กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 42 เปลี่ยนร่าง
วันนี้ประมาณเดือน 12 ยุคตีกันปี 121
ผมอายุ 21 ปีกับ 12 เดือน
ผมอารมณ์ดี แต่ผมก็มีเรื่องซวยๆ
ผมมีคนรัก สองคนแรกที่เป็นเพื่อนผมเมื่อตอนผมมาต่างโลก ไม่รู้อะไรเลย
ผมมีวีกับวิวเพื่อนคนแรก
ผมเป็นคนต่างโลก ที่ไม่ได้ภูมิใจอะไรในตัวเองหนักหนาเพราะเลี้ยงได้แต่ตัวเองคนเดียว ไม่รบกวนใครในโลกเก่า ผมเกิดที่ประเทศไทยแต่ผมจำไม่ได้แล้วว่ามันปีอะไร
ผมคิดว่าโลกใหม่ดีกว่า เพราะโลกเก่าผมมีปม แต่ผมไม่อยากคิดเพราะมันทำอะไรไม่ได้
แค่เกิดมาเป็นอย่างนั้น ก็ต้องอยู่ให้ได้
เพราะธรรมชาติให้จริง และให้เยอะ แต่บางทีก็เลือกไม่ให้บางครั้ง
ผมเชื่อแบบนั้น
ผมไม่ภูมิใจกับอดีตตัวเอง แต่พอใใจ เพราะโลกเก่า ผมรู้เรื่อยๆทุกวันว่าพรุ่งนี้รอด แต่มันก็ยังเสี่ยงถ้าผมตกงาน แต่เงินเดือนก็ไม่ได้ดี แต่ผมเลี้ยงตัวเองได้ตลอด
ผมมันก็แค่พนักงานเงินเดือนธรรมดา ที่ตำแหน่งธรรมดา ผมแค่ทำงานได้ แต่ไม่ได้รักงาน
ผมทำงานดีแม้ไม่รัก
แต่ผมไม่อยากคิดเยอะๆเกินไป บางครั้งผมก็กลัวเครียด เพราะพยามัจจุราจล่ะนะ
“คิดอะไรวารี?”
วีถามด้วยความสงสัย ผมตื่นมาซักพัก มองพวกเธอผ่านๆ แล้วก็มองนอกหน้าต่าง เหม่อ ไม่พูด
“ฉันแปลกอ่ะ ฉันกลัวพวกเธอไม่ชอบ”
“จะแปลกอีกแล้วเหรอ? เรารู้ว่ามันจะไม่เหมือนคู่รักปรกติ พี่คิดอะไร? เอาตรงที่ทำให้เรา-”
วิวพูดแล้วกลืนน้ำลายระหว่างพูด เหมือนกลัวสิ่งที่ผมจะพูด พวกเธอพอรู้เพราะพวกเธอฉลาดและอยู่กับผมบ่อย
ผมมองเหล่าคนรักหรือที่วาโรเรียกว่า ‘ฮาเร็มของวารี’
วีดูกลัวๆ ปรกติเธอไม่ค่อยกลัวอะไร
วิวก็ดูกลัวๆเหมือนกัน ปรกติเธอก็ไม่ค่อยกลัวเหมือนกัน
เพราะเป็นแฝดล่ะนะ
นาเฉยสุดๆ ไม่สนใจแล้วอ่านหนังสืออย่างเดียว
นาไม่ค่อยพูดอะไรยาวๆหรอก ถ้าตอนที่ผมอยู่กับเธอแบบไม่เดท เธอมีความรู้สึกว่าเธอกำลังเป็นผู้จัดการผมอยู่
และในการเดินทาง เธอใช้โหมดผู้จัดการเดินทางเพราะน่าเบื่อ
เธอชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า แต่ไม่ใช่ไม่อยากมีแฟน
อายะหน้าเหมือนพยายามคิดว่าวิวพูดถึงอะไร เธอเห็นผมเป็นคนรักที่เมื่อเรามีอะไรกันมันเป็นการฝึกไปด้วย
ราฟเนสหันไปหันมาเมื่อไม่มีใครพูดอะไร เธอดูสนใจ อยากรู้เต็มที่ แต่ไม่เข้าใจเราสามคน
วาโรที่ผมเพิ่งเจอไม่นานอยู่ข้างนอก นำขบวนเรากับร้านทั้งหมดกลับต่างประเทศ กลับบ้านเกิดเธอ ที่เธอเคยเป็นเจ้าหญิง และตอนนี้เป็นราชินีที่คู่หมั้นเป็นผม
“เธอคิดอะไรว่ารี? เอาตรงที่คิดว่าเราจะรักกันไม่ได้แล้ว”
ในที่สุดหลังเตรียมใจอยู่นานวิวก็พูดออกมา
“พี่คิดว่าเราจะรักกันไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้หยุดเลิกเป็นคู่รักกันซัก 2 เดือน วันที่เธอจะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ฉันพร้อม พวกเธอพร้อม คือตอนเธออายุ 21 ปี แล้วเข้าเดือน 2 เราต้องเลิกคบกันก่อน 2 เดือนตั้งแต่ตอนนี้ แยกห้องนอน ฉันว่ามันเป็นอย่างสุดท้ายแล้วที่ฉันจะแปลก แค่นั้นแหละ จากนั้นฉันจะเป็นคนปรกติ อดให้ได้ 2 เดือน เพื่อความสบายใจ”
“จึ ทำได้สบาย”
เมื่อผมบอกว่าเราต้องงดมีอะไรกันไม่ว่าจะทางไหน วีไม่พอใจทันที แต่ตกลง
วิวขมวดคิ้ว
มันหายากที่วิวโกรธ ปรกติเธอแล้วแต่ตลอด แต่ตอนนี้เธอดูโกรธ
“อย่างสุดท้ายแน่นะ!? เอาให้แน่ หนูทำได้ ง่ายๆ”
วิวไม่ชอบใจเหมือนกัน
“สุดท้ายแล้ว เท่านี้ เราจะคบกันยังไงก็ไม่มีปัญหาแล้ว 2 เดือน และพี่ขอโทษ แล้วหลังจากนั้นแล้วแต่พวกเธอเลยว่าจะตัดสินใจวันไหน พี่จะตอบรับ ”
ผมพูดและคำนับพวกเธออย่างจริงจังที่สุด มันเป็นการยืนคำนับ 90 องศา
พวกเธอยังดูโกรธอยู่ วันนี้คงโกรธทั้งวัน
“รักกันขนาดนี้แต่เลิกคบเหรอ? เธอเพี้ยนหรือไงผัวเลี้ยง?”
ราฟเนสสนใจเรื่องเรา
“เรียกฉันวารีเถอะ เพราะฉันแปลกอ่ะ ฉันก็ไม่รู้ทำไมถึงคิด ฉันสุดจะรำคาญตัวเอง แต่เพราะฉันเพี้ยนล่ะนะ ทำไงได้”
ผมพูดอย่างสุดเซ็งที่ต้องอด แต่เพราะมันต้องทำเลยต้องทำ
ผมเลิกคิดมากและคุยกันปรกติ
เมื่อใกล้เที่ยงมีทหารมาเดินข้างหน้าต่าง
“รายงานครับ ราชินีวล็อดซีเมียถามว่าจะกินอะไรครับ!”
“ปรึกษากันครู่หนึ่งครับ จะกินอะไรกัน?”
“เหมือนตอนเย็นเมื่อวานอ่ะ มันได้ดูสวนดูนาด้วย”
นาพูดขึ้นมาแล้วผมดูข้างนอก
มันเป็นทุ่งนา
ทุกคนพยักหน้าหลังจากคิดซักพัก
“ไม่อยากเปลืองเงินเหมือนกัน”
วีพูดเพราะเข้าใจการเงินผมเพราะผมคอยบอกอยู่ตลอดผมคิดเรื่องเงิน
ตอนนี้เงินเราเหลือแสนกว่าทองแล้ว มันเซ็งที่ตอนเริ่มอยู่ที่ใหม่จะขยายกิจการไม่ได้
“ตั้งแคมป์ก็ได้ครับ”
“รับทราบ!”
ทหารวิ่งไปข้างหน้าเพื่อรายงาน
เราตั้งแคมป์กันข้างทุ่งนาข้าวสาลี มันกำลังใกล้โตเต็มที่
มันทุ่งสีเหลืองทองกว้างๆ
เรากินอาหารเหมือนเมื่อวาน ผมกินไป 2 จานเพราะมันก็อร่อยดี
วาโรมานั่งกับเราด้วย เมื่อกินเสร็จ เราเตรียมตัวออกเดินทาง
ผมทำเหมือนเมื่อวันตอนเข้าเมืองแรกๆคือเดินย่อยกับวาโรหน้าสุด
วีกับวิวไม่พูดอะไร งอนเต็มที่ ปรกติพวกเธอซักคนจะถามตลอดว่าไปไหน ไม่ก็มาด้วย
ผมดูตัวเมือง เห็นว่าผ่านเมืองนี้ก็ถึงเมืองหลวงวาโรซีเมียเรียแล้ว
แถวนี้เป็นตัวเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ น่าจะมีคนอยู่ให้เห็นค่อนข้างเยอะ
ช่วงคุยกันด้านหน้าทุกวัน ผมได้รู้หลายเรื่อง เธอได้รู้เรื่องผมหลายเรื่อง เราแซวกันเยอะ พูดกันเหมือนเพื่อนสนิท
เธอสนิทกับผมเร็ว
ตอนแรกๆเธอเปลี่ยนเมื่อเข้าประเทศ แต่พอผ่านไปเรื่อยๆคุยกันเรื่อยๆ วิธีคุยเริ่มเปลี่ยน
เธอเริ่มพูดจาเหมือนคนปรกติมากขึ้น ไม่ใช่ราชินี
แต่คความหวานโรแมนติกกับผมไม่มีให้เห็นเลย
“ทำไมเริ่มคุยเหมือนชาวบ้านมากขึ้น?”
ผมถามเธอเพราะสงสัย
“ก็ฉันไม่เคยพูดแนวนี้ ฉันเป็นราชินีที่ตอนแรกเป็นเจ้าหญิง ฉันพูดหยาบๆให้คนได้ยินไม่ได้หรอก”
“อย่างนั้นเหรอ”
ผมได้คำตอบจากเธอ เธอทำหน้าเหมือนอยากพูดอะไรซักอย่าง แต่เหมือนไม่อยากถาม
“มีคนรักกี่คน? ฮาเร็มน่ะ”
“ไม่มีฮาเร็มหรอกน่า แต่ถ้าเป็นคนรักที่อยู่ด้วยกันน่ะ 6 คน”
เธอถามผมเรื่องฮาเร็ม แต่ผมไม่อยากเรียกเหล่าคนรักว่าพวกเธออยู่ในฮาเร็ม แล้วเริ่มเล่าเรื่องคนรัก
“มีวีผู้หญิงแง๊วกับวิวผู้หญิงแมงมุม ที่มีหูแมวกับขาแมงมุม ผิวเข้ม พวกเธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่บ้านกำพร้า”
ผมพูดถึงวีกับวิว
“มีนา ผู้หญิงเอลฟ์มืด ผู้จัดการ ผู้หญิงผิวเข้มเหมือนกันหูแหลมๆ สามคนนี้ยังอายุน้อยแต่โตแล้ว”
ผมพูดถึงนาผู้จัดการผม
“มีอายะอายุมากหน่อย เอลฟ์มืดเหมือนนา แต่หุ่นอวบและหน้าอกกับก้นใหญ่ เป็นครูสอนเซ็กส์”
ผมเอามือวาดหุ่นอายะกลางอากาศ
“มีราฟเนสที่ขาวๆตัวเล็ก หุ่นเล็ก ผมสีฟ้า ร่าเริงๆหน้าตาอายุน้อย”
ผมทำมือท่าแสดงความสูงราฟเนส แต่วาโรน่าจะรู้จักราฟเนสแล้ว
“ก็ 5 เองนี่?”
“มีเธออีกคนไง”
เธอถามเมื่อจำนวนไม่ถึง และผมพูดยิ้มๆว่าเป็นเธอ
เธอเหมือนคิดอะไรซักอย่าง เราออกจากเมือง
มันเป็นทุ่งนา, สวนผลไม้, และสวนผักซ้ายขวา
มันเขียวมั่งเหลืองมั่งสลับกันไป
เหมือนที่นี่จะมีทุ่งข้าวสาลีเยอะ แต่มีทุ่งนาข้าวอยู่บ้างไม่ใช่ไม่มี
ผมดูข้างทางไปเรื่อยๆ
“เอาล่ะ สิ่งที่ฉันต้องบอกคนในประเทศ คือ เธอเป็นคนต่างโลกและกำพร้า”
“ห๊ะ!?”
ซวยแล้วไง เมื่อเธอพูดอย่างนั้นผมสวนไปทันที
“บอกทำไม!?”
“คนควรจะได้รู้!”
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เธอเป็นซัคคิวบัสล่ะ คนก็ไม่ได้รู้เหมือนกัน!?”
จากนั้นเธอตาเปิดกว้าง เหมือนตะลึง
“ได้! ถ้าอย่างนั้น มา! แล้วฉันให้ดูอะไรบางอย่าง!”
เธอพูดโกรธๆนิดหน่อย หันไปหาทหารข้างหลังห่างๆแล้วสั่ง
“หยุดพัก!”
เราหยุดขบวน
ผมสงสัยว่าเธอจะทำอะไร
เมื่อทหารตั้งเต็นท์วาโรเสร็จ เธอชวนผมเข้าไปในเต็นท์ผมเข้าไปทั้งๆที่มีหน้างง
เมื่อเข้ามามันเป็นเต็นท์ใหญ่ที่มีเก้าอี้และโต๊ะทำงานเล็กๆกระทัดรัด
วาโรมายืนใกล้ๆผมแล้วถอดเสื้อผ้า
“ทำอะไร?”
ผมบอกแบบนั้นแต่เธอไม่พูดอะไร
เธอเปลือยเหลือแต่ชุดชั้นใน อย่างที่คิดหุ่นเธอสวยงามมาก
มันเหมือนกับรูปปั้นอันสวยงาม
จากนั้นมีแสงเหมือนแสงเม็ดเล็กๆสีเหลืองวนขึ้นมาตั้งแต่ที่ขาเธอแล้ววนหน้าหลังขึ้นไปถึงหัว
นี่มันเวทมนตร์! เจอเวทมนตร์แล้ว
นั่นทำให้เห็นว่าโลกนี้มีเวทมนตร์ของจริง
แต่ร่างกายของวล็อดซีเมียเปลี่ยนไป
จากเดิมที่ผิวขาว เป็นผิวสีเข้มออกน้ำตาล มีปีกซัคคิวบัส, หางซัคคิวบัส, และเขาซัคคิวบัสงอๆ เสื้อผ้าเธอเปลี่ยนจากชั้นในเป็นชั้นในเล็กๆสองชิ้น และชั้นในเดิมหายไป หัวนมเธอแข็งดันชุดจนเห็นชัด ตูดเธอสวยเหมือนเดิม กล้ามสวยเหมือนเดิม หน้าเปลี่ยน
เธอหมุนตัวให้ผมดู
ผมเริ่มเก็บภาพไว้ในความทรงจำ
ผมตกตะลึงกับความสวยผิวสี
เพราะผมเรียนหมอแล้วมีวิชาวาดรูป ผมวาดรูปลงสีเก่งและเร็ว แต่ผมไม่ได้รักการวาดรูปมาก
ผมแค่อยากเริ่มเก็บภาพความสวยไว้
จากนั้นแสงเล็กๆวนรอบตัวเธออีกครั้ง และเธอกลับเป็นวาโรคนเดิม
“ดูฉันสิ-”
“เธอเพิ่งพิสูจน์ว่าเวทมนตร์มีจริง!”
“ตาบ้า มันเพราะฉันเกิดมาเหมือนปีศาจหรอก แล้วในโลก มีฉันคนเดียว ท่านพ่อของฉันบอกว่าหลังจากแม่มาหาเขาเธอ เธอเลิกเป็นปีศาจและใช้ชีวิตเป็นมนุษย์!”
ผมไม่อยากพูดเรื่องของครอบครัวเธอเพราะมันเหลือเธอคนเดียวแล้ว ผมไม่อยากถามอะไรที่มันทำร้ายเธอทางอ้อม
“หละ, ลองคิดในใจว่า ‘ฉันอยากผิวเข้มกว่านี้ ฉันอยากเปลี่ยนในตัวทุกอย่าง”
เธอเกาหัวแล้วเหมือนหงุดหงิด
“ตอนแรกฉันว่าเธอจะกลัวฉัน มันผิดคาดไปหน้ามือเป็นหลังมือเลย เธอมันแปลกคนจริงๆ”
“เอาน่าลองทำก่อน”
ผมยิ้มเต็มที่
“จริงๆ! ลองทำก่อน คิดในใจ คิดแบบสุดชีวิต!”
เธอหลับตาแล้วคิด เปลี่ยนที่ยืน แล้วแสงขึ้นมาอีกครั้ง
“คราวนี้…”
เธอเปลี่ยนสีผิว แต่เริ่มหน้าคล้ายเดิมมากขึ้น
ผมจำภาพเรื่อยๆ
เธอเปลี่ยนท่าโพสไปมาโดยมีผมกำกับ และแรกๆ เธอเฉยๆ แต่หลังๆเธอดูสนุกและยั่วๆ
เธอเริ่มดูอ่อนเพลีย
“เป็นอะไร ขอความรู้สึกเธอตอนนี้นะ”
“ฉันเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอ่ะ เหมือนฝึกมาเยอะยังไงก็ไม่รู้”
ผมเริ่มคิด ถ้าคนเปลี่ยนร่างได้ โดยใช้แสงเปลี่ยนร่าง แล้วคิดเต็มที่ว่าจะทำอะไร ผมเริ่มจินตนาการ
ผมลองหลับตา ตั้งสมาธิหน้ากระจกในเต็นท์
เปลี่ยนร่าง!
ผมลืมตาดู มีแสงขึ้นมาจากเท้าผมแล้วผมเปลี่ยนไปเป็นใครก็ไม่รู้ที่หน้าไม่เหมือนผมและกล้ามใหญ่กว่า
“ฮุคขวา!”
ผมใช้ท่าหมัดฮุคขวาใส่อากาศ
ถ้ากล้ามขนาดนี้ที่ใหญ่กว่าผม เสียงหมัดตัดลมน่าจะดังขึ้น แต่มันดังเท่าเดิม
ถ้าอย่างนั้นเปลี่ยนร่างก็เอาไว้เหมือนเก็บรูปภาพให้หล่อๆสวยๆอย่างเดียว ผมกลับร่างเดิม ร่างเดิมผมหล่อกว่า
เวทมนตร์มันมีจริง ถ้าอย่างนั้นเรื่องถ่ายรูปอาจมีประโยชน์ เอาไว้ให้คนที่อยากเก็บรูปตัวเองไปวาง
ส่วนตอนนี้ วาดไปก่อน แต่ผมพอวาดรูปเหมือนเก่งอยู่หลังจากเรียน
“ทำได้ด้วยเหรอ? แปลกอ่ะ?”
“ทุกคนทำได้ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“อยากแปลกก็ตามใจ แล้วบอกคนได้มั้ยเล่า”
“คนรักเธอเยอะหรือเปล่า”
“พวกเขาให้ฉันตลอด และยิ้มทุกครั้งที่ฉันประกาศอะไร แม้เรื่องไร้สาระ”
“ถ้าอย่างนั้น อย่าไปกลัว! เธอสวย!”
“หึหึ
วาโรกำลังเดินออกจากเต็นท์ แต่หันมามองผมเหมือนคิดอะไรอยู่
ผมได้แฟนแต่ละคนสวยจริงๆ
ผมกลับไปนั่งที่รถม้าแล้วบอกคนรักผมทุกคนเรื่องเวทมนตร์เปลี่ยนร่าง
“พวกเธอ มันมีเวทมนตร์นะ”
“ห้ะ! อะไรอีกล่ะ”
วีอยากจะแซวแต่หูตั้ง ผมเลยเดาว่าเธอสนใจ
ทุกคนดูอยากรู้อยากลองพูดให้ผมแสดง
“ทำสมาธิแบบที่สุด ทิ้งทุกอย่าง แล้วคิดในใจว่า อยากกล้ามใหญ่ขึ้นหรือหน้าเปลี่ยน มันจะใช้ไม่ได้ทั้งวัน ทำได้แป๊ปๆแล้วร่างกายล้า แต่ถ้าอยากหล่อหรือสวยจะทำได้ และถ้าให้กล้ามใหญ่ขึ้นจะไม่แข็งแรงขึ้น”
ทุกคนไม่พูดอะไรแล้วบางคนลองหลับตา บางคนเริ่มจ้องพื้น
เราเริ่มเปลี่ยนร่างแล้วแลกกระจกเล็กๆของวิว
วิว, นา, อายะ, และราฟเนสทำได้ทันที วีกับทำไม่ได้หรือไม่ได้เรื่องเลย
ผมยิ้มๆ ทุกคนยิ้มแล้วพูดเสียงดังเฮฮา
จากนั้นพวกเธอเปลี่ยนกลับ
“มันแค่เอาไว้เปลี่ยนเฉยๆอ่ะ ไม่เห็นมีอะไรเลย”
วีดูผิดหวังเพราะน่าจะเปลี่ยนร่างไม่ได้หรือไม่สวย
ราฟเนสไม่สนเท่าไหร่
ไม่นานเราก็ถึงตัวเมืองหลวง ผมมองข้างนอก
คนค่อนข้างเยอะตั้งแต่เข้าเมืองหลวงมา และตามร้านค้าข้างทางมีแถวเรียบร้อย
คนเดินกันไม่เบียดเสียด แล้วเว้นระยะพอดีๆ
ทุกคนมองซ้ายขวาก่อนเดินข้ามถนน
มีคนขี่นกฟาเนิคใส่เกราะแต่งตัวในเครื่องแบบ น่าจะลาดตระเวนความสงบเรียบร้อยอยู่
มันเป็นเมืองที่มีระเบียบ มารยาทดี
ผมดูข้างทางมาเรื่อยๆ
มันเป็นเมืองที่เหมือนเมืองที่เรียบร้อยและคนค่อนข้างเยอะ แต่ที่ซื้อของอย่างตลาดก็มีคนเบียดกันหรือพ่อค้าแม่ค้าตะโกนขายของปรกติ
ทหารของวาโรมาที่หน้าต่าง
“เราถึงวังแล้วครับ! เตรียมตัวลงได้ครับ!”
“ขอบคุณครับ”
ทหารรายงาน
จากนั้นรถเราผ่านรั้วใหญ่ของวังแล้วเข้าไป เราเห็นร้านฮาโมนี่ใหญ่เหมือนห้างชั้นเดียวที่มีรั้วชั่วคราวกั้นข้างหน้าอยู่
ตอนนี้คงจะแต่งภายในอยู่มั้ง
รถม้าเดินไปเรื่อยๆ
เรามาถึงบ้านหลังใหญ่
วาโรมาที่หน้าต่าง
“จะลงบ้านหรือจะลงวัง งานแรกเธอคือการประกาศตัว เริ่มวันปีใหม่ปีหน้า ฉันจะเป็นคนประกาศ”
“ถ้าอย่างนั้นลงบ้านก่อน เธอไปทำงานเถอะ ราชินีคงมีหลายเรื่องที่เธอต้องทำ”
“ขอบคุณนะที่เข้าใจ วารี”
“สบายมาก”
เธอขอบคุณผมและผมพูดเหมือนเรื่องเล็ก
กลุ่มวาโรไปเข้าวังใหญ่และสูงมาก น่าจะมากกว่า 7 ชั้นที่เคยเห็นซ่องดงเสือดอกเล่นน้ำ
มันเป็นวังสีขาวลายขอบต่างๆเป็นสีทอง
ผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร มันเป็นวังที่อลังการเนี้ยบ และวใหญ่
ผมมองบ้านเรา
บ้านเราค่อนข้างกว้างแบบอยู่ได้ 50 คน มันเป็นบ้านเหมือนบ้านสมัยใหม่และทาสีเขียวอ่อน
มันดูน่าอยู่ นั่นแหละที่สำคัญ
มันไม่ได้ออกเป็นบ้านอลังการด้วย มันแค่กว้าง
สไตล์ของบุญมีและบุญมาค่อนข้างดี
ผมมองส่งวาโร
วีกับวิวเดินเข้าบ้าน ของขนมาข้างหน้า
“เราต้องไปดูห้องก่อน”
ผมบอกวีกับวิวและทุกคนที่กำลังเดินเข้าไป
ทุกคนหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปในบ้าน
ด้านหน้าเป็นห้องนั่งเล่นที่มีโซฟายาวมีพรมและมีเตาผิง
คนจะไม่สร้างปล่องควันอยู่แล้วเพราะไฟไม่มีควันกับขี้เถ้า
เราเดินดูด้านใน มีป้ายชื่อพวกเราแขวนอยู่หน้าห้อง
ผมเข้าห้องตรงข้ามที่ไม่มีป้ายชื่อ
เมื่อเข้ามาในห้องมันเป็นห้องธรรมดา
กำแพงทาสีเขียวอ่อนเหมือนข้างนอก
มันเป็นห้องดูสมัยใหม่แต่พื้นเป็นพรม
ผมลองเทน้ำใส่พรมนิดๆ
น้ำมันไม่ซึมเข้าไปในพรม ผมเทน้ำเพราะอยากรู้ว่าพรมเปียกไหม
จากนั้นผมเลือกเสื้อที่จะไม่เอาเพราะอยู่วังแล้วมาเช็ด
ผมเริ่มแขวนผ้าแล้วเตรียมห้อง
ของใช้ของผมย้ายมาอยู่ในห้องที่มีป้าย วี, วิว, และวารี ผมไปเอามา
วาโรยังไม่ได้มาอยู่กับเรา
ผมใช้เวลาทั้งวันเตรียมห้อง จากนั้นผมวาดรูปวาโรร่างซัคคิวบัสกับรูปเธอ
ผมพอใจกับหลายรูป ผมไม่ได้แขวนภาพ แต่ผมเอาเก็บที่ชั้นวางชั้นหนึ่งสูงๆ
จากนั้นผมเดินดูลานหน้าตอนกลางคืน
ผมมองวัง
วังขาวสว่างจ้าเหมือนตอนเช้า
ตามสีทองที่วังวาวเพราะแสงจากลิช
ด้านนอกมันเป็นทองแท้หรือ?
โห วาโรซีเมียเรียโคตรรวย
ผมกลับเข้าห้องเตรียมนอน
นกรักหนึ่งตัวร้องเรียกแล้วเดินไปเดินมาอยู่ในกรงจะเรียกผม
ใครสื่อนกมาดึกดื่น?
มันเป็นนกของลูน่า
เธอโทรมาทำไมตอนดึกและตอนเรามาที่ใหม่พอดี
เธอรู้ที่ที่เราจะมาแล้ว เราบอกกันเรียบร้อยและย้ายข้าวของของเธอมาแล้ว
“ว่ายังไงไม่ได้สื่อนกมาหน่ะ-”
“จริงด้วย!!!”
จากนันลูน่าส่งเสียงเย้ วี้ดว้ายคนเดียวอยู่นาน ที่ปรกติไม่ได้ยิน
“มาแล้วๆ ขอโทษที อยู่ที่ไหน”
“วังเมืองหลวงวาโรซีเมียเรีย บ้านข้างวัง”
“ได้ๆ ฉันจะรีบกลับ”
“ให้ฉันส่งเงินค่าเดินทางกลับเพิ่มมั้ย?”
“ไม่ต้อง ฉันพอมีขนย้ายได้”
เมื่อผมเสนอเรื่องเงินกลับ ลูน่าสัตว์แพทย์เราปฏิเสธ
“อยากรู้ก่อนมั้ย?”
“อยากสิ! ดีใจเรื่องอะไรกันนานขนาดนั้น”
“ฮี่ฮี่ฮี่ นกรักอ่ะ มันเห็นหน้าแต่ไม่เห็นว่าอยู่ไหน เมื่อสื่อนกมันจะเป็นห้องขาวๆแล้วฉันจะยืนหน้าเธอ ฉันเห็นหมดเลยว่าหน้าตาเธอตอนนี้สงสัยมาก แต่ถ้าจะทำแบบนี้ มันต้องใจนกรักสองตัวและเรียกให้ชัดๆ และคิดถึง”
เมื่อผมบอกอยากรู้เธออธิบายสิ่งที่เธอเจอมา
“และตอนนี้นกรักมันเล็กลงแล้วชอบอยู่ที่แคบลงเรื่อยๆ จากนั้นนะ-”
“ฉันเข้าใจแล้ว แต่มันดึกแล้ว เรื่องนี้ต้องอธิบายตอนประชุมอีกที เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราจะเปลี่ยนกรักให้สะดวกขึ้นได้ยังไง เธออดใจไว้ก่อนแล้วรอตอนประชุมเถอะ”
“อย่างนั้นเหรอ โห่”
เมื่อผมบอกว่าดึกแล้วเธอพูดเสียดาย
ผมเตรียมนอนเพราะผมใช้เวลาวาดรูปไปหลายรูป
แต่งโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ตอนนี้เปิดให้อ่านฟรี 90 วัน ขอเชิญโดเนทสนับสนุนผู้แต่ง แต่รูปแบบ Ebook มีราคาไม่แพง ขอบคุณมากครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: https://x.com/wayutl
https://facebook.com/100087843892571/