กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess - ตอนที่ 36 เทศกาลไหว้พระจันทร์
เฉินโม่ นำทางชูชูไปยังรถม้าขนาดใหญ่ที่จอดอยู่ใกล้ร้านขายเครื่องประดับ รถม้านี้ไม่ได้ดูหรูหรามากนัก อย่างไรก็ตาม ขนาดของมันสามารถบดบังเเสงสว่างอย่างท่วมท้น ทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกหวาดกลัว
ชูชู หยุดอยู่หน้ารถม้า และจ้องไปที่เฉินโม่ด้วยความไม่เต็มใจ เธอกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ หากเธอเข้าไปอยู่ในขอบเขตของรถม้า ดังนั้น เธอจึงสำรวจสิ่งต่างๆรอบตัวเธออย่างระมัดระวัง
ข้างหลังเธอ คือคนธรรมดาๆที่พยายามสนุกกับวันที่สวยงามเช่นนี้ เธอมองไปรอบๆเเละไม่พบคนที่น่าสงสัยรอซุ่มโจมตีเธออยู่ จึงทำให้เธอรู้สึกโล่งใจ อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถหยุดความลังเลใจที่ค่อยๆเกิดขึ้นในตัวเธอได้ เนื่องจากเธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอเข้าไปในรถม้า
เมื่อสังเกตเห็น ความไม่สงบของเธอ เฉินโม่ก็สร้างความเชื่อใจให้กับเธอ และกล่าวว่า
“นายท่านของข้าอยู่ในรถม้า เจ้าไม่ต้องกังวลกับสิ่งใด เพราะรถม้าจะไม่เคลื่อนย้ายไปไหนในตอนนี้”
ชูชูพยักหน้า วางเท้าบนเก้าอี้ที่ใช้ในการปีนขึ้นรถม้า จากนั้น เธอก็เปิดผ้าม่านที่ปิดหน้าต่างรถม้าออก ขณะที่เฉินโม่รออยู่ข้างนอกเพื่อคุ้มกัน
เมื่อชูชูเปิดผ้าม่าน ภาพแรกที่เธอเห็นเธอรู้สึกตกใจ มันทำให้เธอสงสัยว่า เธอกำลังก้าวเข้าสู่โลกที่ต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ภายในนั้นสิ่งของตกเเต่งดูธรรมดาๆเหมือนกับห้องโดยสารอื่นๆ ที่เธอเคยเห็นมาก่อน เเต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจ
ภายในที่ของรถม้า มีหญิงสาว ที่มีใบหน้าอันงดงามนั่งอยู่อย่างเฉยเมย ดวงตาของเธอกำลังเหม่อมองไปยังถนนด้านนอก
เธอดูมีเสน่ห์มาก เธอสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ที่ประดับประดาด้วยลวดลายสีดำที่สลับซับซ้อน
และโดดเด่นที่ชายกระโปรงของเธอ แม้แต่ชูชู ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งในเมืองหลวง เเต่เธอยังคงตกตะลึง เมื่อได้มองดูหญิงงามตรงหน้าเธอ .
เมื่อได้ยินความวุ่นวายจากเฉินโม่และชูชู หลินเสี่ยวเฟยก็ยังไม่หันมองไปที่ชูชู ที่เพิ่งขึ้นรถ
เธอมองออกไปข้างนอก ราวกับว่าไม่ได้สังเกตเห็นคนใหม่ ที่เพิ่งก้าวเข้ามาในพื้นที่ของเธอเเละเธอยังคงเพิกเฉยต่อการปรากฏตัวของผู้มาใหม่
เมื่อเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งนาที ชูชูตัดสินใจที่จะสลัดความคิดตัวเองออกจากภวังค์ ในตอนที่เธอได้เห็นหลินเสี่ยวเฟย
“ท่าน… ท่านคือชายหนุ่มที่มาพบข้าครั้งที่แล้วหรือ?” ชูชูกล่าวถาม เเต่ดวงตาของเธอก็ไม่ละทิ้งร่างของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
แน่นอน ว่ามีบางกรณีที่เด็กผู้ชายบางคนมีรูปร่างคล้ายหญิงสาวเมื่อเขาอายุยังน้อย แต่ในตอนที่เขาค่อยๆโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในทันที รูปร่างหน้าตา ความสูง และเสียงของพวกเขาจะเปลี่ยนไป และพวกเขาจะสามารถแสดงออกถึงความเป็นชายโดยธรรมชาติของพวกเขาได้
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มที่เธอพบครั้งล่าสุด ไม่ได้ดูเหมือนผู้ชายสักเท่าไหร่ กิริยาท่าทางทุกอย่างที่เธอแสดงออกมา คล้ายคลึงกับผู้หญิง ดังนั้น ชูชูจึงรู้สึกว่าชายหนุ่มที่เธอพบในขณะนั้น ไม่เหมือนที่เขาแสดงออกมา
การคาดเดาของเธอ ได้รับการยืนยันอย่างรวดเร็ว เมื่อหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอพยักหน้าช้าๆ เเละรอยยิ้มเย็นชา ผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“ใช่.” หลินเสี่ยวเฟยกล่าวตอบ เพื่อขจัดข้อสงสัยของเธอ ขณะที่เธอชี้มือไปที่เก้าอี้ในรถม้า
และกล่าวว่า “นั่งลงก่อนเถิด”
ชูชู นั่งบนเก้าอี้และจ้องไปที่หลินเสี่ยวเฟย ด้วยใบหน้าที่รู้สึกแปลกๆ คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันราวกับว่าเธอกำลังพยายามไขปริศนา ขณะที่เธอได้มองไปที่ใบหน้าของหลินเสี่ยวเฟย
“ข้ากับท่าน เคยเจอกันมาก่อนหรือไม่” เธอกล่าว แต่เธอก็แก้ไขคำพูดของเธอ “ข้าหมายถึงก่อนหน้านี้ เราเคยพบกันที่ไป่ฮัวโหลว…”
หลินเสี่ยวเฟยสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะส่ายหัวเป็นคำตอบ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง หลินเสี่ยวเฟยก็รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย ขณะที่เธอคิดว่า มันไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่ใครจะนึกถึงความเป็นไปได้ ว่าเธอจะครอบครองร่างของหญิงสาวตระกูลหลินอยู่ มันทำให้เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก
ฝ่ามือของเธอเริ่มเหงื่อออก ขณะที่เธอหลีกเลี่ยงดวงตาที่ซื่อสัตย์และชัดเจนของชูชู
ตรงข้ามกับดวงตาที่เย็นชาของเธอ ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับ
ใบหน้าของเธอ ไม่ขยับแม้แต่นิดเดียวและแข็งทื่อเหมือนเมื่อก่อน พวกเขาไม่ได้ทรยศต่อเธอและไม่ได้แสดงให้คนอื่นรู้ว่าเธอกำลังโกหก
“ข้าไม่คิด ว่าข้าจะมีโอกาสได้พบกับเจ้า แต่ข้าแน่ใจ ว่าเจ้าต้องเคยพบเห็นและเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับข้า ดังนั้น ความรู้สึกคุ้นเคยจึงมีอยู่” เธอกล่าว.
คำพูดของเธอ ดึงดูดความสนใจของชูชู “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
หลินเสี่ยวเฟย เพียงยิ้มและกล่าวว่า
“ข้าแน่ใจ ว่าเจ้าต้องเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน หญิงสาวที่มีบุคลิกหยิ่งยโสและโง่เขลา ซึ่งถูกตราหน้าว่าเป็นความอัปยศของตระกูลหลิน หญิงสาวที่ข้ากำลังพูดถึง และหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เป็นคนๆเดียวกัน เจ้ายังคิดว่าเจ้ายังไม่เคยได้ยินชื่อข้าอีกหรือ?”
คำพูดของชูชู ติดอยู่ที่ลำคอของเธอ ขณะที่เธอมองหลินเสี่ยวเฟย ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ความสับสนของเธอก็ปรากฏชัด เเละทำให้เธอพูดไม่ออก
หลินเสี่ยวเฟย? นั่นคงไม่ใช่หญิงสาวคนเดียวกัน ที่เอาเเต่เก็บตัวอยู่ในบ้านของเธอเป็นเวลาสามปี ใช่หรือไม่?
ข่าวของคุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน ไม่ได้ถูกปิดบังจากสาธารณะ เเละข่าวต่างๆก็ได้เเพร่กระจายมาถึงย่านหอนางโลมทุกแห่ง ทั่วเมืองหลวง ดังนั้น ชูชูพบว่า มันแปลกที่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คือหลินเสี่ยวเฟยผู้มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังเป็นชายหนุ่มคนเดิม ที่เธอพบเมื่อไม่กี่วันก่อน คนที่อ้างว่าเขาจะช่วยเธอในการแก้แค้น เเละเธอยังเป็นคนที่เพื่อนของเธอ เสี่ยวเฟยมอบหมายให้ดูแลเรื่อง ‘กล่อง’
ขณะที่มองดูหลินเสี่ยวเฟยอย่างวิตกกังกล เธอถามว่า “แม่ทัพหลิน สั่งให้ท่านพูดเช่นนั้นหรือ?”
“ไม่.”หลินเสี่ยวเฟย ตอบอย่างง่ายๆ ขณะที่เธอกล่าวต่อ “ท่านตาของข้า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาที่เรากำลังจะพูดถึง ดังนั้น เจ้าไม่ต้องกังวลใจไป เมื่ออยู่ใกล้ข้า”