นิยาย กําเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess
ตอนที่ 76 คู่รักสามัคคี
ฉ่เซียวซูเห็นเธอเดินไปที่หลังฉากพับ “ท่านทําอะไรอยู่?” เขาถามด้วยความอยากรู้ แต่คําถามของเขากับทําให้หลินเสี่ยวเฟยขมวดคิ้ว
ด้วยมือของเธอที่กําลังถือเสื้อผ้า เธอ จึงกล่าวขึ้นว่า “ข้ากําลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”เธอพบว่าคําถามของเขางี่เง่า เพราะเขาเห็นเธอสวมแต่เสื้อผ้าชั้นในและเป็นเรื่องปกติที่เธอจะสวมเสื้อคลุมชั้นกลางและชั้นนอก
ฉ่เซียวซูตกใจกับความซื่อตรงของเธอ เขาไม่รู้ว่าเธอพยายามจะล่อลวงเขาอย่างโจ่งแจ้งหรือเธอลืมการกระทําของเธอที่อาจทําลายชื่อเสียงของเธอได้
ไม่ควรให้ชายหญิงโสดอยู่ในอยู่ห้อง เดียวกันตามลําพัง เว้นแต่จะมีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดถ้าผู้คนข้างนอกรู้ว่ามีชายหนุ่มที่อยู่ในห้องของเธอไม่เพียงแต่เธอจะถูกพูดถึงในตลาดเท่านั้นเธอยังจะต้องแต่งงานกับชายที่อยู่กับเธอด้วย
เมื่อหรี่ตาลงก็มีความคิดแวบมาในหัว ของเขา เขาคิดว่าหากเธอทําเช่นนี้เมื่อ อยู่ร่วมกับชายคนอื่นๆ
จะทําให้เขาอารมณ์เสียมากขึ้น
อย่างไรก็ตามวิธีที่พวกเขาแสดงอยู่นี้ มันมีท่าทางกลมกลืนกันราวกับเป็นคู่สามีภรรยากัน
ดูเหมือนว่าเขาต้องทําอะไรบางอย่าง ในอนาคต เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นด้านนี้ของเธอ
ในทางกลับกันหลินเสี่ยวเฟยยังคงเปลี่ ยนเสื้อผ้าตรงฉากพับด้านหลังเธอ เธอไม่รู้ว่าเขากําลังคิดอะไรและไม่ได้พบว่าการกระทําของเธอนั่นแปลก
เมื่อตอนที่เธอแต่งงานกับหยูเฟิงซูในช่วงเวลาที่สามีและภรรยาควรมีเวลาร่วมกันเธอได้เรียนรู้ทุกอย่างแต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เธอต้องการรู้
ท้ายที่สุด ลานภายในของหยูเฟิงซูมี ความสวยงามหลากหลายที่เขาต้องดูแลเพื่อปลูกและใช้เป็นของตกแต่ง
และด้วยเหตุนี้ เมื่อหลินเสี่ยวเฟยแต่ งงานกับเขา เธอจึงนับได้เพียงไม่กี่ครั้งที่เธอได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับเขา
นอกจากนี้ หยูเฟิงซูไม่ได้แต่งงานเพื่อ อยู่กับเธอในฐานะสามีภรรยาแต่ที่เขาแต่งงานกับเธอเพราะเขาต้องการอวดความจริงที่ว่าเขามีความงามของอาณาจักรในฐานะหญิงสาวคนหนึ่งของเขา และความเฉลียวฉลาดของเธอเขารู้สึกราวกับว่าเขาได้ของรางวัลชิ้นใหญ่
ขณะที่เธอกําลังจะติดกระดุมชุดสุด ท้าย เธอได้ยินเสียงของไปสู่ดังมาจากข้างนอก“คุณหนูท่านผู้อาวุโสมาถึงที่พักแล้ว”
หลินเสี่ยวเฟยเหลือบมองไปที่ประตู ก่อนที่เธอจะจ้องมองไปที่ร่างของนูเซียวซูซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้และถือถ้วยชา อยู่ในมือ เขาทําตัวตามสบายราวกับอยู่ในห้องของตัวเอง
“ท่านกลับไปได้แล้วและรายงานข้าด้วยหากท่านจะมาข้าหาในภายหน้าหลินเสี่ยวเฟยกล่าวสั่งเขานับตั้งแต่ที่เธอกลายเป็นหลินเสี่ยวเฟยเธอได้ระมัดระวังตัวอย่างมากในการดําเนินชีวิตภายใน ที่พักของตระกูลหลินเธอต้องแน่ใจว่าจะไม่มีใครมาที่ลานบ้านของเธออีกโดยที่เธอไม่รู้
เมื่อไปสู่จากไปเธอเอียงศีรษะด้วยความสับสนเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่เธอไม่สามารถเอานิ้วไปชี้สิ่งที่ผิดปกติได้
เธอมองย้อนกลับไปที่ลานบ้านของ คุณหนูของเธอและโยนความไม่สบายใจออกไป เมื่อคุณหนูของเธอกลายเป็นใบไม่ใหม่เธอมั่นใจว่าสิ่งชั่วร้ายใดๆ ที่เข้ามาหาเธอ เธอจะสามารถปัดเป่าพวกเขาออกไปได้
น่าเสียดายที่ความชั่วร้าย ที่เธอมั่นใจว่าคุณหนูของเธอจะป้องกันได้ กําลังนั่งดื่มชาอย่างสบายใจอยู่ในห้องคุณหนูของเธอ
ดวงตาของเขาจับจ้องมาที่เธอตลอดเวลาเฝ้าดูเธอออกจากฉากพับกั้นห้องและดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความสุขเมื่อเห็นเธอสวมชุดคลุมด้านนอกสีเข้ม
ฉ่เซียวซูเลิกคิ้ว และกล่าวถามเธอ”ท่านคิดว่าตระกูลหลินของท่านเป็นศัตรูของท่านด้วยหรือไม่”
เขาสังเกตเห็นว่าสาวใช้ที่มาแจ้งเธอเกี่ยวกับการมาของหลินเซียวเหมิงทําให้เธอมีท่าทางที่กังวลใจดังนั้นเขาจึงคิดว่าเธอกําลังปกป้องตัวเองไม่เฉพาะกับราชวงศ์เท่านั้น แต่ยังปกป้องตัวเองจากตระกูลหลินอีกด้วย
หลินเสี่ยวเฟยจ้องมองเขา “ท่านมาที่นี่เพื่อนินทาเรื่องตระกูลของข้าเหมือนกับหญิงสาวที่มีนิสัยขี้นินทาหรือใช่หรือไม่”เธอกล่าวถามเขาด้วยสีหน้าที่ เคร่งขรึม
“ถ้าใช่ ประตูอยู่ทางนั้น” เธอชี้ไปที่ป ระตูด้วยคางของเธอ
ฉ่เซียวซู โน้มตัวไปข้างหน้าโดยไม่เกรงกลัวเธอแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขากับพบว่าดวงตาของเธอสวยมากเมื่อเธอจ้องมาที่เขา
ฉ่เซียวซูหัวเราะ และตัดสินใจบอ กกับเธอว่าเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลเธอ
เพราะมิฉะนั้น เธออาจตีตัวออกห่าง จากเขาและระวังตัวจากเขามากขึ้น
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พยายามสอบสวน เพิ่มเติม หลินเสี่ยวเฟยจึงเปลี่ยนหัวข้อและถามเขาเกี่ยวกับการมาที่นี่..เพื่อ“ท่านถามว่าข้าจะทําอะไรหลังจากเมื่อวานคําตอบของข้าคือไม่มีอะไรข้าจะไม่ทําสิ่งใดเลย”
ฉ่เซียวซูแปลกใจกับคําตอบของเธอ เขาคิดว่าคําตอบของเธอดูน่าสนใจเขาคาดหวังให้เธอพูดว่าเธอจะวางแผนที่จะฆ่าสมาชิกของราชวงศ์หรืออะไรที่เลวร้ายกว่านี้แต่เธอกลับบอกว่าเธอจะไม่ทํา สิ่งใดเลย
“แล้วเหตุใด ท่านถึงจะไม่ทําสิ่งใดเลย”เขากล่าวถามเธอเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปหยิบของจากโต๊ะเครื่องแป้งของเธอเขาคาดว่าเธอคงอยากหยิบเหล็กร้อนมาทําร้ายเขา
หลินเสี่ยวเฟยเฝ้าดูเขาอย่างเงียบๆ
ถูกต้อง ถ้าเธอยังเป็นหญิงสาวที่หลง รักและแต่งงานกับหยูเฟิงซูอยู่เธอคงคิดว่าเธอจําเป็นที่จะต้องคว้าโอกาสนี้เพื่อทําร้ายหยูเฟิงซู
อย่างไรก็ตาม หากเธอทําตามแผนกา รของเธอโดยไม่คิดและตีจริงเขาจริงๆ ในขณะที่เหล็กยังร้อนอยู่มันก็มีโอกาสที่เธอจะทําผิดพลาดมากขึ้น
“อาณาจักรนู” เธอพูดถึงอาณาจัก รข้างๆอาณาจักรเซิง แต่ดวงตาของนูเซียวซูลึกซึ้งและเธอสามารถมองจากแววตาของเขาที่ดูเป็นประกายด้วยความคาดหมายว่าเขาจะเข้าใจเจตนาของเธอ
“นั่นเป็นสาเหตุว่าทําไมท่านถึงต้อ งการระเบิดและทําลายถ่ำ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักร”จู่เซียวซูยิ้ม
เมื่ออาณาจักรนูรู้เรื่องถ่ำแล้ว และพวก เขาจะถามหาคําตอบจากอาณาจักรเซิง การซ่อนการมีอยู่ของถ่ำจากผู้ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ในขณะที่ได้ทรัพยากรธรรมชาติจํานวนมากมาจากถ่ำนั้นก็เหมือน กับการขโมยเงินจากพันธมิตรที่เขาและเพื่อนของเขาพยายามสร้างขึ้น
อาณาจักรคู่มักจะส่งทูตไปตรวจสอบเรื่องนี้และเรียกร้องค่าตอบแทนจากอาณาจักรเซิงหากพวกเขาพิสูจน์ได้ว่าอาณาจักรเซิงซ่อนความจริงจากพวกเขา
แน่นอนว่าจักรพรรดิหยุนเป็นคนเจ้า เล่ห์และพยายามปกปิด เขาพยายามจ้างคนบางคนให้ฆ่ากลุ่มโจรเพื่อที่เขาจะได้โยนความผิดมาที่หัวพวกเขาและเอาใจความโกรธของอาณาจักรขู่
อย่างไรก็ตาม หลินเสี่ยวเฟยปล่อยให้ เขาทําอย่างนั้นได้อย่างไร? ความสัมพันธ์ที่แตกสลายระหว่างสองจักรวรรดิไม่ใช่สิ่งเดียวที่เธอวางแผนจะบรรล
ด้วยหวีในมือของเขา ฉ่เซียวซูยืนอยู่ ข้างหลังหลินเสี่ยวเฟย หวีเป็นสิ่งที่เขาหยิบขึ้นมาจากโต๊ะเครื่องแป้ง
ด้วยมือของเขาที่ยกขึ้นราวกับว่าเขา กําลังจะหวีผมของเธอ หลินเสี่ยวเฟยหันไปหาเขาและจ้องมาที่เขาราวกับว่าเขาเป็นแมลงบางชนิด
เขาพูดพลางถอนหายใจ “หันหลังสิ ข้าจะมัดผมให้
“ท่านรู้วิธีหรือไม่” หลินเสี่ยวเฟยพบว่า มันแปลกสําหรับเขา ที่จะรู้วิธีการมัดผมของผู้หญิง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง เขากําลังถูก เปียที่ผมของเธอก่อนหน้านี้ และจากความรู้สึกของเธอ เธอก็รู้ว่าเขาทําได้ดีเลยทีเดียว
“ท่านไปเรียนการมัดผมของผู้หญิงมา จากที่ไหนกัน” เธอกล่าวถามเขาและรู้สึกว่ามือของเขากําลังหวีผมของเธอมือของเขาหยุดชั่วคราวเมื่อเธอถามสิ่งนี้และเธอก็เงยหน้าขึ้นมองเขา
เธอเห็นรอยยิ้มของเขาอย่างเด่นชัด ขึ้น แต่ความเยือกเย็นของมันทําให้เธอคิดว่ามันไม่ดีที่จะพูดถึง
เธอกําลังจะพูดว่าไม่เป็นไรและเปลี่ยน เรื่อง แต่เธอก็ได้ยินเขากล่าวขึ้นในทันที
“แม่ข้าเคยสอน ว่าควรทําอย่างไร” เป็นคําตอบที่สั้นและเรียบง่ายของเขาแต่น้ําเสียงของเขาบอกกับเธอว่าเขาไม่ อยากพูดอะไรเพิ่มเติมอีก
เธอคิดว่าเขาจะหยุดการกระทําของ เขาหลังจากที่พูดเช่นนั้นและดูเหมือนว่ามันจะนําความทรงจําอันไม่พึงประสงค์ในตัวเขาออกมา แต่ใครจะรู้ว่าฉ่าเซียวซูเลือกที่จะหวีผมของเธอต่อไปอย่างนุ่มนวลราวกับทําจากผ้าไหมคุณภาพสูง และเขาไม่อยากทําลายมัน
เมื่อไม่มีอะไรจะพูดหลินเสี่ยวเฟยก็ปิดปากของเธอไว้และปล่อยให้เขาทําในสิ่งที่เขาต้องการจะทํากับผมของ
เธอ
MANGA DISCUSSION