นิยาย กําเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess
ตอนที่ 72 ภาวะแทรกซ้อน
หลินเสี่ยวเฟยเหลือบไปมองร่างของจักรพรรดิและจักรพรรดินีด้วยดวงตาที่สงบของเธอ แต่ลึกๆข้างใน เธอกําลังรอดูว่าพวกเขาทั้งสองจะแสดงท่าที่อวดดี แบบไหนต่อหน้าคนอื่นๆ
ตามที่เธอคาดไว้ จักรพรรดินีเป็นคนแรกที่ตอบสนอง
จักรพรรดินีอ้าปากค้างและแสดง สีหน้าที่ซีดเซียว สาวใช้ในวังที่อยู่ข้างๆ จึงรีบเดินไปประคองตัวเธอเพื่อทําการแสดงให้เสร็จสิ้นต่อหน้าคนอื่นๆ
“สวรรค์! เกิดอะไรขึ้นที่นี่?” จักรพรรดินีดูตกใจแต่ไม่มีความกลัวในดวงตาของเธอ
ขณะที่เธอมองไปยังทิศทางของตระกูลซ่งและถามพวกเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ความจริงที่ว่า มีผู้ที่ถูกฆ่าตายในวังนั้น ไม่ใช่เรื่องที่แปลก และยังเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราชวงศ์นั้น พยายามรักษาภาพลักษณ์ในเรื่องชื่อเสียง และพวกเขายังคงปกปิดความลับ และการกระทําที่สกปรกเหล่านี้
ด้วยเหตุนี้ เมื่อพระราชวงศ์เห็นสภาพศพของซ่งหลิน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกรําคาญและอยากจะนําร่างของซ่งหลินออกไปให้อาหารสุนัข
ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ําตา แม่ของซ่งหลินเดินไปหาจักรพรรดินีและกล่าวขึ้นในขณะที่สะอื้นไห้ “ฝ่าบาท! ได้โปรดให้ความยุติธรรมแก่บุตรสาวของข้าด้วย นางเป็นเด็กที่อ่อนหวานและไร้เดียงสา! โปรดหาคนร้ายที่กระทําสิ่งนี้ต่อบุตรสาวของข้าด้วย!”
จักรพรรดินีรับปากแม่ของซ่งหลิน และปิดบังความรังเกียจไว้ในดวงตาของเธอและแสร้งมองดูพวกเขาอย่างเศร้าโศก
“คุณหญิงซ่ง ไม่ต้องกังวลไป เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในวัง เราจะทําการสอบสวนเรื่องนี้อย่างแน่นอน” จักรพรรดินีหยุดชั่วคราว ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “แต่…บุตรสาวของท่านเข้ามาทําอะไรในเจดีย์พระจันทร์ฤดูหนาว ในขณะที่หญิงสาวและชายหนุ่มคนอื่นๆ ไปรวมตัวกันอยู่ที่ศาลาเพื่อดูพระอาทิตย์ตกดิน?!”
แต่ในขณะเดียวกัน จักรพรรดินีก็พูดด้วยความจริงใจและสัญญาว่าจะให้ความยุติธรรมแก่คุณหญิงซ่งและบุตรสาวของเธอ อย่างไรก็ตาม ในคําพูดของจักรพรรดินีอาจมีความหมายอะไรแอบแฝงอยู่
ในขณะที่ทุกคนมองดูตระกูลซ่งด้วย ความสงสารในสิ่งที่เกิดขึ้นกับซ่งหลิน เมื่อทุกคนหลุดจากภวังค์ พวกเขาต้องการนินทาและรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ
อย่างไรก็ตาม คุณหญิงซ่งจะรู้ได้อย่างไร ว่าเหตุใดซ่งหลินจึงมาที่เจดีย์พระจันทร์ฤดูหนาว ในเมื่อซ่งหลินไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับการจากไป และไม่มีใครสังเกตเห็นเธอ นอกจากนี้ ก็ไม่เห็นสาวใช้ของเธอติดตามเธอไป จึงทําให้เหตุการณ์ต่างๆซับซ้อนยิ่งขึ้น
คุณหญิงซ่งขมวดคิ้ว แม้ว่าเธอจะแต่งงานกับปรมาจารย์สองจากตระกูลซ่ง แต่เธอก็ไม่ได้เติบโตมาในตระกูลที่ประสบความสําเร็จ
อีกด้านหนึ่ง คุณหญิงซ่งเองก็ไม่รู้ว่า เหตุใดบุตรสาวของเธอจึงมาที่เจดีย์แห่งนี้ แต่ถ้าพูดเช่นนั้น ภาพลักษณ์ของคุณหญิงซ่งที่ดูน่านับถือจะพังลง เพราะเธอจะถูกตําหนิว่าไม่ดูแลบุตรสาวของเธอ ซึ่งนั้นจึงเป็นเหตุที่ทําให้ซ่งหลินถึงแก่กรรม
ในทางกลับกัน หากเธอจะกล่าวแก้ตัว และตอบว่าซ่งหลินหลงทางมาที่เจดีย์แห่งนี้ คนร้ายที่ทําสิ่งนี้กับบุตรสาวของเธอจะถูกลงโทษ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ถูกร่วมโทษกับคนร้าย ผู้คนจะคิดว่าเธอไม่ได้สอนซ่งหลินให้ดีในการไปไหนมาไหนโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวเธอ จนเป็นเหตุที่ทําให้ซ่งหลินต้องหลงทาง ทั้งที่ความเป็นจริง เธอควรจะไปรวมตัวกับเพื่อนของเธอที่ศาลา
ด้วยความผิดหวัง ภรรยาของเขาไม่สามารถเอาชนะทางเลือกของเธอหรือแยก ความคิดที่จะจัดการกับคําถามเหล่านี้ ปรมาจารย์ซ่งจึงก้าวออกมาข้างหน้า และป้องมือของเขาต่อหน้าจักพรรดินีในขณะที่เขาก้มศีรษะ
“ฝ่าบาท! คงมีคนชั่วพาบุตรสาวของข้ามาที่นี่ ในขณะที่เธอกําลังจะเดินทางไปยังศาลา” ต่างจากคําพูดของคุณหญิงซ่ง ปรมาจารย์ซ่งเชี่ยวชาญและรู้ว่าควรจะพูดอย่างไร ได้โปรดให้ความยุติธรรมกับบุตรสาวของข้าด้วย”
แม้ว่าปรมาจารย์ซ่งจะฟังดูรักใคร่และ เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบุตรสาวของเขา หากใครเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มองเห็นหัวใจและความตั้งใจจริงของคนๆหนึ่ง จะเห็นว่าปรมาจารย์ซ่งไม่ได้แม้แต่น้ําตาคลอเบ้าหรือดูโกรธ หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับบุตรสาวของเขา
ตรงกันข้าม ปรมาจารย์ซ่งรู้สึกขยะแขยงที่จะมองดูร่างไร้ชีวิตของบุตรสาว ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาใช้เงินเพื่อเลี้ยงดูบุตรสาวของเขาอย่างสุขสบาย และเขายังสามารถสร้างความสัมพันธ์กับข้าราชการระดับสูง โดยการปิดผนึกความสัมพันธ์ของพวกเขากับการแต่ งงาน แต่ดูเหมือนว่าแผนของเขาจะต้องสิ้นสุดลงหลังจากซ่งหลินเสียชีวิต
หากเขารู้เพียงว่าซ่งหลินจะตาย ในตอนนี้ เขาจะเก็บข้าวของของเธอ และปล่อยให้เธอแต่งงานกับใครบางคน ตั้งแต่อายุยังน้อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงมันอีกครั้ง ปรมาจารย์ซึ่งสามารถใช้การตายของบุตรสาว เพื่อเอาบางอย่างจากราชวงศ์ ในบรรดาข้าราชการในราชสํานักที่รู้ว่าราชวงศ์เป็นอย่างไร และปรมาจารย์ซ่งจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป
จักรพรรดิหยุนโบกมือในที่สุด เมื่อเห็นปรมาจารย์และมาดามซ่งร้องขอความยุติธรรม
“เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่วังของข้า และข้าในฐานะจักรพรรดิ จะค้นหาความจริงในเรื่องนี้ “เขาชําเลืองมองดูผู้คุมและกล่าวเสริมต่อ”ทหารยาม! ตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด สําหรับตระกูลซ่ง เนื่องจากชะตากรรมอันน่าสยดสยองนี้ได้เกิดขึ้นกับบุตรสาวของท่าน ข้าจะต้องชดใช้ให้กับการสูญเสียของท่าน
จักรพรรดิหยุนเป็นชายที่เฉียบแหลม และเติบโตขึ้นมาจากในวัง ที่ซึ่งใครๆก็ต่างรู้จักเขาในฐานะผู้ที่มีความเฉลียวฉลาดและดุร้ายต่อศัตรูของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ปกครอง เขาไม่ได้เห็นอกเห็นใจต่ออาสาสมัครและ โลภในอํานาจแม้ว่าเขาจะอยู่ในจุดที่สูงสุดแล้วก็ตาม
เขาไม่ได้เรียกนักสืบเพื่อค้นหาคําตอบ แต่ให้ทหารยามที่อยู่ข้างๆ จัดการกับ รื่องนี้แทน
เมื่อปรมาจารย์ซ่งได้ยินว่าเขาจะได้รับการชดเชยจากเหตุการณ์นี้ จิตใจที่ไม่สบายใจของเขาก็รู้สึกเบาสบายและเบิกบาน อย่างน้อย เขาก็ได้อะไรจากการตายของบุตรสาว
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!“ปรมาจารย์ซ่ง แสร้งทําเป็นซาบซึ้งกับวิธีที่จักรพรรดิจะจัดการกับเรื่องนี้
อีกด้านหนึ่ง ในดวงตาของคุณหญิงซ่งแดงก่ํา เธอไม่ได้คาดหวังว่าสามีและ พ่อของบุตรสาวจะยอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่ เขาไม่ได้พยายามหยุดทหารยามที่สัมผัสร่างของบุตรสาวเพื่อตรวจสอบ และไม่ได้พยายามสลายฝูงชนที่รวมตัวกันอยู่รอบๆตัวของพวกเขา
เธอรู้สึกเกลียดชังต่อสามีของเธอและ คู่รักจักพรรดิที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่เธอทําอะไรไม่ได้เมื่อเธอเป็นเพียงหญิงที่มีพื้นเพต่ําต้อยและไม่มีการสนับสนุนมากพอที่จะเรียกร้องความยุติธรรมสําหรับบุตรสาวของเธอ
หากหญิงสาวที่เสียชีวิตแทนบุตรสาวของเธอมาจากตระกูลของบารอนหรือ ดยุค จักรพรรดิก็จะกักขังทุกคนที่อยู่ที่นั่นเพื่อสอบสวนในทันที
ด้วยความรู้สึกสํานึกผิดต่อบุตรสาวของเธอ คุณหญิงซ่งทําได้เพียงร้องไห้เงียบๆ
ระหว่างที่จักรพรรดิ์กําลังกล่าวคําปราศรัย ทหารยามที่ได้รับคําสั่งให้สอบสวนเหตุการณ์นั้นก็ไม่รอช้าที่จะไปปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้คุ้มกันและไม่ใช่ผู้ตรวจสอบ พวกเขาจึงดําเนินการอย่างงุ่มง่าม แต่ถึงอย่างนั้น ดวงตาที่เฉียบคมของพวกเขาก็ไม่ได้เบี่ยงเบนไปจากประเด็นหลัก
นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่เห็นได้ชัดเจนว่าเธอถูกละเมิด รอยฟกช้ําเริ่มก่อตัวขึ้นที่คอของซ่งหลิน และใครๆก็สามารถสรุปได้ว่ามันคือรอยมือ
ขณะที่พวกเขายังคงมองหาหลักฐาน และสิ่งแปลกๆ ที่สามารถช่วยพวกเขาแก้ปัญหาได้
จู่ๆ ยามทหารผู้หนึ่งจึงรีบไปรายจักรพรรดิหลังจากดูเหมือนว่าจะพบอะไรบางอย่างบนพื้น
“ฝ่าบาท พบกระดาษนี้อยู่ใกล้กับศพ” พูดตามตรง กระดาษที่ทหารยามพบ ไม่ได้อยู่ใกล้หรือไกลจากศพ แต่เนื่องจากพบในที่เกิดเหตุ เขาจึงสรุปว่ามีความเกี่ยวข้องกัน
จักรพรรดิหยุนเลิกคิ้วขึ้น และหยิบกระดาษที่ยี่ยจากทหารทหารยาม และรีบไปดูสิ่งที่อยู่ข้างใน เขากวาดตามองไปยังฝูงชนที่เงยคอและเบิกตากว้างเพื่อพยายามให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่ามีอะไรอยู่ในมือของจักรพรรดิ
ด้วยทุกสายตาที่จับจ้องเขา จักรพรรดิหยุนจึงต้องเปิดอ่านสิ่งที่อยู่ในกระดาษ เพราะเขากล่าวคําของเขาแล้วว่าเขาจะให้ความยุติธรรมแก่ตระกูลซ่ง
อย่างไรก็ตาม ใครที่รู้ว่าดวงตาจับจ้องไปที่จดหมายฉบับหนึ่ง ใบหน้าของจักรพรรดิก็ดูตกตะลึงบน ในขณะที่เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองดูบุคคลหนึ่ง
จักรพรรดิไม่ตกใจกับคําที่เขียนในกระดาษ แต่เขาประหลาดใจที่ลายมือของผู้ที่เขียนจดหมายนั้นดูคุ้นเคยเป็นพิเศษ
ทันใดนั้น จักรพรรดิจึงรู้สึกสับสน
ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างของบุคคลหนึ่ง และคิดว่าลายมือนี้เหมือนกับผู้ที่เขียนจดหมายโดยไม่รู้ตัว
และนั่นคือหยูเฟิงซู
MANGA DISCUSSION