กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 60 มังกรขาว
ผมยืนอยู่หน้าบ้านตอนกลางคืนด้วยกล้องมองกลางคืน
มันเป็นแว่นกันลมใสที่มองกลางคืนได้
มันเห็นชัดเจนแม้แถวนี้ไม่ค่อยมีไฟ
“ฮาเร็มประจำที่แล้ว”
“รับทราบ ฮาเร็มประจำที่”
ผมไม่ชอบชื่อเรียกตัวเอง แต่นาเป็นคนเลือกให้เราและผมยอมเธอ
ผมอยู่หน้าบ้านผู้ก่อการร้ายรายใหญ่
ข้างในมีคนเยอะ และตอนนี้เราใช้คน 5 คน
มันเป็นหน่วยพิเศษที่เคยทำภารกิจก่อนหน้านี้ แต่วันนี้มีเรดจำปามาอีกคน
เธอเข้ากลุ่มนี้ได้เพราะวัดความสามารถหลังใช้หอก
และมันเป็นเสียงนา เจ้าหน้าที่สื่อสารของหน่วยเรา
“วัลคีรี่ประจำที่”
“แมงมุม ประจำที่”
“รับทราบ”
วิวเข้าประจำที่แล้ว มันเป็นวิวที่ประตูหน้ากับเรดจำปาที่อาวุธระยะไกล
“ราชินีเข้าประจำที่”
ราชินีวล็อดซีเมียเข้าประจำที่แล้ว ตำแหน่งของเธออยู่ที่ประตูหลัง
“แมวประจำที่”
“รับทราบ”
มันเป็นเสียงวีและเป็นนาที่ตอบ ของวีเป็นหลังคาและเธอขึ้นช้าสุด
เพราะเราเน้นความเงียบ และการปีนกำแพงเงียบๆทำยากมาก
เธอใช้อุปกรณ์พิเศษ มันคือเคียวคู่ และคนที่ขึ้นหลังคาได้เงียบๆ คือวีคนเดีียว เธอขึ้นไปหาทางเข้าดาดฟ้า เพราะที่นี่เป็นบ้านสองชั้นที่มีดาดฟ้า
“เริ่มบุก”
เสียงนาสั่งการ
“ลุยกันเล้ย”
เสียงวิวมีไฟ
ผมเปิดประตูหน้าที่ไม่ได้ล็อกอะไรไว้
วิวจะเข้าพร้อมกันเพราะเรานัดกันไว้แล้วตอนบรรยายสรุป
เขาเป็นระดับผู้สั่งการของคนลอบวางระเบิดครั้งที่แล้ว
ผมนึกถึงตอนที่วาโรบรรยายสรุปงาน
เดือน 4 กลางเดือน
หน่วยพิเศษเราเริ่มเสร็จแล้ว
มันเหลือแค่รอภารกิจ และวันนี้วาโรบอกว่าเจอคนร้ายจริงๆสำหรับภารกิจแรกแล้ว
ผมกำลังเข้าบรรยายสรุปภารกิจแรกของหน่วยมังกรขาว
มังกรขาวคือชื่อหน่วยพิเศษ ที่วาโรเป็นคนตั้ง
เธอบอกว่ากลุ่มเรา 5 คนเก่งที่สุดในวาโรซีเมียเรียแล้ว
ผมไม่เชื่อเพราะผมเชื่อว่ามีคนที่เก่งกว่า แต่วาโรเชื่ออย่างนั้น
เราทำเครื่องช่วยบรรยายสรุป แบบเป็นเครื่องยิงแสงแล้วฉายภาพบนกระดานขาว
กระดานมันเป็นกระดานแบบเขียนได้ไว้เขียนรายละเอียด
เธอกางม้วนกระดาษบนเครื่องฉาย มันเป็นรูปทางอากาศของบ้านมืดที่เปิดไฟหลังหนึ่ง
รูปมันมาจากโดรนสอดแนมที่เราเพิ่งทำมาใหม่เพื่อหน่วยนี้
ภาพมันชัดเพราะซูมเยอะ แต่ภาพมันเล็กๆแคบๆ
เรื่องกล้องเรายังไม่ได้พัฒนามาก แต่มันดีขึ้นอยู่เรื่อยๆ
เธอวงตำแหน่งประตูทั้งสอง
“ภารกิจนี้ฉันอยากใช้ 5 คน มันต้องเพิ่มคนที่จะทำภารกิจอีกคน”
ผมโทรเรียกเรดจำปา เธอเก่งขึ้นเยอะมากหลังฝึกกับผมครึ่งเดือน
พรสวรรค์เธอแรง และมันมหัศจรรย์
เรดจำปามาแบบงงๆ และผมให้เธอนั่งข้างผม
“นี่ทำอะไรกัน”
“มีภารกิจ เธอเป็นหนึ่งในหน่วยพิเศษแล้ว มันไม่อันตรายเพราะฉันมีเกราะของเธอเตรียมไว้แล้ว
วีที่นั่งข้างผมพยักหน้าแล้วยิ้มๆ
หลังผมอธิบายว่าเรดจำปาเป็นคนลำบาก ทำงานหนัก หน้าแก่ วีกับวิวก็เปลี่ยนการมองเธอ
เธอเริ่มเห็นรเรดจำปาว่าเป็นคนรักของผมมากขึ้น
และต่ำแหน่งเธอชัดเจน อยู่ท้ายสุดเพราะวีกับวิวเลือก
“ฉันเนี่ยนะ ได้เงินเยอะขึ้นใช่มั้ย?”
“ใช่”
“ได้สิ”
หลังเธอถามเรื่องเงินผมก็บอกว่าเยอะขึ้นจริงและเธอตอบรับ
เธอห่วงเงินมากเพราะเธออยากให้คนเฒ่าคนแก่ในครอบครัวสบาย
นิสัยหลักๆเธอเป็นคนดี
เธอตั้งใจฟังมากขึ้น
“ห้าแล้ว เรดจำปาอีกคน”
“คนใหม่น่ะเหรอ? เก่งแน่นะ”
“เก่งจริง ฉันทดลองกับตัว”
หลังเธอถามให้มั่นใจผมก็เพิ่มความมั่นใจของเธอ
มันเป็นผมฝึกเธอเองช่วงครึ่งเดือนหลัง
ผมตั้งใจฟังบรรยายสรุป
“ประตูหน้าจะใช้สองคนเพราะมันใหญ่ แล้วก็ มันมีประตูข้างไว้แอบส่งของผิดกฎหมาย เราไม่รู้ว่าคนจะออกมาเมื่อไหร่เพราะมมีคนเข้าออกเรื่อยๆแม้ตอนกลางคืน แต่เมื่อเราสืบอาทิตย์หนึ่งเราเห็นว่าไม่ค่อยมีคนออกมาตอนตีหนึ่งตีสอง เราจะบุกตอนนั้น มันอาจมีห้องที่เชื่อมต่อกับหลังคาเพราะเป็นหลังคาแบน มันมีประตูหลังเหมือนกัน แต่ไม่เห็นในกล้องเพราะคุณภาพยังไม่ถึง ประตูอื่นจะเข้าทีละคน แต่ประตูหน้าสอง เราบุกตอนกลางคืนดังนั้นใส่ชุดสีดำ”
“เดี๋ยวฉันให้อเด็ปออกแบบเครื่องแบบ”
“ได้สิ”
หลังผมเสนอฝีมืออเด็ปเธอก็เอาด้วย
แต่มันจะเป็นงานที่ไม่เป็นเครื่องแบบเพราะมันออกแบบรีบ
มันจะคล้ายเครื่องแบบแต่มีหลายแนว ไม่ซ้ำ
ผมฟังบรรยายสรุปต่อ
“เราจะใช้อาวุธเป็นหน้าไม้ และใช้การโจมตีระยะไกล”
ผมยกมือแล้ววาโรดูเหมือนรอฟังผมพูด
“ถ้าเราใช้หน้าไม้ เราจะไม่แม่นเพราะเราเพิ่งหัดใช้ แต่ตอนฝึก เราจะจินตนาการว่าอยากเป็นเซียนซ้ำๆ เพื่อฝึกให้ได้ผลดีเป็นพิเศษและใช้เวลาน้อยลง ฉันจะให้ผักชีทำหน้าไม้เงียบให้”
หลังผมบอก วาโรพยักหน้า
“เริ่มทำเลย ระยะเวลาเริ่มงานตั้งไว้คือท้ายเดือน เพราะพวกนี้จะย้ายที่แล้ว ฉันรู้ว่ามันเร็วไปหน่อย แต่ฉันไม่มีทางเลือก ช่วยฉันหน่อย ช่วยประเทศเราหน่อย เพื่อประชาชนที่ไร้เดียงสาที่อาจตายเพราะคนพวกนี้ลอยนวล”
กลุ่มเราพยักหน้า และนาที่มาด้วยเพราะผมมีแผนให้เธอเป็นหน่วยสื่อสารก็ดูมุ่งมั่น
“เราพร้อมแล้ว!”
“เยี่ยมมาก”
หลังผมเห็นทุกคนพร้อมผมก็บอกวาโร เธอชมเรา
ผมลุกจากเก้าอี้และออกจากห้องไปหาผักชีเพื่อเตรียมอาวุธ
ผมกลับมาที่บ้านคนร้าย
ผมหาห้องข้างหน้าและซ้ายขวาอย่างละเอียดว่าไม่มีใคร
“นี่แมว มีห้องลงจากหลังคา”
“รับทราบ”
มันเป็นวีและนาตอบ
นาจะตอบทั้งหมดและเป็นหน่วยสื่อสาร
เธอใช้เทคโนโลยีภาพสดจากกล้อง แต่มันเป็นกล้องที่เพิ่งประดิษฐ์ใหม่และเป็นรุ่นต้นแบบ
มันไม่ชัดเลย และมองเห็นแค่อะไรใหญ่ๆ
แต่เราใช้ทุกอย่างเท่าที่ใช้ได้เพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุด
ผมค่อยๆแง้มประตูห้อง บรรรยากาศมันมืดๆ และมีไฟลิชอยู่น้อยมาก
พวกเขาอยู่แบบมืดๆ
อย่างที่วาโรบอก พวกนี้เป็นคนร้ายตัวฉกาจและเราออมมือไม่ได้
ผมเจอคนทางซ้ายและผมยิงแล้วใส่กระสุนอย่างเร็ว
ผมได้ยินเสียงกุกกักข้างหลังแล้วผมหันไปยิง
แต่เธอหลบ มันเป็นวีที่หลบได้ และเธอเอานิ้วชี้มาวางที่ปาก
หน้าไม้มันเกือบเงียบแต่มันยังมีเสียงเบาๆอยู่
ผมบุกเข้าอีกห้องและมีคนอยู่เยอะ ส่วนใหญ่หลับอยู่
เราไม่เลือกยิงด้วยหน้าไม้และใช้มีด
มีคนหนึ่งดิ้นแล้วมันไปโดนกัน
“นี่ฮาเร็มที่อยู่ห้องรวม ศัตรูตื่นแล้ว ขอกำลังเสริม”
“““กำลังไป”””
เมื่อผมเรียกกำลังเสริมทุกคนก็กำลังมา
ผมกับวีไปยืนดักประตูแล้วคนเริ่มตื่นเยอะ
ผมจัดการคนที่หนึ่ง ยิงคนที่สอง
“หน้าไม้ตบ!”
“หน้าไม้แทงคอ!”
เราใช้ท่าหน้าไม้ที่เพิ่งฝึกตอนเย็น
วียิงอีกคนและคนตื่นขึ้นเรื่อยๆ
คนเริ่มตื่นเยอะ แล้วจะวิ่งออกประตูหลังและกระเด็น แล้วเสียชีวิตหลังวาโรมาฟัน
วิวกับเรดจำปามาแล้ว
เรามากันครบแล้ว มันเป็นบุกใส่เต็มทีม
เรายังทำภารกิจแรกเงียบๆไม่สำเร็จ มันกลายเป็นการตะลุมบอน
แต่เสียงมันเงียบเพราะคนโวยวายมีแค่ศัตรู
เราเก็บศัตรูเรื่อยๆ แล้วพวกเขาเริ่มสู้ไม่ได้ มันเหลือครึ่งเดียว
ผมปล่อยให้เหล่าคนรักของผมสู้ไปเพราะเริ่มปลอดภัยมากแล้ว
มันเหลือแต่คนที่ไม่เก่ง คนที่ดูเก่งๆผมเก็บหมดแล้วด้วยหน้าไม้
ผมยังทำภารกิจได้เร็วกับวาโร
ผมมั่นใจกับเราสองคนอยู่แล้ว แต่คนที่เพิ่งฆ่าคนวันนี้คือเรดจำปา
แต่เธอสังหารคนแบบไม่คิดมากหลังรู้ว่าเป็นคนร้ายของวาโรซีเมียเรีย
เธอเป็นคนวาโรซีเมียเรียของแท้
ผมรีบไปค้นห้องอื่น เพราะห้องที่เราสู้กันเอะอะ ป้องกันคนไหวตัวทัน
ผมเปิดประตูไปเจอคนแอบฟังประตูอยู่
ในห้องด้านข้างห้องหลัก มันเป็นห้องที่ผู้หญิงอยู่เยอะ ส่วนมากแต่งตัวน้อยชิ้นและเหน็บมีด
คนที่ฟังประตูเริ่มโวยเสียงดังแล้วเข้าชิดผม จงใจเอาหน้าอกแนบผม
“พวกนั้นมันทำเรา มันบังคับเราให้ทำ เราไม่รู้ว่าผลิตอะไร และพวกนั้นสอนแล้วบังคับเราอย่างเดียว ไม่ให้ไปไหน ช่วยเราด้วย!”
เธอพูดเหมือนคนโดนกระทำแต่เธอเอื้อมจะหยิบมีดที่อยู่หลังเธอ
ผมจับเธอทุ่มโดยไม่ลังเล
มันเป็นพวกเดียวกันกับคนร้าย และผมไม่ได้สังหาร
ผมไม่สังหารผู้หญิง
มันไม่มีเหตุผลอะไรดีๆหรอก ผมแค่ไม่ชอบ
แต่ถ้าต้องทำจริงๆเพื่อคนรักผม ผมทำได้
ตอนนี้มันยังไม่จำเป็น
คนที่ผมทุ่มสลบอย่างง่ายดาย
“วางอาวุธถ้ายังไม่อยากสลบหรือตาย”
หลังพวกเธอเห็นผมทุ่มคนแรกอย่างเร็วพวกเธอก็ไม่เลือกเสี่ยง
ผมทำให้มือทุกคนไขว้หลังแล้วรีบมัดแน่นๆ
“ฮาเร็มจับคนร้ายหญิงได้เพิ่มหลายคน กำลังพาออกไปห้องรวม”
ผมพาทุกคนเรียงแถวเดินตามผม และทุกคนตามมาอย่างเชื่อฟัง
เมื่อผมกลับมาห้องรวม คนห้องนี้เริ่มเหลือไม่กี่คนแล้ว
ผมช่วยสู้อีกแรงและไม่นานมันก็จบ
“ห้องในจัดการเรียบร้อย”
“รับทราบ ย้ายคนร้ายไปนั่งหน้าบ้าน เรากำลังจะให้ทหารเข้าไป”
“รับทราบ”
หลังนาบอกผมก็รับทราบ
เราพาเหล่าคนร้ายไปนั่งหน้าบ้านอย่างเป็นระเบียบและพวกเขาดูกลัวกับชะตากรรมเพราะถูกจับแล้ว
และพวกเขาเป็นอาชญากรของประเทศ
ไม่มีทางออกสำหรับคนพวกนี้
ผมเอาวีที่วิ่งเร็วกับวิวที่วิ่งเร็วเหมือนกันไว้ข้างนอก แล้วค้นบ้านกับวาโรและเรดจำปาที่ดูไม่ค่อยชินกับภารกิจลับๆ
ไม่มีใครเดินเสียงดังแล้วนอกจากเรดจำปาคนเดียว
วาโรก็เดินเป็นและวีกับวิวเดินไม่มีเสียงอยู่แล้ว
แต่เรดจำปาเพิ่งหัดสู้ใหม่ๆ และการเดินไม่มีเสียงยากสำหรับเธอ
แต่ผมไม่ว่าเธอ ไม่โทษอะไรเธอ เพราะเธอทำได้ดี
ผมค้นบ้านและเจอคนที่เลือกไม่สู้แล้วแอบอยู่สองสามคนที่ห้องต่างๆทั่วบ้าน
พวกนี้ทำตัวก่อการร้ายแต่หัวใจนิดเดียว
พวกเขาเป็นพวกลับๆล่อๆ
มันมีเอกสารรายงานถึงหน่วยหลักของเขา มันมีเอกสารเป็นตั้งๆอยู่เยอะ
วาโรจะดูอย่างละเอียดและผมดูผ่านๆ
มันอ่านยากและมันรายงานแบบที่ไม่ค่อยดี
มันไม่ใช่รายงานที่สรุปอะไรแล้ว
ผมปล่อยยวาโรดูต่อไปแล้วไม่ได้ขัดอะไรเธอ
เมื่อวาโรอ่านรายงานที่ผมอ่านไม่รู้เรื่องเข้าใจเธอก็เปิดตากว้าง
“ไม่น่าเชื่อ มันเป็นคนใน”
“หา!? มีคนในเป็นหนอนบ่อนไส้ด้วยเหรอ?”
ผมตกใจมากกับข่าวใหม่ที่ได้ยิน
“มันเป็นคนฝั่งรัฐบาล ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้า”
“ค่อยๆคิดเถอะ ดูแล้วมันเป็นเรื่องใหญ่เกินตัวฉัน”
“ฉันอยากให้เธอช่วย แต่ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”
“ฉันไม่อยากยุ่งกับการเมือง อย่างที่บอก มันเกินตัวฉัน ปรึกษาคนของเธอที่ไว้ใจได้ แล้วค่อยๆคิด”
หลังเธอร้องให้ช่วยแล้วผมช่วยอะไรไม่ได้ เธอทำหน้าเศร้า
“ถ้าคนนี้ไว้ใจไม่ได้ฉันก็ไว้ใจใครไม่ได้แล้ว ตอนนี้มันเหลือแต่เธอ”
หลังผมได้ยินผมก็หนักใจ
การเมืองหรือ?
มันหนักเกินไป
มันเป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยอยากจะยุ่ง แต่ผมเป็นคนของวาโรซีเมียเรียแล้ว
ผมต้องคิดเพื่อประเทศบ้าง
“ฉันไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ แต่ฉันจะช่วยเต็มที่แล้วกัน”
หลังเธอได้ยินผมพูดไป เธอก็ทำหน้าเหมือนเรื่องทุกข์ทั้งหมดในใจหายไป
เธอยิ้มให้ผมในบรรยากาศมืดมน
ผมยิ้มให้เธอ
เราน่าจะเหมือนแสงสว่างในห้องมืดมิดบรรยากาศน่ากลัวๆ
วาโรเริ่มคัดเลือกกระดาษสำคัญๆเอาไปกับตัวแล้วเริ่มปล่อยพื้นที่ให้คนที่มาดูแลต่อ
เราออกไปยืนข้างนอก
ทหารมาและเริ่มสอบสวนคนร้าย
เขาสอบสวนอย่างหนักแต่ไม่ทำร้าย
ผมดูการทำงานของทหารวาโรซีเมียเรีย
มันรวดเร็วและตรงจุด
ผมไปสนใจเรื่องอื่น
“เดี๋ยวฉันต้องอยู่ที่นี่ต่อ พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ”
“เอาอย่างนั้นเหรอ วาโร? ไม่กลับพร้อมกันเหรอ?”
“ฉันก็อยากทำ แต่เรื่องทางนี้ต้องใช้เวลาและต้องใช้คนหลายคนหลายภาคส่วน เธอไปเถอะ”
หลังผมถามแล้วเธอพูดให้ผมกลับก่อนอย่างแน่วแน่ ผมก็จับมือเธอแน่นๆ แล้วจูบมือลา
“แล้วเจอกัน”
“เจอกัน ที่รัก”
หลังผมลาเธอพูดกับผมหวานมาก
เธอไม่ค่อยบอกรักแต่ผมไม่ได้เรียกร้องจะฟังจากเธอมากมาย
แค่เรารู้ว่ารักกันเราก็อยู่อย่างพอใจได้แล้ว
ผมเข้าไปดูความเรียบร้อยและความปลอดภัยในบ้านกับสี่คนเป็นครั้งสุดท้าย
วาโรจะมาด้วยแต่ผมให้เธอดูธุระทางทหารอยู่ข้างนอก
เมื่อไม่มีใครเหลืออยู่และไม่มีอะไรสำคัญเหลืออยู่จริงๆ ผมทำใจกลับบ้าน
ผมเดินไปกับวีและวิวไปที่ลานจอดโดรนที่อยู่ห่างๆออกไปเพื่อป้องกันเสียงดัง
ผมขึ้นโดรนเปิดสวิทช์เตรียมบินขึ้น
ผมบินขึ้นและตรงกลับบ้าน
มันอยู่ไกลนิดหน่อยและมันดึกมากแล้ว
ผมถึงบ้านและเราเตรียมตัวแยกย้าย
“ไปก่อนนะ นอนละ”
เรดจำปาขอตัวไปนอน
ผมจูบเธอแบบธรรมดา
วีกับวิวไม่มอง
มันคงยังบาดตาบาดใจสำหรับเธอสองคน
เมื่อไหร่เธอจะรู้สึกดีกับเรดจำปาและคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน
แต่เรื่องแบบนี้มันใช้เวลาเป็นธรรมดาและเราเร่งรีบอะไรไม่ได้
ผมกลับเข้าห้องนุ่งผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ
เราอาบน้ำกันเงียบๆ วันนี้เราสังหารคนไปเยอะ
วีกับวิวแอบมองผมเป็นพักๆ แต่ไม่พูดอะไร
อาการพวกเธอเหมือนมีอารมณ์แต่ไม่อยากแสดงออกประเจิดประเจ้อ
มันเป็นธรรมดาเพราะเราเพิ่งออกจากสถานการณ์เป็นและตาย
สัญชาตญาณของเราเรียกร้องให้เรารีบสืบทอดเพราะมันเพิ่งเสี่ยงตายเสร็จ
แม้เราทำอย่างปลอดภัยที่สุดแต่ความเสี่ยงคือความเสี่ยง มันทำให้สัญชาตญาณเรียกร้อง
เธอเอาเท้าเขี่ยๆเท้าผมแล้วผมมองหน้าเธออย่างมุ่งมั่น
ผมไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไรกับการสังหารผู้ก่อการร้าย
พวกเขาเป็นคนที่ทำร้ายคนไร้เดียงสาได้โดยไม่คิดซ้ำสอง
ผมไม่ได้คิดว่าผมมีอำนาจตัดสินชีวิตใคร
แต่เพราะมันเป็นการงานผมและถ้าพวกเขาทำเรื่องร้าย มันจะมีโอกาสได้เจอผม
กับคนรักของผม
แต่ละคนเก่งๆกันมากด้วย
วันนี้เรายิงไม่ค่อยพลาดและมันเป็นเรื่องดี
แต่มันเพิ่งทำงานวันแรกผมไม่อยากโอ้อวดความสามารถตนเอง
เราออกจากห้องน้ำพากันกลับไปห้องโดยไม่มีใครพูดอะไร
ผมหันไปมองวีกับวิวที่เดินตามหลังและพวกเธอมองผมเหมือนมีอะไรจะพูด
เราถึงห้องแล้วแต่งตัวเตรียมนอน ผมนอนอ้าแขนเพื่อให้วีและวิวนอนหนุนอย่างอบอุ่น
ผมเอารีโมตปิดไฟ แล้วผมงอมือเพื่อให้ได้ลูบหัววีกับวิวตอนนอน
วีส่งเสียงเหมือนแมวรู้สึกดีและวิวขยับขาล่างเหมือนสบาย
“เหนื่อยมั้ย?”
“มันไม่ค่อยเหนื่อยหรอก แต่มันทำเรื่องที่หนักใจ”
หลังผมถามแล้วผมได้ยินวิวพูดอย่างนั้นผมก็พอเข้าใจพวกเธอ
“เราไม่รู้หรอกว่าอะไรดีหรือไม่ดีที่สุด แต่เราทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รู้ว่าอะไรดีจริงๆอยู่ตลอด และการ “ดี” ที่ดีจริงมันเป็นยังไง เราเลือกเป็นคนของวาโรซีเมียเรียแล้ว ถ้ายังหนักใจ คิดถึงเหล่าครอบครัวคนที่อยู่ดีๆต้องมาเสี่ยงเจอคนร้ายทำร้าย เราต้องทำตัวไม่ให้คนพวกนั้นต้องเสี่ยงกว่าเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ”
“แต่เราเป็นแค่คนสามคน ไม่สิ ตอนนี้มันขึ้นเป็นห้าแล้ว เราจะทำได้เยอะเหรอ คนไร้เดียงสาตั้งเยอะแยะ”
หลังผมพูดอธิบาย และวีถกความเห็นของเธอ ผมก็คิด
ใช่ เรามันแค่คนธรรมดากลุ่มหนึ่ง
แต่เราจัดตั้งหน่วยมาเพื่อดูแลเรื่องนี้แล้ว
“เรื่องยากๆให้ฉันดูแลเอง เธอได้ลงมือทำแล้ว และมันดี เพื่อการดี จงภูมิใจในตัวเอง
ตาวีมองผม
แม้มันมืดแต่แสงพระจันทร์ที่ส่องมามันทำให้เห็นหน้าเธอลางๆ
ตาเธอเห็นได้ชัดในความมืดมิด มันเหมือนตาแมว
ผมไม่รู้ว่ามันเป็นปฏิกิริยาทางเคมีอะไรแต่มันเป็นธรรมชาติที่สวยงาม
และแฝดเธอวิว ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าที่ของเธอ
แม้ตาเธอสีดำมันก็เห็นได้ในความมืดมิด
ผมยิ้มทั้งใจและยิ้มออกไปเองในความมืดที่ไม่มีใครตอบรับรอยยิ้ม
แต่ผมเต็มใจยิ้มจากใจโดยไม่ต้องการให้ใครตอบรับ
วีขึ้นคร่อมผมแล้วเปิดบ็อกเซอร์ผม
เธอมองเห็นหรือ? มือเธอแม่นยำและรู้หมดว่าอะไรอยู่ตรงไหน
เธอจูบผม และแลบลิ้นเข้ามาเหมือนจะกินผม
วารี ทำภารกิจ
แต่งโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ตอนนี้เปิดให้อ่านฟรี 90 วัน ถูกใจเชิญโดเนทได้
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: https://x.com/wayutl
https://facebook.com/100087843892571/
https://discord.gg/cP8yT4J8