กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess - ตอนที่ 49
หลินเฉินยูจ้องมองที่หลินเสี่ยวเฟย และเธอก็หันไปมองเขา
“มีอะไร?” เธอพูดด้วยน้ําเสียงที่ฟังดูเย็นชาเพราะไม่อยากให้เขาเสียเวลาหายใจ เมื่อเขาต้องพูดกับเธอ
“ไม่มีอะไร…” หลินเฉินยูหลบสายตาและมองไปข้างหน้า“ลูกพี่ลูกน้องต้องการซื้ออะไร?”
หลินเสี่ยวเฟยไม่ตอบเขา
เธอต้องการซื้ออะไรนะหรอ
แน่นอนว่ามันต้องเป็นสิ่งสําคัญสําหรับแผนการของเธอเพื่อที่จะทําให้หยุเพิ่งจูประหลาดใจอย่างไม่คาดคิด
เธอมองลงไปที่เวที และเห็นว่ามีคนของโรงประมูลบางคนกําลังเร่งรีบและดูเคร่งเครียดเมื่อการประมูลชุดที่สองสิ้นสุดลง
ทันใดนั้น หลินเสี่ยวเฟยลุกขึ้นจากที่นั่ง และเดินไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงทางเข้า
หลินเฉินยู รู้สึกสับสนเกี่ยวกับการกระทําที่กะทันหันของเธอและคอยติดตามเธอ
“ลูกพี่ลูกน้อง คราวนี้เจ้าจะไปที่ใด” หลินเฉินยูต้องการดึงแขนของเธอ แต่เพราะมีคนเดินมาชนเขา เขาจึงไม่สามารถจับเธอได้ และหันไปขอโทษกับคนที่เขาชน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาหันไปมองที่หลินเสี่ยวเฟยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ เหลือเพียงพื้นที่ว่างเปล่าตรงหน้าเขา และเขามองไม่เห็นว่าร่างของลูกพี่ลูกน้องของเขาอยู่ที่ใด
โยงโมมวแววของเธอ
ในทางกลับกัน หลินเสี่ยวเฟยเกือบจะอยู่ที่ทางเข้าและหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาว
หญิงสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเธอ และเอียงศีรษะอย่างสับสน “ท่านหญิงมีอะไรให้ช่วยไหมเจ้าค่ะ”
“ข้าได้ยินมาว่าวันนี้จะมีการประมูล แต่ข้าเห็นแต่ของที่ไม่มีชีวิตที่กําลังประมูลขายอยู่
เจ้าช่วยพาข้าไปที่โรงประมูลสิ่งมีชีวิตได้หรือไม่?”
หญิงสาวตกใจกับคําพูดของเธอ และมองไปรอบๆ ราวกับว่าเธอกลัวว่าจะมีคนอื่นได้ยิน
หลังจากพบว่าไม่มีใครได้ยินสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าเธอพูดเธอก็ส่ายหัวและกล่าวว่า “มันไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าจะพาท่านไป”
หลินเสี่ยวเฟย เดินตามหญิงสาวออกไปข้างนอกและถูกพาตัวไปด้านหลังกระโจมขนาดใหญ่ ที่มีกระท่อมหลังเล็กอยู่
เนื่องจากกระท่อมที่อยู่ด้านหลัง จึงไม่สะดุดตาและมีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถเดินเข้าไปได้
มันแตกต่างจากกระโจมขนาดใหญ่ ภายในกระท่อมนั้น”มืดและแคบ
” ท่านรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?” หญิงสาวกล่าวถามหลินเสี่ยวเฟย ขณะที่พวกเขากําลังปิดที่ทางเข้ากระท่อม
หลินเสี่ยวเฟยไม่ตอบ เธอรู้ว่าหญิงสาวผู้นั้นถามว่าทําไมเธอถึงรู้เรื่องนี้ เธอเพียงต้องการให้หญิงสาวโรงประมูลนําทางให้เธอเพียงเท่านั้น
อาณาจักรเซิงไม่อนุญาตให้ซื้อขายสิ่งมีชีวิต และใครก็ตามที่ถูกจับได้ว่าทําธุรกิจลักษณะนี้ จะถูกส่งตัวเข้าห้องขังโดยตรงและจะต้องจ่ายค่าปรับในจํานวนมหาศาล
กฎหมายนี้สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิองค์แรกของอาณาจักรเซิง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน กฎหมายนี้จึงถูกมองข้าม และคนบาปจํานวนมากได้ทําธุรกิจเช่นนี้และหลบหนีไปโดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
ในอดีต หลินเสี่ยวเฟยพบว่า เมื่อการประมูลถูกจัดขึ้น จะมีการประมูลอีกแบบด้านหลังเสมอ เธอรู้เรื่องนี้จากประสบการณ์ของเธอเมื่อครั้งที่เธอเคยแต่งงานกับหยูเฟิงซู
และการที่ใช้หญิงสาวที่ดูไร้เดียงสาเป็นผู้นําทาง พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการถูกค้นพบหรือถูกตั้งคําถามโดยใครก็ตาม ที่ต้องการตรวจสอบกิจกรรมของพวกเขา
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเห็นว่าหลินเสี่ยวเฟยไม่เต็มใจที่จะตอบคําถามเธอ หญิงสาวจึงพาหลินเสี่ยวเฟยเข้าไปในกระท่อมโดยไม่พูดอะไรอีก
เมื่อมองจากภายนอก กระท่อมนี้ก็ดูธรรมดา ผู้คนจึงไม่สงสัยอะไร แต่เมื่อเข้าไปด้านใน พวกเขาก็จะได้เห็นโลกอีกใบ
โดยปกติ โรงประมูลจะนําเสนอรายการที่จะขายบนโต๊ะอย่างไรก็ตาม มันแตกต่างจากการจัดโรงประมูลเพื่อขายสิ่งมีชีวิต
ภายในมีกรงเรียงกันเป็นแถว ทันทีที่พวกเขาเข้าไปข้างในมันทําให้หลินเสี่ยวเฟยถึงกับพูดไม่ออก ไม่ว่าเธอจะเห็นมันมาหลายครั้งแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธและเกลียดชัง
ภายในกรงนั้น มนุษย์สามคนจะถูกขังรวมกันในหนึ่งกรงมือและเท้าของพวกเขาถูกล่ามไว้ด้วยโซ่
ไม่ว่าจะเพศอะไรและอายุเท่าไหร่ก็ถูกขังรวมกันในกรงและไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนอย่างมนุษย์
หลินเสี่ยวเฟยรู้สึกหวาดกลัวกรงขัง และเห็นอกเห็นใจมนุษย์ในกรงโดยไม่รู้ตัว
ครั้งหนึ่ง เธอเคยถูกขังไว้ในคุกใต้ดินและถูกล่ามโซ่ไว้เป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งเธอสิ้นลมหายใจ
น้ําตาเริ่มก่อตัวขึ้นที่หางตา ขณะที่เธอมองต่อไปรอบๆเธอ สามารถเห็นตัวตนในอดีตของเธอที่อยู่ภายในกรงนั้น
เธอหลับตาลง และบีบคั้นอารมณ์ความรู้สึกภายในตัวเธอจุดประสงค์ของเธอที่มาที่นี่ไม่ใช่เพื่อช่วยพวกเขาหรือปลดปล่อยพวกเขา แต่มันคือการซื้อพวกเขาเพียงแค่หนึ่งคนหรือสองคน
ด้วยความสามารถของเธอในขณะนี้ หลินเสี่ยวเฟยไม่มีความสามารถหรือความมั่งคั่งพอที่จะซื้อพวกเขาทั้งหมด นอกจากนี้ มันจะไม่มีวันจบลงหากเธอช่วยพวกเขาและปลดปล่อยพวกเขา
หลินเสี่ยวเฟยเบือนหน้าหนีจากสายตาที่มีความหวังจากผู้คนในกรง
เธอจึงกัดแก้มด้านในปาก จนได้ลิ้มรสความคาวของเลือดที่ กระจายอยู่ในปากของเธอ
ทันใดนั้น หลินเสี่ยวเฟยก็หยุดเดิน เมื่อเธอสังเกตเห็นเด็กผู้ชายที่มีผมสีทองอยู่ที่ขอบกรงที่พวกเขาเดินผ่าน
เธอถอยหลังและหยุดอยู่หน้ากรงที่มีเด็กหนุ่มผมทองอยู่
เธอชี้ไปที่มันและพูดกับหญิงสาวว่า “นั้น ข้าต้องการเด็ก
คนนั้น”