กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess - ตอนที่ 79 คําพูดบิดเบือน
นิยาย กําเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess
ตอนที่ 79 คําพูดบิดเบือน
สามวันต่อมา
หลินเสียวเฟยกําลังเดินอยู่บนถนนสายกลางและระหว่างเดินทางไปที่หงเปียโหลว
เมื่อไปถึงโรงเตี้ยม เธอเห็นว่ามีผู้คนมากมายเข้ามานั่งกินอาหาร
เธอสวมชุดคลุมสีอ่อนกว่าปกติและสวมผ้าคลุมหน้า ใบหน้าครึ่งล่างของเธอถูกปก คลุมไปด้วยผ้าคลุมบางๆและมองเห็นเพียงดวงตาและหน้าผากของเธอเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเช่นนั้น ผู้คนในโรงเตี้ยมก็ต่างหันมองมาทางเธอ เมื่อพวกเขาได้มองมาที่เธอพวกเขาสัมผัสได้ถึงความมีเสน่ห์จากดวงตาของเธอและสามารถเห็นได้ว่าเธอไม่ใช่สาวงามธรรมดา
ทันทีที่หลินเสี่ยวเฟยเดินไปกลางโรงเตี้ยม เสียวเอ๋อที่คอยมาบริการเธอตลอด สองวันที่ผ่านมาจึงรีบเดินไปต้อนรับเธอในทันที
“คุณหนู ท่านมาอีกแล้ว” เสี่ยวเอ้อยิ้มให้เธออย่างสุภาพและก้มศีรษะลงเล็กน้อย
หลินเสี่ยวเฟยเหลือบมองเขาและกล่าวถามว่า “นายท่านของเจ้าอยู่หรือไม่?”
เมื่อสองวันก่อน ทันทีที่หลินเซียวเหมิงจากไป หลินเสี่ยวเฟยก็พยายามที่จะไปพบกับฉู่เซียวซู
แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อถึงเวลาที่เธอมองหาเขา เธอกลับไม่พบชายผู้นี้และเสี่ยวเอ๋อใน หงเปยโหลวทําได้เพียงแค่บอกเธอว่า เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ในขณะนี้
เธอพยายามจะมาในวันรุ่งขึ้น แต่ก็ยังคงไม่ได้พบกับฉู่เซียวซู และเธอคงต้องกลับไปรอเขาอีกครั้งที่คฤหาสน์หลิน
เสี่ยวเอ๋อตอบคําถามของเธอด้วยการส่ายหัว ก่อนกล่าวขึ้นว่า
“น่าเสียดายที่นายท่านไม่ได้มาที่หงเปียโหลวในวันนี้ และดูเหมือนว่าเขาจะติดภารกิจอื่นที่จะต้องทํา”
เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ และกล่าวต่อ “ไม่ต้องกังวลคุณหนู ข้าจะบอกให้เขารู้ว่า คุณหนูมาหาเขาเป็นการส่วนตัว”
หลินเสียวเฟยขมวดคิ้ว เธอไม่ชอบรอและความอดทนของเธอก็ลดลง ด้วยความเร่งด่วนในเรื่องของเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดินี้พยายามจับเธอคลุมถุงชนเพื่อแต่งงานกับบุตรชายของเขา หลินเสี่ยวเฟยคงจะไม่มาหาฉู่เซียวซูเร็วขนาดนี้ หลังจากที่พวกเขาสนทนากyนในห้องของหลินเสี่ยวเฟย
เพียงแต่เธอต้องรีบเลือกชายที่มีสิทธิ์ที่จะแต่งงานกับเธอโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จักรพรรดินีจะผ่านพระราชกฤษฎีกาเพื่อผนึกชะตากรรมของเธอได้
อย่างไรก็ตาม ฉู่เซียวซูกลับไม่อยู่ในช่วงเวลาที่เธอต้องการเจอเขา
หลินเสียวเฟยถอนหายใจ และตัดสินใจที่จะรอเขาในวันต่อไป ถ้าหากวันพรุ่งนี้เธอไม่ได้พบกับฉู่เซียวซูและเห็นรายชื่อชายผู้ที่มีระดับสูงที่เขาระบุไว้ให้เธอเลือก เธอก็จะต้องตกลงแต่งงานกับคนที่หลินเซียวเหมิงเลือกให้
เมื่อสังเกตเห็นว่าหลินเสี่ยวเฟยเต็มใจที่จะกลับไปรอที่คฤหาสน์ของเธอ และไม่ได้ถามค่าถามเพิ่มเติม เสี่ยวเอ๋อจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาไม่รู้วเพราะสาเหตุใด ทําไมเจ้านายของเขาถึงหลีกเลี่ยงหญิงสาวที่เขาชอบ และปล่อยให้เธอรอเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน
หากหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ารู้ว่าเจ้านายของเขาอยู่ในที่พักชั้นบนของหงเป่ยโหลว และเพียงแค่ต้องการเฝ้าดูเธอ เธออาจจะโมโหและฆ่าเขาได้
เพียงชําเลืองมองก็เห็นว่าหญิงสาวที่มาพบกับเจ้านายของเขา เธอต้องการมาเพื่อ หารือเรื่องสําคัญและปรารถนาที่จะพบกับเจ้านายของเขา
น่าเสียดาย แม้ว่าเสี่ยวเอ้อจะเอ่ยปากถามเธอไปแล้วสองสามครั้งว่าเธอมีเรื่องสําคัญอะไรที่จะพูดกับเจ้านายของเขา หลินเสี่ยวเฟยก็นิ่งเงียบและไม่เปิดเผยให้เขาทราบ
เมื่อลองเสี่ยงโชค เสี่ยวเอ๋อจึงตัดสินใจถามเธออีกครั้งว่า “คุณหนู ข้าไม่ได้อยาก ละลาบละล้วงที่จะถามท่านว่าทําไมท่านจึงรีบมาพบนายท่านของข้า แต่ข้าต้องการ ช่วยท่านและพาไปยังที่พักของนายท่านเป็นการส่วนตัว เพื่อบอกกับเขาว่าท่านต้องการคุยเรื่องอะไร”
ไม่เหมือนครั้งที่แล้วที่เขาถามเธอด้วยความสงสัย น้ําเสียงของเสี่ยวเอ้อดูสิ้นหวัง ในขณะที่เขาต้องการจบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดเพื่อที่เขาจะได้กลับไปทํางานของเขาและ ไม่ให้เจ้านายของเขาทําให้หญิงสาวสวยผู้นี้รอเขาอีกต่อไป
หลินเสี่ยวเฟยเหลือบมองเสี่ยวเอ้อ และในที่สุดเธอก็เปิดปากบอกเขาหลังจากครุ่นคิด ดูเหมือนว่าเธอจะรอไม่ไหวแล้วที่จะพูดเรื่องนี้กับเขาเป็นการส่วนตัว
“บอกเขาว่าในวันพรุ่งนี้ข้าต้องการรายชื่อ จักรพรรดินี่ต้องการให้ข้าแต่งงานกับบุตรชายของเขา”
ชั้นบนของหงเป่ยโหลว ฉู่เซียวซูมีปิ่นปักผมอยู่ในมือ จะเห็นได้ว่าปิ่นปักผมนั้นทํามาจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง
ไม่จําเป็นต้องเดาว่ามากน้อยแค่ไหน แค่ได้เห็นเพชรสีน้ําเงินซีดขนาดใหญ่ที่ส่องแสงประกายดูสวยงามและมีราคาแพง
ฉู่เซียวซูได้ยินเสียงเคาะประตู และเสี่ยวเอ๋อก็เดินเข้ามา
“นายท่าน..” เสี่ยวเอ้อก้มศีรษะลงและใบหน้าของเขาไร้อารมณ์ขณะที่จ้องมอง ไปที่เจ้านายของเขา
“เธอไปแล้วหรือ?” ฉู่เซียวซูกล่าวถามเขาในขณะที่เขายังคงเล่นปิ่นปักผมในมือ
“ใช่ครับ เธอออกไปแล้ว” เสียวเอ้อกล่าวตอบ และลังเลที่จะบอกกับเจ้านายของเขาว่าหญิงสาวพูดอะไรกับเขาก่อนที่จะจากไป
เมื่อสังเกตเห็นความไม่สบายใจของเขา ฉู่เซียวซูก็เหลือบไปมองยังทิศทางของ เขา และกล่าวว่า “บอกข้ามา”
“หญิงสาวได้พูดอะไรบางอย่างก่อนที่เธอจะจากไป” เขาตอบโดยไม่เปิดเผยทุกอย่างต่อเจ้านายของเขาและรอให้ฉู่เซียวซูไปดําเนินการต่อ
ฉู่เซียวซ่ขมวดคิ้ว “นางโกรธและสาปแช่งข้าหรือ?” รอยยิ้มขี้เล่นอยู่บนริมฝีปากของเขา
เสี่ยวเอ๋อตกใจที่นายท่านของเขากาลังคิดแบบเดียวกับที่เขาคิด
ด้วยอารมณ์ของหลินเสี่ยวเฟย มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะสาปแช่งในใจกับการไม่ปรากฏตัวของเขา เมื่อเธอต้องการพบเจอเขา
ฉู่เซียวซู จ้องมองไปที่เขาในขณะที่รอให้เขาพูด เขาเห็นได้ว่าสีหน้าของเสี่ยวเอ้อกําลังลังเลเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขาได้ยินสิ่งที่ฉู่เซียวซูพูด
“จักรพรรดินีทรงพระราชทานพระราชกฤษฎีกาให้คุณหนูอภิเษกสมรสกับองค์ชาย จึง”
หลินเสี่ยวเฟยกําลังเดินอยู่บนถนนสายกลางและระหว่างเดินทางไปที่หงเป่ยโหลว
เมื่อไปถึงโรงเตี้ยม เธอเห็นว่ามีผู้คนมากมายเข้ามานั่งกินอาหาร
เธอสวมชุดคลุมสีอ่อนกว่าปกติและสวมผ้าคลุมหน้า ใบหน้าครึ่งล่างของเธอถูกปก