กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 1 : ห้องทดลองที่มืดมิด
ติ๋ง…
ติ๋ง…
ติ๋ง…
เสียงหยดน้ำดังก้องอยู่ในทางเดินที่มืดมนทำให้ คุโรโตะ กระชับเสื้อคลุมที่ใส่อยู่โดยไม่รู้ตัว
เขาเกลียดบรรยากาศแบบนี้มาก ทางเดินมืดที่อยู่ตรงหน้าเขาดูเหมือนจะเป็นทางนำไปสู่นรก ทำให้เขารู้สึกกลัวอยู่เสมอเมื่อต้องมาที่นี่ แต่งูตาเดียวบนไหล่ของเขาก็ทำให้เขาปัดความคิดเหล่านั้นออกไป
โดยไม่รู้ตัว เขาก็เดินมาจนถึงสุดทาง!
ที่สุดปลายทางเดิน คุโรโตะ ก็เปิดประตูออก ด้านหลังประตูคือห้องทดลองที่มีอุปกรณ์ครบครัน และเขาก็มองเห็นร่างร่างหนึ่งยืนอยู่ด้านใน
ร่างนั้นหันกลับมา “คุโรโตะคุง สินะ”
เมื่อได้ยินเสียงที่แหบนี้ หัวใจของ คุโรโตะ ก็สั่นสะท้านและก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว
“อาจารย์โอโรจิมารุ!”
โอโรจิมารุ มองไปที่ คุโรโตะ ด้วยสายตาที่ครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็พูดว่า
“ในอนาคต ห้องทดลองนี้จะเป็นของเธอ”
เมื่อรู้สึกถึงแววตาที่จริงจังของ โอโรจิมารุ คุโรโตะ จึงไม่กล้าพูดอะไรมากเกินความจำเป็น เขารีบโค้งคำนับและตอบกลับไปว่า “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะพยายามให้มากขึ้นแน่นอนครับ!”
โอโรจิมารุ มองไปรอบ ๆ ห้องทดลองสักพัก จากนั้นความเศร้าโศกก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
“ฉันอาจจะถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านในเร็ว ๆ นี้ ต่อไปเธอต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง!”
“ครับ!”
คุโรโตะ พยักหน้าและตอบตกลงโดยไม่ลังเล ในขณะที่งูตาเดียวที่ยืนอยู่บนไหล่ของเขากำลังตวัดลิ้นของมันอย่างเกียจคร้าน
ในที่สุด โอโรจิมารุ ก็หันกลับมามอง คุโรโตะ เป็นครั้งสุดท้ายโดยไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม จากนั้นควันสีขาวก็ปรากฏขึ้นก่อนที่ โอโรจิมารุ จะหายไป
เมื่อ โอโรจิมารุ จากไป จักระขนาดใหญ่และมืดมนที่อยู่ในห้องทดลองเมื่อสักครู่นี้ก็ค่อย ๆ จางหายไป
“เฮ้อ…”
คุโรโตะ ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อไม่นานมานี้ แรงดันจักระของ โอโรจิมารุ เริ่มเย็นลงทุกวัน ๆ และดูเหมือนว่ามันจะมีกลิ่นเหมือนเลือดมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่า คุโรโตะ จะรายงานความคืบหน้าของการทดลองจากระยะไกล แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
โชคดีที่วันที่ยากลำบากนี้ดูเหมือนจะจบลงแล้ว
แต่พอคิดแบบนั้น คุโรโตะ ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
ตามความทรงจำที่คลุมเครือจากชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา ดูเหมือนว่า โอโรจิมารุ จะออกจาก โคโนฮะ หลังจากการตายของ โฮคาเงะรุ่น 4 ถ้า คุโรโตะ จำไม่ผิดน่าจะเป็นเพราะ ความขัดแย้งระหว่าง โอโรจิมารุ กับ ดันโซ ทำให้ข้อมูลการทดลองกับมนุษย์ในหมู่บ้านรั่วไหลซึ่งนำไปสู่การสอบสวนภายใต้คำสั่งของ โฮคาเงะรุ่น 3 จนทำให้เกิดเรื่องในตอนนี้ขึ้น
แต่ท่าทีและการกระทำของ โอโรจิมารุ ในตอนนี้ดูเหมือนกับว่าเขาได้เตรียมแผนรับมือกับเหตุการณ์นี้เอาไว้แล้ว
“ความผิดอะไรที่ทำให้ โอโรจิมารุ ต้องเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ? เกี่ยวกับเราหรือเปล่านะ?”
หลังจากครุ่นคิดเรื่องราวในอดีตแล้ว คุโรโตะ ก็ยังไม่สามารถคิดหาเหตุผลของการกระทำของ โอโรจิมารุ ได้ แต่การที่ โอโรจิมารุ ยอมแพ้ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขา และไม่ว่า โอโรจิมารุ จะทำผิดร้ายแรงอะไร ในขณะนี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้แล้ว
ความรู้สึกของ คุโรโตะ ที่มีต่อ โอโรจิมารุ นั้นซับซ้อนมากอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจาก โอโรจิมารุ คุโรโตะ รู้ดีว่าเขาคงไม่มีทางรอดจาก มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 ได้อย่างแน่นอน เพราะนักเรียน 7 ใน 10 คนได้เสียชีวิตในสงครามครั้งนั้น
แม้แต่อัจฉริยะอย่าง คาคาชิ ก็เกือบจะเสียท่าไปในสนามรบและเมื่อเทียบกับนักเรียนรุ่นเดียวกันจากโรงเรียนนินจาแล้ว ความสามารถของ คุโรโตะ เทียบไม่ได้กับ คาคาชิ เลยด้วยซ้ำ
การใช้ชีวิตในโลกของนารูโตะ ในฐานะผู้อ่อนแอที่น่าสมเพช ถือเป็นบาปที่ใหญ่ที่สุด!
เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่เขาย้ายมาที่นี่ แต่จนถึงทุกวันนี้ คุโรโตะ ก็ยังคงพบว่ามันยากที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลกนินจาที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ได้ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาคิดที่จะอยู่ภายใต้การดูแลของ โอโรจิมารุ เพราะเมื่อพูดถึงความสามารถในการต่อสู้ เห็นได้ชัดว่าเขาด้อยกว่าคนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ความเป็นและความตาย ปฏิกิริยาของเขาจะช้ากว่าคนอื่นเสมอ
บางครั้งเขาก็ชื่นชมนินจาในโลกนี้จริง ๆ ที่พวกเขาบางคนมีความสามารถในการต่อสู้ตั้งแต่อายุ 5 – 7 ขวบและเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาต้องได้เข้าสนามรบเมื่ออายุได้ 12 ปี นอกจากนั้นก็ยังมีอัจฉริยะอย่าง คาคาชิ และ อิทาจิ ที่ฆ่าศัตรูมาแล้วนับไม่ถ้วนก่อนที่จะอายุถึง 12 ปี
คุโรโตะ ไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้ โชคดีที่เขาเกิดใน ตระกูลฮิวงะ ที่มี เนตรสีขาว ด้วยความสามารถของมันทำให้เขาสามารถตรวจจับถึงอันตรายและอยู่รอดในสนามรบได้หลายครั้ง
แต่ความโชคดีจะไม่คงอยู่เสมอไป เมื่อได้เห็นนักเรียนรุ่นเดียวกันตายไปทีละคน คุโรโตะ จึงคิดจะอยู่ใต้ความช่วยเหลือของ โอโรจิมารุ ตลอดไป
ถ้าคุณต้องเอาตัวรอดก่อน การมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด!
นอกเหนือจากความได้เปรียบของการมี เนตรสีขาว แล้ว คุโรโตะ ก็มีข้อได้เปรียบเหนือคนอื่น ๆ อยู่อีกนิดหน่อย
ด้วยการศึกษาที่ดีในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา ทำให้ความสามารถในการเข้าใจของเขานั้นเหนือกว่านินจาในวัยเดียวกัน ทำให้เขาได้รับความชื่นชอบจาก โอโรจิมารุ และได้เข้ามาอยู่ในห้องทดลองของ โอโรจิมารุ ได้อย่างรวดเร็ว เขาได้เรียนรู้เทคโนโลยีทางพันธุกรรมมากมายภายใต้การควบคุมของ โอโรจิมารุ
อาจเป็นเพราะได้พบเห็นผู้เสียชีวิตมากมายในช่วง มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 โอโรจิมารุ ก็หมกมุ่นอยู่กับความลึกลับของชีวิต
คำอธิบายที่ชัดเจนที่สุดคือ โอโรจิมารุ ไม่สนใจ โฮคาเงะรุ่น 3 อีกต่อไป เขาไม่ยึดติดศีลธรรมอีกต่อไปและเริ่มทำการทดลองกับมนุษย์ที่โหดร้ายและกระหายเลือดมากขึ้น
นอกจากนี้ โอโรจิมารุ ยังมีความสนใจมากขึ้นใน คาถาไม้ , เนตรสีขาว และ เนตรวงแหวน อีกด้วย
การที่มี คุโรโตะ อยู่ด้วยทำให้ โอโรจิมารุ สามารถศึกษาความลับของ เนตรสีขาว ได้ง่ายขึ้นดังนั้น โอโรจิมารุ จึงยังคงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชี้นำ คุโรโตะ
ทั้ง 2 คนถึงเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว
คุโรโตะ รู้ดีว่าเขาจะอยู่ในความสนใจของ โอโรจิมารุ เพียงชั่วครู่เท่านั้นเพราะไม่นาน โอโรจิมารุ ก็จะให้ความสนใจกับ คาถาสัมภเวสีคืนชีพ และ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลัง แทน นอกจากนี้ที่เขาสามารถอยู่กับ โอโรจิมารุ อย่างไร้กังกลก็เพราะเขามี ผนึกปักษาในกรง เพื่อป้องกันตัว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลว่า โอโรจิมารุ จะทำการทดสอบกับเขา
ใช่แล้ว ผนึกปักษาในกรง เป็นสิ่งที่คุ้มครอง คุโรโตะ ในตอนนี้
หรือจะพูดให้ละเอียดกว่านั้นก็คือ สำหรับ ตระกูลฮิวงะตระกูลสาขา ผนึกปักษาในกรง ไม่เพียงแต่เป็นที่กักขังเท่านั้น แต่มันยังเป็นเครื่องป้องกันชนิดหนึ่งอีกด้วย เนื่องจากการมีอยู่ของมัน ตระกูลฮิวงะ จึงสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาร้ายแรงได้มากมายและไม่มีใครปรารถนาที่จะอยากได้ เนตรสีขาว มากเท่ากับ เนตรวงแหวน
สำหรับอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกพึ่งพิง โอโรจิมารุ นั่นก็คือ เนตรจุติ นั่นเอง!
ด้วยความสามารถที่ไม่ได้โดดเด่นของเขา นอกเหนือจาก เนตรจุติ แล้วเขาก็ไม่สามารถคิดวิธีอื่นใดที่จะพลิกผันและเปลี่ยนชะตากรรมของเขามาอยู่ในมือของเขาเองได้
สำหรับวิชาเซียน แม้แต่อัจฉริยะเพียงคนเดียวในรอบทศวรรษอย่าง โอโรจิมารุ ก็ยังมีปัญหาในการควบคุมมันได้ แล้วจะนับประสาอะไรกับเขา จะนับประสาอะไรกับคนที่ไม่มีความสามารถอย่างเขา เพราะตามความทรงจำในชาติที่แล้วแม้แต่อัจฉริยะอย่าง เนจิ ก็จะตายเพราะต้องปกป้อง ฮินาตะ ที่เป็นคนของตระกูลหลัก
แม้ว่าเนตรสีขาว จะทำให้ ตระกูลฮิวงะ มีข้อได้เปรียบในระดับ แกะนิน , จูนิน และ โจนิน แต่เมื่อเทียบกับพลังในระดับ คาเงะ หรือแม้แต่ สุดยอดคาเงะ แล้ว เนตรสีขาว จะไม่ใช่ข้อได้เปรียบอีกต่อไป
สำหรับ ตระกูลฮิวงะ ที่เชี่ยวชาญในการใช้กระบวนท่ามวยอ่อน มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะต่อต้านพลังของ ซูซาโนะโอะ ของ ตระกูลอุจิฮะ หรืแความแข็งแกร่งของพลังสถิตร่าง หรือวิชาเซียน และอื่น ๆ ได้
ฮิวงะ ไร้พลังจริง ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูในระดับเหล่านี้ ดังนั้น เนตรจุติ จึงเป็นความหวังเดียวของ ตระกูลฮิวงะ ที่จะสามารถอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ของในระดับนั้นได้
นี่เป็นสิ่งที่ คุโรโตะ ไม่เคยลืมตั้งแต่เริ่มต้นเลือกเส้นทางนี้
แต่การเปลี่ยน เนตรสีขาว ให้เป็น เนตรจุติ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ในแง่ของการสืบทอดสายเลือด ฮิวงะ คุโรโตะ แทบจะไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เลย ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ทั้งหมู่บ้านก็มีเพียง โอโรจิมารุ นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่งเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้