดีที่สุดและไร้ที่ติเสมอ
บนท้องถนน อิทาจิ จะหลีกเลี่ยงเส้นทางที่เป็นอันตรายตามแผนที่ที่เขาพกติดตัวเอาไว้ เมื่อตั้งค่ายเขาก็จะบันทึกกําหนดการเดินทางของวันนั้นและเขียนประสบการณ์บางอย่างเป็นครั้งคราว
อาจกล่าวได้ว่าการมี อิทาจิ อยู่ ช่วยให้ คุโรโตะแก้ปัญหาได้ดีมากขึ้น
คุโรโตะ เองก็ไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน เขาใช้การตรวจจับที่ไม่มีใครเทียบได้ของ เนตรจุติ เพื่อสังเกต อิทาจา และ ชินโนตลอดเวลา ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางใบหน้า การหกหรือขยายตัวของกล้ามเนื้อ ทําให้เขาเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายได้อย่างคร่าว ๆ
อิทาจิ สังเกตเห็นสิ่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่เขาคิดว่าคุโรโตะกําลังตรวจสอบว่าเขาเป็นนินจาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่
ดังนั้นจึงไม่มีการต่อต้านอะไร
ชินโน เองก็เหมือนจะรู้ตัวเช่นกัน แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกปิดเอาไว้ เขาจึงพยายามกลบเกลื่อนโดยการหัวเราะ พูดสิ่งต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และเดินไปรอบ ๆ
หลังจากเดินทางและหยุดพักอยู่หลายสัปดาห์ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงชายแดนระหว่าง แคว้นแห่งไฟ กับ แคว้นแห่งสายฟ้า
เมื่อเห็นว่าเย็นมากแล้ว คุโรโตะ จึงพูดว่า “อิทาจิหาที่ตั้งค่ายคืนนี้เราจะพักกันแถวนี้ แล้วเราค่อยข้ามพรมแดนในวัน
พรุ่งนี้”
“ครับ!”
อิทาจิ ตอบอย่างแข็งขัน จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อมองหาสถานที่ตั้งค่ายที่เหมาะสม
ด้าน ชินโน ก็หัวเราะและพูดว่า “คุโรโตะคุงกับอิทาจิคุงเก่งมาสมกับเป็นนินจาโคโนฮะ จริง ๆ!”
คุโรโตะ โบกมืออย่างไม่ไยดีโดยไม่สนใจคําชมที่ผิดๆจากชินโน “โลกของนินจา พูดคุยกันด้วยกําลังเท่านั้นครับ”
ชินโน ยังคงยิ้มและพูดว่า “ฉันเคยเห็นนินจามากมายตอนที่เดินทางไปรอบ ๆ โลก แต่มีนินจาไม่มากที่เก่งเหมือนพวกเธออีกไม่นานชื่อของพวกเธอก็คงจะโด่งดังไปทั่วโลกนินจาแน่นอน”
เมื่อรู้ว่า ชินโน หมายถึงอะไร คุโรโตะ จึงไม่สนใจคําเยินยอและหันมาสนใจเรื่องทักษะทางการแพทย์ของเขา
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชินโน คนนี้ประสบความสําเร็จอย่างมากในด้านทักษะทางการแพทย์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการผ่าตัด,จับจุดจักระของมนุษย์ เภสัชวิทยาสมุนไพร , ฯลฯ ซึ่งเหนือกว่าแพทย์ทั่วไป
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาสามารถแสร้งทําเป็นหมอและเดินทางไปทั่วโลกได้ ไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะถูกจับในข้อหาเป็นสายลับไปนานแล้ว
หลังจากตั้งค่ายเสร็จแล้ว ทั้ง 3 คนก็คุยกันถึงเรื่องจุดจักระของมนุษย์ ขณะกินอาหารเย็น แน่นอนว่า ชินโน เป็นคนอธิบายส่วนคุโรโตะ กับ อิทาจิ ก็นั่งฟัง
จุดจักระของมนุษย์ ไม่ใช้เรื่องลึกลับสําหรับ คุโรโตะ เพราะเขาเกิดใน ตระกูลฮิวงะ เขาได้เรียนรู้การมองจุดจักระของมนุษย์เพื่อฝึกมวยอ่อนอยู่แล้ว แต่ความรู้ในเรื่องจุดจักระของมนุษย์ที่ ชินโน อธิบายมีไว้สําหรับสาขาการแพทย์ มันเป็นมุมมองที่ต่างออกไป และเมื่อฟังสิ่งที่ ชินโน อธิบายแล้วเขาก็ได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับจุดจักระของมนุษย์
อิทาจิ ก็ตั้งใจฟังอย่างจริงจังและภายในเวลาไม่นานเขาก็เขียนและวาดรูปหลายรูปลงในสมุดพกของเขา
จุดจักระไม่ใช่เรื่องที่คุ้นเคยของ ตระกูลอุจิฮะ ดังนั้นความรู้ที่ได้จาก ชินโน จึงล้ําค่ามากสําหรับ อิทาจิ
ชินโน อธิบายอย่างจริงจัง แน่นอนว่าเขามีจุดประสงค์ที่ทําแบบนี้
ในสายตาของเขาแล้ว คุโรโตะและอิทาจิเป็นนินจาจาก 2 ตระกูลใหญ่ของ โคโนฮะ มันคุ้มค่ามากที่จะสร้างมิตรภาพด้วย และเมื่อเขาตีสนิทได้แล้ว เขาก็จะสามารถทํางานในโคโนฮะได้ง่ายขึ้น
ทันใดนั้น คุโรโตะ ก็ถามขึ้นในขณะที่คุยกันว่า “ว่าแต่ว่าหมู่บ้านคุโมะ ถูกขโมยอะไรไปเหรอครับ? ทําไมเขาถึงสงสัยหมออย่างท่าน?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่เกี่ยวสักหน่อย!” ด้วยรอยยิ้มที่น่าอึดอัด ชินโน อธิบายเพิ่มว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะมีโรคระบาดที่หมู่บ้านใน แคว้นแห่งสายฟ้า ละก็ ฉันก็ไม่กลับมาที่นี่หรอกเพื่อนเก่าของฉันอุส่ามาหาฉันด้วยตัวเองเพื่อขอร้องให้ฉันไปช่วยจะไม่ให้ฉันไปช่วยได้ยังไง”
เมื่อรู้ว่าไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใด ๆ ออกมาจากปากของชินโน คุโรโตะ จึงพูดว่า “เอาล่ะ ผมว่าเราพักผ่อนกันดีกว่าพรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อิทาจิ จึงใช้เส้นลวดและกระดิ่งข็งไว้รอบค่าย จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ที่มีมุมมองที่ดีที่สุดในการพักผ่อน
เมื่อจ้องมองไปที่ อิทาจิ ผู้มีฝีมือในการวางกับดักคุโรโตะ ก็แอบถอนหายใจ “ตระกูลอุจิฮะ เก่งจริง ๆ อายุแค่นี้เองแต่สามารถวางกับดักที่ซับซ้อนขนาดนี้ได้แล้ว”